ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ - ตอนที่ 1165 แสนล้านวิธีชนะ
ตอนที่ 1165 แสนล้านวิธีชนะ
เมื่อนางเคลื่อนไหว ฝูงชนที่ส่งเสียงฮือฮาก็เงียบเสียงลงทันที!
ซึ่งในบรรดาผู้ชมมากมายที่อยู่ที่นี่ ไม่ได้มีแค่เซียนหมอเท่านั้น
แต่รวมถึงจอมยุทธ์และปรมาจารย์ที่สามารถเข้าเรียนที่สำนักหลิงเซียวได้ ก็ล้วนเป็นอัจฉริยะอันดับต้นๆ ทั้งนั้น
แน่นอนว่าพวกเขาย่อมมีความเข้าใจเกี่ยวกับเซียนหมอมากพอตัว
และยังสามารถบอกได้ว่า เม็ดยาที่คนผู้นั้นกลั่นออกมาอยู่ในระดับดีหรือไม่
ฉะนั้นพอเห็นฉู่หลิวเยว่เริ่มปรุงยา พวกเขาถึงพากันทำหน้าตกใจพัลวัน
…เพราะการเคลื่อนไหวที่ดูคล่องแคล่วและการหลอมสมุนไพรเช่นนี้ ดูดีกว่าหลิ่วจื่ออันที่อยู่ฝั่งตรงข้ามอย่างเห็นได้ชัด!
หลิ่วจื่ออันเองก็ตกใจเช่นกัน
ฉู่เยว่ผู้นี้คือเซียนหมอระดับแปดแน่หรือ?
แต่ความแข็งแกร่งที่แสดงออกมานั้น มันเหนือกว่าที่เขาคิดไว้มาก!
หลิ่วจื่ออันหรี่ตาแล้วมองอีกฝ่ายอย่างจับผิดอีกครั้ง
บางทีฉู่เยว่นั่นอาจใช้อุบายพรางตาคนมองก็ได้ ความจริงแล้วเขาอาจไม่มีทักษะอันใดเลย…
แต่พอเขาเห็นฉู่เยวที่อยู่ฝั่งตรงข้าม แยกสมุนไพรเหล่านั้นและปรับแต่งสูตรยาอย่างง่ายดายแล้ว หลิ่วจื่ออันก็ต้องฝันสลาย หัวใจของเขาแตกออกเป็นเสี่ยงๆ!
ถึงตอนนี้แม้เขาจะไม่ชอบใจนัก แต่ก็ต้องยอมรับว่าฉู่เยว่มีความสามารถจริงๆ!
หัวใจดวงน้อยเริ่มตื่นตระหนก
บางทีฉู่เยว่อาจเอาชนะเขาได้จริงๆ…
“ฟู่…”
ทันใดนั้น เขาก็รู้สึกปวดแสบปวดร้อนขึ้นมา!
หลิ่วจื่ออันอ้าปากค้างแล้วก้มหน้ามอง ก่อนจะพบว่าเมื่อครู่เขาฟุ้งซ่านใจลอย จนลืมควบคุมเปลวไฟในหม้อต้มยา!
ทำให้เปลวไฟเหล่านั้นไหม้มือของเขา
เขาไม่ได้รับบาดเจ็บมากนัก แต่วัตถุดิบยาในหม้อต้มนั้น กลับหลอมรวมกันเสียเละเทะไปหมดแล้ว
เมื่อเห็นก้อนสมุนไพรที่หลอมรวมกันและถูกเผาจนไหม้เกรียม หลิ่วจื่ออันก็โกรธเป็นฟืนเป็นไฟ จนอยากเตะหม้อต้มยาใส่หน้าฉู่เยว่!
พรึบ!
เขาวางมือข้างหนึ่งไว้บนหม้อต้มยาแล้วทำความสะอาดสมุนไพรทั้งหมด!
ขี้เถ้าบางส่วนลอยกระจายไปบนอากาศ
เมื่อเห็นภาพเช่นนั้น ผู้ชมหลายคนก็แอบหันมาสบตากัน
หลิ่วจื่ออันผู้นี้…จิตใจไม่มั่นคงพอ…
ฉู่เยว่เพียงยืนอยู่ตรงนั้นและเพิ่งเริ่มกลั่นยา และเขากลับไม่ระวังจนเผลอทำลายวัตถุดิบยาที่ตนเพิ่งกลั่นเสร็จ
“หึ”
ถ้าฉู่เยว่เป็นฝ่ายชนะจริงๆ ล่ะก็ ไม่รู้ว่าเขาจะแสดงท่าทีเช่นไร!
หลิ่วจื่ออันสูดหายใจเข้าลึกๆ แล้วควบคุมสติอารมณ์ของตัวเอง
แม้ความพยายามก่อนหน้านี้จะสูญเปล่า แต่โชคดีที่เขายังพอมีสมนุไพรเหลืออยู่
จากนั้นก็ต้องรีบกลั่นยาอายุวัฒนะให้สำเร็จโดยเร็วที่สุด!
เขาเริ่มกลั่นยาอีกครั้ง
…
เพียงฉู่หลิวเยว่ปรายตามอง นางก็รับรู้ได้ทันทีว่าสถานการณ์ของหลิ่วจื่ออันเป็นเช่นไร
นางกระตุกยิ้มมุมปากอย่างขบขัน
ไม่รู้ว่าเหตุใดหลิ่วอินถงถึงเลือกใช้งานเขา
นางประเมินหลิ่วจื่ออันสูงเกินไป หรือประเมินนาง ฉู่เยว่ผู้นี้ต่ำเกินไป?
นี่มันไม่ต่างจากปล่อยให้นางชนะขาดลอยเลยหรือไร?
ฉู่หลิวเยว่ใส่สมุนไพรที่เหลืออย่างเป็นขั้นเป็นตอน
หลังจากออกมาจากภูเขาเฝิงหมิน นางสัมผัสได้ชัดเจนว่าความแข็งแกร่งของนางเพิ่มขึ้น
ราวกับเข้าใกล้ระดับสูงสุดขึ้นมาอีกนิด
ยิ่งไปกว่านั้น ดูเหมือนว่าสภาพจิตใจของนางจะดีขึ้นมากด้วย ซึ่งนั่นทำให้นางมีสมาธิในการปรุงยาและทำให้การกลั่นยาง่ายขึ้นกว่าเดิม
เวลาผ่านไปช้าๆ
ด้านนอกจัตุรัสมีผู้คนมากมายเฝ้าดูอยู่
ประการแรกก็เพราะไม่ค่อยมีการท้าประลองในสำนัก ดังนั้นเวลามีการประลองแต่ละครั้ง จึงทำให้ผู้คนมากมายสนอกสนใจแล้วพากันเข้ามารุมดู
อีกอย่างก็เพราะนามของ “ฉู่เยว่” ที่ค่อนข้างเป็นที่โด่งดังในสำนักวิชาช่วงนี้
ทันทีที่ก้าวเท้าออกมาจากภูเขาเฝิงหมิน ก็ตอบรับคำท้าประลองทันควัน อีกทั้งยังเป็นคู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่งกว่าตัวเองอย่างเห็นได้ชัด…
ถึงทุกคนจะอยากเพิกเฉยหรือลืมเลือนศิษย์ใหม่ผู้นี้ แต่ก็ยากที่จะทำเช่นนั้นได้
…
หลังจากได้รับข่าว หลัวซือซือและคนอื่นๆ ก็รีบไปที่จัตุรัสอย่างไว
แม้แต่หลัวเยี่ยนหลินเองก็มาด้วย
“ฉู่เยว่จริงๆ ด้วย!”
หลังจากเห็นคนที่ยืนอยู่ในจัตุรัสเต็มสองตา จัวเซิงก็ร้องตะโกนด้วยความตกใจ
“นั่นเขาคิดอันใดอยู่? เขาน่าจะรู้เรื่องกฎการประลองมิใช่หรือ?”
ถ้านี่เป็นแผนของฝั่งนั้นที่หลอกใช้คนมาจัดการฉู่เยว่ล่ะก็ เขาเกรงว่า…
“ซือซือ เพื่อนของพวกเจ้าคนนี้ ดูไม่น่าคบค้าสมาคมเอาเสียเลย”
หลัวเยี่ยนหลินจับจ้องไปยังบุคคลที่อยู่ในจัตุรัสครู่หนึ่งแล้วประเมินผล
น้อยครั้งที่เขาจะเจอศิษย์ที่ชอบหาเรื่องใส่ตัวซ้ำๆ เช่นนี้
หลัวซือซือเม้มปากแน่น
“เพราะพวกหลิ่วอินถงแกล้งเขาก่อน เขาถึงได้โต้ตอบเช่นนี้”
บนเขาหมื่นเมรัยวันนั้น เห็นได้ชัดว่าคนพวกนั้นเป็นฝ่ายยั่วยุและท้าทายเขาก่อน
หลังจากพ่ายแพ้ ก็รับความจริงไม่ได้ แล้วจงใจส่งคนมายั่วโมโหฉู่เยว่
ตั้งแต่เริ่มแรกกระทั่งตอนนี้ ฉู่เยว่ไม่ได้ทำอันใดผิดเลย
หากเป็นคนอื่นอาจไม่โชคดีเท่าฉู่เยว่ และอาจถูกรังแกจนเสียชีวิตเลยก็ได้
“ผู้แข็งแกร่งย่อมได้รับความนับถือ หากแข็งแกร่งย่อมมิอาจถูกรังแก”
หลัวเยี่ยนหลินกล่าวเสียงเบา
“เขาเองก็น่าจะรู้ดี”
นั่นเป็นเหตุผลที่เขายอมรับคำท้าประลองนี่!
เมื่อคิดได้เช่นนั้น หลัวเยี่ยนหลินก็พลันหัวเราะชอบใจ
“เจ้าเด็กนี่…น่าสนใจจริงๆ!”
ถ้าเขาชนะการประลองนี่ มันจะไม่ใช่แค่ประจานคนที่กลั่นแกล้งเขา แต่ยังเป็นการ…
เชือดไก่ให้ลิงดูด้วย!
…
หึ่ง!
เกิดความผันผวนขึ้นในหม้อต้มของฉู่หลิวเยว่!
กลิ่นหอมอันรุนแรงของยาฟุ้งกระจายออกมาจากหม้อ!
“ฉู่เยว่กำลังจะกลั่นเม็ดยาแล้ว!”
เสียงหนึ่งตะโกนขึ้นมาท่ามกลางฝูงชน
ขณะเดียวกัน ก็มีคลื่นความผันผวนเช่นนี้เกิดขึ้นทางฝั่งหลิ่วจื่ออัน!
เปลวไฟอันร้อนระอุลุกโชน!
เม็ดยาทรงกลมปรากฏขึ้น!
“ทางหลิ่วจื่ออันเกือบเสร็จแล้ว!”
“ไม่รู้เลยว่าฝั่งไหนจะกลั่นยาเสร็จก่อนกัน…”
“ถึงฉู่หลิวเยว่จะกลั่นเสร็จก่อนแล้วอย่างใด? ยาเม็ดระดับแปดนั่น ย่อมสู้เม็ดยาระดับเก้าไม่ได้อยู่ดี!”
“แต่เขาดูไม่รีบเลยนะ ไม่รู้ว่ายังมีกลยุทธ์อันใดซ่อนอยู่อีกหรือเปล่า…”
“หา! กลยุทธ์หรือ? พูดเหมือนกับว่าเขาจะกลั่นยาเม็ดระดับเก้าได้อย่างนั้นแหละ?”
ผู้ชมต่างพากันหัวเราะเยาะ
ทันใดนั้นฉู่เยว่ที่ยืนอยู่ในจัตุรัส ก็ใช้มือตบหม้อต้มอย่างแรง!
เปลวไฟขนาดเท่ากำปั้นที่ห่อหุ้มอายุวัฒนะไว้พลันลุกซู่!
แขนเรียวยาวโบกสะบัดแขนเสื้อ และสมุนไพรอีกหลายชนิด ก็หล่นลงไปในหม้อต้มทีละอย่าง!
การเคลื่อนไหวอย่างกะทันหันนี้ ทำให้ทุกคนตกใจกันยกใหญ่
“นั่นเขากำลังจะทำอันใด? ยังกลั่นยาเม็ดไม่เสร็จ ก็เปลี่ยนหม้อแล้วหรือ?”
“ไม่ใช่! เขากำลังปรุงยาเม็ดที่สอง!”
“เม็ดแรกยังไม่เสร็จ แล้วจะกลั่นเม็ดสองเหตุใด?”
แต่จู่ๆ ก็มีใครบางคนตะโกนขึ้นมาด้วยความตกใจ
“ไม่! เขาต้องการหลอมยา!”