ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ - ตอนที่ 285 เล่นกลอุบาย
ตอนที่ 285 เล่นกลอุบาย [รีไรท์]
ปีศาจแดงเอียงหัวแล้วทำเป็นไม่สนใจมู่ชิงเห่อ
มู่ชิงเห่อจ้องมันเอาไว้
“เจ้านิสัยเสียเกินไปแล้วนะ”
ปีศาจแดงจ้องเขามันก่อนจะมีน้ำตาไหลออกมา
เมื่อก่อนตอนที่นางยังอยู่ เขาไม่กล้าที่จะทำแบบนี้กับมันเลยสักนิด ตอนนี้เพิ่งผ่านไปไม่นาน ชีวิตของมันก็เลวร้ายลงเป็นอย่างมาก หลายปีที่ผ่านมาก็ทรมานมามากพอแล้ว
มู่ชิงเห่อเจ้านายโง่เง่าคนนี้…
ปีศาจแดงยิ่งโมโหเข้าไปใหญ่จนแทบอยากจะกลับไปหาฉู่หลิวเยว่
แต่มันรู้ว่ามู่ชิงเห่อต้องไม่เห็นด้วยแน่นอน
แต่ไม่ว่าอย่างใด ก็ยังมีชายคนนั้นอยู่…
ขนของมันก็ถูกดึงออกไปแล้ว
ตึง!
ปีศาตแดงโมโหจนนอนนิ่งอยู่บนพื้น ราวกับบอกว่าไม่ไปแล้ว
ชีวิตนี้มันอยู่ต่อไปไม่ได้แล้ว!
มู่ชิงมองด้วยหางตา
“เจ้าใช้กลอุบายนี้ไปก็มิได้ผลกับข้าหรอก”
ปีศาจแดงไม่ยอมขยับ ใจแข็งไม่ยอมไปกับเขาให้ตายมันตายอยู่ตรงนี้ให้สิ้นเรื่อง นึกถึงเมื่อวานที่ออกไปก็ยังถูกสัตว์ร้ายพวกนั้นทำร้ายอีกมันไม่มีหน้าจะอยู่ต่อแล้ว!
ทว่า…วันนี้ยังถูกมู่ชิงเห่อทำแบบนี้อีก ชีวิตนี้อยู่ต่อไปไม่ได้แล้ว มู่ชิงเห่อหลับตาลงด้วยความโมโหเพื่อระงับอารมณ์ตัวเอง เพื่อไม่ให้ตัวเองฆ่าปีศาจตัวนี้ตาย
“เจ้าถูกใครทำร้ายมา ถ้าเจ้าบอกข้าจะช่วยเจ้าแก้แค้นเอง”
ปีศาจแดงขยับตา แต่ยังทำตัวแข็งทื่อก่อนจะครุ่นคิดและสับสนสุดๆ
“อยู่ที่แบบนี้ยังได้รับบาดเจ็บ ดูแล้วช่วงนี้เจ้าไม่ได้ขยันฝึกฝนเท่าไรนะ”
มู่ชิงเห่อรีบพูดขึ้น จนสามารถโน้มน้าวให้ปีศาจแดงมีความคิดที่จะให้เขาช่วยได้สำเร็จ
บนตัวของมันมีเปลวฟีฟ้าเกิดขึ้น เผาไหม้ทำความสะอาดคราบเลือดที่เหลือ มู่ชิงเห่อเลิกคิ้วและรู้สึกแปลกใจ ปีศาตแดงชอบสร้างปัญหาข้างนอก และให้เขาเก็บกวาดตามหลังอยู่ตลอด
นึกไม่ถึงว่าวันนี้มันจะดื้อรั้นขนาดนี้
“ในเมื่อเจ้าไม่พูด ก็เปลียนคำถามก็แล้วกัน”
แววตาของมู่ชิงเห่อดูจริงจัง จ้องปีศาจแดงตาเขม็งราวกับว่ามองมันออก
“ในห้องงานเลี้ยง เหตุใดเจ้าถึงทำกับฉู่หลิวเยว่เช่นนั้น”
“ท่านรองแม่ทัพมู่”
มู่ชิงเห่อยังพูดไม่ทันจบ จู่ๆ ก็ถูกเสียงเล็กแหลมของหญิงสาวคนหนึ่งขัดเสียก่อน
เขาหันกลับมาก็เห็นว่าเป็นฉู่หลิวเยว่
บังเอิญจริงๆ
แววตาของมู่ชิงเห่อกลายดูผ่อนคลายทันที ก่อนจะเหลือบมองไปยังปีศาจแดง ปีศาจแดงที่นอนอยู่บนพื้นตัวแข็งทันที
จบแล้ว!
ถูกนางเห็นเข้าแล้ว!
แบบนี้ช่างขายขี้หน้าจริงๆ!
มันบินขึ้นมาโดยไม่คิดอันใด และพุ่งขึ้นไปข้างบน จากนั้นมันก็บินรอบมู่ชิงเห่อหนึ่งรอบ ระหวางนั้นก็ไม่ลืมที่จะดิ่งลงพื้นแล้วทำเหมือนว่าก่อนหน้านี้มันก็เล่นจสนุกและบินรอบตัวมู่ชิงเห่อเช่นกัน
มองจากไกลๆ ก็ดูเหมือนผีเสื้อที่กำลังเล่นสนุกตัวหนี่ง
มู่ชิงเห่อเงียบไป
ฉู่หลิวเยว่เดินเข้าไปใกล้ ก่อนจะถามด้วยท่าทางที่ดูตกใจ
“ท่านรองแม่ทัพมู่ ปีศาจของท่านดูแล้วร่าเริงจังเพคะ”
ดี เด็กไม่รู้จักโต ความสามารถแกล้งตายยังเหมือนเดิมไม่มีผิด
มู่ชิงเห่อเงียบ
ปีศาจแดงที่บินว่อนถึงกับประหม่า ไม่รู้ว่าจะบินต่อหรือไม่…จนแทบจะร่วงหล่นลงจากฟ้า สุดท้ายก็ต้องก้มหัวลงด้วยความหงุดหงิด
“เจ้ามีเรื่องอันใดรึ?”
มู่ชิงเห่อกระแอม ด้วยใบหน้าที่ไม่รู้สึกรู้สา
ฉู่หลิวเยว่ยิ้มเจื่อน
“มีเรื่องหนึ่งที่อยากจะให้ท่านช่วย ไม่รู้ว่าท่านจะยินยอมหรือไม่”
“ว่ามา”
ด้วยนิสัยของมู่ชิงเห่อ ที่ไม่เคยจะสนใจกับเรื่องแบบนี้มาก่อน
ถ้าเป็นวันก่อนหน้านี้ฉู่หลิวเยว่พูดกับเขาแบบนี้ เขาคงไม่พูดออกมาสักคำแน่นอน
แต่เมื่อคิดถึงปฏิกิริยาที่ปีศาจแดงมีต่อนาง มู่ชิงเห่อก็รู้สึกว่าบางทีควรหาโอกาสที่จะเรียนรู้ฉู่หลิวเยว่ให้มากขึ้น
ฉู่หลิวเยว่โค้งคำนับ
“ข้ามีแม่ของเพื่อนคนหนึ่งที่ร่างกายไม่สบาย นางลำบากมาหลายปีแล้ว ตอนนี้อาการของนางแย่ลง ข้าไม่รู้…ไม่รู้ว่ารองแม่ทัพมู่จะช่วยได้หรือไม่? หลิวเยว่อยากจะตอบแทนเป็นอย่างดี”
มู่ชิงเห่อขมวดคิ้ว
“เพื่อนของเจ้า?”
ฉู่หลิวเยว่พยักหน้า
“มู่หงอวี่ เป็นเจ้าเมืองหย่งอันในแคว้นเย่าเฉิน”
มู่หงอวี่คนนี้เป็นเจ้าเมืองหรือไม่นั้นมู่ชิงเห่อไม่ได้สนใจ
ต่อให้เป็นจักรพรรดิจยาเหวิน เขาก็ไม่จำเป็นต้องช่วย
แต่…
“ปีศาจแดงดูผูกพันกับเจ้ามาก เห็นแก่มันแล้วก็ใช่ว่าจะช่วยเจ้าไม่ได้”
บนใบหน้าของฉู่หลิวเยว่เต็มไปด้วยความดีใจก่อนจะมองไปยังปีศาจแดง
“ถ้าอย่างงั้นก็ต้องขอบใจ…ปีศาจแดงเป็นอย่างมาก?”
ฝีปากแดงๆ ของนางขยับ และเรียกชื่อมันเบาๆ
จริงๆ แล้วชื่อของปีศาจแดงนั้นนางเป็นคนตั้งเอง
ตอนแรกที่มู่ชิงเห่อล่าสัตว์ร้าย และได้ปีศาจแดงมาโดยบังเอิญแต่กลับไม่รู้ว่าจะเรียกว่าอันใดดี
ฉู่หลิวเยว่คิดว่ามันเป็นนกกระจอกสีฟ้า ชื่อที่มู่ชิงเห่อคิดไว้นั้นต้องมีคำว่า ‘ฟ้า’ แต่ก็เป็นโชคชะตา จึงตั้งจงใจเลือกชื่อของ “ปีศาจแดง” ที่มีความหมายตรงกันข้าม
ตอนนี้เมื่อเรียกชื่อมันอีกครั้งกลับยังรู้สึกเหมือนเดิม ปีศาจแดงตกใจ แล้วบินไปหาฉู่หลิวเยว่ทันที
ฉู่หลิวเยว่มองเขาไปหนึ่งที
ทั้งคนและสัตว์มองหน้ากัน ด้วยท่าทางสงบ
จู่ๆ ปีศาจแดงก็ชะงักไป
ตอนนี้เหมือนว่านางจะไม่อยาก…มันมองฉู่หลิวเยว่ตาปริบๆ แล้วรีบไปฟ้องเรื่องมู่ชิงเห่อทันที ถวนจื่อที่เกาะอยู่บนไหล่ฉู่หลิวเยว่ก็จ้องมันตาเขม็ง ปีศาจแดงรู้สึกเจ็บตรงปีกที่ถูกถอนขนไป มันสับสนอยู่นานในที่สุดก็ไม่ได้ไปอีกทำได้เพียงมุดหัวอยู่ใต้ปีกของมัน
ไม่มีใครดูออก และน้ำตาก็ไหลลงมาในขนของมัน
ไม่นานปีกของมันก็เปียกไปหมด
ฉู่หลิวเยว่เห็นท่าทางปิศาจแดงแล้วในใจก็รู้สึกเอ็นดูสุดๆ
ถึงปีศาจแดงจะดื้อรั้นและชอบก่อเรื่องใหญ่โตมาแต่ไหนแต่ไร
แต่เวลาบาดเจ็บขึ้นมาจริงๆ กลับมุดหัวร้องไห้อยู่ใต้ปีกเหมือนตอนนี้ เหตุใดนางถึงรู้สึกไม่อยากกอดปีศาจแดง ตั้งแต่ที่นางเกิดใหม่อีกครั้ง เวลานางนึกย้อนไปถึงอดีตทั้งหมดก็เหมือนกับกลายเป็นฝันไป
ความจริงใจทั้งหมดกลายเป็นความเสแสร้ง ความซื่อสัตย์ทั้งหมดกลายเป็นความทรยศ สุดท้ายแล้วมีเพียงปีศาจแดงเท่านั้นที่คิดถึงนาง เห็นท่าทางของปีศาจแดงแล้ว นางถึงจะรู้สึกเจ็บใจที่ลึกลงไปในกระดูกนั้นได้ถูกบรรเทาขึ้นแล้ว
แต่ตอนนั้นกลับไม่ใช่โอกาสที่ดีนัก
มู่ชิงเห่อเอ่ยปาก
“ข้ายังจะอยู่ที่นี่ต่ออีกสักพัก เจ้าให้นางมาที่นี่ เดี๋ยวข้าจะเรียกแพทย์มาช่วยรักษาให้นาง”
เป็นถึงรองแม่ทัพทหารม้า เขาจึงมีอำนาจใหญ่โต เรื่องการระดมทีมแพทย์จึงไม่ใช่ปัญหา
ฉู่หลิวเยว่เก็บสายตากลับมาพร้อมกับรอยยิ้มเกรงใจบนใบหน้า
“ถ้าอย่างงั้นก็ขอบใจท่านรองแม่ทัพมู่มาก”
พูดจบนางก็ถามด้วยความลังเล
“แต่…ความหมายของท่านรองแม่ทัพมู่ก็คือ…ท่านจะไม่ได้กลับไปทันทีงั้นรึ?”
เขามาที่นี่เพื่อเลือกคนที่มีชีพจรตี้จิงไม่ใช่รึ? นอกจากนี้เขายังมีเรื่องอื่นอีกรึ?
มู่ชิงเห่อตอบกลับเพียงแค่ว่าอือ และไม่ได้พูดอะไรอีก
ฉู่หิวเยว่รู้ว่าตอนนี้นางไม่มีสิทธิ์ที่จะถามมากมายขนาดนี้ ดังนั้นนายจึงไม่เปิดปาก และทำได้เพียงแค่คุกเข่าลง
“ในเมื่อเป็นแบบนั้น หลิวเยว่ขอไม่รบกวนเวลาของท่าน ข้าขอตัวก่อน”
พูดจบก็ถอนหลังแล้วหันหลังเดินไป
“หยุดเดี๋ยวนี้”
จู่ๆ มู่ชิงเห่อก็เอ่ยปาก
ฉู่หลิวเยว่หยุดเดินก่อนจะหันกลับไปยิ้มให้พลางถาม
“ท่านรองแม่ทัพมู่ยังมีธุระอีกหรือไม่?”