ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ - ตอนที่ 207 นางเป็นปรมาจารย์!
ตอนที่ 207 นางเป็นปรมาจารย์! [รีไรท์]
เงียบสนิทไปทั่วทั้งลานประลอง!
ไม่ว่าใครก็คาดไม่ถึงว่าการประลองระหว่างเจียงหยวนกับฉู่หลิวเยว่รอบนี้จะดำเนินมาไกลถึงขั้นนี้!
นึกไม่ถึงว่าฉู่หลิวเยว่ต้านพลังทั้งหมดของเจียงหยวนได้!
เมื่อสักครู่ที่ผ่านมาจะเห็นได้ว่าฉู่หลิวเยว่ตกเป็นรอง เพียงพริบตาเดียวสถานการณ์ก็ผลิกผันอย่างยิ่ง!
ฉู่หลิวเยว่ไม่เพียงแต่ไม่ตกรอบ นางถึงขนาดทำร้ายเจียงหยวนจนบาดเจ็บสาหัส!!
แม้อาการของนางเองไม่ถือว่าดีนัก แต่นางอาศัยแรงกำลังของตัวเองลากการประลองที่ห่างชั้นกันอย่างลิบลับกลายมาเป็นคู่ต่อสู้ที่มีฝีมือสูสีกันได้โดยไม่ทันตั้งตัว!
แม้จะเจ็บหนักกันทั้งสองฝ่าย แต่ฉู่หลิวเยว่ก็ยังนับว่าดีกว่า!
ทุกคนมองด้วยความตกตะลึงพรึงเพริด
ฉู่หลิวเยว่ที่เจ็บปวดไปทั่วทั้งร่างค่อยๆ หยัดกายลุกขึ้น กลืนเลือดทั้งหมดในลำคอแล้วเหลือบมองฝ่ามือตัวเอง
มือขวาที่ถือกริชถูกไอเย็นน้ำแข็งกัดจนเจ็บ และเนื่องจากเพิ่งใช้แรงกระตุกกริชเมื่อสักครู่นี้ ฝ่ามือที่แนบกับด้ามกริชก็เกิดการฉีกขาด ตอนนี้จึงมีเลือดปะปนอยู่ด้วย
เลือดแดงสดที่ข้นหนืดค่อยๆกลายเป็นผลึกน้ำแข็งอย่างช้าๆ ตกสู่พื้นแตกเป็นเสี่ยงๆทันทีเมื่อมีการขยับเบาๆ
ฉู่หลิวเยว่เงยหน้ามองไปข้างหน้า
ขณะนี้เจียงหยวนถอนหายใจอย่างเชื่องช้า พร้อมทั้งปะทะกับสายตาฉู่หลิวเยว่ ในใจลึกๆ อดไม่ได้ที่จะสั่นสะท้าน!
นัยน์ตาที่สว่างเจิดจ้าอยู่แต่เดิมลุกไหม้ไปด้วยไอสงครามที่บ้าคลั่งในขณะนี้!
บนตัวนางเต็มไปด้วยบาดแผล แต่เวลาเช่นนี้นางกลับไม่ใส่ใจสิ่งเหล่านี้เลยสักนิด นัยน์ตามีเพียงความคิดเดียว!
ชนะ!
ในใจเจียงหยวนรู้สึกถึงแรงถาโถม
เมื่อวานตอนที่นางต่อสู้กับเหลยหมิงเวยเขาก็เห็นชัดแล้ว
เดิมทีเขาคิดว่าตัวเองรู้จักนางดีพอ แต่กลับนึกไม่ถึงว่าเขาจะประเมินพลังจิตใจนางต่ำไป!
ยามที่น้ำแข็งนัยน์ตาปีศาจแหลกสลายไปเมื่อสักครู่ เกรงว่าจะทำให้ฉู่หลิวเยว่ที่อยู่ตรงนั้นได้รับแรงกระแทกจนปลิว ขณะนั้นเจียงหยวนเชื่อว่านางคงไม่มีทางบาดเจ็บน้อยไปกว่าตน!
มือขวาของนางถูกความเย็นกัดกิน เห็นได้ชัดว่าใช้การไม่ได้เช่นกัน
ทว่าสีหน้าของนางยังคงเด็ดเดี่ยวราวกับไม่รู้สึกเจ็บปวดแต่อย่างใด
นี่เป็นเพียงเด็กสาวอายุสิบสี่จริงน่ะหรือ ! ?
ความมุ่งมั่นในการต่อสู้อันแรงกล้าเช่นนี้ แม้แต่เขาเองก็ยังแอบตกใจ
“ยังจะต่อหรือไม่?”
เจียงหยวนถามโดยมองไปที่มือขวาของฉู่หลิวเยว่
ฉู่หลิวเยว่ยังคงมีสีหน้าไม่แปรเปลี่ยน นางเปลี่ยนกริชมาที่มือซ้ายแล้วจับแน่นๆ
“เหตุใดถึงไม่เล่า? ข้ายังไม่ชนะ แน่นอนว่าต้องสู้ต่อ!”
เจียงหยวนสูดหายใจเข้าลึกๆ
“ในเมื่อเป็นเช่นนี้…งั้นก็สู้กับข้าต่ออีกสักกระบวนท่า!”
ก่อนที่เสียงจะหายไป เขาก็โคจรพลังไปทั่วทั้งกาย!
กางฝ่ามือ พลังสีเขียวรวมกลุ่มเป็นหอกยาวอย่างรวดเร็ว!
หัวหอกปรากฏเป็นรูปเหลี่ยมเพรชอันแสนคมกริบ!
ต่อจากนั้นร่างของเขาก็หายวับพุ่งเข้าหาฉู่หลิวเยว่!
แววตาฉู่หลิวเยว่เย็นยะเยือกอย่างช้าๆ ฉายแววไอสังหารหนาวสะท้านกระดูก!
…….
ทางด้านสำนักเทียนลู่ ผู้คนยังไม่ทันหายใจคล่องคอก็เห็นเจียงหยวนออกกระบวนท่าแล้ว หัวใจกระเตื้องขึ้นอีกครั้ง
“แย่แล้ว ยิ่งนานยิ่งแกร่ง! ที่แท้เจียงหยวนถนัดเรื่องหอกหรือนี่? นั่นไม่เท่ากับว่าหลิวเยว่เสียเปรียบหรอกหรือ?”
มู่หงอวี๋อดพึมพำไม่ได้
เฉินหู่เบิกตาโพลงแล้วกล่าวว่า “ก็ไม่แน่หรอกกระมัง? หลิวเยว่ออกจะเก่งถึงเพียงนั้น!”
มู่หงอวี๋กระสับกระส่ายและเป็นกังวล
“แต่ตอนนี้นางได้รับบาดเจ็บนะ! แล้วตอนนี้ก็ใช้ได้แค่มือซ้ายเท่านั้น! เห็นๆ อยู่ว่าเจียงหยวนนั่นรับมือไม่ได้ง่ายๆ! หลิวเยว่งานหนักแล้ว!”
เฉินหู่ถามกลับ :
“หากเป็นเจ้า ตอนนี้จะยอมแพ้หรือไม่?”
มู่หงอวี๋สูดหายใจเข้าลึกๆ
นางไม่ยอมแพ้แน่นอน
ดังนั้นหลิวเยว่ยิ่งไม่
……
แกร๊ง!
ทั้งสองดวลกันตัวต่อตัว!
เมื่อหอกเจียงหยวนแทงมา ฉู่หลิวเยว่ก็โยกเอวโดยอาศัยกำลังเอวหลบเลี่ยงการโจมตี!
ต่อจากนั้นนางก็ใช้มือซ้ายแทงออกไป ฟันไปที่หอกยาวด้วยมุมพิลึกอย่างที่ไม่เคยพบเห็น!
หอกยาวนั้นทนทานเกินกว่าที่คิดไว้ ฉู่หลิวเยว่ยังคงโจมตีต่อไปแต่ก็ยังฟันไม่หักเสียที!
บนตัวหอกโค้งงอจนแปลกรูป จากนั้นก็เด้งกลับด้วยพลังมหาศาล!
ข้อมือฉู่หลิวเยว่สั่นเทา ถูกแยกออก ฝีเท้าเดินโซซัดโซเซถอยหลังไป!
เจียงหยวนตามมาติดๆ! เขาแทงตรงที่ไหล่ซ้ายของฉู่หลิวเยว่ทันที!
ตอนนี้มือขวาของนางใช้การไม่ได้แล้ว ตราบใดที่ทำให้ไหล่ซ้ายของนางหมดพลังโจมตี การประลองครั้งนี้ก็จบลงได้เสียที!
ฉู่หลิวเยว่ใช้กริชบังไว้ตรงหน้า!
ติ้ง!
เสียงฟาดฟันของอาวุธแสบถึงหู!
ฉู่หลิวเยว่กัดฟัน ยกแขนขึ้น กริชจู่โจมจากปลายหอกย้อนกลับไป! ขูดกับลำหอกอย่างรุนแรง!
เกิดเป็นประกายไฟกระจายไปทั่วทิศทาง!
เจียงหยวนตะลึงงัน
เมื่อคำนึงถึงความเร็วและความแข็งแกร่งจากการตอบโต้นี้ เห็นได้ชัดว่าฉู่หลิวเยว่เข้าใจวิธีการใช้หอกอย่างลึกซึ้ง
แต่นางกลับไม่แสดงตัวมาก่อน…
ฉู่หลิวเยว่ผู้นี้คมในฝักโดยแท้จริง!
“คาดไม่ถึงว่าเจ้าก็ศึกษาวิธีการใช้หอกนี้มามากทีเดียว แต่การประลองครั้งนี้ ข้าต้องเป็นผู้ชนะ!”
ระหว่างที่พูด เจียงหยวนก็ถ่ายเทพลังที่เหลือลงไปที่หอกยาว!
“ราชาแห่งหอก!”
หวืด!
หอกยาวด้ามนั้นสั่นสะท้านอย่างรุนแรง!
ครู่ต่อมาก็ปรากฏเงาหอกนับไม่ถ้วนรายล้อมรอบๆ!
ฉู่หลิวเยว่ครั่นคร้ามใจ!
นี่ถึงจะเป็นท่าไม้ตายที่แท้จริงของเจียงหยวน!
เมื่อครู่นี้นางยังสามารถรับมือกับน้ำแข็งนัยน์ตาปีศาจได้อย่างปราดเปรียว ทว่าคราวนี้กลับอันตรายแล้ว!
เพราะเงาหอกเหล่านี้ไม่ใช่ภาพลวง!
พวกมันล้วนกลายสภาพมาจากพลังภายในของเจียงหยวนอย่างน่าอัศจรรย์ใจ!
ที่สำคัญก็คือพลังที่อยู่ในเงาหอกเหล่านั้นไม่ได้ด้อยไปกว่าพลังที่อยู่ในหอกด้ามที่เขาจับเลย!
“ไป!”
เจียงหยวนตะโกนลั่น ฟาดหอกยาวในมือออกไป!
ในเวลาเดียวกัน เงาหอกที่รายล้อมอยู่รอบๆเหล่านั้นก็พุ่งปรี่มาที่ฉู่หลิวเยว่อย่างรวดเร็ว!
เพียงอึดใจเดียว ฉู่หลิวเยว่ก็ถูกล้อมในท้ายที่สุด!
……..
ฝูอวิ๋นซานพยักหน้าด้วยความพึงพอใจ
“พลังเจียงหยวนพัฒนาขึ้นมาก บัดนี้เขาสามารถเรียกเงาหอกพร้อมกันถึงหกด้ามได้แล้ว แม้จะได้รับบาดเจ็บ พละกำลังลดลง แต่ก็เพียงพอที่จะรับมือกับฉู่หลิวเยว่ได้”
เขาคาดหวังในตัวเจียงหยวนมาโดยตลอด ตอนนี้ดูแล้วเจียงหยวนยังคงไม่ทำให้ผิดหวัง
เมื่อได้ยินฝูอวิ๋นซานกล่าวเช่นนี้ คนของสำนักหนานเฟิงจึงพากันถอนหายใจด้วยความโล่งอก เผยสีหน้ายินดี
“เจียงหยวนเพิ่งเป็นแค่ผู้ฝึกยุทธ์ระดับกลางขั้นสี่ก็มีฝีมือถึงขั้นนี้แล้ว ถ้าหากพัฒนาฝีมือเต็มที่ เกรงว่าพละกำลังของเขาคงเทียบได้กับผู้ฝึกยุทธ์ระดับสุดยอดขั้นสี่!”
“ฉู่หลิวเยว่ผู้นั้นก็รับมือได้ยากจริงๆ…แต่เมื่อเผชิญหน้ากับเจียงหยวนก็ยังไม่ดีพอ”
“อันที่จริงข้าก็รู้สึกว่านางไม่ได้เก่งกาจอะไรถึงเพียงนั้น เพียงแค่อาศัยกริชเล่มนั้นเอง! ตอนนี้เจียงหยวนแสดงพลังทั้งหมดที่มี นางย่อมไม่ใช่คู่ต่อสู้เขาแล้ว! เงาหอกหกเงานี้ นางจะจัดการได้อย่างไร…”
คนที่พูดราวกับมีบางอย่างติดอยู่ในลำคอ มองไปที่ฉากการต่อสู้ด้วยความตกตะลึงพรึงเพริด
“เป็นอะไรไปเสียแล้วล่ะ? เห็นสิ่งใด…”
คนข้างๆ ที่กำลังฟังด้วยความสนอกสนใจเห็นสีหน้าเขาเป็นเช่นนี้ก็เงยหน้ามองไปอย่างไม่สบอารมณ์
ทันทีที่เห็นก็ถึงกับตกตะลึง!
บนลานประลองเห็นเพียงเงาหอกทั้งหกที่กำลังห่อหุ้มฉู่หลิวเยว่หยุดนิ่งไปโดยพลัน!
พวกมันหยุดอยู่ตรงหน้าฉู่หลิวเยว่โดยห่างออกไปเพียงครึ่งศอก!
ตราบใดที่เดินหน้าอีกนิดก็สามารถแทงฉู่หลิวเยว่ได้อย่างง่ายดาย!
ทว่า…ด้านหน้าฉู่หลิวเยว่กลับเหมือนมีปราการล่องหนปิดกั้นพวกมันไว้ด้านนอก!
“นี่มัน คือค่ายกล!
ไม่รู้ว่าใครตะโกนขึ้นมา
ทุกคนที่ได้ยินต่างก็มองด้วยความตั้งใจ พวกเขาเห็นว่ามีลำแสงสีเงินผสานอยู่รอบตัวฉู่หลิวเยว่ไม่ขาดสาย ก่อตัวเป็นปราการขนาดใหญ่โดยกั้นพลังการโจมตีทั้งหมดไว้ภายนอก
“นางเป็นปรมาจารย์!”