ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ - ตอนที่ 1021 ความเจ็บปวด
ตอนที่ 1021 ความเจ็บปวด
ตู๋กูโม่เป่ามีใบหน้านิ่งค้างไปครู่หนึ่ง
หลังจากนั้น ฉู่หลิวเยว่ก็มองเห็นใบหน้าสีขาวแปรเปลี่ยนเป็นสีชมพูระเรื่อได้ด้วยตาเปล่า! มันแดงเสียคิดว่าจะมีเลือดออกมาแล้ว!
ตู้ม!
ทันใดนั้นตรงหน้าของฉู่หลิวเยว่ก็มีประกายเพลิงสีม่วงปรากฏขึ้น!
นางถอยหลังลงไปทันที หลบได้อย่างหวุดหวิด รอยไหม้ที่ปลายเส้นผม ทำให้เกิดกลิ่นไหม้โชยออกมา
ชายหนุ่มร่างเล็กที่อยู่ตรงหน้ามีเปลวเพลิงสีม่วงจางๆ ปกคลุมร่างกายเอาไว้
จากนั้นเมื่อเห็นมือเล็กๆ โบกสะบัดขึ้น
ตอนที่ลำแสงหายไป บนร่างกายของเขาก็มีเสื้อคลุมสีม่วงปรากฏขึ้นมาแล้ว
เนื้อผ้าคลุมนั้นละเอียดอย่างมาก ไม่อยู่ภายใต้แสงแดด มันก็มีแสงสะท้อนออกมาจางๆ ราวกลับเหมือนเกราะอ่อนชิ้นหนึ่งมากกว่า
ฉู่หลิวเยว่มองฉากที่อยู่ตรงหน้าด้วยสายตาซับซ้อน
เดิมทีฉากเปิดตัวควรจะเป็นรูปลักษณ์ที่สง่างาม แต่น่าเสียดาย…รูปลักษณ์ของพี่เป่าในจินตนาการของนาง ถูกทำให้พังทลายในทันที
“อุ๊ปส์ ฮ่าๆ!”
เสียงหัวเราะหนึ่งก็ดังขึ้น ทันใดนั้นที่กลางทะเลสาบก็เกิดระเบิดขึ้นมา
“พี่เป่า! เจ้าฮ่าๆ! คาดไม่ถึงว่าตอนที่เจ้าเจอเยว่เอ๋อ เจ้าจะไม่สวมเสื้อผ้า ฮ่าๆ!”
คำพูดของหลานเซียวมักจะดูสงบ และไร้ตัวตนดั่งเซียน นี่เป็นครั้งแรกที่ฉู่หลิวเยว่ได้ยินเขาหัวเราะ “อร่อย” ขนาดนี้
หางตาของนางกระตุกเล็กน้อย
อื้อ…เหมือนว่าจะหัวเราะเสียงดังไปหน่อยนะ…
และเป็นเช่นนั้นจริงๆ ยิ่งหลานเสียวหัวเราะดังขึ้น ใบหน้าของพี่เป่าก็มืดครึ้มมากขึ้น
ใบหน้าเล็กๆ แดงก่ำ นี่ตอนนั้นใบหน้าของเขาเปลี่ยนจากสีแดงเป็นสีดำ จากสีดำเป็นสีแดง
เดิมทีแล้วร่างศักดิ์สิทธิ์ที่เพิ่งหลอมเสร็จจะไม่มีเสื้อผ้าอยู่แล้ว แต่เมื่อครู่เขาประมาทไปหน่อย ถึงได้ลืมเรื่องนี้ไป
ไม่ว่าอย่างใดก็ตามขั้นตอนนี้ลำบากอย่างมาก พวกเขาทั้งสามคนถูกขังไว้ในนี้เป็นเวลาหลายปีแล้ว และมีเพียงเขาเท่านั้นที่หลอมสำเร็จก่อน
“เจ้ายังไม่สามารถควบรวมร่างศักดิ์สิทธิ์ได้ถึงครึ่งเลย เจ้ามีสิทธิ์อันใดมาหัวเราะข้า?” พี่เป่ากัดฟันกรอดแล้วพูดขึ้น
หลานเซียวไม่รับรู้ถึงความอันตรายเลย แต่เขากลับหัวเราะหนักขึ้น
“ฮ่าๆ แต่ว่าเจ้าไม่สวมเสื้อผ้านี่นาฮ่าๆ!”
“หัวเราะพอหรือยัง?”
พี่เป่าพูดขึ้นอย่างช้าๆ ชัดๆ ราวกับว่ามีแรงกดดันเพิ่มขึ้นอย่างไม่รู้จบ!
“ฮ่าๆ…อึ่ก!”
เสียงของหลานเซียวหยุดชะงักลงทันที
ตู้ม!
ทันใดนั้นเองที่กลางทะเลสาบก็เกิดระเบิดขึ้น!
ในที่สุดพื้นที่โดยรอบก็เงียบสงบลง
กระแสน้ำวนที่อยู่กลางทะเลสาบก็กลับคืนสู่สภาพเดิม กลายเป็นระลอกคลื่นเล็กๆ ไม่กี่ระลอกเท่านั้น
ตู๋กูโม่เป่ายืนหันหลังให้กับฉู่หลิวเยว่ เขาหลับตาลง สูดลมหายใจเข้าลึกๆ แต่หลังจากผ่านไปนานแล้ว เขาก็ยังไม่หมุนตัวกลับมา
บรรยากาศอึดอัดอย่างมาก
“พี่เป่า?”
ฉู่หลิวเยว่นิ่งไปชั่วขณะ เมื่อเห็นว่าเขาไม่ยอมขยับตัว ในที่สุดก็อดที่จะตะโกนเรียกไม่ได้
จากนั้นตู๋กูโม่เป่าก็ยอมจำนนแล้วหมุนตัวกลับมา
“เหตุใด?”
เขาเชิดคางขี้นเล็กน้อย ใบหน้าไร้อารมณ์ ก่อนจะถามขึ้นอย่างเย็นชา
ท่าทางของเขาเหมือนกำลังจะหมดความอดทน
ฉู่หลิวเยว่กวาดสายตามอง
สีหน้าของเขากลับมาเป็นปกติแล้ว แต่ใบหูยังแดงอยู่
เขาเหมือนกับเด็กที่ทำความผิดแต่ให้ตายอย่างใดก็ไม่ยอมรับ
เมื่อเป็นเช่นนี้…ต่อให้รู้ว่านี่คือร่างศักดิ์สิทธิ์ของเขา แต่แรงคุกคามเท่ากับศูนย์
ฉู่หลิวเยว่กลั้นยิ้มเอาไว้ ก่อนจะพูดขึ้นด้วยท่าทางจริงใจ
“พี่เป่า นี่นับว่าข้าช่วยท่านได้แล้วใช่หรือไม่?”
สีหน้าของพี่เป่าอ่อนโยนลงเล็กน้อย เขาเบือนหน้าหนีแล้วมองไปทางอื่น
สักพักถึงมีเสียง “อื้ม” ดังขึ้น
ฉู่หลิวเยว่ยิ้มออกมา
“เช่นนั้นก็ดีแล้ว!”
“แต่ว่าข้าสามารถถามท่านได้หรือไม่ ว่าเหตุใดข้าถึงสามารถช่วยท่านได้?”
ในแววตาของฉู่หลิวเยว่มีประกายความสงสัย
แม้ว่าตอนนี้นางจะเป็นจอมยุทธ์ระดับเจ็ดแล้วก็ตาม และภายในร่างกายยังมีพลังศักดิ์สิทธิ์ แต่การปลุกร่างศักดิ์สิทธิ์นั้น…เหมือนว่าผู้บำเพ็ญเพียรระดับนางคงไม่สามารถทำได้?
เหตุใดนางถึงไม่รู้เลยว่านางแข็งแกร่งขนาดนี้?
ตู๋กูโม่เป่าขมวดคิ้วขึ้น
“แน่นอนเพราะว่า เจ้า…เป็นเจ้า”
ฉู่หลิวเยว่ชะงักไป
ประโยคนี้หมายความว่าอย่างใด?
เขาอ้าปากขึ้น คำพูดติดอยู่ที่ปาก แต่เขาก็หมุนกายหนีไปทันที
“หลังจากหลอมร่างศักดิ์สิทธิ์เรียบร้อยแล้ว แน่นอนว่าต้องการพลังศักดิ์สิทธิ์มาเป็นการกระตุ้น และในร่างของเจ้ามีพลังศักดิ์สิทธิ์อยู่พอดี ดังนั้น…”
ดวงตาของฉู่หลิวเยว่สั่นไหวเล็กน้อย จากนั้นก็ยิ้มขึ้นมาบางๆ
“ข้ามีพลังศักดิ์สิทธิ์ ก็เป็นเรื่องที่เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อไม่นานมานี้ หรือว่าในตอนนั้นท่านก็รู้อยู่แล้ว ดังนั้นจึงให้เสวี่ยเสวี่ยมาส่งข่าวให้ข้า?”
พี่เป่าและคนอื่นๆ แข็งแกร่งอย่างมาก แต่พวกเขาไม่สามารถออกจากทะเลทรายจันทราสีชาดได้ เขาไม่มีทางรู้เรื่องนี้ได้อย่างรวดเร็วแน่นอน
นั่นก็หมายความว่า พวกเขาจะต้องเตรียมแผนนี้มานานมากแล้ว
และไม่ใช่เพราะพลังศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่ในตัวนางอย่างแน่นอน
ตู๋กูโม่เป่าสะอึกไปหนึ่งครั้ง จากนั้นก็รีบพูดขึ้นว่า
“เจ้าฟังผิดแล้ว ข้าพูดว่าพลังแห่งสวรรค์ ภายในร่างกายของเจ้ามีพลังนี้อยู่ก่อนแล้ว ไม่ใช่หรือ?”
ฉู่หลิวเยว่ยิ้มออกมาแต่ไม่ได้พูดอันใด
ทั้งสองคนยืนเผชิญหน้ากัน แน่นอนว่านางไม่มีทางฟังผิด
ยิ่งไปกว่านั้น พลังแห่งสวรรค์ภายในร่างกายของนางมีสามสาย สายแรกนางทะลวงได้ตอนที่เข้าไปในอาณาเขตเซียนเทพของราชวงศ์เทียนลิ่ง ส่วนอีกสองสายได้มาจาก การที่นางทำพันธสัญญากับอินทรีสามตา และถวนจื่อ
แต่นางเองก็มีไหวพริบจึงไม่ได้ถามต่อ
เห็นได้ชัดว่าตู๋กูโม่เป่าไม่ต้องการตอบคำถามนี้ หากถามต่อไปก็ไม่มีประโยชน์อันใด
ดังนั้นนางจึงพยักหน้าอย่างเข้าใจ และเปลี่ยนเรื่องทันที
“อย่างนี้นี่เอง…จริงสิ เมื่อครู่ผู้อาวุโสหลานเซียวพูดว่า เพื่อช่วยข้าท่านจึง…”
หลานเซียวพูดว่า “ปัญหาเล็กน้อย” นั่นอาจจะหมายความว่าร่างศักดิ์สิทธิ์ของตู๋กูโม่เป่ามีอายุน้อยเกินไป
แม้ว่าน้ำเสียงของเขาจะดูเหมือนเด็ก แต่ฉู่หลิวเยว่ไม่เชื่อว่าตู๋กูโม่เป่าจะเป็นเด็กสามขวบจริงๆ
เรื่องเหล่านี้ เหมือนว่านางจะมีส่วนเกี่ยวข้องด้วย?
ตู๋กูโม่เป่าขมวดคิ้วมุ่น ใบหน้ากลับมาไร้ความรู้สึกเช่นเดิม
“มันไม่เกี่ยวกับเจ้า”
“อุ๊ปส์…”
ทันใดนั้นเสียงหัวเราะเบาๆ ก็ดังขึ้นที่ข้างหู
“นังหนู อย่าไปฟังเขาเล่นลิ้นเลย”
ฉู่หลิวเยว่ชะงักไป
นั่นเป็นเสียงของหลานเซียว
นางเงยหน้าขึ้นมามอง จากนั้นก็เห็นว่าตู๋กูโม่เป่าไม่มีปฏิกิริยาตอบรับ
“นังหนูวางใจเถอะ เขาไม่ได้ยินเสียงนี้ ความสามารถแบบนี้ พวกเรายังมีอยู่ เจ้าฟังเฉยๆ ก็พอ”
ฉู่หลิวเยว่หลุบตาลงต่ำ แล้วฟังเงียบๆ ราวกับว่านางกำลังทำท่าครุ่นคิดอันใดบางอย่าง
แต่ความจริงแล้ว นางกำลังฟังหลานเซียวพูดต่างหาก
“เขาไม่อยากบอกเรื่องนี้ให้เจ้าฟัง แต่ข้าจะเป็นคนบอกเจ้าเอง”
น้ำเสียงหยอกล้อของหลานเซียวหายไป ความจริงจังเพิ่มขึ้นหลายส่วน
“เรื่องที่เจ้าถูกชายหญิงคู่นั้นทำร้าย พวกเรารู้หมดแล้ว ตอนนั้นที่เจ้ากลับไปซีหลิง ก็เพื่อไปแก้แค้นใช่หรือไม่? ความจริงแล้วในตอนนั้น พวกเราก็อยากจะไปช่วยเจ้า แต่น่าเสียดายที่พวกเราทั้งสามถูกขังไว้อยู่ที่นี่ ไม่มีทางออกไปได้ มีทางเดียวคือจะต้องหลอมร่างศักดิ์สิทธิ์ ถึงจะสามารถออกจากกรงขังนี้ได้”
“และเจ้าก็น่าจะมองออก ว่าในบรรดาพวกเราพี่เป่าเป็นคนที่แข็งแกร่งที่สุด เขาสามารถหลอมร่างศักดิ์สิทธิ์ได้เร็วที่สุด ความจริงแล้วเขาจะต้องใช้เวลาอีกสามปีถึงจะหลอมสำเร็จ แต่เพื่อช่วยเจ้าในตอนนั้น เขาจึงตัดสินใจบังคับให้ทะลวงด่าน”
ฉู่หลิวเยว่รู้สึกตกใจอย่างมาก แต่ก็สามารถเดาอันใดได้ลางๆ แล้ว
หลานเซียวถอนหายใจออกมาเบาๆ
“ทะลวงด่านก่อนกำหนด แม้ว่ามันจะสำเร็จ แต่น่าเสียดายที่สุดท้ายกลับหลอมร่างได้อายุเท่านี้…”
“หากหลอมร่างศักดิ์สิทธิ์ออกมาจนสำเร็จแล้ว มันก็ยากจะเปลี่ยนแปลงไปตลอดชีวิต”
—————————-