ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ - ตอนที่ 1077 แย่งชิง
ตอนที่ 1077 แย่งชิง
โฮก!
ทันใดนั้นเงาร่างที่แข็งแกร่งก็ปรากฏอยู่ตรงหน้าเจียงจื่อหยวน เพื่อขวางกรงเล็บของเสวี่ยเสวี่ยไว้!
พรึ่บ…
เสียงกรงเล็บฉีกทึ้งเนื้อ ทำเอาคนอ้าปากค้าง!
เจียงจื่อหยวนรีบถอยหลังอย่างตกใจ ใบหน้าซีดเผือด
…ในตอนนั้นนางคิดว่า นางจะต้องตายภายใต้กรงเล็บของเสวี่ยเสวี่ยแล้ว
ทุกคนจดจ้องอย่างตั้งใจ และพบว่าคนที่มาขวางอยู่ด้านหน้าของเจียงจื่อหยวน ก็คืออสูรศักดิ์สิทธิ์ตัวหนึ่ง!
มันคือเสือดาวที่รูปร่างแข็งแรงกำยำ ตัวสีเหลือง มีลายจุดสีดำอยู่บนร่างกาย กลางหลังมีปีกอยู่สองข้าง ดวงตาเป็นสีเขียวมรกต น่าหวาดกลัวอย่างมาก!
นี่คืออสูรศักดิ์สิทธิ์ในพันธะสัญญาของเจียงจื่อหยวน…เสือดาวดาราทมิฬสองปีก
ในตอนนั้นเองปีกที่อยู่ด้านหลังของมันถูกเสวี่ยเสวี่ยกัดอย่างรุนแรงจนเนื้อส่วนหนึ่งหลุดออกมา เลือดไหลออกมาเป็นจำนวนมาก กลิ่นคาวเลือดคละคลุ้ง
ในทางตรงกันข้ามกรงเล็บของเสวี่ยเสวี่ยไม่ได้รับผลกระทบแม้แต่เล็กน้อย
ทุกคนต่างมองออก แม้ว่าเสือดาวดาราทมิฬสองปีกจะเป็นอสูรศักดิ์สิทธิ์เหมือนกัน แต่ว่าระดับพลังต่างกัน ระดับพลังของมันนั้นต่ำกว่าเสวี่ยเสวี่ยมาก!
เมื่อต่อสู้กันแบบนี้ หากเจียงจื่อหยวนต้องการจะชนะก็เป็นเรื่องยากแล้ว!
…
เจียงจื่อหยวนตกใจวิญญาณยังไม่กลับเข้าร่าง
หากไม่ใช่เพราะปรากฏกายออกมาได้ทันเวลา ตอนนี้นางคง…
ยิ่งนางตกใจหวาดกลัวมากเท่าไร ความแค้นที่อยู่ในใจก็ฝังลึกมากขึ้นเท่านั้น
นางกัดฟันกรอด
“เป้าเอ๋อร์ ลุย!”
อย่างใดก็ตามยังไม่ทันได้ขยับตัว เรากลับเกิดความลังเลเล็กน้อย มันหมอบตัวลงอย่างระมัดระวัง พร้อมมองไปที่ดวงตาของเสวี่ยเสวี่ยที่อยู่ฝั่งตรงข้าม ท่าทางของมันหวาดกลัวจนไม่สามารถละเลยได้
ระดับของสัตว์อสูรตัวนั้นเข้มงวดมาก สัตว์อสูรระดับสูงสามารถใช้ความแข็งแกร่งและแรงกดดันควบคุมสัตว์อสูรระดับต่ำได้
นั่นคือสิ่งที่สืบทอดทางสายเลือด ไม่ว่าสัตว์อสูรตัวไหนก็ต้องเชื่อฟัง!
ดังนั้นต่อให้เสือดาวดาราทมิฬสองปีกจะได้รับคำสั่งจากเจียงจื่อหยวน
แต่ความหวาดกลัวที่ฝังอยู่ในกระดูกของสัตว์อสูรก็มีจำนวนมากกว่า และไม่สามารถกำจัดความกลัวเหล่านั้นไปได้
สถานการณ์เมื่อครู่นี้ มันถูกพลังในการทำพันธสัญญาของเจียงจื่อหยวนกระตุ้นให้ออกมา จนมันกระโดดออกมาอย่างประมาท
แต่ตอนนี้ถ้าให้มันต่อกรกับเสวี่ยเสวี่ย จึงรู้สึกยากอยู่นิดหน่อย
เจียงจื่อหยวนรู้สึกโมโหอย่างมาก
“เป้าเอ๋อร์!”
กรงเล็บของเสือดาวดาราทมิฬสองปีกตะกุยพื้นอยู่ครู่หนึ่ง
เสวี่ยเสวี่ยจ้องมองหนึ่งคนหนึ่งสัตว์อสูรที่อยู่ตรงหน้าด้วยแววตาดุร้าย ภายในดวงตามีความเย็นชาประกายออกมา
ในตอนนั้นเองมันก็พุ่งตัวไปข้างหน้าด้วยความรวดเร็ว! พร้อมจู่โจมทันที!
เป้าหมายคือ…เสือดาวดาราทมิฬสองปีกตัวนั้น!
พรึ่บ!
ปีกทั้งสองข้างสยายขึ้น แล้วบินพุ่งเข้าต่อสู้!
แต่ตัวมันยังไม่ทันจะเคลื่อนไหว ชั่วพริบตาเดียว เสวี่ยเสวี่ยก็มาหยุดอยู่ตรงหน้ามันแล้ว!
เสือดาวดาราทมิฬสองปีกตกใจอย่างมาก! รีบเปลี่ยนทิศทางอย่างรวดเร็ว!
มันเร็ว!
แต่ว่าเสวี่ยเสวี่ยเร็วกว่า!
ปลายเท้าของมันเบามาก คาดไม่ถึงว่าเพียงชั่วพริบตาเดียวมันก็ทิ้งแค่เงาร่างเอาไว้ในอากาศ!
คนในฝูงชนอุทานขึ้นอย่างตกใจ
แม้ว่าเสือดาวดาราทมิฬสองปีกจะไม่ได้อยู่ในระดับเดียวกับสิงโตขาว แต่ความเร็วของมันก็ล้ำเลิศ
ถ้าตามหลักการแล้วมันควรจะได้เปรียบสิถึงจะถูก แต่เหตุใดถึงกลายเป็นเช่นนี้ไปได้!?
ชั่วพริบตาเสวี่ยเสวี่ยก็มาหยุดอยู่ด้านหน้าของเสือดาวดาราทมิฬสองปีกได้แล้ว!
มันง้างกรงเล็บขึ้น จากนั้นก็ตบลงไปทันที!
พลั่ก!
เสือดาวดาราทมิฬสองปีกไม่สามารถตอบสนองได้ในทันที สมองของมันมึนงงไปชั่วขณะ!
เบื้องหน้าดำมืด ร่างของมันล้มลงไปอย่างแรงจนไม่สามารถควบคุมได้!
โครม!
เสียงดังสนั่นขึ้น!
“เป้าเอ๋อร์!”
เจียงจื่อหยวนตกใจอย่างมาก รีบพุ่งตัวไปด้านหน้า
แต่เสวี่ยเสวี่ยไม่ได้ให้โอกาสนาง มันพุ่งตัวลงมา แล้วจะอ้าปากกับนางอย่างไม่ลังเล!
“ไม่นะ…”
น้ำเสียงของเจียงจื่อหยวนหวีดแหลม!
กร๊อบ!
เสียงกระดูกแตกดังขึ้นอย่างชัดเจน!
แต่กลับเป็นปีกข้างหนึ่งของเสือดาวดาราทมิฬสองปีก มันถูกเสวี่ยเสวี่ยกัดบริเวณตรงกลางอย่างแรง!
เลือดสาดกระจายไปทุกทิศทุกทาง!
กระดูกสีดำแทงทะลุออกมาจนสามารถเห็นส่วนที่หักได้ ทำให้ผู้คนรู้สึกตื่นตระหนกอย่างมาก!
เจียงจื่อหยวนอ้าปากค้าง นางถูกกระตุ้นด้วยภาพเหตุการณ์ตรงหน้าจนเกือบจะเป็นลมหมดสติไป
เสือดาวดาราทมิฬสองปีกตัวนี้ นางได้รับมาตอนวันเกิดครบรอบสิบขวบ ท่านพ่อไปช่วยหามาด้วยตัวเอง หลายปีผ่านมา นางดูแลมันเป็นอย่างดีมาโดยตลอด และผูกพันกับมันเป็นอย่างมาก
ตอนนี้เมื่อเห็นมันถูกกัดที่ปีกเช่นนี้ แล้วนางจะทนได้อย่างใด?
เสวี่ยเสวี่ยเงยหน้าขึ้น นอกจากดวงตาสีฟ้าจะแผ่ประกายเย็นชายังฉายแววยั่วยุอีกด้วย
ความหมายนั้นชัดเจนมาก…ว่าเจ้ายังจะสู้ต่ออีกหรือ?
เสือดาวดาราทมิฬสองปีกดิ้นรนหมายจะลุกขึ้นมา แต่น่าเสียดายที่โดนแรงกดดันของเสวี่ยเสวี่ยกดเอาไว้ จนไม่สามารถขยับตัวได้
เจียงจื่อหยวนทั้งโกรธทั้งโมโห แต่ก็รู้ว่าในสถานการณ์ปัจจุบันนี้ หากนางจะสู้ต่อ ผลลัพธ์คงไม่สวยแน่
ในใจของนางไม่ยินยอม นางกำหมัดทั้งสองข้างกรอด ฝ่ามือเจ็บจากการผูกเล็บจิก
ภายในสมองของนางคิดถึงเรื่องที่เพิ่งเกิดขึ้นนี้อย่างต่อเนื่อง
หกเสาล้อมถูกทำลายอย่างง่ายดาย ส่วนเสือดาวดาราทมิฬสองปีกก็ไม่มีเรี่ยวแรงที่จะตอบโต้แล้วเช่นกัน
“ข้ายอมแพ้!”
เจียงจื่อหยวนกัดฟันกรอด แล้วพูดออกมา!
…
คำท้าแรกของด่านที่สองก็จบลงด้วยประการฉะนี้
การเริ่มต้นเกิดขึ้นตามที่คาด ส่วนจุดจบนั้นเกินความคาดหมายไปหน่อย
ก่อนหน้านี้ทุกคนตั้งความหวังกับเจียงจื่อหยวนไว้สูงมาก
แต่ใครจะคิดเล่าว่า ทุกอย่างมันจะกลายเป็นแบบนี้!
เสวี่ยเสวี่ยลงมืออย่างโหดเหี้ยมรุนแรง มันบดขยี้ฝ่ายตรงข้ามอยู่เพียงผู้เดียว!
แม้ว่าเจียงจื่อหยวนจะแข็งแกร่ง แต่นางก็ต้องพ่ายแพ้อย่างอนาถ!
หลังจากที่คำนวณอย่างคร่าวๆ นางใช้เวลาเพียงหนึ่งเค่อ (สิบห้านาที) ก็ไม่สามารถยืนหยัดต่อได้แล้ว
เมื่อได้ยินนางพูดว่ายอมแพ้
เสวี่ยเสวี่ยก็กระโดดลงจากบนร่างของเสือดาวดาราทมิฬสองปีก
มันหลุบตาลงต่ำ ถูกรงเล็บกับพื้นด้วยความขยะแขยง
อสูรระดับต่ำอย่างเสือดาวดาราทมิฬสองปีก เลือดอันสกปรกจะเปรอะเปื้อนอุ้งเท้าที่สูงส่งของมัน
หากไม่ใช่เพราะความเร็วในการต่อสู้ มันก็ขี้เกียจจะลงมือ
…
เจียงจื่อหยวนพาเสือดาวดาราทมิฬสองปีกออกไป
หรงซิวนั่งพิงบัลลังก์ สีหน้าเกียจคร้าน
“คนต่อไป”
น้ำเสียงของเขาดังกังวาน ทั้งสงบและปลอดโปร่ง
แต่มันทำให้แม่นางหลายคนหน้าเปลี่ยนสีไปทันที
คนต่อไป?
แม้กระทั่งเจียงจื่อหยวนยังเป็นขนาดนั้น แล้วคนอื่นถ้าขึ้นไปไม่อนาถกว่านี้หรือ!?
พวกนางต้องการตำแหน่งพระชายาที่สูงส่ง แต่ว่านางต้องมีชีวิตอยู่เท่านั้นถึงจะได้
แต่ถ้าสุดท้ายกลับคว้าอันใดมาไม่ได้เลย และยังต้องแลกด้วยชีวิต นั่นมันไม่ใช่ขาดทุนย่อยยับแล้วหรือ!?
“อื้อ?”
หรงซิวเลิกคิ้วขึ้น แล้วมองไปรอบๆ
คนจำนวนไม่น้อยต่างก้มหน้าก้มตา
เห็นได้ชัดว่าพวกนางไม่ต้องการขึ้นมาประลอง
ผู้อาวุโสหมิงที่สามสิบหกเหลือบสายตามองไปทางฉู่หลิวเยว่อยู่หลายครั้ง ในที่สุดก็อดที่จะพูดกระตุ้นไม่ได้
“นังหนูเยว่เออร์ เจ้าเองก็มีอสูรศักดิ์สิทธิ์ในพันธสัญญาไม่ใช่หรือ?”
ท่าทางการกระทำเช่นนั้น เหมือนว่าเขาเกือบจะไปดึงตัวฉู่หลิวเยว่ขึ้นมาแล้ว
เมื่อได้ยินประโยคนั้น ผู้คนในท้องพระโรงต่างหันมามองฉู่หลิวเยว่เป็นตาเดียว
รวมถึงเจียงจื่อหยวนด้วย ตอนแรกนางกำลังช่วยทำแผลให้กับเสือดาวดาราทมิฬสองปีก
เมื่อได้ยินคำพูดนั้นนางก็เงยหน้าขวับทันที
อสูรศักดิ์สิทธิ์?
คาดไม่ถึงว่าตู๋กูเยว่ผู้นั้นก็มีเหมือนกัน?
นางเม้มริมฝีปาก
มีอสูรศักดิ์สิทธิ์แล้วอย่างใด?
ขึ้นไปแล้วจุดจบก็จะเหมือนกับนางนั่นแหละ!
…
ฉู่หลิวเยว่ลุกขึ้นยืน แล้วเดินไปหาเสวี่ยเสวี่ย
ในที่สุดนางหยุดอยู่ห่างจากเสวี่ยเสวี่ยประมาณสิบก้าว
“นางก็มีอสูรศักดิ์สิทธิ์หรือ? ไม่ทราบว่าอยู่ระดับใดกันแน่…”
“ดูเหมือนนางจะเป็นคนที่ไม่มีเบื้องลึกเบื้องหลังอันใด อสูรศักดิ์สิทธิ์ของนางคงจะระดับต่ำอยู่ละมั้ง?”
“แต่ว่านางรู้จักกับฝ่าบาท และผู้อาวุโสหมิงที่สามสิบหกนะ ไม่แน่ว่า…”
ท่ามกลางเสียงดังซุบซิบของผู้คน เงาร่างสีแดงชาดเล็กๆ ก็ปรากฏขึ้น มันเกาะที่ไหล่ของฉู่หลิวเยว่
มันคือถวนจื่อนั่นเอง!
จากนั้นก็มีเสียงดัง “พรึ่บ” เกิดขึ้น ถวนจื่อสยายปีกทั้งสองข้างทันที!
…ดูซิว่าวันนี้ข้าจะจัดการเจ้าอย่างใด!
เสวี่ยเสวี่ยเหมือนกับได้ฟื้นฟูจิตวิญญาณขึ้นทันที
“โฮก…”
…แค้นที่แย่งนายท่านไป ไม่อาจอยู่ร่วมโลกกันได้ ใครชนะก็ถือว่าได้เป็นอสูรศักดิ์สิทธิ์ของนาง!
ฉู่หลิวเยว่ “???”