ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ - ตอนที่ 294 เขามาแล้ว
ตอนที่ 294 เขามาแล้ว [รีไรท์]
ทุกคนพากันตกใจ
“นั่นคือ…นั่นคืออันใด?”
ภายในหอคอยจิ่วโยว เหตุใดถึงมีเสียงอสูรร้ายกรีดร้องได้!
ซุนจ้งเหยียยนขมวดคิ้วและใบหน้าชราของเขาก็มีรอยย่นเกิดขึ้น
“ปรมาจารย์ทุกท่านฟังคำสั่งให้ดี เริ่มใช้ค่ายกลผนึกสวรรค์ส่วนคนอื่นๆ ให้แยกย้ายทันที”
เมื่อได้ยินคำนั้นแล้ว ทุกคนก็ถึงกับอึ้งแล้วมองไปยังซุนจ้งเหยียน
ค่ายกลผนึกสวรรค์เป็นค่ายกลของหอคอยจิ่วโยว และไม่เคยเปิดใช้มากว่าพันปี และตอนนี้ก็ไม่มีใครรู้ว่าถ้าเปิดค่ายกลผนึกสวรรค์แล้วจะเกิดอันใดขึ้น
“ท่านผู้อาวุโสซุน ค่ายกลผนึกสวรรค์ต้องเป็นหัวหน้าสำนักเท่านั้นรึถึงจะสามารถเปิดใช้ได้?”
ไป๋เชินรีบอีกปากถาม
ซุนจ้งเหยียนสีหน้าเคร่งเครียด
“เมื่อครู่นี้ข้าได้บอกท่านอาจารย์ลุงไปแล้ว หวังว่าเขาจะมาได้ทัน แต่การเปลี่ยนแปลงของหอคอยจิ่วโยวนี้เป็นเรื่องที่เร่งด่วนไม่สามารถรอได้ ต้องเปิดใช้ค่ายกลผนึกสวรรค์ทันที!”
พูดแล้วเขาก็หมุนข้อมือ แล้วในฝ่ามือของเขาก็มีเข็มเงินเล่มหนึ่งปรากฏขึ้นทันที
เมื่อมองไปยังเข็มเล่มเงินนั้นไม่มีอันใดแตกต่างจากเข็มเงินธรรมดาทั่วไป แต่ถ้ามองใกล้ขึ้นอีกหน่อยก็จะเห็นว่าบนผิวของมันมีการแกะสลักรอยอยู่
ในความเป็นจริงแล้วรอยแกะสลักนั้นเป็นเหมือนกันกับรอยนูนที่อยู่บนหอคอยจิ่วโยวไม่มีผิด!
เมื่อได้ยินซุนจ้งเหยียนพูดแบบนั้นแล้ว ทุกคนต่างก็รู้ว่าตอนนี้มีเพียงวิธีเดียวแล้ว
ไม่มีใครรู้ว่าหัวหน้าสำนักจะมาถึงเมื่อใด แต่สถานการณ์ของหอคอยจิ่วโยวในตอนนี้ไม่สามารถรีรอได้!
เห็นเข็มเงินบนมือของซุนจ้งเหยียนแล้ว ทุกคนก็เงียบสงบทันที
“เชิญท่านผู้อาวุโสซุนออกคำสั่ง!”
ซุนจ้งเหยียนก็เหาะขึ้นฟ้า
เขาสะบัดเข็มเงินในมือออกมา
เข็มเงินต้านลมได้ดีมาก มันขยายใหญ่จนขนาดเทียบเท่าแขน
มองดูจากไกลๆ แล้วก็เหมือนสากเงินแท่งหนึ่ง
ทันใดนั้นจากเข็มเงินก็ตกลงมาบนหอคอยจิ่วโยวพอดี ก่อนจะหมุนอย่างรวดเร็ว
“ค่ายกลผนึกสวรรค์เริ่ม!”
ซุนจ้งเหยียนตะโกน ก่อนจะมีลำแสงนับไม่ถ้วนพุ่งออกมาจากมือ แล้วพากันรวมเข้าในสากเกินไปทั้งหมด!
ต่อมาเสียงร้องก็ดังขึ้น!
ลวดลายบนสากเงินนั้นสว่างขึ้นทันที
พรึบ!
มีแสงสีเงินระยิบระยับบินออกจากแสงสีเงิน ก่อนจะตกลงสักที่หนึ่ง
ซุนจ้งเหยียนเอ่ยปาก
“ไป๋เชิน! ตะวันตกสาม!”
ไป๋เชินไม่พูดไม่จา ก่อนจะเหาะขึ้นไปแล้วยืนอยู่บนแสงระยิบระยับนั้นทันที
พรึบ!
แสงสีเงินระยิบระยับอีกลูกหนึ่งโผล่ขึ้น บินไปอีกฝั่งหนึ่ง!
“เหวินเยี่ยน ใต้เจ็ด!”
“เฉินเซียว ตะวันออกหก!”
“ฉีเกา เหนือสี่!”
ซุนจ้งเหยียนรีบออกคำสั่งอย่างรวดเร็ว แล้วปรมาจารย์ทุกท่านก็เริ่มพากันเคลื่อนไหว!
เหนือหอคอยจิ่วโยวมีค่ายกลใหญ่ยักษ์ปรากฏขึ้น
ลำแสงนับไม่ถ้วนออกมาจากสากเงินนั้น มันตัดผ่านกันจนเกิดดาวระยิบระยับเกิดขึ้นเหนือมัน และเรียงเหมือนกระดานหมากรุก
ปรมาจารย์ทุกคนพากันแยกย้ายไปประจำตำแหน่งของตัวเอง!
ค่ายกลผนึกสวรรค์เป็นค่ายกลระดับหก ซึ่งภายในสำนักไม่มีปรมาจารย์คนใดสามารถใช้งานได้เอง!
ฉะนั้นจึงต้องร่วมมือกัน เมื่อทุกคนประจำที่แล้ว ซุนจ้งเหยียนจึงตะโกนเสียงดังว่า
“เริ่ม!”
เมื่อสิ้นเสียง ปรมาจารย์ทุกคนก็เคลื่อนไหวพร้อมกัน ก่อนจะปล่อยพลังจิตเข้าไปในแสดงระยิบระยับเหล่านั้น!
กระแสแสงพุ่งออกมาและไหลไปตามเส้นใหญ่ยักษ์ที่พันกันกลางอากาศ แล้วทั้งหมดก็รวมตัวกันในสากเงิน
หึ่ง!
แรงกดดันครั้งใหญ่กำลังมาถึง!
…
ค่ายกลผนึกสวรรค์บนหอคอยจิ่วโยวได้เริ่มขึ้นแล้ว
ส่วนอาจารย์ที่อยู่ด้านล่างของหอคอยจิ่วโยวก็ได้แยกย้ายกันไปอย่างรวดเร็วแล้ว
ในเวลานี้ สิ่งเดียวที่สามารถทำได้ก็คือการรับประกันความปลอดของนักเรียนในสำนักของเขา
“หรงซิวรีบเดินเข้า!”
ผู้อาวุโสเว่ยอวิ๋นเห็นหรงซิวยังอยู่ที่เดิม จึงคิดว่าเขาไม่รู้สึกตัวแล้วรีบเอ่ยปากร้องขอทันที
“ที่นี่อันตรายมาก เจ้าอยู่ที่นี่ไม่ได้!”
สถานการณ์ของหอคอยจิ่วโยวในตอนนี้ ไม่มีใครสามารถบอกได้ว่าเกิดเหตุอันใดขึ้น เพราะการเปิดใช้ค่ายกลผนึกสวรรค์นั้นมีแรงกดดันที่แข็งแกร่งมาก พลังของทั้งคู่ปะทะกัน โดยมีคนที่ยืนอยู่ข้างๆ เป็นคนโดนลูกหลงคนแรก!
หรงซิวไม่ได้มีความสามารถฟื้นฟูใดๆ อีกอย่างร่างกายของเขาก็อ่อนแอด้วย จะรับแรงกดดังจากพลังอันแข็งแกร่งนี้ได้อย่างใด?
ถ้าเกิดอันใดขึ้นกับหรงซิว พวกเขาคงไม่มีปัญหาเอ่ยปากบอกฝ่าบาทแน่นอน แต่หรงซิวกลับทำเหมือนไม่ได้ยิน และชูคอมองไปยังชั้นที่เจ็ดขอหอคอยจิ่วโยว
“หรงซิว!”
ผู้อาวุโสเว่ยอวิ๋นตะโกนอีกครั้ง แต่หรงซิวก็ยังไม่มีการตอบสนองใดๆ
ในใจของเขาก็ยิ่งรู้สึกร้อนรนขึ้น
เมื่อหันกลับไปมองเปลวไฟสีดำนั้นก็ครอบชั้นที่หนึ่งของหอคอยจิ่วโยวไปทั้งชั้นแล้ว และประตูก็ถูกปิดตายไปเรียบร้อยแล้ว!
แต่สิ่งทำให้กังวลกว่าคือ มันไม่ได้หยุดแค่นั้นแต่กลับกำลังลุกลามไปยังชั้นที่สองด้วย!
แล้วเปลวไฟที่เร่าร้อนก็เริ่มลุกลามไปยังรอบๆ แล้ว
อากาศร้อนจัดจนสามารถเผาคนให้ตายได้
ผู้อาวุโสเว่ยอวิ๋นกระวนกระวายใจ
เพราะจะต้องควบคุมเปลวไฟให้เร็วที่สุด!
มิฉะนั้นถ้ามันลุกลามขึ้นมาก็เกรงว่าผลลัพธ์จะเลวร้ายกว่าที่คิดไว้
“เยี่ยนชิง รีบพาเขาไปซะ!”
ภายใต้ความไม่รู้จะทำอย่างใด ผู้อาวุโสเว่ยอวิ๋นจึงตะโกนบอกเยี่ยนชิงทันที
เยี่ยนชิงเงยหน้าขึ้นมองผู้อาวุโสเว่ยอวิ๋นแล้วส่ายหน้าอย่างแน่วแน่
“โปรดอภัยให้ข้าด้วยท่านผู้อาวุโสเว่ยอวิ๋น เยี่ยนชิงรับใช้ฝ่าบาทแต่เพียงผู้เดียว”
ในเมื่อฝ่าบาทยืนยันว่าจะอยู่ เขาจึงต้องอยู่ด้วย
ต่อให้เขารู้ว่ามันอันตรายมาก แต่ก็ไม่มีทางเลือกอื่น
เพราะถ้าไม่ทำคงอันตรายกว่านี้มาก!
ถ้าเกิดอันใดขึ้นกับฉู่หลิวเยว่ เยี่ยนชิงไม่กล้าจินตราการเลยว่านายท่านของตัวเองจะทำอันใด
ผู้อาวุโสเว่ยอวิ๋นเห็นว่านายบ่าวสองคนนี้ไม่ยอมฟัง จึงอดที่จะด่าในใจไม่ได้
เจ้างั่งสองคนนี้!
คนอื่นไปกันหมดแล้ว พวกเขายังจะอยู่ที่นี่เพื่อรอความตายหรืออย่างใด?
ตูม!
เปลวไฟสีดำลุกโชนขึ้นมา ก่อนจะลามไปยังชั้นที่สาม!
ผู้อาวุโสเว่ยอวิ๋นไม่ได้ระวัง จึงถูกคลื่นพลังโจมตีเข้าจนเซ และถอยหลังไปหลายก้าว
อ๊าก!
เสียงกีดร้องของอสูรร้ายดังขึ้นอีกครั้ง ทำเอาทุกคนขนลุกไปหมด!
ดูเหมือนว่าทั้งสำนักก็กำลังถูกเสียงโหยหวนอันดุร้ายห้อมล้อมไว้แล้ว!
คลื่นพลังเข้าสู่ระบบไหลเวียนเลือดของผู้อาวุโสเว่ยอวิ๋นจนแทบจะกระอักเลือดออกมา
เขาเงยหน้าขึ้นแล้วมองไปยังหอคอยจิ่วโยวด้วยตกตะลึง
ข้างในนี้มีสัตว์อสูรอันใดอยู่กันแน่ ถึงได้แข็งแกร่งถึงเพียงนี้
แค่เสียงโหยหวนก็สามารถข่มขู่บังคับได้ขนาดนี้แล้ว
ในขณะเดียวกันแม้แต่นักเรียน และอาจารย์ที่เพิ่งจะแยกย้ายไปเมื่อครู่ก็ได้รับผลกระทบบ้างเช่นกัน!
พวกเขาตกใจจนเบิกตาโต ก่อนจะมองไปยังหอคอยจิ่วโยว แล้วในใจก็เกิดความปั่นป่วนขึ้น!
“ให้ตายเถอะ! หอคอยจิ่วโยวกำลังถูกเผาแล้ว!”
“นี่มันเกิดอันใดขึ้นกันแน่?”
“ท่านผู้อาวุโสซุนเริ่มใช้ค่ายกลผนึกสวรรค์แล้วรึ? นี่คงจะเป็นครั้งแรกในรอบพันปีเลยทีเดียว!”
“ก่อนหน้านี้พวกเขาหลายคนยังฝึกอยู่ในหอคอยจิ่วโยวอยู่เลย ไม่มีใครรู้หรือไม่ว่ามันเกิดอันใดขึ้นกันแน่?”
“พวกข้าจะรู้ได้อย่างใด? ก่อนหน้านี้ยังดีๆ อยู่เลย แต่จู่ๆ ก็มีพลังงานบางอย่างมาไล่พวกเราไปโดยไม่มีแม้แต่เวลาที่จะได้ตั้งตัวเลยด้วยซ้ำ!”
“โชคดีที่พวกเราออกมาแล้ว ถ้ายังอยู่ข้างในละก็ เกรงว่า…”
“รอเดี๋ยว! เมื่อครู่ได้ยินผู้อาวุโสเว่ยอวิ๋นบอกว่าเหมือนว่าฉู่หลิวเยว่จะยังคงอยู่ข้างในอยู่นี่!”
“อะไรนี่! นางคงไม่ได้…”
ทุกคนพากันมองหน้ากัน แล้วเงียบลงทันที
เกรงว่าครั้งนี้ฉู่หลิวเยว่คงจะโชคร้ายเข้าแล้ว…
อีกฝั่งหนึ่ง ผู้อาวุโสเว่ยอวิ๋นก็หายใจอย่างยากลำบาก แต่จู่ๆ ก็เห็นร่างสูงใหญ่ร่างหนึ่งกำลังสาวเท้ายาวมุ่งตรงไปยังหอคอยจิ่วโยว!
เขาตกตะลึงในใจ “หรงซิว หยุดเดี๋ยวนี้!”
แต่หรงซิวก็ไม่หยุดแล้วเดินตรงไปอย่างไม่ลังเล!
ทันใดนั้นเปลวไฟสีดำก็ครอบงำแล้วกลืนกินเขาไปทันที!