ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ - ตอนที่ 134 ค่ายกลระดับสี่
ตอนที่ 134 ค่ายกลระดับสี่
ในที่สุดกู้หมิงจูที่เห็นฉากนี้ด้วยสายตาเย็นชาจากไกลๆ ก็รู้สึกได้ว่ามีบางอย่างผิดปกติ นางจึงลดแขนที่เคยยกขึ้นกอดอกลงแล้วขมวดคิ้ว
ไม่ถูกต้อง!
ฉู่หลิวเยว่เป็นปรมาจารย์ขั้นสอง ตามหลักการสามารถควบคุมพลังแห่งฟ้าดินพร้อมกันได้เพียงแค่ไม่กี่สายเท่านั้น แต่เหตุใดนางยังคงดำเนินต่อไปได้ ทั้งเคลื่อนไหวก็ราบรื่นเป็นธรรมชาติดูผ่อนคลายมากอีกด้วย!
เมื่อเวลาผ่านไป ค่ายกลที่อยู่ตรงหน้าฉู่หลิวเยว่ก็ค่อยๆ ซับซ้อนมากขึ้น
กู้หมิงเฟิงเฝ้าจดจ่อจนหนังตากระตุก
มิน่าล่ะ เมื่อครู่นี้เขาถึงได้คิดว่าค่ายกลนั้นดูแปลกประหลาดมาก ที่แท้มันเป็นเพียงโครงร่างคร่าวๆ เท่านั้น!
หลังจากที่ฉู่หลิวเยว่ค่อยๆ ต่อเติมจนเต็ม คราวนี้มันก็ดูเป็นปกติขึ้นมาแล้ว
หลังจากผ่านไปครู่หนึ่ง กู้หมิงเฟิงก็สัมผัสได้ถึงพลังที่มีอยู่อย่างแผ่วเบา!
เขายิ่งประหลาดใจมากขึ้นเรื่อยๆ
ฉู่หลิวเยว่บอกว่านางเป็นแค่ปรมาจารย์ขั้นสองมิใช่หรือ
เห็นได้ชัดว่าค่ายกลนี้มีระดับที่สูงกว่านั้น!
ฉู่หลิวเยว่คิดจะทำสิ่งใดกันแน่!
เมื่อเทียบกับกู้หมิงเฟิงที่ไม่ค่อยรู้เรื่องค่ายกล ในขณะที่กู้หมิงจูซึ่งเป็นปรมาจารย์ก็ตกตะลึงเบิกตาอ้าปากค้างไปแล้ว
นางสามารถเห็นได้อย่างชัดเจนว่าค่ายกลที่ฉู่หลิวเยว่สร้างได้ไต่ถึงระดับที่สามแล้ว!
และฉู่หลิวเยว่ไม่มีทีท่าว่าจะหยุดเพียงเท่านี้
หรือว่า…นางยังต้องการจะสร้างค่ายกลต่อไป
นางสามารถทำได้อย่างไร!
ตูม ตูม ตูม!
มู่หงอวี๋และเฉินหู่ต่อสู้กับหมีแผงคอทองคำมาได้สักระยะหนึ่งแล้ว ทั้งคู่ได้รับบาดเจ็บและพลังกำลังจะหมดลง
เมื่อหมีแผงคอทองคำถูกพวกเขาสองคนยั่วโมโหเช่นนั้นมันก็ยิ่งโกรธเกรี้ยว ทำให้มันโจมตีอย่างรุนแรงต่อไปเรื่อยๆ
“หลิวเยว่! เสร็จหรือยัง!”
มู่หงอวี๋ถูกโจมตีโดยไม่ทันตั้งตัวและล้มลงไปอย่างน่าอนาถ ด้วยสภาพมีรอยฟกช้ำบนใบหน้าและตามร่างกายของนาง
ฉู่หลิวเยวกำลังจดจ่อกับค่ายกลที่อยู่ตรงหน้า
“อีกสิบห้านาที!”
มู่หงอวี๋กัดฟันแน่น
สิบห้านาทีนั้นไม่นานนัก แต่สิ่งสำคัญคือตอนนี้พวกเขากำลังเผชิญหน้ากับหมีแผงคอสีทองซึ่งมีความแข็งแกร่งเกินกว่าที่พวกเขาจะต้านทานได้!
ทุกนาที ทุกวินาที ช่างทรมานแสนสาหัส!
แต่นางก็ยังตอบตกลงโดยไม่ลังเล
“ได้!”
นางไม่สนใจอาการบาดเจ็บของตัวเองสักนิดและกัดฟันลุกขึ้นสู้ทันที
“หงอวี๋ หลีกไป!”
ทันใดนั้นเฉินหู่ก็ระเบิดเสียงออกมา!
หัวใจของมู่หงอวี๋หล่นวูบ และเมื่อมองใกล้ๆ แล้วก็คิดไม่ถึงว่าเฉินหู่จะพุ่งเข้าไปจู่โจมหมีแผงคอทองคำอย่างกะทันหัน
หัวใจของมู่หงอวี๋หยุดเต้นฉับพลัน!
เฉินหู่มีร่างกายที่แข็งแรงและค่อนข้างแข็งแกร่งในหมู่พวกเขา แต่เมื่อยืนอยู่ข้างหน้าหมีแผงคอทองคำ เขากลับดูตัวเล็กกว่ามาก
เขาไม่อยากมีชีวิตอยู่ต่อแล้วหรือถึงได้โจมตีมันตัวต่อตัวเช่นนี้ นั้นอันตรายอย่างยิ่ง
หมีแผงคอทองคำมองเฉินหู่ที่พุ่งมาที่มัน ดวงตาของมันร้อนรุ่มด้วยโทสะ และทันใดนั้นมันก็อ้าปากและพ่นเปลวเพลิงสีแดงออกมา
“บัดซบ มันมีแบบนี้ด้วย!”
เฉินหู่ก่นด่า เขาย่อตัวลงเพื่อหลีกหนีเปลวไฟลูกนั้น แต่ความร้อนแผดเผาก็ยังทำให้ร่างกายเขารู้สึกปวดแสบปวดร้อน
แต่หลังจากนั้น เขาก็เอามือแตะพื้นแล้วถีบตัวพุ่เข้าไปที่หมีแผงคอทองคำ!
ไม่รู้ตั้งแต่เมื่อไหร่ที่มีขวานปรากฏในมือของเขาและฟันเข้าไปที่หมีตัวนั้น!
เคร้ง!
ขวานร่วงลงกับพื้น แต่หมีแผงคอทองคำกลับไม่สะทกสะท้าน!
เฉินหุ่รู้สึกเหมือนขวานของเขาฟันเข้าทองคำที่แข็งมาก และทำให้ระหว่างนิ้วโป้งและนิ้วชี้ของเขาฉีกขาดและครึ่งท่อนแขนไร้ความรู้สึก
เขารู้ว่าสถานการณ์ไม่ดีแล้ว พลังร่างกายของเจ้าหมีตัวนี้แข็งแกร่งมากกว่าที่จินตนาการไว้
อย่างไรก็ตาม คราวนี้กลับทำให้หมีแผงคอทองคำหงุดหงิดโมโหจนถึงขีดสุด
มันส่งเสียงคำรามออกมา แรงอัดอันทรงพลังเกือบจะทำลายแก้วหูของเฉินหู่!
“โฮก!”
ในเวลาเดียวกัน ฝ่ามือใหญ่ของมันก็ตบไปที่ศีรษะของเขา!
หากโดนฝ่ามือนี้โจมตี จะต้องตายอย่างมิต้องสงสัย!
เฉินหู่หายใจเข้าลึกๆ วิ่งวนรอบต้นขาของหมีแผงคอทองคำและวิ่งไปข้างหลัง ในที่สุดก็สามารถหลีกหนีการโจมตีนี้ได้
ความเร็วและพลังของหมีแผงคอทองคำนั้นแข็งแกร่งมาก แต่ทำได้เฉพาะในการต่อสู้ระยะประชิดเท่านั้นที่ เฉินหู่จึงใช้จุดอ่อนข้อนี้ของมัน
ทว่าสถาการณ์เช่นนี้มิอาจถ่วงเวลาได้นานอีกต่อไป
หลังจากที่หมีแผงคอทองคำพยายามจับเขาสองครั้งแล้วล้มเหลว มันจึงยอมแพ้ทางด้านนี้ก่อนจะหันกลับมาพุ่งเป้าไปที่ฉู่หลิวเยว่
เพราะมันรู้สึกถึงความไม่ปลอดภัยจึงจำเป็นต้องเข้าไปขัดขวางฉู่หลิวเยว่
เฉินหู่กระโจนเข้าไปกอดต้นขาหมีแผงคอทองคำเอาไว้!
เพียงแค่มันสะบัดขา เฉินหู่ก็กระเด็นออกไปแล้วร่วงลงกับพื้นอย่างแรง!
พรวด!
อวัยวะภายในของเฉินหู่แทบจะแตกเป็นเสี่ยง! อาการบาดเจ็บใหม่เพิ่มเข้าไปในแผลเก่า ทำให้เขากระอักเลือดออกมาทันใด และลมหายใจของเขาก็ค่อยๆ แผ่วลงไป
แต่ในขณะที่มันเพิ่งก้าวข้าไปอีกก้าวก็มีคนปรี่เข้ามาอีกคน
ซึ่งก็คือมู่หงอวี๋
เวลานี้พลังของนางได้หมดลงอย่างสมบูรณ์ นางจึงทำได้เพียงใช้วิธีที่โง่เง่าและอันตรายที่สุดเหมือนที่เฉินหู่ทำ
“หลิวเยว่! เร็วเข้า!”
นางตะโกนเร่ง และลำคอของนางเต็มไปด้วยกลิ่นเลือดที่คละคลุ้ง!
ทันใดนั้นเอง ในที่สุดค่ายกลตรงหน้าฉู่หลิวเยว่ก็ขีดเส้นสุดท้ายสำเร็จ!
สีหน้าของนางซีดเผือดและร่างกายของนางสั่นเทาราวกับว่านางจะล้มลงเมื่อใดก็ได้ เพราะนางฝืนสร้างค่ายกลระดับที่สูงกว่าความแข็งแกร่งในปัจจุบันของนาง แต่แววตายังคงฉายแววมุ่งมั่นเช่นเคย
“กู้หมิงเฟิง! ช่วยหน่อย!”
ทันทีที่ฉู่หลิวเยว่เอ่ยปาก กู้หมิงเฟิงที่อยู่ข้างๆ ก็เริ่มลงมือทันทีด้วยการกดฝ่ามือของเขา ถ่ายเทพลัง กระแสพลังแข็งแกร่งก็ไหลเข้าสู่ค่ายกลทันที!
วูบ!
ทันใดนั้นค่ายกลก็เปล่งประกายเจิดจ้า!
ค่ายกลซึ่งเดิมมีขนาดเท่ากระดานหมากรุกก็ขยายตัวอย่างรวดเร็วหลังจากพลังของกู้หมิงเฟิงที่ถ่ายเทเข้าไป!
ฉู่หลิวเยว่จดจ้องพลังของสองคนที่กำลังหลอมรวมกันทีละน้อย!
ในเวลาอันสั้น ค่ายกลก็ได้ขยายไปถึงความสูงเท่ามนุษย์แล้ว!
แสงเจิดจ้าไหลเวียนซ่อนแรงที่อัดแน่น
ฉู่หลิวเยว่รู้สึกว่าพลังในร่างกายของนางดูเหมือนจะว่างเปล่า ร่างกายของนางอ่อนแรงลงและดวงตาของนางก็เปลี่ยนเป็นสีดำ
ท่ามกลางแสงสว่าง หมีแผงคอทองคำผลักมู่หงอวี๋ออกไปอย่างเหลืออด แล้วยกเท้าขึ้นตั้งใจจะเหยียบนางให้แหลก
เมื่อมันเหยียบลงไปจะเกิดแรงมหาศาล
มู่หงอวี๋นอนกองกับพื้น ร่างกายของนางเต็มไปด้วยเลือด และไม่มีแรงที่จะขยับตัวอีกแล้ว
นางมองดูอุ้งเท้าหมีตัวใหญ่ที่กำลังจะเหยียบย่ำนาง แล้วหลับตาลงด้วยความสิ้นหวัง
ฉู่หลิวเยว่กัดฟัน
“ไป!”
ตู้ม!
ค่ายกลระเบิดอย่างรุนแรงทันที!
ในทันทีทันใด ลำแสงจำนวนนับไม่ถ้วนพุ่งออกมาจากมัน ราวกับแม่น้ำที่ไหลเชี่ยว มุ่งตรงไปยังหมีแผงคอทองคำ!
แรงบีบอัดแผ่ไพศาลปกคลุมทุกสิ่งในทันที!
หมีแผงคอทองคำตระหนักได้ถึงอันตราย ความตื่นตระหนกปรากฏบนใบหน้าของมัน
พลังอันน่าสะพรึงกลัวนั้นได้โดนตัวมันแล้ว
ราวกับว่ารูปร่างที่ใหญ่โตของมันกำลังจมอยู่ใต้แม่น้ำที่ไหลเชี่ยว และทุกคนเห็นเพียงแค่เส้นสีเงินจำนวนนับไม่ถ้วนที่เกี่ยวพันอย่างต่อเนื่องเพื่อฆ่าหมีแผงคอทองคำนั่นให้ตาย!
เมื่อเห็นฉากนี้ ในที่สุดกู้หมิงจูก็อดไม่ได้ที่จะอุทานออกมา
“ค่ายกลแหล่งกำเนิดไม้ระดับสี่!?”
คิดไม่ถึงว่าฉู่หลิวเยว่จะสามารถสร้างค่ายกลระดับสี่ได้จริงๆ หรือ!