ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ - ตอนที่ 1185 กลั่นตามใจเจ้า
ตอนที่ 1185 กลั่นตามใจเจ้า
สมุนไพรที่ผู้อาวุโสและศิษย์ในสำนักวิชาใช้กลั่นยา ล้วนแล้วแต่มาจากหุบเขาวาโยโอสถทั้งสิ้น
ทว่าในสำนักวิชาแห่งนี้ มีเพียงคนเดียวที่มีสวนสมุนไพรเป็นของตัวเอง
…นั่นก็คือศิษย์ที่ถูกลบชื่อออกจากตารางจัดอันดับชิงอวิ๋น!
เช่นนั้นสวนสมุนไพรนั่น ก็เป็นของคนผู้นั้นใช่หรือไม่?
ฉู่หลิวเยว่ครุ่นคิดในใจ
ก่อนหน้านี้จงซวิ๋นเคยเล่าว่า ท่านเจ้าสำนักเป็นคนแบ่งที่ดินจากหุบเขาวาโยโอสถให้คนผู้นั้นด้วยตัวเอง เพื่อที่อีกฝ่ายจะได้มีพื้นที่ทำสวนสมุนไพรส่วนตัว
และมันเป็นสวนที่คนอื่นเข้าไปไม่ได้
เดิมทีฉู่หลิวเยว่คิดว่ามันถูกซ่อนอยู่ในพื้นที่เร้นลับ แต่คิดไม่ถึงว่ามันจะอยู่ติดหุบเขาวาโยโอสถเช่นนี้!
เพียงแต่มันถูกปิดกั้นด้วยค่ายกลของเหล่าผู้อาวุโส ทำให้คนในหุบเขาวาโยโอสถมองไม่เห็นที่ดินผืนนั้น
ฉู่หลิวเยว่นึกย้อนกลับไปตอนที่นางเข้ามาในหุบ ตอนนั้นนางยืนอยู่บนยอดเขาพลางกวาดตามองไปทั่วสารทิศ แต่กลับไม่เห็นอันใดที่อยู่นอกค่ายกลเลย
พอมาคิดดูตอนนี้ มันน่าจะเป็นเพราะว่ามีคนใช้วิธีการพิเศษบางอย่างปกปิดสวนสมุนไพรนั่นเอาไว้
คราแรกฉู่หลิวเยว่มิได้สนใจเรื่องสวนยาสวนสมุนไพร แต่พอเห็นดอกบัวขนาดใหญ่ที่กำลังบานสะพรั่ง ก็พลันอยากรู้อยากเห็นมากขึ้น
นางเองก็บอกไม่ถูกว่าความรู้สึกเช่นนี้คืออันใด
แต่เหมือนว่าข้างในนั้นจะมีแรงดึงดูดบางอย่างซ่อนอยู่ จนทำให้นางใคร่รู้ความจริงให้ได้
ทว่าก็เป็นแค่ความคิดชั่ววูบที่แวบเข้ามาในหัว
นางหลุบตาลงนิดๆ
“ตามที่ท่านผู้อาวุโสต้องการขอรับ”
ผู้อาวุโสเมิ้งเย่พออกพอใจอย่างมาก
เขาพูดเสียงต่ำสองที
“เอาเถอะ! เจ้าเองก็ไม่ต้องกังวลไป อย่างใดเจ้าก็เป็นศิษย์ของวั่นเจิง ข้าย่อมให้เกียรติเขาอยู่แล้ว จริงสิ เช่นนั้นก็มาแลกแต้มกันดีกว่า”
เขามุ่ยปากไปอีกทาง
ฉู่หลิวเยว่พลันหันไปมองตาม ก่อนจะเห็นตราหยกสีเขียวที่แขวนอยู่ข้างตะแคร่
ซึ่งน่าจะเป็นตราหยกของเขา
“แค่วางตราหยกดำของเจ้าลงไปก็จบ!”
ฉู่หลิวเยว่ทำตามอย่างเชื่อฟัง
จากนั้นก็มีแสงสีขาวพุ่งออกมาในตอนที่ตราหยกทั้งสองสัมผัสกัน
ฉู่หลิวเยว่เห็นเต็มสองตาว่าแต้มที่อยู่บนนั้น เปลี่ยนจากหกหลักเป็นห้าหลัก
พลันรู้สึกเสียใจขึ้นมากระทันหัน
แพงจริงๆ!
สมุนไพรเหล่านี้ไม่ใช่วัตถุดิบยาธรรมดา ฉะนั้นราคาย่อมไม่ธรรมดาเช่นกัน
โชคยังดีที่นางได้คะแนนเหล่านี้มาจากผู้อาวุโสวั่นเจิง ทำให้นางซื้อขายแลกเปลี่ยนสมุนไพรเหล่านี้ได้
แต่ในอนาคต…คงได้ใช้คะแนนตัวเองจ่ายแน่ๆ
ฉู่หลิวเยว่ดึงตราหยกดำกลับมา และโค้งคำนับอีกครั้งพลางกล่าวลา
เมื่อร่างเงาของนางหายไปจากหุบเขาวาโยโอสถแล้ว ผู้อาวุโสเมิ้งเย่ก็ลูบเคราตัวเองซ้ำๆ แล้วเอนตัวลงบนตะแคร่อีกครั้ง พลางนั่งไขว้ขาแล้วแกว่งเท้าไปมาอย่างสบายอารมณ์
“เจ้าเด็กนี่…ไฉนถึงรู้สึกคุ้นเคยนัก…”
…
ฉู่หลิวเยว่กลับมาพร้อมกับสมุนไพร
ครั้นเห็นนางกลับมา ผู้อาวุโสวั่นเจิงก็ทักทายนางด้วยรอยยิ้ม
“ทุกอย่างราบรื่นดีใช่หรือไม่?”
ฉู่หลิวเยว่หยิบสมุนไพรออกมาทีละชิ้น
“ศิษย์นำสมุนไพรทุกอย่างตามที่ท่านอาจารย์บอก กลับมาได้หมดเลยขอรับ”
ผู้อาวุโสวั่นเจิงตรวจสอบสมุนไพรเหล่านั้น แล้วพยักหน้าด้วยความพึงพอใจ และถามว่า
“เจ้าคิดว่าหุบเขาวาโยโอสถเป็นอย่างใด?”
ฉู่หลิวเยว่นิ่งคิดไปชั่วครู่ แล้วพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง
“เป็นศูนย์รวมของขุมทรัพย์ขอรับ”
“ฮ่าฮ่าฮ่า!”
ผู้อาวุโสวั่นเจิงหัวเราะเสียงดังลั่น
“ถูกของเจ้า! ที่นั่นคือสวรรค์แห่งการบ่มเพาะโดยแท้!”
แววตาของฉู่หลิวเยว่สั่นไหวเล็กน้อย
การบ่มเพาะสมบัติล้ำค่าจำนวนมากเช่นนั้นในคราเดียว ทำให้การดำรงอยู่ของหุบเขาวาโยโอสถนั้นราวกับปาฏิหาริย์
และมีเพียงสำนักหลิงเซียวที่มีประวัติอันยาวนานร่วมพันปีเท่านั้น ที่จะมีมรดกอันล้ำค่าเช่นนี้สั่งสมไว้ให้คนรุ่นหลัง
“ที่นั่นเต็มไปด้วยวัตถุดิบดีๆ! ถ้าหลังจากนี้เจ้าอยากกลั่นยา ก็จงไปเอาสมุนไพรจากที่นั่นมาใช้!”
ฉู่หลิวเยว่ตาเป็นประกายทันควัน ก่อนจะหม่นแสงลงอย่างรวดเร็ว
ผู้อาวุโสวั่นเจิงสังเกตเห็นสีหน้าที่เปลี่ยนไปของนาง พล่างเอ่ยถามอย่างอดไม่ได้
“อันใด มีปัญหาอันใดหรือ?”
“คือว่า…”
ฉู่หลิวเยว่ยิ้มแหยอย่างเขินอาย
“สมุนไพรหลายชนิดในหุบเขาวาโยโอสถต้องใช้คะแนนแลกเปลี่ยนหลายแต้ม…”
ที่แท้ก็เป็นเช่นนี้เอง!
ผู้อาวุโสวั่นเจิงเข้าใจที่นางจะสื่อ และโบกมืออย่างไม่ใส่ใจ
“แล้วเจ้ามีข้าไว้เหตุใด! ก็แค่คะแนนสะสมเองมิใช่หรือ? ขอเพียงเจ้าทะลวงขึ้นสู่เซียนหมอระดับเก้าได้ในเร็ววัน และมีชื่อบนตารางจัดอันดับชิงอวิ๋น ข้าก็ให้รางวัลแก่เจ้าแน่นอน! ช่วงนี้หากเจ้าต้องการสมุนไพรชนิดใด ก็จงมาบอกข้า! ทุกอย่างคือเบี้ยกองกลาง! ข้าจักจ่ายมันแทนเจ้าเอง!”
ส่วนคะแนนสะสมน่ะหรือ?
แค่ได้สอนศิษย์อัจฉริยะหายากเช่นนี้ ก็ทำให้หลายคนอิจฉาตาร้อนกันถ้วนหน้าแล้ว!
ตัวเขานั้นตั้งตารอคอยมาเนิ่นนาน จนในที่สุดก็ได้พบกับลูกศิษย์ดีๆ แบบนี้ แล้วจะไม่ให้เขาทุ่มเทและทุ่มทุนฝึกฝนเด็กคนนี้ได้อย่างใด?
อีกอย่าง การเสียคะแนนไปกับสมุนไพรจนหมดนั้นถือเป็นเรื่องปกติมาก!
วลีที่เต็มไปด้วยความแน่วแน่ของเขา ทำให้ฉู่หลิวเยว่มีกำลังใจเต็มเปี่ยม
“ท่านพูดจริงหรือขอรับ?”
ผู้อาวุโสวั่นเจิงถลึงตามองนางแล้วแสร้งทำเป็นโกรธ
“พูดขนาดนี้แล้วเจ้ายังคิดว่าข้าโกหกอีกหรือ? วางใจเถอะน่า!”
ฉู่หลิวเยว่ระบายยิ้มกว้าง ขนงเรียวโก่งโค้งลง ดวงตากลมสุกใสแพรวพราวดั่งดวงดารา
“เช่นนั้นศิษย์ต้องขอขอบพระคุณท่านอาจารย์ล่วงหน้าขอรับ!”
ผู้อาวุโสวั่นเจิงโบกมือไหวๆ
“มา! ให้ข้าดูสิว่าเจ้าจักกลั่นยาระดับเก้าได้หรือไม่!”
ฉู่หลิวเยว่พยักหน้า และเดินไปที่ด้านข้างของหม้อต้มโอสถ พลางจัดเรียงสมุนไพรที่ต้องใช้ตามลำดับ
เพี๊ยะ!
มือบางทั้งสองข้างตบลงบนปากหม้อ!
พลันมีลูกไฟสีแดงพุ่งออกมา! ห้อมล้อมหม้อต้มยาไว้!
ซู่!
เปลวไฟร้อนๆ ลุกโชน!
พร้อมกับอุณหภูมิโดยรอบที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ฉู่หลิวเยว่สูดหายใจเข้าลึกๆ เพื่อสงบสติอารมณ์ ก่อนจะเริ่มใส่สมุนไพรลงไปทีละอย่าง แล้วเตรียมตัวกลั่นยา
สมุนไพรทุกชนิดรวมตัวกัน ท่ามกลางเปลวไฟอันร้อนระอุภายในหม้อต้มยา
ผู้อาวุโสวั่นเจิงจ้องมองทักษะอันคล่องแคล่วของนาง และการเคลื่อนไหวที่ลื่นไหลแลชำนาญ พลันใจเต้นระรัวด้วยความตื่นเต้นอีกครั้ง
ก่อนหน้านี้เขาบอกว่าจะทำให้ฉู่หลิวเยว่ติดอันดับชิงอวิ๋นภายในสองหรือสามเดือน แต่มีหลายคนสงสัยและไม่เชื่อเขา
คราวนี้แหละ ลูกศิษย์อันเป็นที่รักของเขาจะทำให้คนพวกนั้นตาสว่าง!
เขาตะโกนอย่างภาคภูมิใจ
“ศิษย์เอ๋ย! จงตั้งใจกลั่น! แล้วตั้งจิตให้แน่วแน่! ข้าจะคอยช่วยชี้แนะเจ้าเอง อยากกลั่นอันใด ก็กลั่นออกมาได้เลย!”