ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ - ตอนที่ 430 โอกาส
ตอนที่ 430 โอกาส [รีไรท์]
ฉู่หลิวเยว่ยิ้มอ่อน
“ในที่สุดก็ยอมรับแล้วสินะ?”
ซือถูซิงเฉินรู้สึกเกลียดชัง และเห็นฉู่หลิวเยว่เป็นศัตรูตั้งแต่แรกแล้ว ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการแข่งขันในงานสมาคมเยาวชน หรือว่าจะเป็นเรื่องที่ใส่ร้ายว่าลักพาตัวหรงเจิน ก็สามารถดูออกได้ว่าคนคนนี้คิดไม่เพียงแต่ไม่พอใจนางแถมยังริษยาและโกรธแค้นนางอีกด้วย
ซือถูซิงเฉินรู้สึกเหมือนมีสิ่งใดมาคาอยู่ที่อก และอีกไม่นานก็จะระเบิดออกมาแล้ว
ในที่สุดนางก็เก็บอารมณ์ไม่อยู่และกร่นด่าออกมา
“แล้วเหตุใดข้าชอบเขามาตั้งหลายปี เขากลับจำไม่ได้ว่าข้าเป็นใคร ส่วนเจ้าก็เป็นแค่หญิงสาวไร้ประโยชน์ที่ไม่มีตระกูลให้อยู่ก็เท่านั้น เจ้ามีดีกว่าข้าตรงไหน?”
ถ้าพูดถึงเรื่องรูปลักษณ์หน้าตาก็ไม่ได้ด้อยไปกว่าฉู่หลิวเยว่
ถ้าพูดถึงเรื่องต้นกำเนิดตระกูล นางก็ดีกว่าฉู่หลิวเยว่ไม่รู้กี่เท่า
ถ้าพูดถึงเรื่องความรักที่มีต่อหรงซิว นางก็อยู่เป็นเพื่อนเขาที่เทียนซานหมิงเยว่มาตั้งหลายปีแล้ว ฉู่หลิวเยว่จะสู้อันใดนางได้
“เขาเป็นคนสูงส่ง และให้เกียรติผู้หญิงมาโดยตลอด! แล้ว…เจ้า เขากลับยอมคุกเข่าลงต่อหน้าทุกคนเพื่อเจ้าทำไปเพื่อขอให้จัดงานอภิเษกทั้งๆ ที่ข้าเป็นคนที่เข้าใจเขามากที่สุด บนโลกนี้ก็มีแค่ข้าเท่านั้นที่คู่ควรกับเขา”
ทุกครั้งที่ซือถูซิงเฉินนึกถึงเรื่องนี้ในใจก็รู้สึกเจ็บปวดทุกครั้ง
นางไม่เข้าใจว่าฉู่หลิวเยว่มีดีตรงไหน หรงซิวถึงได้ดีกับนางเช่นนั้น
เหมือนกับว่า…เขาได้นำความรัก และความอบอุ่นทุกอย่างให้กับคนคนเดียว!
ก่อนหน้านี้หรงซิวส่งคนไปเผาเสื้อผ้าลายเมฆ นางก็ยังมีความโชคดีอยู่ในใจ
แต่หลังจากนั้น แต่ละเรื่อง แต่ละอย่างกลับย้อนกลับมาตอกหน้านางทุกอย่าง
ทุกครั้งก็ยิ่งทำให้นางเข้าใจว่าหรงซิวรักนางมากกว่าที่ตัวเองคิดไว้
จากนั้นความโกรธแค้นของซือถูซิงเฉินที่มีให้กับฉู่หลิวเยว่ก็มากขึ้นไปอีก
ฉู่หลิวเยว่เห็นสีหน้าที่โมโห และใบหน้าที่บูดเบี้ยวจากยาพิษ ก็แสยะมุมปากขึ้น
“เจ้ารู้ได้อย่างใด แล้วเหตุใดเขาถึงไม่รู้?”
สีหน้าของซือถูซิงเฉินนิ่งมึนงงไปทันที
“เจ้าบอกว่าเจ้าเข้าใจเขา แล้ว…เข้ารู้หรือไม่ว่าเหตุใดเขาถึงทำเช่นนี้?”
ฉู่หลิวเยว่พูดอย่างเอื่อยเฉื่อย
ทุกๆ คำเหมือนมีดแหลมคมที่ทิ่งแทงเข้ามาในหัวใจของซือถูซิงเฉิน
เหมือนว่าเลือดที่ไหลเวียนบนหน้าค่อยๆ หายไป และเหลือเพียงสีหน้าที่เศร้าโศกและไม่พอใจ
นั่นสิ!
คนอย่างหรงซิวจะไม่รู้ว่าฉู่หลิวเยว่เป็นคนแบบไหนได้อย่างใด?
แต่ว่า…เขาก็ยังเลือกนาง!
มีคำอธิบายเพียงคำเดียวเท่านั้นก็คือ เขารักและจริงใจกับฉู่หลิวเยว่มาก และขาดนางไม่ได้!
นางรู้ตั้งแต่แรกแล้วว่าคนอย่างหรงซิวไม่สนใจเรื่องรักใคร่ แต่ถ้าสนใจขึ้นมา…ก็คงจะรักเดียวใจเดียวและให้ทุกอย่างที่มี
“จะ…เจ้าใช้วิธีอันใดกันแน่”
ซือถูซิงเฉินกัดฟันและมือข้างหนึ่งที่จับเสาแรงเกินไปก็ถึงกับม่วงไปทันที และตอนนี้ในตอนที่นางเงยหน้าขึ้นมาโดยไม่ได้ตั้งใจก็เห็นว่าข้อมือของตัวเองได้กลายเป็นสีเขียวม่วงไปแล้ว
นางตกใจกลัว
ถ้านางต้องกลายเป็นหญิงชราที่ตัวม่วงเขียวไปทั้งตัวจริงๆ แค่นึกถึงฉากนั้น นางก็ขนลุกไปทั้งตัวแล้ว!
นางไม่ยอมให้ตัวเองกลายเป็นแบบนั้นแน่นอน
“ขอเพียงแค่เจ้าพาข้าออกไป ข้ารับรองว่าจะให้ของสิ่งนั้นกับเจ้าแน่นอน!”
ซือถูซิงเฉินเอ่ยปากด้วยน้ำเสียงเกลียดชัง!
“แต่ว่าเจ้าต้องสัญญาว่าจะแก้พิษภายในให้ข้า ถ้าไม่อย่างงั้นต่อให้ข้าต้องตกนรกขุมที่เก้า ข้าก็จะกลายเป็นวิญญาณกลับมาแก้แค้นเจ้าแน่นอน!”
ฉู่หลิวเยว่แสยะมุมปากและในใจก็รู้สึกว่าน่าสนใจ
ถ้าพูดอย่างจริงจังแล้ว นางต่างหากที่เป็นคนที่ตกลงไป และอ้อมนรกขุมที่เก้าหนึ่งรอบแล้วกลับมาแก้แค้น
แต่นางไม่ได้กลายเป็นวิญญาณและกลายเป็นฉู่หลิวเยว่แทน
ใครจะกลัวใครกันแน่?
“ดูแล้วคนที่อยู่ข้างนอกคนนั้นเป็นคนที่จะมาช่วยเจ้าสินะ” จู่ๆ ฉู่หลิวเยว่ก็เอ่ยปาก “ที่เจ้าอยากจะออกไปกับข้าก็เพราะจะฉวยโอกาสใช่หรือไม่?”
ใจของซือถูซิงเฉินเต้นรัว “ข้าไม่เข้าใจว่าเจ้ากำลังพูดอันใดอยู่!”
ฉู่หลิวเยว่ก็ไม่ได้ต้องการคำตอบเช่นกัน
“ข้าแค่จะมาเอาของไม่ได้จะมาช่วยเจ้า ถ้าเจ้าไม่อยากจะเอาออกมาก็…ตามนั้นแล้วกัน! ตอนนี้ข้าก็เข้ามานานมากแล้วถึงเวลาต้องไปแล้ว”
พูดจบฉู่หลิวเยว่ก็หันตัวและกำลังจะกลับไปจริงๆ
ในที่สุดซือถูซิงเฉินก็ร้อนรนขึ้นมา
“เดี๋ยวก่อน! เจ้าแก้พิษนี้ให้ข้าก่อน”
นางถึงขั้นรู้สึกได้ว่ายาพิษได้ลุกลามมาถึงแขนของนางแล้ว และอีกไม่นาน หน้าของนางก็จะเสียโฉมจริงๆแล้ว!
ฉู่หลิวเยว่โบกมือ
เมื่อเห็นว่าเงาของนางค่อยๆ หายไป ในที่สุดซือถูซิงเฉินก็กัดฟันและเอ่ยปาก
“ข้าให้เจ้าก็ได้!”
ฉู่หลิวเยว่หยุดเดินก่อนจะหันกลับมา และมองนางพลางยิ้มกรุ้มกริ่ม
“ยอมตั้งแต่แรกก็สิ้นเรื่อง?”
สีหน้าของซือถูซิงเฉินเต็มไปด้วยความหวาดระแวง
“เจ้ารีบแก้พิษซะ!”
ฉู่หลิวเยว่ตวัดปลายนิ้วเบาๆ
จากนั้นก็มีฝาไม้ขนาดใหญ่เท่าฝ่ามือหล่นลงมา ทันใดนั้นก็มีควันสีม่วงเขียวที่ดูเหมือนถูกพลังบางอย่างดึงดูดเข้าก็เปลี่ยนทิศทางลมก่อนจะพุ่งเข้ามา
เมื่อควันเกลียวสุดท้ายหายไปในที่สุดซือถูซิงเฉินก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก
“เอาของออกมาได้แล้ว” ฉู่หลิวเยว่กล่าว
ซือถูซิงเฉินลืมตากว้างโต ก่อนจะยกมือทั้งสองข้างของตัวเองขึ้นมา “พิษในร่างกายของข้ายังไม่ถูกแก้!”
“รอให้เจ้าเอาของให้ข้าแล้วข้าจะช่วยเจ้าเอง”
ฉู่หลิวเยว่พูดพลางยิ้มอ่อน
ซือถูซิงเฉินชะงักไปและรู้สึกเกลียดชังในใจ
ฉู่หลิวเยว่คนนี้ฉลาดแกมโกงจริงๆ ไม่ยอมเสียเปรียบแม้แต่นิดเดียว
นางลังเลสักพัก ก็รู้ว่าฉู่หลิวเยว่สามารถทำได้ทุกอย่างจึงไม่กล้าทำตัวอวดดีนัก และคลำไปยังกำไลหยกของตัวเอง
จากนั้นกล่องไม้กล่องหนึ่งก็ปรากฏขึ้นตรงหน้าของนาง
หลิวเยว่เหลือบมองผ่านกำไลหยกใบนั้นด้วยสายตาเย็นชา
ที่จริงแล้วมันก็คือสร้อยข้อมือเฉียนคุนนี่เอง และมูลค่าของของสิ่งนี้ยังสูงกว่าถุงเฉียนคุนด้วย
เพราะถุงเฉียนคุนนั้นดูออกง่าย แต่สร้อยข้อมือเฉียนคุนนั้นดูแล้วไม่แตกต่างอันใดกับกำไลธรรมดา
นี่ก็คือหนึ่งเหตุผลที่ซือถูซิงเฉินสามารถเก็บของสิ่งนี้เอาไว้ได้อย่างสมบูรณ์แบบ และไม่ถูกจักรพรรดิจยาเหวินยึดไปได้
“นี่ก็คือกล่องที่จักรพรรดินีให้กับข้าไว้”
ซือถูซิงเฉินสูดหายใจลึก ในที่สุดก็ผลักกล่องไม้ออกไปข้างหน้า
“ขอแค่ข้าเปิดกรงเหล็กนี้ได้ ของที่อยู่ในกล่องไม้ใบนี้ก็จะเป็นของเจ้า”
พูดจบนางก็ขยับถอนหลังราวกับว่าจะยอมให้ของสิ่งนั้นด้วยความจริงใจ
แต่นางกลับหัวเราะเยาะในใจ
กรงเหล็กนี้มีพลังป้องกันหนาแน่นมาก ถ้าฉู่หลิวเยว่อยากได้ของสิ่งนี้ก็ต้องแก้ปัญหานี้ให้ได้!
ถ้านางไม่สามารถสามารถจัดการได้ นางก็จะไม่ได้ของสิ่งนี้
แต่ถ้านางสามารถจัดการได้…กรงเหล็กนี้ต้องถูกเปิดออกแน่นอน
แล้วนางก็จะสามารถถือโอกาสนี้หนีออกไปได้
ถึงอย่างใดผู้อาวุโสจงเยี่ยก็อยู่ข้างนอกแล้ว นางต้องทำสำเร็จแน่นอน!
ฉู่หลอวเยว่หรี่ตาราวกับกำลังปวดหัวอยู่
ซือถูซิงเฉินยืนอยู่เงียบๆ ก่อนจะแอบควบคุมลมหายใจแล้ว เพื่อรอคอยที่จะแสดงท่าไม้ตายออกมา!
จู่ๆ ก็ได้ยินเสียงฉู่หลิวเยว่พูดเบาๆ
“ถวนจื่อไปเอาของมา”
มีเงาสีแดงก่อนหนึ่งโผล่ออกมาและพุ่งมายังกล่องไม้ใบนั้นทันที
ซือถูซิงเฉินขมวดคิ้ว จนสุดท้ายก็รู้ว่านั่นคือเพียงพอนโลหิตของฉู่หลิวเยว่
จากนั้นก็ได้ยินเสียง “แกร่ก” ดังขึ้น และจู่ๆ ก็มีช่องโหว่เกิดขึ้นบนกรงเหล็ก