ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ - ตอนที่ 1117 เดิมพันสิ่งเล็กน้อยเพื่อคว้ามาซึ่งสิ่งที่ยิ่งใหญ่
- Home
- ยอดหญิงลิขิตสวรรค์
- ตอนที่ 1117 เดิมพันสิ่งเล็กน้อยเพื่อคว้ามาซึ่งสิ่งที่ยิ่งใหญ่
ตอนที่ 1117 เดิมพันสิ่งเล็กน้อยเพื่อคว้ามาซึ่งสิ่งที่ยิ่งใหญ่
ผู้อาวุโสเฉียวอีลอบส่ายศีรษะอยู่ในใจ
เคราะห์ดีจริงที่เมื่อครู่เขายังคิดอยู่เลยว่าเด็กคนนี้ฉลาดเฉลียวและสุขุมนัก ใครจะรู้ว่าเขาจะมุทะลุเยี่ยงนี้
ต่อให้เป็นเรื่องลงพนัน ก็ต้องเดิมพันให้ชนะสิ!
มีที่ไหนกันไปเดิมพันลงข้างคนแพ้!
ครั้งนี้ช่างประจวบเหมาะดีเสียจริง เพิ่งเข้าสำนักมาได้ไม่ทันไร ก็จะเสียเงินทั้งหมดที่มีไปแล้ว!
“ทีหลังอย่าทำแบบนี้อีกนา! เจ้านี่นะ ยังไม่รู้อีกหรือว่าคะแนนสะสมน่ะมันหายากขนาดไหน!”
ผู้อาวุโสเฉียวอีเอ่ยออกมาจากใจจริง
ส่วนฉู่หลิวเยว่ก็พยักหน้าหงึกหงักรับอย่างจริงจัง
แต่ว่าไม่ได้ฟังเข้าหูเลยแม้แต่น้อย เพียงแต่ปล่อยให้เขาพูดไป
ในตอนนั้นเอง สุ้มเสียงดังหึ่งๆ เสียงหนึ่งก็แว่วมา!
คนที่อยู่โดยรอบพากันเงยหน้าขึ้นมอง กลับพบว่าเสียงนั่นดังแว่วมาจากภายในหม้อยาของถั้วป๋าเซวียน
“ยาหลอมตัวกันแล้ว!”
ใครสักคนตะโกนออกมาด้วยเสียงทุ้มต่ำ
กลิ่นของยายิ่งทวีความเข้มข้นขึ้นไปอีก!
เปลวเพลิงลุกท่วมเหนือเม็ดยาอายุวัฒนะ ลวดลายรูปแบบหนึ่งพลันปรากฏขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง!
ทุกคนต่างก็สะกดกลั้นลมหายใจไว้อย่างลืมตัว!
ทว่าในตอนนั้นเอง คลื่นความผันผวนอันเบาบางสายหนึ่งแผ่ขยายออกมาจากตรงนั้น!
สีหน้าของถั้วป๋าเซวียนพลันเปลี่ยนไปเล็กน้อย!
หลังจากนั้นไม่นาน ยาอายุวัฒนะเม็ดนั้นก็ระเบิดตัวเองออกในพริบตาโดยไม่รอให้เขาได้เผยปฏิกิริยาตอบสนองอื่นใด!
ตูม!
เสียงระเบิดดังลั่นไปทั่วอาณาบริเวณ!
ถั้วป๋าเซวียนเป็นคนแรกที่ได้รับผลกระทบ ทันทีที่ถูกพลังอันน่าหวาดหวั่นเช่นนี้เหวี่ยงออกไป เขาล้มกระแทกลงกับพื้นอย่างแรง!
ทว่าเขากลับหาได้สนใจตัวเองไม่ ทำเพียงหยัดกายลุกขึ้นอย่างรีบร้อนพลางมองไปทางหม้อยาของตน
เปลวเพลิงด้านในมอดดับลงไปจนสิ้นแล้ว ยาอายุวัฒนะเองก็ถูกทำลายไปด้วย หลงเหลือไว้แต่เพียงเศษขี้เถ้าที่ปลิวกระจัดกระจายจนฟุ้งเท่านั้น
กลิ่นก้นหม้อไหม้อันแผ่วบางตลบอบอวลแทรกซึมเข้าไปในอากาศ
สีหน้าของถั้วป๋าเซวียนพลันซีดเผือด
เหตุใดถึงได้…
เมื่อครู่เขาทำพลาดไปเพียงเล็กน้อยเท่านั้น! ตอนแรกก็คิดว่าปรับแก้เสร็จเรียบร้อยแล้ว ใครจะไปรู้ว่ามันจะ…
แรงระเบิดที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหันก็ทำให้คนโดยรอบต่างก็ตกตะลึงเช่นกัน
แทบจะในขณะเดียวกัน จงซวิ๋นที่อยู่อีกฝั่งเองก็มาถึงช่วงรอยต่อขั้นสุดท้ายแล้วเช่นกัน!
ใบหน้าของเขาแดงก่ำ ริมฝีปากซีดขาว เม็ดเหงื่อบนหน้าผากไหลหยดลงมาไม่หยุด
เห็นชัดเลยว่าไม่นานเขาก็จะต้านไม่ไหวแล้ว
ทว่าขาทั้งสองของเขาก็ยังคงตรึงแน่นอยู่กับที่ เขารวมพลังทั้งหมดของตนอย่างสุดความสามารถเพื่อถ่ายเทพลังเฮือกสุดท้ายเข้าสู่เม็ดยาอายุวัฒนะ!
หึ่ง!
คลื่นความผันผวนสายหนึ่งพุ่งกระแทกไปยังหม้อยา!
กลิ่นอันเข้มข้นของยาระเบิดออกมาจนฟุ้งอบอวลไปทั่ว!
ลวดลายหลากหลายรูปแบบปรากฏขึ้นเหนือยาอายุวัฒนะอย่างต่อเนื่อง!
และไม่นานนัก ยาอายุวัฒนะเม็ดนั้นพลันโผล่ออกมา!
เคร้ง!
กล่องหยกปิดลงในที่สุด!
ยาอายุวัฒนะเม็ดนั้นถูกเก็บรักษาไว้ในกล่องเป็นเรื่องเป็นราวอย่างดี!
เท้าของเขาพาเดินซวนเซจนเกือบพาให้ตัวล้มลงกับพื้น
หลังจากยืนได้มั่นแล้ว เขาจึงได้สูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆ แล้วมองไปทางฝูงชนด้วยใบหน้าแสนอิดโรยที่เปี่ยมไปด้วยความปิติยิ่งจนปิดไม่มิดเลยแม้แต่น้อย
“ข้า ข้าชนะแล้ว!”
ฝูงชนต่างพร้อมใจกันเงียบกริบ
ใครก็คาดไม่ถึงกันทั้งนั้น เดิมทีผู้ที่ได้เปรียบมากกว่ามาโดยตลอด และมีแววจะชนะแน่ๆ อย่างถั้วป๋า
เซวียนกลับมาล้มเหลวในช่วงรอยต่อขั้นสุดท้าย แล้วแพ้ให้แก่จงซวิ๋นไปเสียอย่างนั้น
กระทั่งผู้อาวุโสเฉียวอีเองก็ยังตะลึงงันอย่างหาได้ยากไปชั่วขณะหนึ่งเลยทีเดียว
“ยินดีด้วยขอรับ”
ผู้ที่เอ่ยคำพูดนี้ขึ้นมาก็คือฉู่หลิวเยว่
จงซวิ๋นมองมายังตัวนาง ก่อนจะคลี่ยิ้ม
“เมื่อครู่ต้องขอบคุณเจ้ามากที่ลงพนันข้างข้า”
ฉู่หลิวเยว่กะพริบตาปริบๆ
“เรียนศิษย์พี่ท่านนี้ ความจริงแล้วข้าเพียงอยากจะลองเสี่ยงดวงดูเท่านั้น ควรจะเป็นข้าต่างหากที่ขอบคุณท่าน คงมิถือโทษที่ข้ามาเป็นตัวแบ่งคะแนนสะสมจากท่านหรอกใช่หรือไม่?”
“ฮ่าฮ่า! จะเป็นแบบนั้นได้อย่างใด!”
จงซวิ๋นหัวเราะออกมา
การพลิกสถานการณ์กลับมาได้ในครั้งนี้ เขาชนะเดิมพันได้ไม่น้อย แบ่งให้ศิษย์น้องชายผู้นี้สักหน่อยไม่ถือว่าเสียหายอันใด
ที่สำคัญกว่าก็คือ ช่วงเวลาที่เขามิถูกคาดหวังจากผู้ใดว่าจะชนะได้ กลับมีเพียงคนผู้นี้ที่เข้ามาลงพนันข้างเขา
เขาพูดได้เลยว่า ในตอนนั้นเขาเองก็ไม่ได้เชื่อใจตัวเองถึงเพียงนั้น
มีเพียงศิษย์น้องชายท่านนี้ที่เข้ามาช่วยให้เขาสามารถทำใจให้สงบนิ่งไว้ได้
สิ่งนี้น่ะสำคัญกว่าสิ่งอื่นใดเสียอีก
จงซวิ๋นเดินไปยังด้านหน้าของแท่นหินอีกอันหนึ่ง
ถั้วป๋าเซวียนหยัดกายขึ้นมาลุกยืนได้แล้ว สีหน้าของเขาสับสนยิ่ง
“ทุกๆ ท่าน สำหรับของเดิมพันและคะแนนสะสมก่อนหน้านี้ ข้าไม่ขอเกรงใจละนะ!”
จงซวิ๋นหัวเราะเฮะเฮะอย่างสุขใจ
ถั้วป๋าเซวียนสูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆ
“ในเมื่อตกลงเดิมพันก็ต้องเตรียมรับความพ่ายแพ้ เชิญเอาไปได้เลย! ครั้งหน้าข้าจะไปทวงคืนจากเจ้า!”
จงซวิ๋นขอตัวแยกจากผู้อื่นมาก่อนจะนำตราหยกเหล่านั้นมาสัมผัสกับตราของตัวเอง
ประกายแสงแวบหนึ่งส่องสว่างขึ้น
ฉู่หลิวเยว่จึงได้ค้นพบว่าภายในของตราหยกนี้เอง ก็มีช่องว่างเฉียนคุนอยู่เช่นกัน
หลังจากที่จงซวิ๋นทำการรีดเค้นของในตราหยกเหล่านั้นจนเกลี้ยงแล้ว ก็เดินกลับมาตรงหน้านาง แล้วเอ่ยแกมหัวเราะว่า
“ศิษย์น้องท่านนี้ ยื่นตราของเจ้ามาให้ข้าทีสิ”
ฉู่หลิวเยว่จึงส่งตราของตัวเองไปให้
แสงรัศมีสาดส่องไปทั่ว บนตราหยกของนางพลันมีตัวหนังสือเล็กจ้อยปรากฏแก่สายตา
ฉู่หลิวเยว่กวาดสายตามองดูเร็วรี่รอบหนึ่ง พบว่าภายในนั้นมีของดีมากมายหลายอย่างนัก
มีทั้งสมุนไพร ใบจัดยาและของอื่นๆ อีกมาก
ส่วนบรรทัดล่างสุดคือตัวเลขจำนวนหนึ่ง
“หนึ่งพัน”
นั่นคงเป็นคะแนนสะสมที่นางสะสมมาได้
“ศิษย์พี่ท่านนี้ นี่มัน…”
“ข้าชื่อจงซวิ๋น”
จงซวิ๋นยิ้มพลางส่งตราคืนให้ฉู่หลิวเยว่
“ของพวกนี้ล้วนเป็นสิ่งที่เจ้าสมควรได้ ไม่ต้องเกรงใจหรอก!”
ฉู่หลิวเยว่ลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ท้ายที่สุดนางก็รับมันมา แล้วเอ่ยแกมหัวเราะว่า
“ขอบคุณท่านมากศิษย์พี่จงซวิ๋น”
ที่แท้ตราหยกก็มีความสามารถเดียวกับแหวนเฉียนคุนนี่เอง
ราวกับว่ามองความคิดนางออกจนทะลุปรุโปร่ง จงซวิ๋นจึงอธิบายขึ้นมาว่า
“ข้างในตราหยกสีดำนี่น่ะเก็บของได้เยอะมาก ช่องว่างจะยิ่งขยายใหญ่ตามจำนวนคะแนนสะสมที่เพิ่มขึ้น อีกอย่าง ตราบใดที่สิ่งของที่ได้รับมาเข้าไปในตราหยกของเจ้า มันก็จะจดจำลมปราณของเจ้าเอาไว้ ฉะนั้นเจ้าไม่จำเป็นต้องกังวลเลยว่าของจะถูกปล้นชิงหรือขโมยไป”
ฉู่หลิวเยว่ลอบคิดในใจว่าของสิ่งนี้สะดวกยิ่งนัก ข้อนี้ข้อเดียวก็เพียงพอที่จะทำให้คนไม่น้อยยอมล้มเลิกเจตนาชั่วร้ายได้
“เดิมพันที่ได้จากการชนะพนันโอสถหรือพวกของที่ได้รับมาเป็นของขวัญเองก็ถูกบันทึกไว้เช่นกัน ไม่สร้างปัญหาให้เจ้าแน่นอน”
คำพูดนี้ทำให้ฉู่หลิวเยว่ยิ่งประเมินค่าตราหยกในมือสูงกว่าเดิมอีกหลายระดับ
“ที่แท้ของสิ่งนี้ก็ยอดเยี่ยมถึงเพียงนี้เชียว…”
“แน่นอนอยู่แล้ว! ตราหยกของศิษย์ในสำนักทุกคนหลอมขึ้นมาเป็นพิเศษโดยผู้อาวุโสที่เป็นช่างหลอมอาวุธเลยนา!”
ผู้อาวุโสเฉียวอีกล่าวเสริมขึ้นมา
เขาพูดไปพลางเดินเข้ามาหา เขามองสบเข้ากับสายตาของฉู่หลิวเยว่ด้วยสายตาที่แฝงไปความประหลาดใจอยู่บ้าง
“เจ้าเด็กนี่ ดวงดีไม่เบาเลย!”
ในสถานการณ์แบบนี้ ไม่นึกเลยว่าจะพนันชนะจริงๆ!
ฉู่หลิวเยว่เผยยิ้มบาง
“โชคของศิษย์ดีมาตลอดอยู่แล้วขอรับ แต่ว่าครั้งนี้หลักๆ แล้วต้องยกความดีความชอบให้ท่านกับศิษย์พี่จงซวิ๋น มิเช่นนั้นแล้ว ข้าก็คงมิได้รับโอกาสเช่นนี้”
ผู้อาวุโสเฉียวอีฟังอย่างสบายอารมณ์
“เอาเถอะ! ตอนนี้ก็ถือว่ามาส่งเจ้าถึงที่แล้ว ในระยะนี้เจ้าก็ศึกษาเล่าเรียนกับพวกเขาไปก่อนล่ะ! รอจนถึงต้นเดือนหน้าจะมีการจัดการทดสอบเพื่อกราบอาจารย์เข้าสำนัก! ข้ายังมีธุระที่ต้องทำ อย่างใดต้องขอตัวไปก่อน!”
ฉู่หลิวเยว่ส่งเสียงตอบรับคำหนึ่ง
ศิษย์คนอื่นๆ เองก็รีบพากันคำนับส่งเขา
เงาร่างของผู้อาวุโสเฉียวอีก็หายลับไปจากครรลองสายตาของฝูงชนอย่างรวดเร็ว
รอบข้างพลันเงียบลงในบัดดล
“เจ้ามีนามว่าอันใด?”
เสียงของถั้วป๋าเซวียนดังแว่วมาจากด้านหลัง
ฉู่หลิวเยว่หันศีรษะกลับไปพลางยิ้มน้อยๆ
“ฉู่เยว่ขอรับ”
“ฉู่เยว่?” ถั้วป๋าเซวียนกล้ำกลืนเลือดในลำคอพลางมองมาที่นางอย่างสงสัย “เหตุใดเมื่อครู่เจ้าถึงพนันว่าเขาจะชนะ?”
สีหน้าของฉู่หลิวเยว่ไม่เปลี่ยนไปเลยแม้แต่น้อย
“เดิมพันสิ่งเล็กน้อยเพื่อคว้ามาซึ่งสิ่งที่ยิ่งใหญ่ นั่นถึงจะน่าสนุก”
พนันตามผู้อื่นน่ะ ก็เป็นแค่การฉวยโอกาสดื่มน้ำแกงของผู้อื่นก็เท่านั้น
อีกอย่าง การแข่งครั้งนี้น่ะจงซวิ๋นย่อมต้องเป็นผู้ชนะอยู่แล้ว
เหตุใดนางต้องทำให้ตัวเองขายขี้หน้าด้วยเล่า?
สีหน้าของถั้วป๋าเซวียนอ่อนลงบ้างแล้ว เขาลอบพึมพำว่าตัวเองน่ะคิดมากไป
แต่ว่าเซียนหมอระดับแปดไม่น่าจะดูออกนี่นา
คงเป็นเพราะ…โชคช่วยจริงๆ เท่านั้นกระมัง?
“ศิษย์น้องฉู่เยว่ ข้าพาเจ้าไปเยี่ยมชมรอบๆ ดีกว่ากระมัง อีกไม่กี่วันก็จะต้นเดือนหน้าแล้ว เหลือเวลาให้เจ้าเตรียมตัวไม่มากแล้วล่ะ”
จงซวิ๋นกล่าว
ฉู่หลิวเยว่ผงกศีรษะรับ
“เช่นนั้นก็ขอบคุณศิษย์พี่จงซวิ๋นมากขอรับ”