ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ - ตอนที่ 1091 แหวนศักดิ์สิทธิ์
ตอนที่ 1091 แหวนศักดิ์สิทธิ์
แค้นเย่าเฉิน คนในพระราชวังเมฆาสวรรค์หลายคนต่างเคยได้ยินชื่อแห่งนี้
เพราะว่าในตอนนั้นเสด็จแม่แท้ๆ ของหรงซิวได้แอบแต่งงานกับจักรพรรดิของแคว้นเย่าเฉิน
อีกทั้งเขายังมีตำแหน่งเป็นองค์ชายเจ็ดของแค้นเย่าเฉิน เรื่องนี้คนในพระราชวังเมฆาสวรรค์ต่างรู้ดี
ในตอนที่พวกเขาตามหรงซิวกลับมา เรื่องเหล่านี้ก็ถูกแพร่กระจายออกไปอย่างกว้างขวาง แทบจะไม่มีใครไม่ทราบ
และเพราะเหตุนี้ หรงซิวจึงถูกมองว่าเป็นความอัปยศของตระกูล
หากไม่ใช่เพราะตอนที่เขาไปตำหนักสักการะเทพในครั้งแรก นาฬิกาไร้กาลเวลาปรากฏขึ้นเอง อีกทั้งเขายังมีพรสวรรค์ในพลังสายเลือดที่น่าตกใจ
ถ้าไม่ใช่เช่นนั้นเกรงว่าเขาจะต้องถูกตัดศีรษะต่อหน้าป้ายบรรพบุรุษของพระราชวังเมฆาสวรรค์แล้ว
หลายปีมานี้ ระดับบำเพ็ญเพียรของหรงซิวก้าวหน้าขึ้นอย่างต่อเนื่อง อำนาจและความแข็งแกร่งในพระราชวังเมฆาสวรรค์ของเขาเพิ่มพูนขึ้น
ทุกผู้คนก็ค่อยๆ เลิกพูดถึงเรื่องนี้ไป
อีกทั้งในครั้งนี้ หรงซิวก็เป็นคนพูดขึ้นมาก่อน จุดประสงค์ของเขานั้นชัดเจนมาก…เพื่อรักษาตำแหน่งพระชายาให้กับฉู่หลิวเยว่!
…
ผู้อาวุโสอวี๋จิ้งและคนอื่นๆ ตกใจเป็นอย่างมาก
จากนั้นพวกเขาก็มองหน้ากันไปมา แล้วขมวดคิ้วแน่นเป็นปม
ตามคำพูดของฝ่าบาท ตู๋กู…ไม่ใช่สิ ซั่งกวนเยว่ผู้นี้ มีพื้นเพเป็นคนธรรมดาจริงหรือ? แต่จะอธิบายปฏิกิริยาของนาฬิกาไร้กาลเวลาอย่างใด?
ก่อนหน้านี้ไม่เคยเกิดสถานการณ์เช่นนี้มาก่อน!
“ฝ่าบาท คุณหนูซั่งกวนเป็นคนนอกพรมแดน แต่กลับสามารถวัดได้ระดับ “สิบเอ็ด” ที่ท่านมีพรสวรรค์ทางสายเลือด นั้นเป็นเรื่องที่น่าแปลกจริงๆ…”
“ถ้ามองในมุมนี้ ข้าก็นับว่าเป็น “คนนอกพรมแดน” ก็สามารถวัดได้ระดับสิบเอ็ดเช่นกันไม่ใช่หรือ? ผู้อาวุโสได้พูดคุยถึงประเด็นนี้ซ้ำแล้วซ้ำเล่า หรือว่าท่านสงสัยในฐานะของข้าด้วย?”
หรงซิวพูดตัดบทผู้อาวุโสอวี๋จิ้งด้วยน้ำเสียงราบเรียบ
“ข้าไม่กล้า!”
หัวใจของผู้อาวุโสอวี๋จิ้งเต้นไม่เป็นจังหวะ รีบปฏิเสธโดยทันที ต่อให้ในใจของพวกเขาคิดเช่นนั้นก็ตาม แต่จะพูดออกไปต่อหน้าธารกำนัลได้อย่างใด?
ยิ่งไปกว่านั้นคนนอกพรมแดนอย่าง “หรงซิว” แต่กลับมีพรสวรรค์ทางด้านสายเลือดที่หายากในรอบพันปี!
พวกเขาจะไม่พอใจได้อย่างใด!
ผู้อาวุโสหมิงที่สามสิบหกยิ้มออกมา
“นังหนูเยว่เออร์จากวันนี้เป็นต้นไป เจ้าก็คือพระชายาของฝ่าบาทแล้ว!”
ผู้อาวุโสอวี๋จิ้งลังเลเล็กน้อย แต่ผู้อาวุโสเจิ้งฮุยกลับขยิบตาส่งสัญญาณให้เขา
ผู้อาวุโสหมิงที่สามสิบหกมีฐานะสูงส่ง เขาเกือบจะเป็นคนที่มีอายุมากที่สุดในเหล่าผู้อาวุโส ต่อให้ผู้อาวุโสถงชวนอยู่ที่นี่ ก็จะต้องไว้หน้าเขาสามส่วน
แล้วถ้าเป็นคนอื่นล่ะ?
เมื่อเขาพูดออกมาเช่นนี้ ก็กลบเสียงโต้แย้งที่อยู่รอบข้างได้ชะงักงัน
เขาได้ประกาศออกไปแล้วว่าเขาต้องการทำเช่นนี้ แต่ถ้ามีใครไม่เห็นด้วย ก็เท่ากับว่าเขาต้องการจะเป็นศัตรูของฝ่าบาทและผู้อาวุโสหมิงที่สามสิบหก!
ดังนั้นเขาจึงไม่สามารถทำตัวบุ่มบ่ามวู่วามได้…
ผู้อาวุโสอวี๋จิ้งสูดลมหายใจเข้าลึกๆ แล้วกลืนคำพูดทั้งหมดลงไป
ผู้อาวุโสเจิ้งฮุยควบคุมสีหน้าได้เป็นอย่างดี
เขาโค้งคำนับเล็กน้อย
“เจิ้งฮุยถวายบังคมพระชายา!”
เมื่อเห็นเขาทำเช่นนั้น ผู้อาวุโสอวี๋จิ้งและผู้อาวุโสสือไคเหยียนจึงต้องทำตามอย่างไม่มีทางเลือก
“ถวายบังคมพระชายา!”
ในตอนนั้นเองคนที่อยู่รอบข้างก็ชะงักไป
เป็น…เป็นแบบนี้เลยหรือ?
แม้แต่ผู้อาวุโสทั้งหลายก็ยอมรับในฐานะของพระชายาอย่างเปิดเผย?
เช่นนั้น…
“ขอแสดงความยินดีกับฝ่าบาทและพระชายา”
ทันใดนั้นท่ามกลางกลุ่มคนที่เงียบเชียบ ก็มีเสียงหนึ่งดังขึ้น
หลินจือเฟยสาวเท้าก้าวเข้ามาด้านหน้า และทำความเคารพก่อนคนแรก
ในที่สุดเสียงนี้ทำให้ทุกคนดึงสติกลับมาได้ ทุกคนเปิดปากแทบจะในเวลาเดียวกัน แล้วทำความเคารพอย่างพร้อมเพรียง
“ขอแสดงความยินดีกับฝ่าบาทและพระชายา!”
ฉู่หลิวเยว่หันไปมองทางหรงซิว
“แบบนี้…ก็นับว่าสำเร็จแล้วหรือ?”
เหมือนว่ามันจะง่ายไปหน่อยนะ?
หรงซิวเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย เขายิ้มบางๆ
จากนั้นก็จับมือของนางเอาไว้ บนมือของฉู่หลิวเยว่มีแหวนเฉียนคุนที่ดูโบราณสวมไว้อยู่บนนิ้ว
เขาสะกิดแหวนนั้นด้วยปลายนิ้วเบาๆ
ทันใดนั้นลำแสงสีทองแสบตาก็เปล่งประกายออกมาจากแหวนวงนั้น!
ฉู่หลิวเยว่ถึงสามารถมองออกว่า แหวนวงนั้นได้สลักสัญลักษณ์ของพระราชวังเมฆาสวรรค์เอาไว้อยู่!
นางชะงักไปเล็กน้อย และเข้าใจอันใดบางอย่างได้ในทันที
“แหวนศักดิ์สิทธิ์!?”
ผู้อาวุโสหมิงที่สามสิบหกที่ยืนอยู่ใกล้ๆ มองไปทางแหวนวงนั้น จากนั้นเขาก็ส่งเสียงอุทานออกมาด้วยความตกใจ
ทุกคนที่ได้ยินดังนั้น ก็แสดงสีหน้าประหลาดใจออกมา คาดไม่ถึงว่าแหวนศักดิ์สิทธิ์จะอยู่ในมือของนาง?!
หรงซิวอธิบายขึ้น
“แหวนศักดิ์สิทธิ์เป็นสัญลักษณ์ของโอรสพระราชวังเมฆาสวรรค์ และเป็นของแทนใจที่มอบให้พระชายาองค์ก่อน”
ฉู่หลิวเยว่ชะงักไปเล็กน้อย
“ดังนั้น…เจ้าจึงมอบให้ข้าเร็วขนาดนั้นเลยหรือ?”
หรงซิวยิ้มบางๆ แววตาอ่อนโยน แต่ด้วยศักดิ์ศรีและอำนาจจึงไม่สามารถล่วงเกินได้
“ไม่ว่าอย่างใดมันก็จะเป็นของเจ้า จะช้าจะเร็วไม่สำคัญ”
เจียงจื่อหยวนหันหลังแล้วเดินออกไป
เจียงเห่อเทียนรีบตามไปทันที
“จื่อหยวน? จื่อหยวน!”
หลังจากเดินออกไปสองสามก้าว เขาก็หยุดยืน และหันหน้ากลับมามองฉู่หลิวเยว่และหรงซิว สีหน้าของเขาสับสนอย่างยิ่ง คล้ายกับว่าโกรธระคนไม่พอใจ
“ฝ่าบาททรงปฏิบัติตัวต่อแม่นางซั่งกวนอย่างลึกล้ำยิ่ง! ที่แท้เซียนสุ่ยหลิงของข้า ก็เป็นบันไดให้ท่านเหยียบ! ผู้น้อยแซ่เจียงขอตัวลา! หวังว่าหลังจากนี้พวกท่านจะอยู่ด้วยกันจนหัวหงอกขาว!”
ใครไปเหยียบท่านประมุขไว้?
หรงซิวยกริมฝีปากขึ้น ท่าทางสง่าผ่าเผย
“เรื่องนั้นประมุขเจียงไม่ต้องเป็นห่วงหรอก ขอบคุณท่านมากสำหรับคำอวยพร”
เจียงเห่อเทียนรู้สึกโมโหอย่างมาก เขาสะบัดชายเสื้อ แล้วเดินออกไปทันที!
คนของเซียนสุ่ยหลิงที่เหลืออยู่ก็รีบทำความเคารพและจากไปทันที
คนจำนวนไม่น้อยลอบชำเลืองสายตามอง ตำแหน่งพระชายาถูกซั่งกวนเยว่ครอบครองไปแล้ว เกรงว่าเซียนหลิงซุ่ยคงจะไม่ปล่อยไปอย่างง่ายดายเช่นนี้…
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เดิมทีเจียงจื่อหยวนเป็นคนที่ดีที่สุดในบรรดาผู้คัดเลือก เกรงว่าหลังจากนี้จะต้องมีปัญหาตามมาแล้ว!
อย่างใดก็ตาม หรงซิวเหมือนว่าจะไม่สนใจเรื่องนี้เลย
เขาเงยหน้ามองขึ้นฟ้า
“ตอนนี้ก็ดึกมากแล้ว ทุกคนแยกย้ายกันกลับเถอะ! วันแต่งงานค่อยกำหนดกันอีกที เมื่อถึงวันนั้นหวังว่าทุกคนจะมาที่นี่อีกครั้ง”
เมื่อพูดจบเขาก็หันไปมองทางฉู่หลิวเยว่
“เยว่เอ๋อ เจ้าเดินทางมาเหนื่อยๆ ไปพักก่อนเถอะ”
ฉู่หลิวเยว่ชะงักไปเล็กน้อย ก่อนจะยิ้มออกมา
“ก็ได้ แต่ว่าข้าไม่ได้เจอฝ่าบาทมานาน ยังรู้สึกคิดถึงฝ่าบาทอยู่บ้าง ไม่ทราบว่าฝ่าบาทพอจะมีเวลาพูดคุยกับข้าก่อนได้หรือไม่?”
หรงซิวเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย
“เวลาทั้งหมดล้วนเป็นของเยว่เอ๋อ”
…
ตำหนักสักการะเทพ
ห้องบรรทมโอรสสวรรค์
เยี่ยนชิงและอวี๋มั่วยืนเฝ้ายามอยู่ที่หน้าท้องพระโรง
หลังจากที่มีงานยุ่งตลอดทั้งวันทั้งคืน ความจริงแล้วในตอนนี้ทั้งสองคนล้วนเหนื่อยมาก แต่พวกเขาไม่มีความง่วงเลย กลับรู้สึกตื่นตัวอย่างมาก
เขาเฝ้าเวรยามด้วยใจจดจ่อ แล้วยังมองไปด้านในเป็นบางครั้งบางคราว เหมือนกลัวว่าจะเกิดเรื่องอันใดขึ้น
…แม้ว่าเขาจะมองอันใดไม่เห็น และไม่ได้ยินอันใดเลยก็ตาม
หลังจากรอไปสักครู่ อวี๋มั่วก็อดที่จะสะกิดถามเยี่ยนชิงไม่ได้ เขาถามเสียงเบาว่า
“เจ้าว่ามันผ่านไปนานขนาดนี้แล้ว เหตุใดข้างในถึงไม่มีเสียงอันใดเลย?”
เดิมทีเขาคิดว่า อย่างน้อยพระชายาก็ต่อว่าฝ่าบาทซักฉาก ปกปิดมานานขนาดนี้ มีใครบ้างที่ไม่โกรธ?
“หรือว่าในที่สุดพระชายาก็สามารถมองเห็นความลำบากของฝ่าบาทแล้ว ดังนั้น…”
เยี่ยนชิงไม่พูดแต่เหลือบสายตามองเขาด้วยความดูถูก
“สมองของเจ้า หากเจ้าไม่ใช้ก็บริจาคออกไปเถอะ”
อวี๋มั่วรู้สึกไม่พอใจในทันที
“เฮ้ นี่เจ้าด่าข้าเหตุใด! ข้าก็คิดแทนฝ่าบาทและพระชายานะ!”
เยี่ยนชิงหันกลับไปมองหน้าเขา
“เจ้าควรจะสวดมนต์กินเจ สะสมบุญให้นายท่าน!”
—————————-