ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ - ตอนที่ 234 ใต้ทะเลสาป
ตอนที่ 234 ใต้ทะเลสาป [รีไรท์]
“เขาอยู่แห่งใดกัน” ฉู่หลิวเยว่เอ่ยถามขึ้น
เสวี่ยเสวี่ยคร่ำครวญ และเอนตัวลง ฉู่หลิวเยว่รู้ทันทีว่าเสวี่ยเสวี่ยจะไปกับนาง
แต่อาการบาดเจ็บของ…เสวี่ยเสวี่ยส่ายหน้าแล้วมองขึ้นไปทีนาง
ฉู่หลิวเยว่ก็เข้าใจได้ทันที จากนั้นก็หยิบยาสมุนไพรจากถุงเฉียนคุน
“นี่คือหญ้าชุบวิญญาณมันสามารถหยุดเลือดไหล และรักษาบาดแผลได้เจ้าควรใช้ก่อน”
เมื่อพูดเสร็จ ฉู่หลิวเยว่ก็ทุบสมุนไพรอย่างรวดเร็วแล้วทาลงบนบาดแผลของเสวี่ยเสวี่ย นางรู้สึกโล่งใจหลังจากที่เห็นบาดแผลนั้นทุเลาลง จากนั้นจึงขึ้นไปนั่งบนหลังของเสวี่ยเสวี่ย
เขาหันไปมองด้วยด้านหลังก็พบว่าถวนจื่อเดินตามมาด้วย
“ไป!”
ฉู่หลิวเยว่แตะที่ศีรษะเสวี่ยเสวี่ยเบาๆ เสวี่ยเสวี่ยก็กระโดดออกจากหน้าต่าง
ในความมืดมิดยามราตรีร่างของแม่นางคนหนึ่ง และสัตว์อีกสองตัวกำลังรีบวิ่งออกไปข้างนอก เมื่อผ่านเขตแดนของสำนัก ฉู่หลิวเยว่มีความรู้สึกกังวลเล็กน้อยแต่เสวี่ยเสวี่ยดูเหมือนจะไม่สนใจ
เมื่อเข้าใกล้อาณาเขต แสงสีเงินก็กระจายออกมาจากร่างกายของเสวี่ยเสวี่ยอย่างกะทันหัน ปกคลุมไปถึงร่างของฉู่หลิวเยว่ที่นั่งอยู่บนหลังของมัน นางรู้สึกได้ทันทีว่าลมหายใจของนางถูกแยกออก และนางไม่สามารถออกจากมนต์สะกดนี้ได้
แต่ทว่าเพียงชั่วพริบตาฉู่หลิวเยว่ก็ออกจากสำนักไป มุ่งหน้าไปทางตะวันตกเหลือบมองกลับไปยังสำนักเทียนลู่ที่จากมา เงาของสำนักเทียนลู่ก็ค่อยๆ เล็กลง และหายไปในที่สุด
…
ฉู่หลิวเยว่หันกลับมายังเบื้องหน้าอีกครั้งนางคิดว่าแม้ว่าเสวี่ยเสวี่ยจะได้รับบาดเจ็บ แต่ความเร็วของมันก็ยังเร็วมาก แน่นอนว่ามันเป็นสัตว์อสูรระดับสูงถึงแม้จะบาดเจ็บ แต่พลังต่อสู้ของมันก็ยังคงแข็งแกร่งมากอย่างใดก็ตาม นางไม่รู้ว่าหรงซิวพบเจอเหตุการณ์อันใดถึงขนาดที่เสวี่ยเสวี่ยก็ได้รับบาดเจ็บ…
ในเมืองหลวงหรือทั่วทั้งแคว้นเย่าเฉิน ดูเหมือนว่าจะไม่มีสัตว์อสูรใดที่สามารถประลองกับเสวี่ยเสวี่ยได้ สำหรับหรงซิว พลังของเขานั้นลึกลับยิ่งกว่าเดิม ฉู่หลิวเยว่ไม่รู้ว่าหรงซิวได้พบเจอใคร…
ในเวลานี้ฉู่หลิวเยว่ไม่ได้คิดถึงเรื่องอื่น ถ้าหรงซิวไม่สามารถแก้ปัญหาได้ พลังในปัจจุบันของนางคงไม่ช่วยอันใดเขาได้เช่นกัน
ทั้งหมดที่นางต้องการคือความเร็วที่ต้องการจะพบเขาให้เร็วขึ้น นางไม่อาจคาดคิดได้ว่าเกิดอันใดขึ้นกับหรงซิว ทำให้นางกระวนกระวายใจเป็นอย่างมาก
…
ในไม่ช้าฉู่หลิวเยว่ก็พบว่าเสวี่ยเสวี่ยพานางออกจากประตูเมืองหลวง ท่าทีของนางเริ่มจริงจังมากขึ้น ก่อนหน้านี้หรงซิวเอ่ยบอกนางเพียงแค่ว่าเขาจะไม่อยู่สักพักหนึ่ง และนางไม่ได้ถามอย่างละเอียดว่าเขากำลังจะที่แห่งใด
เมื่อมองดูตอนนี้ข้างนอกเมืองหลวง…เสวี่ยเสวี่ยกำลังไปทางภูเขานอกเมืองหลวง
ฉู่หลิวเยว่ค่อยๆ ใช้ประโยชน์จากแสงจันทร์มองไปยังทางที่เสวี่ยเสวี่ยกำลังพามา นางเริ่มรู้สึกว่าสถานที่ตรงหน้าค่อนข้างคุ้นเคย
ป่าแห่งนี้ดูเหมือนว่าจะเป็นสถานที่ฉู่หลิวเยว่กลับมาเกิดใหม่
นั่นคือป่าภูเขาที่เจ้าของร่างเดิมถูกนำตัวออกจากเมืองเพื่อลอบสังหาร หลังจากข้ามป่าทึบในเสวี่ยเสวี่ยก็บินลงด้านล่าง
มันบินไปสักพักก็ร่อนลงบนพื้นดิน หลังนั้นมันก็หยุดนิ่ง ฉู่หลิวเยว่มองไปโดยรอบอย่าง ละเอียดภาพตรงหน้านางที่ปรากฏคือทะเลสาบมีแสงจันทร์กระทบเป็นประกายระยิบระยับ
ในเวลานี้แสงจันทร์กำลังพอดี และมีชั้นของควันสีขาวบางเบาปกคลุมทะเลสาบทำให้ดูสงบ
ที่นี่คือ…สถานที่ที่นางพบหรงซิวเป็นครั้งแรก
“เสวี่ยเสวี่ย เหตุใดเจ้าถึงพาข้ามาที่นี่” ฉู่หลิวเยว่ลงจากหลังของเสวี่ยเสวี่ย นางมองไปรอบๆ อย่างรวดเร็ว แต่นางไม่เห็นร่างของหรงซิว
“แล้วเจ้านายของเจ้าล่ะ”
เสวี่ยเสวี่ยคร่ำครวญพลางเดินไปที่ทะเลสาบแล้วหยุดที่ริมทะเลสาบ เมื่อมองไปที่ทะเลสาบ มันก็ดูกังวลเล็กน้อย
ฉู่หลิวเยว่จ้องมองอย่างว่างเปล่าครู่หนึ่งจากนั้นก็ต้องตกตะลึง
“เจ้าหมายถึงหรงซิวอยู่ในทะเลสาบนี้เช่นนั้นหรือ?” เสวี่ยเสวี่ยพยักหน้าแล้วอุ้งเท้าของมันกระทบพื้นอย่างบ้าคลั่งอีกครั้ง
ฉู่หลิวเยว่ขมวดคิ้วเล็กน้อยหรงซิวต้องอยู่ที่นี่แน่…
แต่ตอนนี้เสวี่ยเสวี่ยบอกว่าหรงซิวอยู่ใต้ทะเลสาบนี้ที่ดูสงบแต่กลับมีพลังมหาศาล และแข็งแกร่งมองจากด้านบนถึงรู้ว่าแตกต่างจากทะเลสาบทั่วไป
ฉู่หลิวเยว่เดินไปใกล้ทะเลสาบด้วยความลังเล
“เขา…อยู่ด้านล่างนี้” ทันใดนั้น นางก็หรี่ตาลงเมื่อหมอกสีขาวค่อยๆ จางหายไป ดูเหมือนว่าจะมีริ้วสีเงินอยู่ใต้ผิวน้ำใส
หัวใจของนางเต้นผิดจังหวะ นางมองไปข้างหน้าทันทีใต้ทะเลสาบไกลๆ ก็มีแบบเดียวกัน
ถ้าไม่เข้าไปใกล้ๆ ก็จะไม่สังเกตเห็นความผิดปกตินี้ ฉู่หลิวเยว่จ้องมองไปที่ทะเลสาบแล้วค่อยๆ เบิกตากว้าง พื้นผิวของลำแสงที่พันกันดูคล้ายกันมาก…
“ค่ายกลเคลื่อนย้าย!”
ฉู่หลิวเยว่อุทานออกมาด้วยความตกใจ นางไม่เคยคิดเลยว่าจะเจอค่ายกลเคลื่อนย้ายอยู่ใต้ทะเลสาบแห่งนี้ ยิ่งไปกว่านั้นถ้านางจำไม่ผิดระดับของค่ายกลเคลื่อนย้ายระสูง เมื่อมองไปที่ลำแสงที่ทับซ้อนกันด้านล่าง ฉู่หลิวเยว่รู้สึกได้ถึงความยากที่จะแก้ค่ายกลเคลื่อนย้ายอันนี้
ฉู่หลิวเยว่ไม่นึกเลยว่าหรงซิวอยู่ที่นี่จริงๆ แล้วเขาก็ซ่อนตัวอยู่ในค่ายกลเคลื่อนย้าย นางประเมินหรงซิวต่ำเกินไป
ค่ายกลเคลื่อนย้ายต้องการปรมาจารย์ลึกลับระดับห้าอย่างน้อยสามคนเพื่อสร้างมัน แต่ปรมาจารย์ลึกลับระดับห้าของแคว้นเย่าเฉินมีเพียงพอ
หรงซิวในที่สุดเจ้า…
ขณะที่ความคิดนับไม่ถ้วนผุดขึ้นในใจของนาง เสวี่ยเสวี่ยก็ก้าวไปข้างหน้า และคุกเข่าลงตรงหน้าฉู่หลิวเยว่ เหลือบมองตระหนักถึงบางสิ่งในใจของนาง
“เจ้าจะให้ข้าลงไปเพื่อหาหรงซิวใช่หรือไม่”
เสวี่ยเสวี่ยพยักหน้าอีกครั้งดูมันกระสับกระส่ายมากขึ้น ฉู่หลิวเยว่ตั้งใจแน่วแน่ นางกอดถวนจื่อในอ้อมแขนแล้วกระโดดลงไป
“ไป!”
…
เมื่อฉู่หลิวเยว่กระโดดลงไปในทะเลสาบ นางเห็นว่าหมอกสีขาวด้านบนนั้นสลายไปอย่างรวดเร็วในอากาศ ค่ายกลเคลื่อนย้ายด้านล่างก็ส่องแสงเจิดจ้า และห่อหุ้มนางไว้อย่างรวดเร็ว
น้ำในทะเลสาบแยกออกจากกันราวกับแผ่นดินแยก ขณะนั้นเองที่ฉู่หลิวเยว่ตระหนักได้ว่าแสงบนค่ายกลเคลื่อนย้ายทำให้เกิดอาณาเขตรอบตัวนางแล้วปกป้องนางได้อย่างสมบูรณ์
น้ำในทะเลสาบโดยรอบก็ยังหลีกให้นางเช่นกัน ฉู่หลิวเยว่มองอย่างแปลกใจที่เกิดแสงสีเงินรอบๆ ตัวนาง ค่ายกลเคลื่อนย้ายนี้จะปกป้องนางได้อย่างใดกัน…
นางไม่เคยเห็นค่ายกลเคลื่อนย้ายมาก่อน แต่ขณะนี้มันกลับสร้างขึ้นมามากมายด้วยตัวนางเอง ดังนั้นนางจึงมีความเข้าใจในสิ่งเหล่านี้มากขึ้น
โดยปกติค่ายกลเคลื่อนย้ายมีบทบาทใหญ่สุดคือเชื่อมสองช่องว่างให้คนจากอีกที่หนึ่งไปยังอีกที่หนึ่งได้โดยง่ายภายในค่ายกลเคลื่อนย้าย เนื่องจากเชื่อมต่อกับความว่างเปล่าจะมีพลังงานรุนแรงวิ่งไปรอบ
ในบางครั้งเพื่อหลีกเลี่ยงอันตรายสร้างค่ายกลเคลื่อนย้ายหนีจากสิ่งที่เผชิญหนีออกจากตรงนั้นโดยทันที เคลื่อนย้ายไปที่ๆ ใดก็ได้
ความสงสัยนี้แวบเข้ามาในหัวนาง วินาทีถัดมานางก็รู้สึกว่าร่างกายของนางถูกดึงลงมาอย่างแรง ทุกสิ่งรอบตัวตกอยู่ในความมืดมิดในพริบตา!