CatNovel
  • หน้าหลัก
  • นิยายทั้งหมด
Advanced
  • หน้าหลัก
  • นิยายทั้งหมด
  • โดจิน
  • นิยายทั้งหมด
  • จบแล้ว
  • นิยายวาย Yaoi
ตอนก่อน
ตอนต่อไป
สล็อตเว็บตรง

ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ - ตอนที่ 220 ระดับของนาง

  1. Home
  2. ยอดหญิงลิขิตสวรรค์
  3. ตอนที่ 220 ระดับของนาง
ตอนก่อน
ตอนต่อไป

ตอนที่ 220 ระดับของนาง? [รีไรท์]

ฉู่หลิวเยว่ตระหนักว่ามีบางอย่างผิดปกติในตำแหน่งตันเถียนของนาง หลังจากที่ซือถูจื่อเยว่ใช้ดาบหลิงเซียวเพื่อแยกค่ายกล

นางไม่รู้สึกอะไรเลยในขณะนั้น แต่หลังจากถูกกลืนกินด้วยพลังของค่ายกลผลึกดำ หยดน้ำในตันเถียนของนางดูเหมือนจะถูกกระตุ้นโดยบางสิ่งบางอย่าง และมันก็หมุนอย่างรวดเร็ว!

ในชั่วพริบตา พลังดั้งเดิมที่เก็บไว้ในตันเถียนก็ถูกกลืนหายไป!

และดูทีท่าว่ามันจะไม่หยุด จากนั้นนางก็ตระหนักว่า…นางกำลังจะก้าวข้าม!

ในช่วงเวลาตึงเครียดของการประลองกับซือถูจื่อเยว่ ก่อนหน้านี้ นางรออย่างใจจดใจจ่อ พยายามอย่างหนักเพื่อก้าวข้ามไปเป็นผู้ฝึกยุทธ์ระดับสอง แต่ไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆ

ใครเล่าจะรู้ว่าจะเป็นในเวลานี้…

ฉู่หลิวเยว่เองรู้สึกว่ามันเป็นเรื่องที่พูดยาก โอกาสเช่นนี้ช่างหายากเสียจริง…

แต่โชคยังดีที่มีพรมแดนไวฑูรยะเหลืออยู่จากหรงซิว สามารถช่วยสนับสนุนนางได้ชั่วขณะหนึ่ง

มิฉะนั้นนางจะต้องยอมรับความพ่ายแพ้นั้นจริงๆ

หลังจากกำจัดความคิดที่ฟุ้งซ่านในหัวของนางแล้ว ฉู่หลิวเยว่ก็หลับตาและเริ่มดูดซับพลังงานของสวรรค์และโลกโดยรอบ นางพยายามเจาะข่ายพลัง!

ในไม่ช้า พลังต้นกำเนิดอันอุดมสมบูรณ์ของสวรรค์และโลกก็พุ่งเข้าหานาง เทเข้าในร่างของนางผ่านอาณาเขตพรมแดนไวฑูรยะ

…

เมื่อมองดูสิ่งที่เกิดขึ้นตอนนี้ ก่อให้เกิดความสงบทั้งภายในและภายนอกของสนามประลอง

บางคนถึงกับขยี้ตาอย่างแรงเพื่อให้แน่ใจว่าตาสิ่งที่มองเห็นตรงหน้าคือเรื่องจริง

ฉู่หลิวเยว่…นางพยายามก้าวข้ามผ่านตันเถียนกลางการประลองงานสมาคมเยาวชน!

นี่…นี่มันเรื่องอันใดกันเนี่ย?

ซือถูจื่อเยว่ทั้งรู้สึกอับอายและโกรธ การเคลื่อนไหวของฉู่หลิวเยว่ราวกับว่าไม่สนใจเขาเลยสักนิด

เขาสะบัดดาบอีกครั้งเพื่อโจมตี แต่พรมแดนไวฑูรยะนี้แข็งแรงนัก จนไม่สามารถทำลายได้เลย และฉู่หลิวเยว่ที่นั่งอยู่ภายใน นิ่งเฉยราวกับหินที่จดจ่อกับการเตรียมพร้อมที่จะก้าวข้ามเท่านั้น

ซือถูจื่อเยว่รู้สึกว่าเขาอับอายอย่างมาก!

เขากำด้ามดาบแน่น เพียงแค่แยกพรมแดนไวฑูรยะออกก็สามารถกำจัดฉู่หลิวเยว่ได้แล้ว แต่เผอิญว่าการแก้สถานการณ์ของฉู่หลิวเยว่นั้นสมบูรณ์แบบ!

…

เฉิงหันที่ได้เห็นสถานการณ์เช่นนี้ก็รู้สึกทนไม่ได้

“ท่านซุนจ้งเหยียน ฉู่หลิวเยว่นางทำเช่นนี้มันมากเกินไปหรือไม่ สิ่งที่นางทำนั่นหมายถึงการดูหมิ่นจื่อเยว่และงานสมาคมเยาวชน!”

ซุนจ้งเหยียนเองก็ตกตะลึกกับท่าทีของฉู่หลิวเยว่

แต่สุดท้ายแล้วฉู่หลิวเยว่นางเป็นคนของเขา จึงหันไปหาเฉิงหันพลางกล่าวว่า

“หลิวเยว่เพียงแค่พยายามก้าวข้ามระดับของนาง มันไม่ใช่การโกงหรือการกระทำที่ผิดต่อการประลอง คำกล่าวของท่านมิเกินไปหน่อยหรือ”

“ข้ามิได้คิดเกินไป!”

เฉิงหันยกมือขึ้นชี้ไปที่ฉู่หลิวเยว่ที่อยู่ในสนามนั้น ด้วยใบหน้าที่เคร่งขรึม

“งานสมาคมเยาวชนเป็นสถานที่สำหรับการประลองไม่ใช่ที่สำหรับฝึกซ้อม หากนางไม่ได้ตั้งใจจะดูหมิ่น เหตุใดจึงไม่ทำก่อนหน้า แต่กลับเลือกทำเวลานี้ ใครจะไปรู้ว่าต้องใช้เวลานานแค่ไหนกว่านางจะก้าวข้ามผ่าน ข้าคิดว่าการประลองนี้มิจำเป็นต้องทำต่อ!”

“ทุกสถานการณ์ต่างเกิดกระบวนการฝึกฝน มิต้องพูดถึงแม่นางผู้นี้ แม้แต่ชายชราอย่างข้าก็ไม่สามารถควบคุมเวลาของความก้าวหน้าของตนเองได้ เช่นนั้นจะถือว่าผิดได้อย่างไร นอกจากนี้ หลิวเยว่ยังสามารถใช้โอกาสนี้ในการบำรุง มิใช่การสูญเสียใช่หรือไม่ หากจบการประลองนี้ลง แล้วการชนะหรือแพ้นั้นจะนับอย่างไร”

“แน่นอนว่าฉู่หลิวเยว่นั้นแพ้!”

“นี่…นางไม่เคยแพ้มาก่อน เหตุใดนางต้องยอมรับความพ่ายแพ้นี้ ยิ่งไปกว่านั้นหลังจากก้าวข้ามผ่านไปแล้ว ผลลัพธ์ของเกมนี้จะเป็นอย่างไร บางทีมันอาจจะเป็นอีกเรื่องหนึ่งไปเลย! อย่างน้อยก็ต้องเป็นการเสมอกัน!”

เฉิงหันกัดฟันกรอด ทำได้เพียงกร่นด่าภายในใจ ซุนจ้งเหยียนชายชราผู้นี้ไร้ยางอาย!

เสมอหรอกหรือ แค่พลังก้าวข้ามผ่านของฉู่หลิวเยว่ก็สมควรที่จะเสมอกับซือถูจื่อเยว่งั้นหรือ

ซุนจ้งเหยียนถามด้วยรอยยิ้มว่า

“เหตุใดท่านเฉิงหันถึงกังวลว่าหลังจากหลิวเยว่ก้าวข้ามผ่านไปได้ แล้วนางจะชนะเกมนี้”

เฉิงหันแสดงท่าทีเย้ยหยัน “เจ้าเป็นคนมองโลกในแง่ดีเกี่ยวกับนางเสียจริง!”

ชนะงั้นหรือ ฉู่หลิวเยว่นางยังต้องมีทักษะมากกว่านั้น

ทันใดนั้นซือถูจื่อเยว่ก็เอ่ยขึ้นมาว่า “เนื่องจากการประลองนี้ยังไม่จบ ข้าจะรอ!”

เขาต้องการที่จะดูว่าพลังของฉู่หลิวเยว่ว่าสามารถพัฒนาได้มากเพียงไหนหลังจากการก้าวข้ามครั้งใหญ่นี้!

ยิ่งซือถูจื่อเยว่กล่าวมาเช่นนั้น คนอื่นๆ ก็ไม่คัดค้านอีกต่อไป ดังนั้นพวกเขาทั้งหมดจึงเงียบลง

…

เวลาผ่านไปราวหนึ่งเค่อ

เฉิงหันค่อยๆ หมดความอดทน เขาเหลือบมองพรมแดนไวฑูรยะที่ปกคลุมตัวของฉู่หลิวเยว่อีกครั้ง

“ฉู่หลิวเยว่ผู้นี้ซ่อนอะไรไว้เยอะเสียจริง ทั้งยังมีของล้ำค่าแบบนี้อยู่ข้างตัว ไม่แปลกใจเลยที่ก่อนหน้านี้นางช่างหยิ่งผยองนัก หากลองคิดดูที่นางสามารถหลีกเลี่ยงดัชนีเปลวเพลิงน้ำแข็งของซือถูจื่อเยว่ได้อย่างปลอดภัยก็ด้วยเหตุนี้เอง”

ในประโยคที่เอ่ยออกมานั้นที่แสดงถึงอาการที่ค่อนข้างไม่พอใจเพราะพรมแดนไวฑูรยะนี้ล้ำค่ามาก แม้กระทั่งเขาก็ยังหาที่ไหนไม่ได้ ตัวตนของฉู่หลิวเยว่ไม่ได้สูงส่ง แต่กลับมีของดีมากมายในตัวนาง

“ข้าไม่รู้ว่าเจ้าได้สิ่งนี้มาจากไหน หรือเจ้าใช้วิธีการใดในการเก็บมันไว้…”

ซือถูซิงเฉินที่ฟังอยู่ข้างๆ โดยไม่ได้พูด แต่นางรู้สึกอึดอัดใจอย่างมาก นี่คือสิ่งที่นางเห็นเพียงคนเดียวเท่านั้น ยิ่งไปกว่านั้น ถ้านางจำไม่ผิดพรมแดนไวฑูรยะนี้ ชัดเจนว่าต้องเป็นของคนผู้นั้น มิฉะนั้นแม้แต่ลายเส้นเล็กๆ ที่สลักไว้บนนั้นก็คงไม่เหมือนกันทุกประการเช่นนี้ ฉู่หลิวเยว่มีสิ่งล้ำค่าเช่นนี้ได้อย่างไร แน่นอนว่าคนผู้นั้นต้องให้นางมา

อย่างไรก็ตาม ความสัมพันธ์ระหว่างคนผู้นั้นกับฉู่หลิวเยว่คืออันใดกัน เหตุใดเขาถึงมอบพรมแดนไวฑูรยะให้นาง ซือถูซิงเฉินคิดไม่ออกว่าในตัวของฉู่หลิวเยว่มีสิ่งใดที่สามารถแลกเปลี่ยนกับสิ่งนั้นได้ ถ้าตามลักษณะนิสัยของคนผู้นั้น ถ้าเขาไม่ยอม ใครเล่าจะสามารถเอาของของเขาไปได้

เมื่อนึกถึงเรื่องนี้ ภายในใจของซือถูซิงเฉินเหมือนกับถูกขีดข่วนโดยบางสิ่งบางอย่าง ซึ่งนั่นทำให้นางรู้สึกอึดอัดใจ นางอยู่ในเมืองหลวงมาเป็นเวลาหลายวันแล้วยังไม่เคยได้เห็นแม้แต่เงาของคนผู้นั้น เพื่อหลีกเลี่ยงความสงสัยของตนเอง นางจึงไม่ได้ส่งใครไปถามถึงเรื่องนี้

แต่ตอนนี้นางจะนั่งนิ่งเฉยเช่นนี้ต่อไปไม่ได้แล้ว

…

ฉู่หลิวเยว่นางขจัดเสียงทั้งหมดรอบๆ ตัวของนาง ตั้งสมาธิ และเริ่มเตรียมการสำหรับการก้าวข้ามตันเถียน

แต่นางกลับค้นพบว่านางไม่ต้องทำอะไรมาก หยดน้ำในจุดตันเถียนหมุนอย่างรวดเร็ว คลื่นลูกหนึ่งกระจายไปข้างบนโดยมีเส้นที่ลากอยู่บนนั้นที่ลอยไปพร้อมกับมันด้วย

พลังแห่งสวรรค์และโลกที่ล้อมรอบยังคงหลั่งไหลเข้ามา ไหลเข้าสู่ตันเถียนตามแขนขาและกระดูก และในที่สุดก็กลืนกินโดยหยดน้ำนั้น

การเคลื่อนไหวของคลื่นเริ่มใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ หัวใจของฉู่หลิวเยว่เกิดความประหม่าโดยไม่รู้ตัว สิ่งที่นางไม่รู้ก็คือการเคลื่อนไหวนี้ กระแสน้ำวนได้ปรากฏขึ้นเหนือศีรษะของนาง

ฝูงชนที่เฝ้าดูยังรู้สึกถึงความผันผวนของพลังรอบตัวนางได้อย่างชัดเจน บางคนถึงกับเริ่มกระซิบ

‘ฉู่หลิวเยว่เคยเป็นผู้ฝึกยุทธ์ระดับหนึ่งมาก่อนไม่ใช่หรือ? แม้ว่ามันจะเป็นการก้าวข้าม แต่ก็ต้องเป็นผู้ฝึกยุทธ์ระดับสองใช่หรือไม่ แต่ความผันผวนนี้…เหตุใดมันถึงใหญ่ขนาดนี้’

‘เจ้าก็รู้สึกเช่นกันหรอกหรือ ข้ายังคิดว่าเมื่อตอนข้าฝ่าฟันเพื่อก้าวข้ามผู้ฝึกยุทธ์ระดับสามก็ไม่มีการเคลื่อนไหวดังเช่นนั้น อย่างไรก็ตามนางแข็งแกร่งอยู่แล้ว ดังนั้นจึงดูเหมือนเป็นเรื่องปกติใช่หรือไม่…’

ไป๋เชินเหลือบมองซุนจ้งเหยียนแล้วถามด้วยเสียงเบาว่า “ผู้อาวุโสซุน ท่านคิดเห็นอย่างไร?”

สีหน้าของซุนจ้งเหยียนเคร่งขรึมขึ้นเล็กน้อย

“การเคลื่อนไหวนี้ไม่ธรรมดาจริงๆ ผู้ฝึกทั่วไปจะสร้างกระแสน้ำวนนั้นได้ก็ต่อเมื่อจะก้าวข้ามเป็นผู้ฝึกยุทธ์ระดับสี่…”

ไป๋เชินรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย

“ท่านหมายถึง…นางอาจจะสามารถก้าวข้ามอย่างต่อเนื่องไประดับสี่หรอกหรือ” ซุนจ้งเหยียนส่ายหัว

“มิน่าจะเป็นไปได้ การก้าวข้ามอย่างต่อเนื่องยังไม่เคยเกิดขึ้น สิ่งที่เคยได้ยินก็เป็นเพียงข่าวลือ ซึ่งในความเป็นจริงผู้ฝึกทั่วไปไม่สามารถทําได้ อย่างไรก็ตามที่นางเป็นแบบนี้อาจจะด้วยเหตุผลอื่น…”

“มันคืออันใดกัน?”

ซุนจ้งเหยียนเม้มริมฝีปากของเขา

เมื่อมองไปที่ฉู่หลิวเยว่ในสนาม ความคิดที่คลุมเครือก็แวบเข้ามาในหัวอย่างรวดเร็ว แต่เพราะความคิดนั้นช่างน่าตกใจมากเสียจนเขาไม่แน่ใจในชั่วขณะหนึ่ง

หลังจากนั้นไม่นาน ในที่สุดเขาก็มองไปที่ไป๋เชินอย่างจริงจัง

“เมื่อครั้งแม่นางผู้นี้เข้าเรียนในสำนักคราแรก ระดับชีพจรดั้งเดิมที่ทดสอบคืออันใด?”

ไป๋เชินตกตะลึงครู่หนึ่ง แล้วเอ่ยขึ้น

“ระดับชีพจรดั้งเดิม? นางไม่ได้ทดสอบมัน เนื่องจากเป็นการรับเข้าเรียนครึ่งทาง และการเตรียมตัวสำหรับการสอบไม่เพียงพอ การทดสอบนั้นจึงไม่ได้ดำเนินการ”

เมื่อได้รับฟังประโยคหลัง เขาก็รู้สึกผิดเล็กน้อย

อันที่จริงไม่ใช่เพราะเขาไม่เตรียมการเพียงพอ แต่ในตอนนั้นเขาคิดว่าฉู่หลิวเยว่จะไม่สามารถผ่านการทดสอบได้ ดังนั้นเขาจึงไม่ได้เตรียมการสำหรับสิ่งนี้เลย

ซุนจ้งเหยียนรับรู้ผ่านความคิดของเขาได้อย่างรวดเร็ว แม้เขาจะไม่ได้เปิดเผยมันก็ตาม

ในความเป็นจริงแล้วไม่เพียงแต่ไป๋เชิน แต่ทุกคนต่างก็คิดเช่นนั้น ใครจะเดาได้ว่าเพียงไม่กี่เดือนต่อมา ฉู่หลิวเยว่ก็กลายเป็นบุคคลดีเด่นในสำนักของพวกเขา

“เช่นนั้นท่านคิดว่ามีบางอย่างผิดปกติที่ชีพจรดั้งเดิมของนาง…”

ไป๋เฉินกล่าวขึ้น ทันใดนั้นก็ตระหนักถึงบางสิ่งบางอย่าง และดวงตาของเขาเบิกกว้างด้วยความตกใจ

“รอสักครู่”

ผู้อาวุโสซุนเพียงแค่ถามถึงระดับชีพจรดั้งเดิมของฉู่หลิวเยว่ เป็นไปได้หรือไม่ ว่าผู้อาวุโสซุนกำลังสงสัยว่าชีพจรของฉู่หลิวเยว่คือ…ชีพจรตี้จิง!

“เป็นไปไม่ได้!” ไป๋เชินอดไม่ได้ที่จะพึมพำออกมา แคว้นเย่าเฉินในช่วงร้อยปีที่ผ่านมาไม่มีชีพจรตี้จิงแม้แต่เส้นเดียว!

แววตาของซุนจ้งเหยียนที่สื่อออกมานิ่งงัน แต่หัวใจของเขาเต้นรัวเร็วอย่างควบคุมไม่ได้

“หากไม่มีการทดสอบก็ไม่มีใครสามารถบอกได้” เขาไม่ได้คิดเกี่ยวกับเรื่องนี้เลย แต่เมื่อความคิดนี้ผุดขึ้นมาก็ไม่สามารถระงับได้ ด้วยเหตุนี้เท่านั้นที่สามารถอธิบายได้ว่าเหตุใดฉู่หลิวเยว่ฟื้นชีพจรดั้งเดิมของนาง และก้าวเข้าสู่การฝึกฝนได้อย่างรวดเร็วเช่นนี้!

มิฉะนั้น นางคงไม่สามารถพึ่งพาระดับของผู้ฝึกยุทธ์ระดับหนึ่งแล้วชนะการประลองแบบก้าวกระโดดได้อย่างต่อเนื่อง ในขณะที่ความคิดของเขาอยู่ในความโกลาหล ความผันผวนในสนามประลองก็เกิดขึ้นอย่างกะทันหัน

ฉู่หลิวเยว่ก้าวข้าม!

ตอนก่อน
ตอนต่อไป

ความคิดเห็นทั้งหมดของ "ตอนที่ 220 ระดับของนาง"

ใส่ความเห็น ยกเลิกการตอบ

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

*

*

  • อ่านนิยาย
  • แทงหวย24

© 2020 cat-novel.com
เว็บอ่านนิยาย นิยาย pdf เว็บ “cat-novel.com” เว็บอ่านนิยายสนุกๆ เพลิดเพลินไปกับนิยายต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น นิยายวาย, นิยายจีน, นิยายรัก, แฟนตาซี, กำลังภายใน, ผจญภัย สุดยอดวิชากำลังภายใน อัพเดททุกวัน พร้อมรองรับการอ่านบนมือถือ คอมพิวเตอร์ ไอแพด หรือแท็บเล็ต อ่านได้ตลอดเวลา ไม่มีโฆษณา อ่านนิยายฟรีต้อง เว็บ ”cat-novel.com”
นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์