ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ - ตอนที่ 1187 แย่งชิง
ตอนที่ 1187 แย่งชิง
น้ำตกเบื้องล่างค่อยๆ หยุดไหล
พลันเกิดกระแสน้ำวนขึ้นที่ใจกลางของผืนน้ำสีฟ้านั่น
เมื่อเวลาผ่านไป กระแสน้ำวนก็ค่อยๆ ขยายตัว แล้วกลืนกินต้นไม้สีเขียวชอุ่มที่อยู่รอบๆ เข้าไปอย่างเงียบเชียบ!
ขณะเดียวกัน เมฆดำมืดที่ปรากฏขึ้นบนท้องฟ้าก็รวมตัวกัน ราวถูกดึงดูดด้วยพลังบางอย่าง แล้วค่อยๆ หมุนวนจนกลายเป็นพายุงวงช้างลูกใหญ่!
ทั่วทุกพื้นที่ตกอยู่ในความมืดมิด!
สายลมแรงตวัดพัดปลิว แรงข่มคลื่นใหญ่แผ่กระจายออกมา!
ผู้คนที่รออยู่บนยอดเขาในบุหรงมรกตล้วนแสดงท่าทีตื่นเต้นดีใจ!
เช่นนี้ก็หมายความว่า อาวุธศักดิ์สิทธิ์แห่งราชากำลังจะถือกำเนิดขึ้นแล้ว!
“หลังจากที่น้ำในแอ่งด้านล่างถูกดูดออกจนหมด ก็คงถึงคราวที่อาวุธนั้นจะปรากฏออกมาแล้ว! ยามนั้นเราต้องลงมือทันที แล้วชิงมันมาให้ได้ก่อนคนอื่น!”
ผู้อาวุโสซูเฟิงย้ำเสียงขึงขัง
ทุกคนพยักหน้าตอบรับ และรอคอยอย่างใจจดใจจ่อ
เวลาผ่านไปอย่างช้าๆ
ราวกับมีหลุมดำที่สามารถดูดกลืนกินทุกสิ่งรอบตัวเข้าไปทั้งหมด ซ่อนอยู่ภายใต้กระแสน้ำวนในแอ่งน้ำนั่น
คลื่นสันนิบาตบนฟากฟ้าฟาดฟันลงมา
สายตานับไม่ถ้วนจ้องมองภาพนั้นไม่วางตา
และก่อนที่กระแสน้ำวนจะหายไป พายุงวงช้างก็พลันทิ้งตัวลงมา!
ทั้งสองสิ่งสัมผัส!
ตูม!
เกิดเสียงปะทะดังสนั่นหวั่นไหว!
พลันมีแสงสว่างพร่างพราวระเบิดออกมาจากตรงกลาง!
“ตอนนี้แหละ!”
ผู้อาวุโสซูเฟิงออกคำสั่งแล้วรีบนำไปก่อน! ทุกคนที่อยู่เบื้องหลังพุ่งตัวตามไปอย่างพร้อมเพียง!
ขณะเดียวกัน คนกลุ่มอื่นที่รวมตัวกันอยู่ในบุหรงมรกต ก็รีบรุดหน้าไปที่นั่นเช่นกัน!
ทว่าคนจากสำนักหลิงเซียวรวดเร็วที่สุด เพียงพริบตาพวกเขาก็นำหน้าไปแล้ว จนทำให้คนกลุ่มอื่นลุกลี้ลุกลนอยู่ไม่สุข
และจู่ๆ บุรุษร่างกำยำผิวคล้ำก่อนหน้านี้ ก็ตะโกนขึ้นมา
“ทุกท่าน! ข้าขอร่วมวงด้วยแล้วกัน!”
ผู้อาวุโสซูเฟิงและคนอื่นๆ พลันใจหายวาบ!
แต่ชายคนนั้นก็ยังตะโกนขึ้นอีกว่า
“เจ้าสิ่งนี้คือสมบัติที่คนของสำนักหลิงเซียวทิ้งไว้ในตอนนั้น! ถ้าพวกเขาคิดจะชิงมันไป ย่อมทำได้ง่ายๆ! ไยเราถึงไม่ร่วมมือกันขับไล่พวกเขาออกไปเสียก่อน แล้วค่อยตกลงเรื่องกรรมสิทธิ์ของสมบัติชิ้นนี้ด้วยกันเล่า!”
เสียงทุ้มนั้นดังก้องไปทั่วทุกอณูอากาศ
ทันทีที่เขาเปิดปาก มันก็แพร่กระจายออกไปทั่วหล้า!
หลายคนลังเลอยู่ครู่หนึ่ง พลางมองหน้ากันด้วยความสับสน
ผู้อาวุโสซูเฟิงตะคอกด้วยโทสะ
“สำนักปีกสุวรรณ! เจ้ากล้าดีอย่างใด!”
ชายคนนั้นหัวเราะร่า
“กล้าไม่กล้า ข้าก็กล้าตัดหน้าเจ้าแล้วกัน!”
สำนักปีกสุวรรณของพวกเขาเองก็เป็นนิกายชั้นนำของอาณาจักรเสิ่นซวี่ แถมยังมีภูมิหลังที่ลึกซึ้งและความมั่นใจอย่างเต็มที่
แม้สำนักหลิงเซียวจะมีสถานะโดดเด่น แต่ก็เป็นเพียงสำนักวิชาเท่านั้น
ถึงจะแข็งแกร่งเพียงใด แต่สุดท้ายมันก็ต่างจากนิกายที่เข้มงวดด้านการต่อสู้และวิทยายุทธ์ของพวกเขาอยู่ดี
อย่างใดเสีย ทางสำนักหลิงเซียวก็ไม่มีทางยอมให้ผู้อาวุโสและเหล่าศิษย์ ต้องสละชีวิตเพื่อสำนักวิชาของพวกเขา
ยิ่งไปกว่านั้น แม้สมบัติที่ปรากฏในวันนี้จะเป็นอาวุธศักดิ์สิทธิ์หายากของราชา แต่นั่นมิอาจทำให้สำนักหลิงเซียวตั้งตนเป็นปรปักษ์กับพวกเขาได้
นั่นคือสาเหตุที่พวกเขากล้าแย่งชิงอย่างโจ่งแจ้งเช่นนี้!
อีกทั้งยังมีคนจากที่อื่นเข้ามาด้วย พวกเขายิ่งไม่กล้าทำตัวไร้ศีลธรรมแน่นอน
“ทุกท่าน! พวกเจ้ายังลังเลอันใดอยู่อีก!? มาถึงขนาดนี้แล้ว พวกเจ้ายังคิดจะปล่อยให้สมบัติชิ้นนี้ตกไปอยู่ในมือของพวกเขาอีกหรือ?”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ ก็ทำให้คนจากกลุ่มอื่น ตัดสินใจได้ในทันที
หวีด!
เกิดเสียงหวีดแหลมดังขึ้นในอากาศเป็นระลอก!
นั่นคือเสียงแวกอากาศของผู้คนที่พุ่งตัวเข้าไปยังศูนย์กลางของแอ่งน้ำ แล้วพลันเปลี่ยนทิศพุ่งเข้าใส่กลุ่มคนจากสำนักหลิงเซียวแทน!
ซึ่งในกลุ่มคนที่เดินทางมาที่นี่ นอกจากสำนักหลิงเซียวแล้ว ก็ยังมีอีกสี่กลุ่ม
หากนับยอดรวมกันก็เกือบหนึ่งร้อยแปดสิบคน ซึ่งมากกว่าคนของสำนักหลิงเซียวหลายเท่า!
แม้ว่าศิษย์จากสำนักหลิงเซียวทุกคนจะมาจากตะกูลขุนนางชั้นสูง แต่พวกเขาก็มิอาจประมือกับคนจำนวนมากในคราเดียวได้!
และผู้ที่กล้าขัดแย้งกับพวกเขาอย่างเปิดเผยเช่นนี้ ย่อมมิใช่คนที่ฐานะด้อยกว่าพวกเขาแน่ๆ
แต่หากได้สู้กันแล้ว พวกเขาจะไม่มีวันยอมแพ้ให้แก่ศึกในวันนี้ง่ายๆ แน่นอน!
ผุ้คนมากมายกำลังล้อมคนจากสำนักหลิงเซียวไว้!
ผู้อาวุโสซูเฟิงเปลี่ยนแผนทันที พลันมองไปทางหรงซิว
“หรงซิว! พวกข้าจะสกัดพวกเขาไว้ เจ้ารีบฉวยโอกาสนี้ แล้วไปนำเจ้าสิ่งนั้นมาเสีย!”
หรงซิวพยักหน้าเล็กน้อย
“เหอะ! คิดจะหนีหรือ มันง่ายขนาดนั้นเสียที่ไหนกัน?”
ชายคนนั้นสูดจมูกพร้อมส่งเสียงเย้ยหยัน และพุ่งตรงไปหาหรงซิว!
“ขอจัดการเจ้าก่อนแล้วกัน!”
หรงซิวลืมตาขึ้นเล็กน้อย ใบหน้าหล่อเหลาแลดูเย็นชา ดวงตาคมไร้ซึ่งความรู้สึกใดๆ
พลันหายตัวไปในพริบตา!
“อันใดน่ะ!?”
ไม่เพียงแต่ชายที่กำลังจะสู้กับหรงซิวเท่านั้น หากแต่คนอื่นๆ ที่มองอยู่ก็ล้วนตกใจกับภาพที่เห็นเช่นกัน
พวกเขาไม่ได้ตกใจที่หรงซิวหายตัวได้ เพียงแต่ภายใต้แรงกดดันอันทรงพลังเช่นนี้ เขายังสามารถเคลื่อนไหวได้อย่างอิสระและว่องไวขนาดนั้นเชียวหรือ!
ณ ที่แห่งนี้ก็มีผู้แข่งแกร่งระดับเทพอยู่ไม่น้อย แต่ถึงจะทะลวงถึงระดับเทพแล้ว แต่ก็ใช่ว่าพวกเขาจะสามารถหายตัวได้เร็วขนาดนี้!
ครู่ต่อมาหรงซิวก็ปรากฏตัวขึ้นด้านหลังทุกคน!
และอยู่ห่างจากกลุ่มแสงอันเจิดจ้านั้นเพียงเล็กน้อย!
บุรุษจากสำนักปีกสุวรรณตอบสนองเป็นคนแรก และตะโกนดังลั่น
“จับเขาไว้!”
ผู้อาวุโสซูเฟิงสั่งเสียงกร้าว
“ลุย!”
ทั้งสองฝ่ายกางอาณาเขตแล้วพุ่งเข้าประชิดตัวฝ่ายตรงข้าม และเริ่มต่อสู้กันทันที!
อายเย็นพัดมาจากด้านหลัง หรงซิวไม่หันไปมอง และทำเพียงแวบหายไป ก็หลีกเลี่ยงการโจมตีนั้นได้อย่างง่ายดาย
ก่อนจะหายตัวมาโผล่ที่จุดศูนย์กลางของพายุในชั่วพริบตา
น้ำในแอ่งเมื่อครู่ก่อนหายไปแล้ว บนพื้นที่ชุ่มฉ่ำและมีลักษณะคล้ายหนองน้ำ มีเพียงกระแสน้ำวนสีดำขนาดใหญ่ที่ยังหมุนตัวอย่างเชื่องช้า
ข้างในนั้นมันมืดมิดราวไร้ก้นบึ้ง
หากมองลงมาจากด้านบน จักดูเหมือนสัตว์ร้ายตัวใหญ่ที่กำลังอ้าปากกว้าง
และถ้าตกลงไป ก็จะเจอกับการทรมานและความตายอย่างไม่มีที่สิ้นสุด!
ขณะเดียวกันพายุงวงช้างที่เกิดขึ้นจากการรวมตัวของกลุ่มเมฆสีดำ ก็ทอดตัวลงมาจากฟ้าแล้วสัมผัสกับกระแสน้ำวน
จากนั้นพายุสีเทานั้นก็ค่อยๆ ถูกกลืนหายเข้าไปในหลุมดำ
พลันมีกลุ่มแสงสว่างเจิดจ้าปรากฎขึ้นตรงจุดที่ทั้งสองสิ่งผสมผสานกัน
ก้อนแสงนั้นมีขนาดเท่าศีรษะมนุษย์ แสงของมันนุ่มนวลทว่างดงาม อีกทั้งยังปล่อยแรงข่มและรัศมีอันอันศักดิ์สิทธิ์ออกมาเป็นวงกว้าง!
หรงซิวจ้องมองมันตาไม่กะพริบ นัยน์ตาลึกล้ำคู่นั้นฉายแววประหลาดใจ
ลมปราณนี้มัน…
อาวุธโบราณของราชามิใช่หรือ!?
“ตายซะ!”
ขณะที่หรงซิวกำลังตกใจ ผู้คนที่อยู่ด้านหลังก็ฉวยโอกาสนี้ลอบทำร้ายเขา
ด้วยจำนวนที่แตกต่างกันเกินไป แม้คนจากสำนักหลิงเซียวจักเก่งกาจแค่ไหน แต่ยังเป็นฝ่ายเสียเปรียบอยู่ดี
บางคนใช้โอกาสนี้ทะลวงอาณาเขตของพวกเขาและตรงไปที่หรงซิว!
เมื่อสัมผัสได้ถึงลมปราณเย็นๆ จากทางด้านหลัง สีหน้าของหรงซิวพลันเปลี่ยนเป็นเย็นชา แววตาเต็มไปด้วยแรงจิตสังหารอันแรงกล้า!
เขาไม่ได้หันไปมอง และทำเพียงโบกมือ!
แสงสีทองพุ่งออกมา! มันก่อตัวกันเป็นค่ายกลอันไร้เทียมทานแล้วปกคลุมร่างของเขาไว้!
สีหน้าหยิ่งยะโสของชายร่างกำยำเปลี่ยนไปทันที!
“เจ้า…”
ยามนี้หรงซิวสาวเท้าไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว และคว้าเอาลูกกลมเรืองแสงมากอดไว้!
“อึก!”
สองหมัดของผู้อาวุโสซูเฟิงประมือกับหมัดทั้งสี่ที่ประทังเข้ามา พลางกระอักเลือดออกมาเต็มปาก!
แต่เขาจับสังเกตการเคลื่อนไหวของหรงซิวได้ ในใจพลันลิงโลดด้วยความปิติ ริมฝีปากที่เต็มไปด้วยคาวเลือดอ้าออก แล้วเอ่ยเสียงเข้มว่า
“ถอยทัพ!”