ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ - ตอนที่ 1164 ข้าไม่ได้สนใจท่าน
ตอนที่ 1164 ข้าไม่ได้สนใจท่าน
นอกจากพวกเขาสองคนที่อยู่อยู่ในจุดประลองแล้ว ก็เริ่มมีผู้ชมบางคนย่างกรายเข้ามาเลียบเคียงบริเวณใกล้ๆ
“นั่นหลิ่วจื่ออันกับฉู่เยว่มิใช่หรือ? พวกเขาจะทำอันใดกัน ท้าประลอง?”
“เข้าไปในจัตุรัสชิงหมิงเช่นนั้น ก็ต้องท้าประลองอยู่แล้วสิ! จิ๊ จู่ๆ เหตุใดสองคนนั้นถึงท้าประลองกันล่ะ?”
“เจ้าไม่รู้หรือ? ก่อนหน้านี้ฉู่เยว่ก็ล้มหลิ่วจือถงมาแล้วมิใช่หรือ ส่วนหลิ่วจื่ออันผู้นั้น ก็ดูเหมือนจะเป็นน้องชายของนางที่มาจากต้นตระกูลเดียวกัน…ปกติแล้วเวลาอยู่ในสำนักวิชา หลิ่วจื่ออันผู้นี้ก็มักจะอาศัยบารมีของหลิ่วจือถง กร่างใส่คนอื่นไปทั่วหลายต่อหลายครา”
“หา เช่นนั้นฉู่เยว่ก็แย่นะสิ? ถึงเขาจะมีพรสวรรค์อันเลอเลิศ แต่เหมือนว่าเขาเพิ่งจะทะลวงถึงเซียนหมอระดับแปด ส่วนหลิ่วจื่ออันก็เพิ่งทะลวงถึงระดับเก้าไปเมื่อไม่นานนี้เองใช่หรือไม่?”
“นี่ฉู่เยว่กำลังคิดอันใดอยู่ ไฉนเขาถึงรับคำท้าแล้วมั่นใจว่าตัวเองจักเอาชนะได้? การท้าประลองเช่นนี้ เหล่าผู้อาวุโสเองก็มิอาจเข้ามาแทรกแซงได้…”
เกิดการถกเถียงกันอย่างล้นหลาม
แส้เสียงกระซิบนินทาจากทุกสารทิศ เสียงทุกชนิดดังลอดเข้ามาในหูทั้งสองข้าง
สีหน้าของฉู่หลิวเยว่ยังคงเรียบนิ่งไม่เปลี่ยนแปลง
หลิ่วจื่ออันเองก็นำหม้อต้มโอสถของตนออกมา
“เหอะ เช่นนั้นก็จงน้อมรับความพ่ายแพ้เสีย!”
…
ภายในจัตุรัสอันกว้างใหญ่ ทั้งสองคนยืนเผชิญหน้ากันจากระยะไกล
ด้านหน้าของพวกเขามีหม้อต้มโอสถวางอยู่
หลิ่วจื่ออันเริ่มลงมือก่อน
ตอนนี้เขาเป็นเซียนหมอระดับเก้าแล้ว แม้เขาจะกลั่นได้เพียงเม็ดยาระดับต่ำ แต่การจัดการกับฉู่เยว่ที่อยู่เพียงระดับแปดนั้น ย่อมไม่ต่างจากปลอกกล้วยเข้าปากเลยมิใช่หรือ?
ความจริงแล้วก่อนจะมาหาเรื่องอีกคน เขาได้เตรียมตัวสำหรับการกลั่นยาอายุวัฒนะไว้แล้ว
ฉะนั้นแม้แต่การเตรียมสมุนไพร เขาก็ได้คัดสรรไว้อย่างดิบดีแล้ว
เขาหยิบสมุนไพรเหล่านั้นออกมาทีละชิ้น แล้วจัดวางไว้ด้านข้าง ก่อนจะวางมือข้างหนึ่งบนหม้อต้มโอสถ
พรึบ!
เปลวเพลิงสีฟ้าลุกโชนขึ้นมา!
พลันสะบัดแขนเสื้อคลุมดังอย่างไว สมุนไพรเหล่านั้นลอยขึ้นทีละชิ้นแล้วตกลงไปในหม้อต้มตามลำดับ
กลิ่นหอมปนขมอันเป็นเอกลักษณ์ของสมุนไพรแพร่กระจายไปในอากาศ
ทว่าจนถึงตอนนี้ฉู่เยว่ที่อยู่ตรงข้ามเขากลับไม่ได้เคลื่อนไหวเลยสักนิด ต่างจากเขาที่รีบปรุงยาอย่างสิ้นเชิง
นางทำเพียงยืนอยู่ตรงนั้น แล้วยกมือขึ้นกอดอกอย่างเกียจคร้าน
หากมองตามสายตานางไป ก็จะเห็นว่านางกำลังมองหลิ่วจื่ออันอยู่
มองเขาเนี่ยนะ?
การปรุงยาของหลิ่วจื่ออันน่าสนใจตรงไหนกัน?
ผู้ชมหลายคนที่อยู่ระแวกนั้นล้วนมองหน้ากันด้วยความฉงน
การประลองได้เริ่มขึ้นแล้ว เหตุใดฉู่เยว่ถึงยังไม่เริ่มปรุงยาอีก?
เอาแต่ยืนมองคนอื่นปรุงยาอย่างไม่ทุกข์ร้อนเช่นนั้น นี่เขาจะชนะได้จริงๆ หรือ?
“ฉู่เยว่ เจ้ามีปัญหาอันใดหรือเปล่า?”
จงซวิ๋นขมวดคิ้วและถามด้วยความกังวล
“ถ้าสมุนไพรไม่พอ ข้าจะไปหาที่หุบเขาวาโยโอสถแล้วนำมาให้เจ้า”
ก่อนมาที่นี่หลิ่วจื่ออันเตรียมตัวมาอย่างดี แต่ฉู่เยว่ยังไม่มีอันใดเลย!
เขาเพิ่งออกมาจากภูเขาเฝิงหมิน แล้วตอบรับคำท้าประลองโดยไม่รีรอ เขากลัวว่าศิษย์น้องของเขาจะมีสมุนไพรไม่พอ
ฉู่หลิวเยว่เอียงศีรษะไปมองแล้วยิ้มตอบ
“ขอบคุณศิษย์พี่จงซวิ๋น แต่ข้ามีสมุนไพรครบแล้ว ท่านมิต้องกังวล”
จะให้จงซวิ๋นวางใจได้อย่างใด?
ถึงจะมีวัตถุดิบครบตามต้องการ แต่เขาก็กลั่นได้เพียงเม็ดยาระดับแปด อย่างใดก็แพ้หลิ่วจื่ออันแน่นอน!
หากว่าตามระดับที่ต่างกันในตอนนี้ มีเพียงทางเดียวที่ฉู่เยว่จะชนะ
นั่นก็คือ หลิ่วจื่ออันกลั่นยาไม่สำเร็จ!
ถ้าแบบนั้นฉู่เยว่ถึงจะเอาชนะได้!
แต่นี่คือการประลองนอกรอบที่ไม่ได้ใช้กฎตามธรรมเนียมปกติ หากหลิ่วจื่ออันไม่เต็มใจที่จะยุติการประลอง และต้องการกลั่นยาไปเรื่อยๆ ฉู่หลิวเยว่ก็ทำอันใดไม่ได้
และถ้าสุดท้ายหลิ่วจื่ออันกลั่นยาออกมาได้สำเร็จล่ะก็…
การประลองครั้งนี้ ฉู่เยว่จะเป็นฝ่ายแพ้แน่นอน!
จงซวิ๋นกวาดสายตามองกลุ่มคนรุ่นน้องที่อยู่ในจัตุรัส ในใจเขาเต็มไปด้วยความกังวล ริมฝีปากแห้งผาก
จนป่านนี้แล้ว เหตุใดฉู่เยว่ถึงยังนิ่งเฉยได้อีก?
…
หลิ่วจื่ออันเพิ่มสมุนไพรลงไปอีกสองสามอย่าง และกลั่นมันอย่างเป็นขั้นเป็นตอน
ก่อนจะใช้เวลาที่เหลือเงยหน้าขึ้นสังเกตการณ์อีกฝั่ง
ฉู่เยว่ที่อยู่ฝั่งตรงข้ามยังไม่ขยับ แม้แต่หม้อต้มที่วางอยู่ด้านหน้าก็ยังว่างเปล่า
เขายิ้มเยาะอย่างอดไม่ได้และพูดว่า
“ศิษย์น้องฉู่เยว่ เจ้าคงไม่คิดจะมายืนมองข้าตลอดการประลองครานี้หรอกนะ? ข้าขอเตือนเจ้าสักหน่อย การประลองได้เริ่มขึ้นแล้ว ต่อให้เจ้าคิดยอมแพ้ตอนนี้ ก็สายไปแล้ว”
ฉู่หลิวเยว่เลิกคิ้วขึ้น
“ศิษย์พี่หลิ่วโปรดอย่าเข้าใจผิด ข้ามิได้สนใจการกลั่นของท่านเลยสักนิด”
นางกล่าวด้วยน้ำเสียงจริงจัง
พูดตามตรง ระดับการกลั่นยาของหลิ่วจื่ออันนั้นดูธรรมดาอย่างมาก
ด้วยวิธีการพื้นๆ เช่นนั้น มิได้ทำให้นางอยากดูเลย
ที่นางจ้องมองอีกฝ่ายเป็นเวลานาน นั่นเพราะกลัวว่ามันจะส่งผลกระทบต่อนางต่างหาก
สีหน้าสดใสของหลิ่วจื่ออันพลันมืดลงทันตา
“ไว้จบการประลอง แล้วมาดูกันว่าเจ้าจะยังปากดีเช่นนี้ได้อีกหรือไม่!”
แต่ฉู่หลิวเยว่มิได้สนใจคำขู่นั่นเลย
หลังจากที่หลิ่วจื่ออันโยนสมุนไพรลงไปในหม้ออีกครั้ง ในที่สุดนางก็เบนสายตาไปทางอื่นแล้วหัวเราะเบาๆ
“ที่แท้ศิษย์พี่ก็กำลังกลั่นยาอายุวัฒนะนี่เอง”
หลิ่วจื่ออันมือสั่น พลอยทำให้สมุนไพรชิ้นสุดท้ายในมือของเขาสั่นคลอนไปด้วย
เขาหยิบวัตถุดิบยาส่วนหนึ่งออกมาอย่างรวดเร็ว แต่ส่วนใหญ่มันกลับถูกหลอมรวมกันหมดแล้ว แม้ว่าเขาจะตอบสนองไวเพียงใด แต่ก็ยังไม่สามารถจัดการกับตัวยาทั้งหมดได้อย่างสมบูรณ์
โชคดีที่บางส่วนก็ยังไม่ส่งผลกระทบต่อยาอายุวัฒนะ
หลิ่วจื่ออันเงยหน้าขึ้นมอง ในใจเขาทั้งตกใจและโกรธเคือง
“ที่เจ้ามองข้าอยู่นาน เพราะอยากรู้ชนิดของเม็ดยาหรือ?!”
“ขอรับ”
ฉู่หลิวเยว่หัวเราะเบาๆ เป็นการยืนยันในสิ่งที่เขาถาม แต่จู่ๆ นางก็ขมวดคิ้วพลางทำสีหน้าราวผิดหวัง
“ตอนแรกข้าคิดว่า…ช่างมัน อย่างน้อยมันก็ช่วยลดปัญหาได้เยอะ”
คราแรกนางคิดว่าหลิ่วจื่ออันจะปรุงแล้วกลั่นยาที่ทรงพลังมากกว่านี้ แต่หลังจากปรับปรุงไปเรื่อยๆ สุดท้ายมันก็เป็นเพียงเม็ดยาระดับเก้าขั้นต้น
แถมยังดูค่อนข้างลังเลกับยาของตนอีก
สิ่งนี้ทำให้ฉู่หลิวเยว่เบื่อหน่าย แต่พอพิจารณาแล้วว่าระดับของเขามิได้สูงไปกว่านางมากนัก และสามารถเอาชนะได้ง่ายกว่าที่คิด ฉู่หลิวเยว่ก็พลันอารมณ์ดีขึ้นทันตา
ทั้งความคิดและความรู้สึกของนาง ฉายชัดออกมาผ่านสีหน้าทั้งสิ้น จนหลิ่วจื่ออันที่อยู่ตรงข้ามมองเห็นได้อย่างชัดเจน
ทันใดนั้น ไฟโทสะในใจเขาก็ลุกโชติช่วงขึ้นอีกครา!
เจ้าเด็กนี่!
กำลังดูถูกเขาอยู่ใช่หรือไม่?!
“เจ้า…”
ตูม!
แต่ก่อนที่เขาจะพูดจบ ฉู่หลิวเยว่ที่อยู่ฝั่งตรงข้ามก็เริ่มเคลื่อนไหว!
เปลวเพลิงสีแดงฉานลุกไหม้ส่งผ่านความร้อนไปทั่วหม้อต้ม!
หลังจากนั้น นางก็โยนสมุนไพรลงไปอย่างรวดเร็วเสมือนไม่ใส่ใจ!
ทว่าขั้นตอนทั้งหมดกลับไหลรื่น ฝีมือการควบคลุมเปลวเพลิงนั้นสมบูรณ์แบบไร้ที่ติ!