CatNovel
  • หน้าหลัก
  • นิยายทั้งหมด
Advanced
  • หน้าหลัก
  • นิยายทั้งหมด
  • โดจิน
  • นิยายทั้งหมด
  • จบแล้ว
  • นิยายวาย Yaoi
ตอนก่อน
ตอนต่อไป
สล็อตเว็บตรง

ยอดวิถีแห่งปีศาจ - บทที่ 680 ขยับขยาย (2)

  1. Home
  2. ยอดวิถีแห่งปีศาจ
  3. บทที่ 680 ขยับขยาย (2)
ตอนก่อน
ตอนต่อไป

บทที่ 680 ขยับขยาย (2)

ลู่เซิ่งกวาดตามองชนเผ่าจิ้งจอกหยกอย่างไม่นำพา ปราณปีกขาวหลายสายซึมเข้าไปใต้พื้น จากนั้นก็ทะลักไปทางชนเผ่าจิ้งจอกหยกที่อยู่ด้านหน้า

ฟิ้วๆๆๆ!

เกิดเสียงดังเบาๆ สี่ครั้ง ชนเผ่าจิ้งจอกหยกสี่คนหน้าซีดพร้อมก่อน ก่อนจะล้มหงายลงไป

“พี่ใหญ่!”

“พี่ฉยง!”

นายพรานสองคนที่เหลือพลันตะลึงงัน ก่อนจะรีบเข้าไปประคองคนที่ล้มลง

แม้แต่นักพรตของสำนักกระเรียนพิสุทธิ์ก็ตกใจกับเหตุเปลี่ยนแปลงนี้ เหตุใดอยู่ๆ อีกฝ่ายก็ล้มลงไปเหมือนกับโดนวิชาปีศาจ

ลู่เซิ่งเดินไปถึงข้างบ่อน้ำพุเย็น บ่อน้ำพุทะลักออกมาจากกลางหลุมหินเล็กๆ สายน้ำกระจ่างใสปล่อยความเย็นเยียบเสียดกระดูกออกมาอย่างต่อเนื่อง แต่ในอากาศยังมีกลิ่นหอมหลายสายฟุ้งกระจายอยู่อย่างเลือนราง จางมากเหมือนกับกลิ่นดอกไม้ แต่กลับทำให้ผู้คนยากจะมองข้าม

เขานั่งลงแล้วยื่นมือไปแตะน้ำพุ ความเย็นสายหนึ่งส่งมาตามนิ้วมือ

“นี่คือบ่อน้ำพุเย็นหรือ”

“ขอรับศิษย์พี่เฮ่อเจิน!” นักพรตคนหนึ่งรีบเดินเข้ามาตอบ “ที่แล้วมาพวกเราใช้มันเพาะปลูกเมล็ดเย็น แต่ว่าชนเผ่าจิ้งจอกหยกนั่น…”

ตอนนี้ทุกคนมองออกแล้วว่า การล้มลงอย่างกะทันหันของชนเผ่าจิ้งจอกหยกจะต้องเกี่ยวกับเฮ่อเจินจื่อที่อยู่ๆ ก็โผล่มาผู้นี้แน่นอน

นักพรตเหล่านี้โล่งอก ในเมื่อเฮ่อเจินซื่อจื่อมีพลังแข็งแกร่งแบบนี้ ครั้งนี้บ่อน้ำพุเย็นน่าจะกำหนดตัวเจ้าของได้แล้ว

ตอนแรกทุกคนนึกว่าเรื่องนี้จะใหญ่โตขึ้นอีกนิดจนอาจารย์ทั้งสามมาพบแล้วออกหน้ามาจัดการ ทว่าการออกหน้าของเฮ่อเจินซื่อจื่อก็มีประสิทธิผลอย่างเดียวกัน

“เจ้าฆ่าพี่น้อง…พี่น้องของพวกเรา!?” ในที่สุดชนเผ่าจิ้งจอกหยกก็พบว่าคนที่ล้มลงไม่หายใจแล้ว สีหน้าต่างเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่

“หนวกหู!” ลู่เซิ่งลุกขึ้น ในเมื่อเตรียมจะเริ่มแผนการแล้ว ตอนนี้ก็ไม่มีความจำเป็นต้องเก็บงำพลังอีก

เขายื่นมือข้างหนึ่งออกมาโบก ไอขาวกลุ่มหนึ่งระเบิดขึ้นกลางนิ้งทั้งห้า ห่อหุ้มชนเผ่าจิ้งจอกหยกสองคนที่เหลือไว้

ไอขาวสลายไปอย่างรวดเร็ว ชนเผ่าอีกสองคนหมดลมหายใจในพริบตา ก่อนจะล้มลงและลุกไม่ขึ้นอีก

ความสามารถฆ่าฟันเช่นนี้ถึงขั้นทำให้พวกนักพรตจากสำนักกระเรียนพิสุทธิ์หวาดสะพรึงเช่นกัน

“เอาละ ที่นี่จบเรื่องแล้ว ถ้าเผ่าจิ้งจอกหยกมีปัญหาอะไรอีก ให้มาหาข้าโดยตรงก็แล้วกัน” ตอนนี้ลู่เซิ่งขาดข้ออ้างในการขยับขยายอาณาเขตของสำนักกระเรียนพิสุทธิ์อยู่พอดี

เขาต้องการให้ถ้ำราชากระเรียนขยับขยายและกลืนกินชนเผ่าทั้งหมดในรัศมีหลายพันลี้รอบๆ ด้วยความเร็วสูง โดยใช้จวนเยวี่ยอ๋องเป็นศูนย์กลาง

นักพรตที่เหลืออ้ำๆ อึ้งๆ ฆ่าคนแถมไม่ปิดบัง กำลังรอให้อีกฝ่ายมาแก้แค้นหรือ

ลู่เซิ่งกลับไม่สนใจเรื่องเหล่านี้ หากรีบกลับไปอาราม แล้วนำเอาวิชามรรคาศิลาย้ายบรรพตที่เพิ่งได้มาออกมาศึกษาอย่างละเอียด

จุดลมปราณภายนอกที่จำเป็นต้องสร้างของคัมภีร์หลักเล่มใหม่มีอยู่สองจุด ดีกว่าคัมภีร์ปีกขาวนิดหน่อย แต่ก็ยังมีข้อจำกัดอยู่

จุดลมปราณภายนอกสองจุดใหม่ จุดแรกคือเนตรกำเนิด อีกจุดคือจิกกระจ่าง

ตำแหน่งจิกกระจ่างอยู่ที่กลางลำคอ ใกล้กับคอหอย เป็นตำแหน่งที่ไวต่อความรู้สึกเป็นพิเศษ

หลังลู่เซิ่งกลับไปแล้วก็สั่งให้กระเรียนปีศาจหกตนจากสิบสองตนออกโรงกวาดล้างปีศาจธรรมดากับชนเผ่าที่อยู่รอบๆ

ในนี้รวมถึงหมู่บ้านจิ้งจอกหยกด้วย

กระเรียนปีศาจหกตนลงมือพร้อมกัน พวกมันซึ่งยึดมั่นคำสั่งของลู่เซิ่งอย่างเข้มงวดไม่มีการปรานีใดๆ ต่อเหล่ามนุษย์ หมู่บ้านจิ้งจอกหยกพินาศในหนึ่งวัน มีคนตายราวสองร้อยกว่าคน แต่กระเรียนปีศาจก็ต้องจ่ายค่าตอบแทนโดยตายหนึ่งบาดเจ็บหนึ่งเช่นกัน

นี่ทำให้ลู่เซิ่งตกใจ และทราบว่าพลังของตนในวันนี้ยังอ่อนแอเกิน

จากนั้นก็เป็นเผ่าหนูเหล็กและเผ่าหมาป่าขาว ล้วนเป็นเผ่าขนาดเล็กที่อาศัยอยู่ใกล้ๆ แต่พวกเขาไม่มีชนเผ่าระดับภูตปีศาจ กระเรียนปีศาจจึงขับไล่และสังหารกองกำลังต่อต้านได้อย่างง่ายดายยิ่ง

อาณาเขตของสำนักกระเรียนพิสุทธิ์ขยายใหญ่ขึ้นทีละขั้นๆ ตามเวลาที่ผ่านไป

ลู่เซิ่งประกาศกักตน ตราประทับประหลาดจากฉิงอ๋องเมื่อก่อนหน้านี้ทำให้เขาจ่ายค่าตอบแทนไม่น้อยถึงค่อยจัดการได้อย่างหมดจด

พึงทราบว่าตอนนี้เขามีพลังยุทธ์พันกว่าปีแล้ว แต่กลับถูกตราประทับผลาญพลังฝึกปรือไปเกือบหนึ่งในสิบ

ดังนั้นเขาจึงรีบยกระดับตัวเองทันที

ไม่นานนัก กระเรียนปีศาจก็ค้นหาเผ่าพันธุ์เล็กๆ ไปทั่ว แล้วส่งสินสงครามส่วนหนึ่งที่ได้รับมาถึงตรงหน้าเขา

ในนี้มีคัมภีร์การสืบทอดคล้ายๆ คัมภีร์หลักสองเล่ม แต่ว่าคัมภีร์หลักความเย็นในนี้เหมือนจะเป็นประเภทเดียวกัน วิธีการฝึกฝนจึงเหมือนกัน

หลังจากลู่เซิ่งนำมาพิจารณาดู กลับมีแต่สัจวิชาคัมภีร์หลักที่มนุษย์ภูผาหงอวี้มอบให้เท่านั้นที่ไม่มีจุดแปลกปลอม แต่ละขั้นตอนเชื่อมโยงกัน ดึงขนเส้นเดียวกระเทือนทั้งร่าง ไม่อาจเปลี่ยนแปลงอะไรได้อีก

แม้ข้อมูลจะน้อยไปหน่อย แต่ก็สมควรนำมาใช้พัฒนาคัมภีร์ปีกขาวได้

ขณะที่ลงมือทางนี้ ลู่เซิ่งยังได้สั่งให้ลงมือทางตำหนักเยวี่ยอ๋องเช่นกัน โดยเริ่มรวบรวมคัมภีร์เต๋าจำนวนมากพอจากทุกแห่งหน

ส่วนเขาหลบลงถ้ำใต้ดิน แล้วเริ่มการเรียนรู้วิชาครั้งใหม่

…

ไฟตะเกียงที่สลัวเหมือนกับเม็ดถั่ว โยกไหวตามลมเบาๆ

ลู่เซิ่งนั่งอยู่บนแท่นหินเย็นเยียบตามลำพัง ถือก้อนหินสีแดงสดทรงรีก้อนหนึ่งที่เหมือนถูกถ่านแดงละเลงสีไว้ในมือ

ในถ้ำมีกระแสอากาศไอเย็นไหลผ่านตลอดเวลา เวลานี้หากเป็นถ้ำปกติคงจะมีแต่แท่งน้ำแข็งและเสาน้ำแข็ง แต่ในถ้ำนี้กลับเป็นไอเย็นครึ่งหนึ่งไอร้อนครึ่งหนึ่ง

ลู่เซิ่งมองอินเตอร์เฟซตรงหน้าเขม็ง

‘นึกไม่ถึงเลย…นึกไม่ถึงจริงๆ…’ ก้อนหินในมือเขาเป็นภาชนะหินเก่าแก่ที่แย่งมาจากเผ่าจิ้งจอกหยก ว่ากันว่ามีอายุหลายพันปีแล้ว ถูกชนเผ่าใช้เป็นสมบัติบูชา

และเป็นเพราะแบบนี้ ตอนนี้ก้อนหินก้อนนี้จึงมอบพลังอาวรณ์จำนวนมากให้แก่เขาอย่างต่อเนื่อง

ทะลักเข้ามาด้วยความเร็วเกือบหนึ่งหมื่นหน่วยต่อวินาที

ตอนแรกลู่เซิ่งนึกว่าการขยายอาณาเขตแบบนี้ อย่างมากสุดคงได้ข้อมูลธรรมดาๆ นิดหน่อยเท่านั้น ตอนนี้กลับนึกไม่ถึงว่าจะยังมีผลประโยชน์ระดับนี้ด้วย

สิ่งที่ทำให้เขาประหลาดใจก็คือ เผ่าพันธุ์มากมายของที่นี่ต่างมีประเพณีคล้ายๆ กัน นั่นก็คือการบูชาบรรพบุรุษ

เครื่องมือบูชาหลากหลายรูปแบบได้เกิดขึ้นเพราะการบูชาบรรพบุรุษนี้

เครื่องมือทุกๆ ชิ้นนี้มีประโยชน์ที่ล้ำค่าต่อลู่เซิ่งเป็นอย่างยิ่ง

‘ดูเหมือนแหล่งที่มาของพลังอาวรณ์ต่อจากนี้ต้องพึ่งพาของพวกนี้เป็นหลักแล้ว’ ลู่เซิ่งค่อยๆ หลับตาแล้วมองไปยังกรอบคัมภีร์ปีกขาวในเวลานี้

ผ่านไปครึ่งวันแล้ว

ลู่เซิ่งดูดซับของเก่าแก่มาหลายสิบชิ้นแล้ว พลังอาวรณ์ในนี้มีทั้งเยอะมีทั้งน้อย ปริมาณรวมของพลังอาวรณ์เพิ่มขึ้นเกือบสามล้านหน่วย!

นี่ทำให้เขาทราบอย่างชัดเจนว่าโลกใบนี้มีศักยภาพเหนือกว่าจินตนาการแรกของเขา

‘เพิ่งขยับขยายอาณาเขตไปนิดเดียว แค่กลืนกินขุมกำลังของสามชนเผ่าก็ได้ประโยชน์มากขนาดนี้แล้ว…’ ลู่เซิ่งพ่นลมหายใจ แล้วจรดสายตาที่ปุ่มปรับเปลี่ยนด้านล่างเครื่องมือปรับเปลี่ยน

อินเตอร์เฟซสั่นไหวแล้วเข้าสู่สภาพปรับเปลี่ยน

เขามองไปยังกรอบคัมภีร์ปีกขาว เป็นอย่างที่คาด ด้านหลังคัมภีร์ปีกขาวในเวลานี้ปรากฏปุ่มเรียนรู้แล้ว

‘เริ่มการเรียนรู้’ เขารวมจิตแล้วกดลงบนปุ่มเรียนรู้

กรอบทั้งกรอบพร่ามัว

ครู่ต่อมา กรอบก็ชัดเจนขึ้นใหม่

[คัมภีร์ปริศนา: สำเร็จ พลังยุทธ์: หนึ่งพันสามร้อยหกสิบปี (คุณสมบัติพิเศษ: ความเร็วขั้นห้า พละกำลังขั้นหนึ่ง พลังป้องกันขั้นสอง คุณลักษณะอมตะขั้นหนึ่ง)]

‘หือ คุณลักษณะอมตะเหรอ’ ลู่เซิ่งพลันงุนงง เพิ่งจะเรียนรู้คัมภีร์ปีกขาวก็มีคุณสมบัติพิเศษใหม่เอี่ยมโผล่มาหนึ่งอย่างแล้วหรือนี่

ดูจากแค่ชื่อที่เครื่องมือปรับเปลี่ยนตั้งให้โดยอัตโนมัติ คุณลักษณะอมตะนี้จะต้องไม่ใช่ของธรรมดาแน่

‘เสียพลังอาวรณ์มากขึ้นแล้ว…เรียนรู้ครั้งหนึ่ง ต้องใช้ถึงห้าพันหน่วย…’ ลู่เซิ่งค้นพบจุดผิดปกติอีกจุด

สีหน้าเขาเปลี่ยนแปลง พลังจิตวิญญาณอันแข็งแกร่งกระจายไปทั่วร่างในพริบตาเพื่อสังเกตการเปลี่ยนแปลงเล็กๆ ในทุกๆ ส่วน

‘เรียนรู้อีกระดับ’

เขาเพ่งสมาธิ แล้วกดลงบนปุ่มเรียนรู้อีกครั้ง

วาบ…

กรอบหายไป

ครั้งนี้พลังอาวรณ์หายไปหนึ่งหมื่นหน่วย

กรอบพร่ามัวอยู่สามสิบกว่าวินาที จึงค่อยๆ ชัดเจนขึ้น

[คัมภีร์ปริศนา: สำเร็จ พลังยุทธ์: แปดร้อยยี่สิบเอ็ดปี (คุณสมบัติพิเศษ: ความเร็วขั้นสิบ พละกำลังขั้นสอง พลังป้องกันขั้นห้า คุณลักษณะอมตะขั้นสอง)]

‘มีอีกแล้ว…’ ลู่เซิ่งตกใจ

เวลานี้จิตวิญญาณของเขาสัมผัสได้อย่างชัดเจนว่า พลังอาวรณ์ในร่างกายกำลังหายไปอย่างอธิบายไม่ได้ โดยสิ่งที่มาแทนที่ก็คือ สนามแม่เหล็กชีวิตจำนวนมากกำลังค่อยๆ ยื่นออกมาจากหลังท้ายทอยของตนอย่างเป็นธรรมชาติ

สนามแม่เหล็กชีวิตพวกนี้หมุนวนด้วยความเร็วสูง แล้วหดมารวมตัวกันอย่างบ้าคลั่งโดยอยู่ห่างจากท้ายทอยหนึ่งชุ่น ไม่นานก็กลายเป็นวังวนขนาดเล็กๆ ที่ซ่อนเร้นเสียจนมองไม่เห็น

‘หรือว่านี่จะเป็นคุณลักษณะอมตะ’ ลู่เซิ่งคาดเดาในใจ

เขามีลางสังหรณ์ว่า เป็นไปได้ถึงขีดสุดที่ตนจะสัมผัสกับหนึ่งในความลับใหญ่สุดของโลกใบนี้เข้าแล้ว

เป็นไปได้มากว่าคุณลักษณะอมตะที่โผล่มาใหม่นี้เป็นตัวผลาญพลังอาวรณ์

‘ขอดูหน่อยเถอะว่าคุณลักษณะอมตะนี้ดูดซับพลังอาวรณ์ได้มากขนาดไหน!’ ลู่เซิ่งตัดสินใจเด็ดขาด

เขากดปุ่มเรียนรู้อีกรอบ

ครั้งนี้กรอบพร่ามัวลงเกือบยี่สิบนาทีโดยประมาณ แล้วค่อยชัดเจนขึ้นอีกครั้ง

[คัมภีร์ปริศนา: สำเร็จ พลังยุทธ์: ห้าร้อยยี่สิบปี (คุณสมบัติพิเศษ: ความเร็วขั้นยี่สิบ พละกำลังขั้นสาม พลังป้องกันขั้นแปด คุณลักษณะอมตะขั้นสาม)]

มาถึงขั้นนี้แล้ว ลู่เซิ่งมองปุ่มเรียนรู้อีกรอบ กลับค้นพบอย่างงุนงงว่าด้านหลังกรอบว่างเปล่าไม่มีอะไรเลย

‘หมายความว่า วิชานี้เป็นระดับสูงสุดที่ดีปบลูเรียนรู้โดยอิงจากข้อมูลที่เรามีอยู่ในตอนนี้ได้แล้ว ส่วนที่พลังฝึกปรือตกลงอย่างต่อเนื่อง นั่นเป็นเพราะยิ่งวิชาอยู่ในระดับสูงหรือแข็งแกร่งมากเท่าไหร่ พลังยุทธ์ดั้งเดิมก็จะถูกสกัดและนำมาควบรวมกันจนความเข้มข้นสูงขึ้นมากเท่านั้น จากนั้นก็จะเกิดการเปลี่ยนแปลงทางคุณสมบัติ ดังนั้นเลยมีจำนวนลดลง’

ลู่เซิ่งพ่นลมหายใจออกอย่างช้าๆ

ไอขาวพุ่งออกมาจากปากของเขา ถึงขั้นมีกลิ่นหอมที่บรรยายไม่ได้อีกสายหนึ่ง

เขายกมือขึ้น เห็นอาภรณ์ปีกสีขาวบริสุทธิ์ปกคลุมร่างตัวเองตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่ทราบ

พอหลับตา จิตวิญญาณที่แข็งกล้าของเขาก็ ‘เห็น’ วังวนขนาดเล็กกลุ่มหนึ่งหลังท้ายทอยของตัวเองยืดหนวดที่เหมือนกับรากไม้นับไม่ถ้วนไปทั่วอากาศรอบๆ เหมือนกับอัญมณีโปร่งแสงทันที

คล้ายกับรากหนวดเหล่านี้ดูดซับสสารบางอย่างในอากาศ

‘ปราณจริงแท้หนักขึ้นเยอะเลย…’ เขายื่นมือออกไปจิ้ม ปราณจริงแท้สายหนึ่งไหลออกมาจากปายนิ้ว แล้วไหลลงไปอยู่บนพื้น

ปราณจริงแท้แบบนี้ถึงขั้นลอยไม่ได้ด้วยซ้ำ ยิ่งไม่อาจผสมกับอากาศ แต่กลับผสมกับผืนดินได้อย่างแน่นหนาสุดขีด

ลู่เซิ่งกวาดดูร่างตัวเองหลายรอบผ่านจิตวิญญาณ นอกจากปัจจัยร่างกายที่แข็งแกร่งขึ้นแล้ว ยังคงไม่พบการเปลี่ยนแปลงใหญ่อะไร แต่เขาก็สัมผัสได้จากโลกอันลี้ลับว่า ระดับชีวิตของตัวเองเกิดการเปลี่ยนแปลงทางคุณสมบัติแล้ว

กลางความว่างเปล่า เหมือนจะมีโซ่ไร้รูปร่างจำนวนมากเชื่อมต่อกับเส้นสายบนร่างของตนเอง และพากันแตกออกมามากกว่าครึ่งตามการยกระดับวิชา

“เสี่ยวเจิน”

เขาส่งเสียงเรียกเบาๆ

“ท่านพ่อ”

ทันใดนั้น มีเงาสีขาวสายหนึ่งโผล่แวบออกมาแล้วคุกเข่าข้างหนึ่งลงกับพื้น เป็นเสี่ยวเจินกระเรียนปีศาจที่มีหัวเป็นกระเรียนตัวเป็นมนุษย์นั่นเอง

“ไปตำหนักฉิงอ๋อง…” ลู่เซิ่งลืมตาช้าๆ “หยั่งเชิงดู ถ้าไม่มีอะไรต้องกริ่งเกง ให้ฆ่าฉิงอ๋องทิ้งซะ”

“พ่ะย่ะค่ะ! ลูกจะทำสุดความสามารถ!” เสี่ยวเจินกล่าวอย่างเคร่งขรึม

“เข้ามาใกล้ๆ” ลู่เซิ่งเอ่ยเบาๆ

เสี่ยวเจินเดินเข้าไปหยุดยืนอยู่ห่างจากลู่เซิ่งไม่ถึงหนึ่งช่วงแขน

ทันใดนั้น วังวนด้านหลังลู่เซิ่งก็แบ่งเส้นสายหลายเส้นออกมา แล้วแทงเข้าไปในท้ายทายของมัน

ปราณจริงแท้จำนวนมากทะลักเข้าไปในร่างของมันอย่างบ้าคลั่ง พริบตาเดียวพลังยุทธ์เกือบห้าร้อยกว่าปีก็ไหลเข้าสู่ร่างของเสี่ยวเจินอย่างเงียบเชียบ

“เสร็จแล้ว ไปเถอะ” ลู่เซิ่งอยากจะเห็นเหมือนกันว่าคุณลักษณะอมตะนี้มีประโยชน์อะไร

เสี่ยวเจินไม่เข้าใจ แต่ก็ค่อยๆ ถอยออกมา ก่อนจะหายไปในทันใด

‘ถ้าหากสิ่งที่เราคาดเดาเป็นความจริง…อย่างนั้นครั้งนี้เราจะต้องเข้าใจจิตแห่งวัฏจักรและสร้างวิญญาณแห่งวัฏจักรได้แน่!’

ปราณจริงแท้ในตัวลู่เซิ่งฟื้นฟูด้วยความเร็วสูง แค่เพียงสองสามอึดใจปราณจริงแท้ทั้งหมดก็ฟื้นฟูกลับมาเท่าเดิม

‘ยังมีฉิงอ๋อง…’ ดวงตาของเขาฉายจิตสังหาร

ตอนก่อน
ตอนต่อไป

ความคิดเห็นทั้งหมดของ "บทที่ 680 ขยับขยาย (2)"

ใส่ความเห็น ยกเลิกการตอบ

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

*

*

  • อ่านนิยาย
  • แทงหวย24

© 2020 cat-novel.com
เว็บอ่านนิยาย นิยาย pdf เว็บ “cat-novel.com” เว็บอ่านนิยายสนุกๆ เพลิดเพลินไปกับนิยายต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น นิยายวาย, นิยายจีน, นิยายรัก, แฟนตาซี, กำลังภายใน, ผจญภัย สุดยอดวิชากำลังภายใน อัพเดททุกวัน พร้อมรองรับการอ่านบนมือถือ คอมพิวเตอร์ ไอแพด หรือแท็บเล็ต อ่านได้ตลอดเวลา ไม่มีโฆษณา อ่านนิยายฟรีต้อง เว็บ ”cat-novel.com”
นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์