ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ - ตอนที่ 1224 ลองดู
ตอนที่ 1224 ลองดู
ฉู่หลิวเยว่พยักหน้า
หรงซิวจึงก้าวเท้าไปข้างหน้า
ฉู่หลิวเยว่ลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะเดินตามเขาไป
พวกเขารู้ดีว่าการที่นางมาที่นี่ มิใช่เพื่อมาดูจัสตุรัสชิงหมิง หากแต่เป็น…รายชื่อตารางจัดอันดับชิงอวิ๋นที่อยู่บนหอระฆังบูรพกษัตริย์ต่างหาก!
เพียงแต่ว่ายามนี้ ตารางชิงอวิ๋นได้ถูกปิดซ่อนไว้ และไม่มีอันใดสามารถมองเห็นได้จากภายนอก
เหลือเพียงกำแพงหนาทึบสีดำ ที่ดูสง่างามและน่าเกรงขาม
เมื่อเดินไปถึงหน้าหอระฆังบูรพกษัตริย์ ทั้งสองร่างพลันหยุดยืนนิ่ง
ฉู่หลิวเยว่เงยหน้าขึ้นมอง
เดิมทีตรงนี้คือจุดประกาศรายชื่อของแขนงเซียนหมอ
นางยังจำได้ดีว่าหลังจากเข้ามาในสำนัก และเห็นตารางจัดอันดับชิงอวิ๋นครั้งแรก นางตื่นเต้นตกใจเพียงใด
ถึงตอนนี้จะมองไม่เห็นตารางนั่น แต่พอได้มามองมันอีกครั้ง นางกลับรู้สึกแตกต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง
นางเงยหน้าขึ้นแล้วมองไปยังตำแหน่งสูงสุด
ที่ตรงนั้น…ยังมองไม่เห็นอันใดเหมือนเดิม
แต่ชื่อของนางถูกผนึกไว้ที่นั่นแน่นอน!
…
“ดูท่าข่าวที่ว่าศิษย์พี่หรงซิวต้องการเลี้ยงดูฉู่เยว่ด้วยตัวเอง น่าจะเป็นเรื่องจริง!”
“ป่านนี้แล้ว พวกเขามาทำอันใดที่นี่? หรือว่าอยากมาดูตารางจัดอันดับชิงอวิ๋น? แต่ถ้าผู้อาวุโสไม่ประกาศ ตารางจัดอันดับชิงอวิ๋นก็ไม่ปรากฏออกมาหรอก! ไอ้กำแพงดำๆ นี่น่ามองตรงไหน?”
“เหอะ แล้วมีอันใดน่ามองกว่านี้อีกหรือ? ทั่วทั้งสำนัก มีใครไม่รู้บ้างว่าศิษย์พี่หรงซิวครองอันดับหนึ่งบนตารางชิงอวิ๋นถึงสองแขนง! แม้รายชื่อจะไม่ปรากฏ แต่มันก็เป็นความจริงที่เถียงไม่ได้! ข้าเดาว่า…ศิษย์พี่หรงซิวคงอยากได้ประโยชน์จากมัน สร้างแรงบันดาลใจให้ฉู่เยว่กระมัง?”
“โอ้ย! ข้าเองก็อยากไปดูตารางกับศิษย์พี่หรงซิว! ข้าเองก็อยากถูกศิษย์พี่หรงซิวชี้แนะเหมือนกัน!”
“เจ้าฝันหรือ? ไว้เจ้ามีพรสวรรค์เท่าฉู่เยว่ก่อนค่อยพูดแล้วกัน! ฮ่าฮ่า!”
“ฮึ่ม ฉู่เยว่ผู้นั้นมีพรสวรรค์ล้ำเลิศก็จริง แต่ก็ยังไม่ถึงขั้นเก่งกาจจนน่าชัง ถ้าข้าตั้งใจฝึกฝนให้หนัก อาจเก่งเท่าเขาได้! ไม่เข้าใจจริงๆ ว่าศิษย์พี่หรงซิวเห็นอันใดในตัวเขา…”
หลายคนที่รออยู่ด้านนอกจัตุรัสชิงหมิง เริ่มสนทนาอย่างออกรส
หลายปีมานี้หรงซิวแทบจะไม่ได้กลับมาที่สำนักวิชาเลย และหลายครั้งที่เขาปรากฏตัว ก็มักจะมาพร้อมเหล่าผู้อาวุโสเสมอ
และไม่เคยมีภาพเขาปรากฏตัวพร้อมศิษย์ธรรมดาเช่นนี้เลย
ยิ่งไปกว่านั้น ยังเป็นเด็กใหม่ที่เพิ่งเข้าเรียนในสำนักได้สองเดือนอีก
ภาพที่เห็นอยู่ตอนนี้ดูแปลกตาสำหรับพวกเขาสุดๆ ส่งผลให้ทุกคนเริ่มถกเถียงกันไปมา
…
แส้เสียงเหล่านั้นดังไปถึงหูของฉู่หลิวเยว่เป็นครั้งคราว
แต่ยามนี้ นางไม่อยากสนใจเรื่องพรรค์นั้น
ลึกลงไปในจิตใจ ราวกับมีบางสิ่งกำลังผลักดันนางอย่างไม่หยุดหย่อน
นางสูดหายใจเข้าลึกๆ พลางยกมือขึ้นแล้วยื่นมือไปข้างหน้า
ดวงตาคมดั่งปักษาของหรงซิวพลันหรี่ลง แต่ไม่ได้หยุดเขา
เมื่อเป็นเช่นนี้ สุดท้ายมือเรียวของฉู่หลิวเยว่ ก็ได้สัมผัสกับกำแพงเย็นหนาทึบ
หึ่ง!
เกิดคลื่นความผันผวนขึ้นในจุดตันเถียนกระทันหัน!
มันมาจากเจดีย์ฐานสี่เหลี่ยมสีดำนั่น!
ฉู่หลิวเยว่ใจเต้นรัว เลือดลมสูบฉีดไปทั่วร่างกาย!
และขณะเดียวกัน ก็เหมือนว่ากำแพงใต้ฝ่ามือของนาง จะถูกกระตุ้นจากอันใดบางอย่าง!
คลื่นพลังปราณอันคุ้นเคยพุ่งออกมาจากมัน แล้วหลั่งไหลเข้าไปในฝ่ามือของฉู่หลิวเยว่!
นั่นคือพลังของนาง!
เฉพาะผู้ที่มีชื่ออยู่ในตารางจัดอันดับชิงอวิ๋นเท่านั้น ที่สามารถเชื่อมโยงกับมันได้!
ทันใดนั้น ก็มีแสงวิบวับลอดผ่านระหว่างนิ้วของนางออกมา!
ฉู่หลิวเยว่ผงะด้วยความตกใจ
แต่ก่อนที่นางจะได้ทันโต้ตอบ หรงซิวก็ก้าวไปข้างหน้าแล้ววางมือลงไปบนกำแพง!
ห่างจากมือของฉู่หลิวเยว่เพียงไม่กี่นิ้ว!
ต่อมา แสงใต้ฝ่ามือของฉู่หลิวเยว่ก็หายไปอย่างรวดเร็ว!
และคลื่นความผันผวนนั้น ก็ถูกทับด้วยพลังปราณที่ทรงพลังยิ่งกว่า!
พลันมีร่างสีเทาพุ่งออกมาจากหอระฆังบูรพกษัตริย์แทบในเวลาเดียวกัน!
เขาคือผู้อาวุโสปั๋วเหยี่ยน!
“ผู้ใดคิดเปิดตารางจัดอันดับชิงอวิ๋น!?”
น้ำเสียงทุ้มต่ำและทรงพลังแผ่กระจายไปทั่วจัตุรัส!
ผู้คนที่เห็นเหตุการณ์ต่างตกใจกันยกใหญ่! พลางก้าวถอยหลังสองสามก้าวโดยไม่รู้ตัว!
ฉู่หลิวเยว่เองก็ได้รับผลกระทบจากพลังปราณอันมหาศาลนี้ โลหิตในกายของนางพุ่งพล่านจนแทบคุมไม่ได้ พลันพุ่งตรงไปยังหัวใจของนาง!
ทันใดนั้น ก็เหมือนมีพลังปราณที่ทรงพลังสายหนึ่ง พุ่งเข้ามาทาบทับหัวใจของนางไว้!
ชายเสื้อคลุมของหรงซิวสะบัดพลิ้วไหว คลื่นพลังที่มองไม่เห็นแผ่กระจายออกไป ต้านทานแรงกดดันอันมหาศาลนั่นไว้ มิให้แตะต้องหัวใจของนาง
นางรีบชักมือออกทันที!
ผู้อาวุโสปั๋วเหยี่ยนร่อนลงพื้นไม่ไกลจากพวกเขาสองคน
หรงซิวจำต้องหมุนตัวกลับไป แล้วก้าวไปข้างหน้า และปิดกั้นฉู่หลิวเยว่ไว้ข้างหลังเขาอย่างเงียบๆ
“คารวะผู้อาวุโสปั๋วเหยี่ยน”
“หรงซิวหรือ?”
ดวงตาของผู้อาวุโสปั๋วเหยี่ยนฉายแววประหลาดใจ
“ไฉนเจ้าถึงมาอยู่ที่นี่…ฉู่เยว่?”
อันที่จริง เมื่อได้ยินเสียงของหรงซิว เขาก็ระบุตัวตนของอีกฝ่ายได้แล้ว
เพียงแต่คิดไม่ถึงว่าฉู่เยว่จักอยู่ตรงนี้ด้วย?
ดูจากท่าทีของสองคนนี้แล้ว ดูเหมือนว่าพวกเขาเพิ่งจะมาถึงได้ไม่นาน
“เมื่อครู่นี้…เป็นฝีมือเจ้าหรือ?”
ผู้อาวุโสปั๋วเหยี่ยนตวัดมือข้างหนึ่งไปด้านหลัง แล้วเงยหน้าขึ้นมองหอระฆังบูรพกษัตริย์
ตารางชิงอวิ๋นยังไม่ทันได้ปรากฏตัว ทว่าคลื่นความผันผวนเล็กๆ นั้นกลับหายไปแล้ว
หากเขาไม่บังเอิญอยู่บนหอระฆังบูรพกษัตริย์พอดี คงยากที่จะตรวจจับการเคลื่อนไหวเล็กๆ นี่ได้
หรงซิวพยักหน้าตอบ
“ข้าเองขอรับ”
ผู้อาวุโสปั๋วเหยี่ยนเดินเข้ามาหาพวกเขา
“สมเหตุสมผล แต่จู่ๆ เหตุใดเจ้าถึงทำเช่นนี้?”
โดยปกติแล้วจะมีแค่เจ้าสำนักเท่านั้น ที่สามารถเรียกตารางจัดอันดับชิงอวิ๋นออกมาได้
แต่ช่วงนี้เจ้าสำนักไม่อยู่ เขาจึงต้องปฏิบัติหน้าที่นี้แทนอีกฝ่ายชั่วคราว
ทว่าความจริง นอกจากเขาแล้ว ยังมีอีกหลายคนที่สามารถทำเช่นนี้ได้
ซึ่งหรงซิวผู้ครองอันดับหนึ่ง ถึงสองในสี่แขนงของการประลองชิงอวิ๋นเอง ก็เป็นหนึ่งในนั้น
ริมฝีปากบางของหรงซิวโค้งขึ้นเล็กน้อย ก่อนจะยิ้มรับเบาๆ
“ข้าอยากพาศิษย์น้องฉู่เยว่มาดูขอรับ”
นี่เขาคิดจะใช้ตัวเองเป็นแรงบันดาลใจให้ฉู่เยว่อย่างนั้นหรือ?
ผู้อาวุโสปั๋วเหยี่ยนพึมพำกับตัวเอง
แม้จะฟังดูแปลกนิดหน่อย แต่หรงซิวก็มักจะทำเช่นนี้เสมอ และก่อนหน้านี้เขาก็บอกเองว่าอยากดูแลและสอนสั่งฉู่เยว่ให้ได้ดิบได้ดี จึงไม่แปลกที่เขาจะทำเช่นนี้
“โอ้? เหมือนว่าเจ้าจะหวังกับฉู่เยว่ไว้สูงจริงๆ! ถ้าจำไม่ผิด เหมือนว่าเขาเพิ่งจะออกจากเขาเฝิงหมินวันนี้ใช่หรือไม่? ไม่คิดเลยว่าเจ้าจักพาเขามาที่นี่”
นี่ก็ใกล้จะสิ้นเดือนแล้ว และเหลือเวลาอีกไม่กี่วัน ก็จะถึงต้นเดือนหน้าแล้ว
พอถึงตอนนั้น ถึงหรงซิวไม่ทำ เขาก็ต้องเรียกตารางจัดอันดับชิงอวิ๋นออกมาอยู่แล้ว
ราวกับอ่านความคิดของเขาได้ หรงซิวพลันเลิกคิ้วเล็กน้อย
“แบบนี้เงียบกว่า”
ผู้อาวุโสปั๋วเหยี่ยนพูดไม่ออกไปพักหนึ่ง
ถ้าคนอื่นพูดแบบนี้คงจะดูเย่อหยิ่งจนน่าหมั่นไส้
แต่เพราะเขาคือหรงซิว ทุกอย่างจึงกลายเป็นสมเหตุสมผลไปโดยปริยาย
อย่างใดเสีย คนนิสัยอย่างเขาก็มักจะพูดอันใดแบบนี้จริงๆ
“ก็จริงของเจ้า”
ผู้อาวุโสปั๋วเหยี่ยนพยักหน้า และมองไปที่ฉู่เยว่อย่างพินิจพิเคราะห์
ว่าแล้วก็ นี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้เห็นฉู่เยว่ใกล้ๆ แบบนี้
ถึงก่อนหน้านี้เขาจะเคยเห็นอีกฝ่ายแล้ว แต่ก็ไม่มีโอกาสได้มองเขาดีๆ เลยสักครั้ง
เขาเป็นเด็กหนุ่มหน้าตาหล่อเหลา แลดูนิสัยดี สะอาดบริสุทธิ์ไร้มลทิน มีมารยาทและใจกว้าง
หากมองผิวเผินแล้ว ใครๆ ก็ย่อมคิดไม่ถึงว่าเขาจะเป็นคนที่กล้าบ้าบิ่นและสร้างปัญหาได้มากมายขนาดนี้
“ฉู่เยว่ หรงซิวให้ความสำคัญกับเจ้ามาก เจ้าต้องตั้งใจฝึกฝนและอย่าทำลายความหวังของเขาเด็ดขาด!”
เขากล่าวพลางกอดอกเท้าคางราวสนอกสนใจ
“เห็นวั่นเจิงบอกว่าเจ้ากลั่นยาเม็ดระดับเก้าได้แล้ว เช่นนั้นก็ลองมากลั่นดูหรือไม่ จะได้รู้ว่าเจ้าจะขึ้นไปอยู่บนตารางจัดอันดับชิงอวิ๋นได้หรือเปล่า?”