CatNovel
  • หน้าหลัก
  • นิยายทั้งหมด
Advanced
  • หน้าหลัก
  • นิยายทั้งหมด
  • โดจิน
  • นิยายทั้งหมด
  • จบแล้ว
  • นิยายวาย Yaoi
ตอนก่อน
ตอนต่อไป
สล็อตเว็บตรง

ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ - ตอนที่ 390 เคยเจอมาก่อน

  1. Home
  2. ยอดหญิงลิขิตสวรรค์
  3. ตอนที่ 390 เคยเจอมาก่อน
ตอนก่อน
ตอนต่อไป

ตอนที่ 390 เคยเจอมาก่อน [รีไรท์]

ไม่มีเสียงใครตอบ

หรงจิ่วขมวดคิ้วแน่น จ้องมุมนั้นอยู่สักพัก จากนั้นเขาก็หมุนตัวเดินไปทางม่านบังตา

จักรพรรดินีถูกกักบริเวณอยู่ที่นี่มันเป็นเวลาหลายวันแล้ว ด้านนอกมีทหารยามคุมเข้ม ไม่มีทางที่คนนอกจะเข้ามาที่นี่ได้

“ตึก”

“ตึก”

เสียงฝีเท้าดังขึ้นในตำหนักที่เงียบเชียบ ทำให้คนที่ซ่อนอยู่แทบจะหายใจไม่ออก

ในขณะที่หรงจิ่วกำลังจะเดินเข้าไป จากนั้นก็มีนกแก้วตัวหนึ่งบินออกไป

หรงจิ่วรีบลงมือทันที

เขาควบรวมปราณจนกลายเป็นลูกธนูที่แหลมคมดอกหนึ่ง ทันใดนั้นเขาก็ยิงทะลุท้องนกแก้วตัวนั้นทันที

“ฉึก”

เลือดสดๆ สาดกระจายไปทั่วบริเวณ

นกแก้วตัวนั้นหล่นลงไปที่พื้นทันที ร่างกายของมันกระตุกสองครั้ง จากนั้นก็หยุดนิ่งไป

หรงจิ่วขมวดคิ้วแน่น

เขาจำนกแก้วตัวนี้ได้ นี่เป็นสัตว์ที่จักรพรรดินีเลี้ยงเอาไว้

คิดไม่ถึงว่าในตำหนักแห่งนี้ ยังมีของแบบนี้หลงเหลืออยู่

ตอนนั้นเองหรงจิ่วก็หรี่ตาลง คาดไม่ถึงว่าจะมีอันใดบางอย่างซ่อนอยู่ที่ท้องของนกแก้วตัวนี้

เขาโน้มตัวลงไปดูใกล้ๆ อย่างละเอียด จากนั้นเขาก็หยิบของสิ่งนั้นออกมา มันคือลูกกลมๆ สีดำลูกหนึ่ง

ของสิ่งนี้มีขนาดเท่าเล็บมือ ดูเหมือนเป็นของธรรมดาอย่างมาก

แต่สีหน้าของหรงจิ่วค่อยๆ มืดครึ้มขึ้นเรื่อยๆ

เพราะว่าเขาจำลูกกลมๆ ลูกนี้ได้

ของสิ่งนี้เรียกว่า “ไข่มุกหมึก” มันดูเหมือนเป็นแค่ไข่มุกธรรมดา แต่ความจริงแล้ว นี่มันสามารถใช้ส่งสารได้

ขอเพียงแค่สามารถถอดรหัสด้วยวิธีพิเศษ ก็สามารถรับรู้ข้อมูลที่ซ่อนอยู่ในนั้นได้

ตอนที่เขาอยู่ที่กองทัพ เขาก็เคยใช้วิธีแบบนี้มาแล้ว

แต่เพราะว่าของชิ้นนี้มันหายากมาก อีกทั้งไข่มุกหมึกหนึ่งเม็ดสามารถใช้ได้แค่ครั้งเดียว ดังนั้นเขาก็เลยไม่ค่อยได้ใช้มันนัก

คิดไม่ถึงว่าในนกแก้วที่จักรพรรดินีเลี้ยงไว้ จะมีของแบบนี้ซ่อนอยู่

แค่เท่านี้ มองดูครั้งเดียวก็เข้าใจหมดแล้ว!

เขามองไปที่จักรพรรดินี และเห็นใบหน้าซีดเผือดของนาง เหมือนว่านางกำลังตกอยู่ในความสิ้นหวังอย่างสมบูรณ์แล้ว

“คิดไม่ถึงว่าจักรพรรดินีจะใช้วิธีการเช่นนี้ด้วย ท่านวางใจเถอะ ข้าจะมอบไข่มุกหมึกลูกนี้แก่เสด็จพ่อ และตรวจดูมันจนละเอียดเชียวล่ะ”

เมื่อพูดจบ หรงจิ่วก็ไม่ต้องรั้งรออยู่ที่นี่อีกต่อไป เขารีบสาวเท้าออกจากตำหนักโดยเร็ว

หลังจากนั้น จักรพรรดินีค่อยๆ เอามือมากุมใบหน้าของตนเองไว้

นางไม่มีน้ำตาเหลือให้ร้องไห้แล้ว เหลือเพียงความเจ็บปวดที่แสนสาหัสเท่านั้น

ไม่รู้ว่าผ่านไปนานเท่าไหร่ เสียงที่แผ่วเบาก็ลอยเข้าสู่โสตประสาทของนาง

“จักรพรรดินี ซิงเฉินยินดีช่วยท่าน หากท่านต้องการสั่งสิ่งใด ได้โปรดสั่งการมาได้เลย”

…

ตำหนักองค์ชายหลี

หรงซิ่วมองฟ้าที่มืดลง ดวงตาดุจเหยี่ยวค่อยๆ หรี่ตาลง

หลายวันผ่านมานี้ ทุกๆ ยามนี้ เยว่เอ๋อร์จะมาหาเขาที่จวนอ๋อง แต่วันนี้ไม่รู้เหตุใดนางถึงยังไม่มาอีก

อวี๋มั่วที่ยืนคอยปรนนิบัติอยู่ด้านข้างก็คล้ายจะเดาความคิดของเขาได้ จึงรีบพูดขึ้นมาว่า

“นายท่าน วันนี้คุณหนูฉู่ไปหาท่านรองแม่ทัพมู่ คาดว่าน่าจะมีเรื่องนิดหน่อย จึงทำให้ล่าช้าเช่นนี้”

“เขาจะมีอันใด…”

หรงซิ่วพูดขึ้นเสียงเรียบ จากนั้นก็หยุดชะงักไป

ไม่สิ

“วันนี้มู่ชิงเห่ออยู่ที่จวนหรือไม่?”

อวี๋มั่วชะงักไปครู่หนึ่ง “เรื่องนี้…บ่าวไม่ทราบ”

มู่ชิงเห่อไม่ใช่คนธรรมดา หากคิดจะจับตามองเขา นั่นเป็นเรื่องที่ยากมาก

อีกทั้งสองสามวันที่ผ่านมานี้ ดูเหมือนเขาจะระวังตัวมากกว่าเดิมอวี๋มั่วกลัวว่าจะเป็นการแหวกหญ้าให้งูตื่น จึงส่งให้คนที่ลอบติดตามถอนกำลังออกครึ่งหนึ่ง

ใบหน้าของหรงซิ่วแข็งค้าง แล้วลุกขึ้นยืนทันที

“รีบไปตรวจสอบเดี๋ยวนี้ว่ามู่ชิงเห่ออยู่ที่ใด”

“พ่ะย่ะค่ะ”

เมื่อได้ยินคำสั่งของหรงซิ่ว อวี๋มั่วก็ขานรับทันที…หรือว่านายท่านสงสัยว่ามู่ชิงเห่อจะพาตัวคุณหนูฉู่ไป?

“นายท่าน คนที่ประตูเมืองก็เป็นคนของเรา หากมีการเคลื่อนไหวใดๆ เขาต้องส่งข่าวมาอย่างแน่นอน…”

“ถ้ามู่ชิงเห่อไม่อยากให้พวกเขารู้ เขาต้องมีวิธีแน่นอน”

น้ำเสียงของหรงซิ่วเย็นชาอย่างมาก แววตาของเขาเหมือนจะแผ่ไอเย็นออกมาด้วย

อวี๋มั่วชะงักไปทันที

“…บ่าวผิดไปแล้ว บ่าวจะ…”

เขายังพูดไม่ทันจบ ทันใดนั้นหรงซิ่วที่เพิ่งเดินไปได้สองก้าวก็หยุดฝีเท้าอย่างกะทันหัน เขาเงยหน้ามองขึ้นกลางท้องฟ้าทันที

อวี๋มั่วที่เดินตามเขาไปอย่างสงสัย เขากลับเห็นเงาร่างสูงใหญ่พุ่งเข้ามาใกล้ด้วยความเร็วสูง

เขาเดินอยู่กลางอากาศ ท่าทางเหมือนจะสุขุมและเนิบนาบอย่างมาก แต่ความจริงแล้วนั้นเร็วมาก

แค่เวลาชั่วพริบตาเดียว เขาก็เข้ามาใกล้เหนือจวนอ๋องแล้ว

อวี๋มั่วก้าวขึ้นไปด้านหน้า แต่กลับเห็นว่าหรงซิ่วจับแขนของเขาเอาไว้

เขาจึงถอยหลังกลับไปยืนที่เดิม แต่ดวงตายังจ้องที่คนคนนั้นเขม็งเช่นเดิม

แทบจะในเวลาเดียวกัน ผู้ที่มาเยือนก็หยุดเช่นกัน

เจี่ยนเฟิงฉือเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย พร้อมมองลงมาด้านล่างด้วยความประหลาดใจ

เดิมทีเขาคิดว่าตำหนักองค์ชายหลีเป็นเพียงจวนอ๋องธรรมดาๆ แต่หลังจากที่มาเยือนแล้ว เขากลับพบว่า ที่นี่มีทหารที่เฝ้าอยู่ทั้งด้านนอกด้านในล้วนแข็งแกร่งกว่าที่เขาคิดไว้มาก

หากคนธรรมดามองจากภายนอก ไม่มีทางที่จะมองออกเลย

แต่คนอย่างเขามีสายตาระดับไหนกัน ตอนที่เพิ่งเข้าใกล้บริเวณนี้เขาก็สามารถสัมผัสได้ถึงปราณที่ไม่ธรรมดาได้แล้ว

ดังนั้นเขาจึงเลือกที่จะไม่เข้าตามตรอก และเลือกเข้ามาโดยวิธีอื่นแทน

เมื่อมองจากบนฟ้าแล้ว ในที่สุดเขาก็สามารถยืนยันในสิ่งที่เขาคิดได้แล้ว…ในตำหนักองค์ชายหลีที่ใหญ่โตแห่งนี้ นอกจากจะมีการป้องกันที่แน่นหนาแล้ว คาดไม่ถึงว่าจะซ่อนค่ายกลที่แข็งแกร่งระดับนี้อยู่

เขาแน่ใจแล้ว หากเขาเดินต่อไปมากกว่านี้อีกเพียงก้าวเดียว สิ่งที่รอเขาอยู่…จะเป็นปัญหาขนาดไม่เล็กเลย

สิ่งที่เจี่ยนเฟิงฉือเกลียดมากที่สุดก็คือ ปัญหา ดังนั้นเขาจึงหยุดอยู่ตรงนั้นอย่างมีสติ

ไม่ว่าอย่างใดที่เขามาวันนี้ ก็เพื่อมาดูหน้าหรงซิ่วผู้นั้น ว่าตรงตามข่าวลือหรือไม่? และหน้าตาเป็นอย่างใดกันแน่?

แต่ตอนนี้เขายืนอยู่กลางท้องฟ้า เอามือข้างหนึ่งไขว้หลังพร้อมพูดด้วยรอยยิ้มว่า

“ข้าน้อยมีนามว่าเจี่ยนเฟิงฉือ มาเพื่อคารวะองค์ชายหลีโดยเฉพาะ”

ร่างกายของอวี๋มั่วตึงเครียดขึ้นมาทันที

เจี่ยนเฟิงฉือ?

คนผู้นั้นคือหมอเทวดาที่มู่ชิงเห่อเชิญมาจากราชวงศ์เทียนลิ่งไม่ใช่หรือ?

ก่อนหน้านี้ที่เขารักษาพระชายาผิงเจียงจนหายดีนั้น ก็ทำเอาเมืองหลวงเกิดความโกลาหลกันยกใหญ่

มีคนจำนวนไม่น้อยที่พยายามหาทางจะขอพบเขา แต่เจี่ยนเฟิงฉือผู้นี้นั้นเย่อหยิ่งอย่างมาก เขาปฏิเสธทั้งหมด ไม่ให้เข้าพบเลยแม้แต่คนเดียว

แต่เรื่องนี้ก็ช่างเถอะ ในเมื่อเขาเป็นหมอเทวดา เป็นธรรมดามากที่เขาจะหยิ่งผยอง

แต่เรื่องที่ทำให้คนตกใจมากกว่านั้น ทุกคนขนานนามเขาคือเทพมังกรเห็นหัวไม่เห็นหาง* มีคนมากมายรอจะได้เจอหน้าเขา แต่ก็ไม่เจอแม้แต่เงา

ไม่รู้ว่าเหตุใดคนแบบนี้ถึงโผล่มาที่ตำหนักองค์ชายหลีของพวกเขาได้? แล้วยังบอกอีกว่าต้องการพบนายท่านของพวกเขา?

ทันทีที่เจี่ยนเฟิงฉือพูดจบ เขาก็หรี่ตามองอย่างสงสัย

กลางลานของจวนแห่งนี้ มีชายหนุ่มคนหนึ่งสวมชุดสีขาวยืนอยู่

อายุน่าจะไม่เกินสิบเจ็ด สิบแปด ชุดสีขาวหิมะ ที่ดูดีกว่าหิมะบนเทือกเขาสามส่วน

แค่เขายืนอยู่ตรงนั้น ก็เหมือนเป็นจุดรวมสายตาและแสงทั้งหมด ทำให้คนอื่นๆ ต้องมองไปทางเขาอย่างไม่ได้ตั้งใจ

รูปลักษณ์ของหรงซิ่วเป็นหนึ่งไม่มีสอง โดดเด่นที่สุดในโลกหล้า

เจี่ยนเฟิงฉือรู้ว่าหน้าตาของหรงซิ่วนั้นย่อมต้องอยู่ในอันดับสูง แต่เมื่อตอนที่เขาเห็นชายหนุ่มสวมชุดขาวที่อยู่ตรงหน้า ในใจเขากลับเข้าใจได้ทันที ว่าอันใดที่เรียกว่า ละอายที่ไม่อาจเปรียบเทียบสู้ด้วยได้

ในตอนนั้นเอง เขาก็เข้าใจคำพูดของมู่หงอวี่แล้ว

อย่าพูดแต่ในแคว้นเย่าเฉินเลย ต่อให้รวมราชวงศ์เที่ยนลิ่งไปด้วย หน้าตาของเจ้าเด็กคนนี้ ก็แทบจะไม่มีใครมาเทียบเคียงได้

ต่อให้เป็นเจียงอวี่เฉิง…ก็ต้องตกรอบทันที

น้ำเสียงของหรงซิ่วเย็นชาอย่างมาก เขาพูดเสียงเบาว่า

“ไม่ทราบว่าคุณชายเจี่ยนมาหาข้า มีธุระอันใดหรือ?”

ทันใดนั้นเจี่ยนเฟิงฉือหรี่ตา

“องค์ชายหลี พวกเราเจอกันมาก่อนหรือไม่?”

เทพมังกรเห็นหัวไม่เห็นหาง แปลว่า ผู้ที่ทำตัวลึกลับ

ตอนก่อน
ตอนต่อไป

ความคิดเห็นทั้งหมดของ "ตอนที่ 390 เคยเจอมาก่อน"

ใส่ความเห็น ยกเลิกการตอบ

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

*

*

  • อ่านนิยาย
  • แทงหวย24

© 2020 cat-novel.com
เว็บอ่านนิยาย นิยาย pdf เว็บ “cat-novel.com” เว็บอ่านนิยายสนุกๆ เพลิดเพลินไปกับนิยายต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น นิยายวาย, นิยายจีน, นิยายรัก, แฟนตาซี, กำลังภายใน, ผจญภัย สุดยอดวิชากำลังภายใน อัพเดททุกวัน พร้อมรองรับการอ่านบนมือถือ คอมพิวเตอร์ ไอแพด หรือแท็บเล็ต อ่านได้ตลอดเวลา ไม่มีโฆษณา อ่านนิยายฟรีต้อง เว็บ ”cat-novel.com”
นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์