CatNovel
  • หน้าหลัก
  • นิยายทั้งหมด
Advanced
  • หน้าหลัก
  • นิยายทั้งหมด
  • โดจิน
  • นิยายทั้งหมด
  • จบแล้ว
  • นิยายวาย Yaoi
ตอนก่อน
ตอนต่อไป
สล็อตเว็บตรง

ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ - ตอนที่ 1114 หัวแหลมไม่เบา

  1. Home
  2. ยอดหญิงลิขิตสวรรค์
  3. ตอนที่ 1114 หัวแหลมไม่เบา
ตอนก่อน
ตอนต่อไป

ตอนที่ 1114 หัวแหลมไม่เบา

คนเหล่านั้นพากันตอบรับอย่างน่าดูชม

“ดี ตอนนี้เรื่องสภาพการณ์เป็นอยู่โดยคร่าวของสำนักวิชา ข้าก็คงบอกกับพวกเจ้าไปหมดแล้ว ที่เหลือรอให้พวกเจ้าไปเจอด้วยตัวเองจะเข้าใจชัดแจ้งมากที่สุด! เช่นนั้นข้าไม่พูดพล่ามอันใดมากแล้ว!”

ผู้อาวุโสเหวินซีปรบมือแปะๆ

“เฉียวอี เจ้าช่วยข้าพาเด็กพวกนี้แยกไปส่งก่อนนะ ข้ามีเรื่องที่ต้องไปจัดการนิดหน่อย”

ผู้อาวุโสเฉียวอีที่ถูกลากมาใช้งานกะทันหันทำสีหน้างุนงง

“เรื่องอันใดกันถึงได้รีบร้อนปานนี้?”

ผู้อาวุโสเหวินซีกระแอมไอ

“ข้าจะไปเร่งพวกเขา ให้คนที่อยู่กะต่อไปรีบไปฝางโจวให้เร็วขึ้นอีกหน่อย”

“มิใช่ว่าเจ้าเพิ่งกลับมาหรอกหรือ? ตอนนี้คนที่ประจำอยู่ฟากโน่นน่าจะเป็นฮวาเฟิงนี่ จะรีบร้อนไปเหตุใด?”

ผู้อาวุโสเฉียวอียิ่งรู้สึกฉงนเพิ่มขึ้นเป็นเท่าทวี

ว่ากันตามปกติแล้ว ผู้อาวุโสทุกคนจะต้องรับผิดชอบการเฝ้าเวรยามด้านนอกในวันหนึ่ง

ทุกครั้งเมื่อถึงเวลาที่กำหนด ผู้อาวุโสที่รับช่วงต่อจะต้องไปให้ถึงที่หมายเร็วกว่าเวลาเล็กน้อย

ทว่ามีน้อยมากที่จะเป็นดั่งเช่นตอนนี้ พลัดก่อนหน้าเพิ่งจะกลับมาได้ไม่ทันไร ก็จะไปเรียกคนต่อไปให้เข้ากะเสียแล้ว

ผู้อาวุโสเหวินซีทำท่าราวกับจะพูดอันใดบางอย่าง ทว่ามิได้เอ่ยปาก

จะพูดไม่ได้เด็ดขาดว่าพวกเขารู้สึกได้ว่าหายนะนั้นได้หวนกลับคืนมาแล้ว

หากคำพูดนี้หลุดออกจากปากแล้วละก็ ย่อมไม่มีผู้ใดไปอย่างแน่นอน!

ยังต้องปกปิดความจริงไว้สักพักเลยทีเดียว

“เอ่อ ก็ไม่มีอันใดมาก เจ้าก็รู้นี่ว่าเจ้าฮวาเฟิงนิสัยเสียนั่นจะมีเรื่องหรือไม่มีก็ชอบดื่มสุรานัก ข้าเกรงว่าเขาอยู่คนเดียวจะหาทางแอบย่องไปดื่มอีก เขาเมาแอ๋น่ะไม่เท่าไร ถ้าหากไปสร้างเรื่องไว้นี่สิจะแย่เอา”

ผู้อาวุโสเฉียวอีจึงได้ผงกศีรษะรับ

“ก็จริง…นิสัยเสียเช่นนี้ของเขา บอกไปแล้วไม่รู้ตั้งกี่หน ก็ไม่เห็นวี่แววว่าคิดจะแก้เลย”

“หึ ไม่ใช่ว่าก่อนหน้านี้เขากลัวว่าจะถูกบังคับให้เลิกดื่มสุราหรอกหรือ? บัดนี้คว้าโอกาสไว้ได้ทั้งที ในที่สุดก็ดื่มได้เท่าไรเท่ากันแล้ว! เขา…”

ผู้อาวุโสเหวินซีกำลังพูดจ้ออยู่นั่นเอง เสียงของเขาก็พลันติดขัด

สีหน้าของเฉียวอีเองก็เปลี่ยนไปเล็กน้อยเช่นกัน พลันปรากฏความลุ่มลึกอยู่บ้างขึ้นมาบนดวงหน้า

เวลาต้องการให้ฮวาเฟิงเลิกดื่มสุราเสียที…ก็ต้องขอพึ่งคนผู้นั้นมาพูดให้

เจ้าสำนักเองยังไม่สามารถห้ามเขาได้ แต่คนผู้นั้นกลับทำได้

แต่ว่าด้วยวิธีการที่ออกจะอำมหิตอยู่บ้าง และขั้นตอนการหักดิบก็ค่อนข้างรุนแรง ฮวาเฟิงจึงรู้สึกทนทุกข์อยู่บ้าง

นั่นทำให้เมื่อเขาได้รับอิสรภาพไปแล้วครั้งหนึ่ง แต่สุดท้ายกลายเป็นว่าทุกอย่างกลับเลวร้ายลง

คนทั้งสองมองหน้ากันไปมารอบหนึ่ง

มิรู้ว่าเฉียวอีคิดสิ่งใดอยู่ ในนัยน์ตาจึงปรากฏแววอดรนทนไม่ได้

“ช่างเถอะ ปล่อยให้เขาดื่มไป! เดี๋ยวข้าช่วยเจ้าพาเด็กพวกนี้ไปเอง เจ้าไปหาคนมาช่วยเขาเถอะ!”

ผู้อาวุโสเหวินซีหมุนกายแล้วหายตัวไปจากครรลองสายตาของทุกคนอย่างรวดเร็ว

พลังที่แท้จริงของเขาเห็นได้ชัดเลยว่ามิได้ด้อยไปกว่าผู้อาวุโสเฉียวอีเลย

“มาเถอะ! พวกเราไปที่ฝั่งของจอมยุทธ์ทางด้านโน้นกันก่อนแล้วกัน!”

ผู้อาวุโสเฉียวอีโบกมือไหวๆ

…

ผู้อาวุโสเฉียวอีคอยนำหน้า ส่วนหลัวซือซือและคนอื่นพากันตามหลังเขาไปติดๆ

ในขณะที่ฉู่หลิวเยว่เดินตามรั้งท้ายกลุ่มไปอย่างเงียบเชียบ

นางฟังผู้อาวุโสเฉียวอีพูดถึงเรื่องราวของสำนักกับคนที่อยู่ด้านหน้าเรื่องแล้วเรื่องเล่าไปพลางมองสำรวจโดยรอบไม่หยุด

ยิ่งไปกว่านั้น ฉากที่เคยปรากฏในความคิดของนางเมื่อก่อนหน้านี้ ก็ทำให้ในใจของนางยิ่งมั่นใจถึงข้อสันนิษฐานนี้

เพียงแต่ว่าน่าเสียดายนักที่ความทรงจำส่วนใหญ่นั้นขาดหายไปไม่สมบูรณ์ นอกจากรูปภาพม้วนนั้น สิ่งอื่นใดนางก็นึกไม่ออกแล้ว

ดังนั้นแล้ว ในเวลานี้นางก็ทำได้เพียงแค่กดยั้งความคิดมากมายในสมองให้ลงไปก็เท่านั้น

หลังจากพากันเหาะเหินเข้ามาข้างในได้ระยะหนึ่งแล้ว ความคึกคักก็เพิ่มขึ้นมากอย่างเห็นชัด

แทบทุกคนที่ยืนอยู่เหนือยอดเขาสูงชันล้วนมองเห็นศิษย์ที่กำลังฝึกตนกันอยู่พร้อมเพรียง

อีกทั้งยังได้เห็นอาจารย์บางส่วนกำลังสอนบทเรียนอยู่บ่อยครั้งเลยทีเดียว

พูดง่ายๆ ก็คือเป็นภาพของสำนักที่เจริญรุ่งเรืองถึงขีดสุด ที่ล้อมด้วยฉากทิวทัศน์อันเปี่ยมพลังแห่งความมีชีวิตชีวา

ในใจของฉู่หลิวเยว่พลันบังเกิดความรื่นรมย์ขึ้นมาอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย

ถ้าหากมาฝึกตนที่นี่ได้ คงเรียกได้ว่าเป็นเรื่องดีงามยิ่งอย่างแท้จริง…

เช่นนั้นแล้ว เหตุใดหรงซิวจึงปิดบังนางมาโดยตลอดเล่า?

คิดมาถึงตรงนี้ คิ้วของฉู่หลิวเยว่ก็เลิกขึ้นแผ่วเบา

“ด้านหน้านี้ก็คือเขตของเหล่าจอมยุทธ์!”

ผู้อาวุโสเฉียวอีเอ่ยตะโกนเสียงดัง

ราวกับว่ารับรู้ได้ถึงการเคลื่อนไหวที่อยู่เหนือศีรษะ คนจำนวนไม่น้อยที่อยู่ด้านใต้ต่างพากันเงยหน้าขึ้นมองตาม

“ดูนั่นเร็ว! ท่านผู้อาวุโสเฉียวอีมาแล้ว! พวกที่ตามหลังเขามานั่นน่ะ หรือว่าจะเป็นศิษย์มาใหม่ของวันนี้กัน?”

“หนึ่ง สอง สาม สี่! มีกันสี่คนหรือนี่?”

“เหมือนว่าจะมีศิษย์น้องหญิงด้วยล่ะ!?”

บางคนก็มิอาจกักเก็บความตื่นเต้นไว้ได้มิด

ต้องทราบก่อนว่าฟากของพวกเขานั้นมีผู้ฝึกตนหญิงอยู่กันไม่มากนัก ดังนั้นเมื่อพบว่ามีศิษย์น้องหญิงเข้าสำนักมาใหม่ พวกเขาล้วนเป็นอันต้องตื่นเต้นดีอกดีใจเสียทุกครั้ง

เพี๊ยะ!

เงาร่างสูงใหญ่ร่างหนึ่งเดินแหวกออกมาจากฝูงชน

“หยุดความคิดของพวกเจ้าเสีย แล้วก็ระวังสายตาของพวกเจ้าไว้ด้วย”

ยามคำพูดนี้เอ่ยออกมา คนจำนวนไม่น้อยก็พากันหดศีรษะของตนกลับเข้าไป

ไม่มีอันใดมาก แค่เพราะคนที่เอ่ยคำพูดนี้ออกมานั้น เป็นถึงบุคคลที่เรียกได้ว่าโดดเด่นยิ่งในหมู่ศิษย์สำนัก…หลัวเยี่ยนหลิน!

“พี่หลิน ท่านรู้จักพวกเขาด้วยหรือ?”

เด็กหนุ่มที่ถูกตีแยกเขี้ยวยิงฟันด้วยท่าทีทำใจดีสู้เสือแล้วเอ่ยถามออกไป

หลัวเยี่ยนหลินแค่นหัวเราะ มิได้นำพาคำถามนั้นเท่าไรนัก เพียงทะยานพาร่างของตนขึ้นไป! พุ่งตรงไปหากลุ่มคนด้านบน!

ชั่วพริบตา เขาก็ไปหยุดอยู่ตรงหน้าผู้อาวุโสเฉียวอี ก่อนจะคำนับอีกฝ่ายอย่างนอบน้อม

“ศิษย์คารวะท่านผู้อาวุโสเฉียวอี!”

“หลัวเยี่ยนหลิน เหตุใดวันนี้เจ้าถึงมาอยู่ที่นี่ได้?”

ผู้อาวุโสเฉียวอีมองดูเขาพลางหัวเราะออกมาคำรบหนึ่ง

“ศิษย์เพิ่งจะร่ำเรียนวิชาค่ายกลเสร็จ จึงมาขอให้พวกเขาช่วยแลกเปลี่ยนวิชาน่ะขอรับ”

หลัวเยี่ยนหลินว่าพลาง สายตาก็จับจ้องไปยังร่างของหลัวซือซือและคนอื่นๆ ดวงหน้าหล่อเหลาสะอาดสะอ้านแฝงความหลักแหลมพลันอ่อนโยนขึ้นมาหลายระดับ

“อีกอย่าง ข้าจะมาพบหน้าพี่น้องของข้าด้วยน่ะขอรับ”

“โอ้?”

ผู้อาวุโสเฉียวอีได้ยินเช่นนั้นก็หันศีรษะกลับไปมองแวบหนึ่ง ก่อนจะเข้าใจขึ้นมาโดยพลัน

“พี่สี่!”

หลัวซือซือและคนอื่นต่างก็เก็บงำความดีใจไว้ได้ไม่มิด พากันประสานเสียงตะโกนเรียกเป็นเสียงเดียว

จัวเซิงและพวกเขานั้นมีความสัมพันธ์กันทางเครือญาติ ผูกพันกันมาตั้งแต่เล็กจนโต จึงตะโกนเรียก “พี่สี่” ตามๆ กัน

รอยยิ้มของหลัวเยี่ยนหลินลุ่มลึกขึ้นมาเล็กน้อย

“ไม่เลวเลย พวกเจ้ามาที่นี่ได้เร็วกว่าที่ข้าคิดไว้มากทีเดียว ดูเหมือนว่าซือซือจะบุกทะลวงสำเร็จไปก่อนแล้วสินะ ท่านพ่อท่านแม่เป็นอย่างใดบ้างเล่า?”

หลัวซือซือหน้าแดงระเรื่อเล็กน้อย

“พวกท่านสบายดีเจ้าค่ะ เพียงแค่บ่นคิดถึงพี่สี่ยิ่งนัก”

ทุกคนด้านล่างที่มองตรงขึ้นมาต่างพากันอ้าปากพะงาบโดยทั่วถ้วน

ที่แท้นั่นก็คือน้องสาวของหลัวเยี่ยนหลิน!

แล้วยังเป็นน้องสาวแท้ๆ อีก!

เช่นนี้ก็คงไม่ต้องไปหวังอันใดด้วยแล้ว

ทั่วทั้งสำนักนี้ล้วนไม่มีผู้ใดเป็นคู่ประมือต่อกรกับหลัวเยี่ยนหลินได้เลยสักคน คิดจะเอื้อมคว้าน้องสาวของเขาหรือ นั่นเท่ากับไม่คิดจะมีชีวิตอยู่ต่อชัดๆ!

“เฮ้อ! เหตุใดถึงได้ศิษย์น้องชายมาเพิ่มอีกสามคนในคราวเดียวกันนะ!”

คนบางส่วนพากันทอดถอนใจยาว

ผู้อาวุโสเฉียวอีได้ยินดังนั้นก็ปรายสายตามองลงไปยังด้านล่างพลางแค่นหัวเราะ

“พวกเจ้านี่คิดอันใดใจแคบเสียจริง! ในบรรดาเด็กสี่คนนี้ มีเพียงหลัวซือซือกับจัวเซิงเท่านั้นที่ฝึกฝนเป็นจอมยุทธ์!”

ทุกคนต่างมองไปทางคนที่เหลืออยู่อย่างหลัวเยี่ยนหมิงและฉู่เยว่ด้วยความประหลาดใจ

“อีกสองคนที่เหลือมิใช่จอมยุทธ์หรอกหรือ?”

“หลัวเยี่ยนหลิน เจ้าพาพวกเขาสองคนลงไปก่อน ให้พวกเขาได้ทำความคุ้นเคยกันสักหน่อย เดี๋ยวข้าพาสองคนนี้ไปส่งเอง!”

ผู้อาวุโสเฉียวอีกล่าว

หลัวเยี่ยนหลินพยักหน้ารับ จากนั้นก็กวักมือเรียกไปทางพวกเขาทั้งสอง

“ซือซือ อาเซิง พวกเจ้าตามข้ามา”

คนทั้งสองเดินไปหาเขาตามเสียงเรียก

ด้วยไม่ได้เจอหน้ากันเป็นเวลานานโข ระหว่างพวกเขาจึงอวลไปด้วยความรู้สึกคิดถึง

“เดี๋ยวพวกเราไปหาท่านปรมาจารย์ที่อยู่ฟากโน้นกัน”

ผู้อาวุโสเฉียวอีว่า

หลัวเยี่ยนหลินส่งยิ้มให้หลัวเยี่ยนหมิงคราหนึ่ง

“เจ้าไปเถอะ เดี๋ยวข้าจะไปหาทีหลัง พอเห็นหน้าเจ้าคล้ายข้า คนเหล่านั้นย่อมไม่มีใครกล้ารังแกเจ้า”

หลัวเยี่ยนหมิงผงกศีรษะพลางหัวเราะ

ในตอนนั้นเอง หลัวซือซือพลันส่งเสียงออกมา

“ฉู่เยว่ เจ้าเองก็พยายามเข้านะ!”

หลัวเยี่ยนหลินมองน้องสาวของตนแวบหนึ่ง ก่อนจะมองตามครรลองสายตาของนางไป

ก่อนจะพบว่าเป็นเด็กหนุ่มผู้หนึ่งที่มีรูปร่างสูงโปร่ง ดวงหน้าหล่อเหลานุ่มนวล

หน้าตาใสซื่อ อุปนิสัยดูเรียบร้อยสะอาดสะอ้าน

เขาหรี่ตาของตนลง

“ฉู่เยว่หรือ?”

คาดไม่ถึงว่าจัวเซิงเองก็ชูกำปั้นของตนขึ้นมาด้วย

“ฉู่เยว่ ได้ยินว่าเจ้าพวกเซียนหมอน่ะถือตัวยิ่งกว่าอันใดดี เจ้าอย่าขวัญหนีดีฝ่อไปเสียก่อนล่ะ!”

ฉู่หลิวเยว่กะพริบตาปริบๆ หัวเราะออกมาแผ่วเบาก่อนจะผงกศีรษะ

“รู้แล้ว”

ผู้อาวุโสเฉียวอีพลันเบนศีรษะหันไปมองนางแวบหนึ่ง

ฉู่หลิวเยว่แทบจะยืดหลังตรงโดยไม่รู้ตัว รอยยิ้มบนดวงหน้าจางหายไปสามส่วน

ผู้อาวุโสเฉียวอีพยักหน้าอย่างพออกพอใจ

“เฮะ! หัวแหลมไม่เบานี่!”

เช่นนั้นเขาก็วางใจแล้วล่ะ!

ตอนก่อน
ตอนต่อไป

ความคิดเห็นทั้งหมดของ "ตอนที่ 1114 หัวแหลมไม่เบา"

ใส่ความเห็น ยกเลิกการตอบ

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

*

*

  • อ่านนิยาย
  • แทงหวย24

© 2020 cat-novel.com
เว็บอ่านนิยาย นิยาย pdf เว็บ “cat-novel.com” เว็บอ่านนิยายสนุกๆ เพลิดเพลินไปกับนิยายต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น นิยายวาย, นิยายจีน, นิยายรัก, แฟนตาซี, กำลังภายใน, ผจญภัย สุดยอดวิชากำลังภายใน อัพเดททุกวัน พร้อมรองรับการอ่านบนมือถือ คอมพิวเตอร์ ไอแพด หรือแท็บเล็ต อ่านได้ตลอดเวลา ไม่มีโฆษณา อ่านนิยายฟรีต้อง เว็บ ”cat-novel.com”
นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์