CatNovel
  • หน้าหลัก
  • นิยายทั้งหมด
Advanced
  • หน้าหลัก
  • นิยายทั้งหมด
  • โดจิน
  • นิยายทั้งหมด
  • จบแล้ว
  • นิยายวาย Yaoi
ตอนก่อน
ตอนต่อไป
สล็อตเว็บตรง

ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ - ตอนที่ 437 พยาน

  1. Home
  2. ยอดหญิงลิขิตสวรรค์
  3. ตอนที่ 437 พยาน
ตอนก่อน
ตอนต่อไป

ตอนที่ 437 พยาน [รีไรท์]

ได้ยินคำนี้แล้ว ผู้อาวุโสเยี่ยก็รู้สึกไม่สบายใจและฝ่าบาทก็อยากจะได้ของจากซือถูซิงเฉินเช่นกันไม่ใช่รึ?

จงเยี่ยพูดแบบนี้แล้วเขาจะไม่สงสัยได้อย่างใด

เมื่อเขาหันไปมอง ก็รู้สึกว่าจักรพรรดิจยาเหวินขมวดคิ้วประหนึ่งกำลังสงสัย

ผู้อาวุโสเยี่ยรีบถามทันที

“จงเยี่ย ในเมื่อเป็นเช่นนั้น เจ้าก็ลองบอกมาสิว่าฉู่หลิวเยว่แย่งของอันใดจากซือถูซิงเฉินไป?”

จักรพรรดิจยาเหวินหยุดหายใจไปชั่วขณะ

จงเยี่ยก็นิ่งไป

เพราะเรื่องนี้ซือถูซิงเฉินยังไม่ทันได้บอกกับเขา…

แต่ที่เขามั่นใจได้ก็คือ ที่จักรพรรดิจยาเหวินขังซือถูซิงเฉินเอาไว้เพราะต้องการสิ่งของแน่นอน

เขากะพริบตาก่อนจะมองไปยังจักรพรรดิจยาเหวิน

“นางเอาอันใดไป จักรพรรดิจยาเหวินคงจะรู้ดีที่สุด?”

ผู้อาวุโสเยี่ยยิ้มหยัน ท่าทางแบบนี้ของจงเยี่ยนั้น ทำให้เห็นได้ชัดว่าเขารู้! และอาจจะเป็นเรื่องที่ปั้นแต่งขึ้นมาก็เป็นได้!

จักรพรรดิจยาเหวินเงียบไปทันที ก่อนจะมองไปยังซือถูซิงเฉินที่กำลังสลบอยู่

“เรื่องนี้ รอให้นางฟื้นแล้วข้าค่อยให้นางพูดเองคงจะดีกว่า”

ผู้อาวุโสจงเยี่ยรีบยืดตัวขึ้นมา

“เจ้าหมายความว่าอย่างใด!?”

“ความหมายก็คือ ก่อนที่เรื่องราวจะถูกตรวจสอบให้ชัดเจนก็รบกวนให้ผู้อาวุโสจงเยี่ยเอาเวลาไปสำนึกผิดต่อซือถูซิงเฉินสักพักดีกว่า เรื่องงานแต่งงานของซือถูซิงเฉินและหรงจิ้นก็ให้เลื่อนออกไปก่อน และผู้อาวุโสจงเยี่ยก็อยู่รอเป็นผู้ใหญ่ให้กับซือถูซิงเฉินเลยแล้วกัน”

พูดจบจักรพรรดิจยาเหวินก็กำลังจะเดินออกไป

“หรงเชียว!กล้าดีนัก!”

ผู้อาวุโสจงเยี่ยถูกคำพูดนี้ทำให้อึ้งนิ่งไป ก่อนจะเผลอหลุดปากตะโกนเรียกชื่อจริงของจักรพรรดิจยา

เหวินภายใต้สถานการณ์ที่เร่งรีบ

“อย่างหรงจิ้นที่ไม่มีอันใดดีนั้น คู่ควรกับซิงเฉินด้วยรึ!? ถ้าเจ้ายังมีความคิดแบบนั้นอยู่ อย่าหาว่าข้าไม่เตือนก็แล้วกัน!”

จักรพรรดิจยาเหวินยืนนิ่ง ก่อนจะแสยะยิ้มอย่างเย็นชา

“ที่ข้าเรียกท่านว่าผู้อาวุโสจงเยี่ยก็เพราะเห็นแก่หน้าตาของเทียนซานหมิงเยว่ แต่ไม่ได้หมายความว่าข้าจะกลัวเจ้า เพราะผู้แข็งแกร่งในเทียนซานหมิงเยว่ไม่ได้มีแค่เจ้าคนเดียวเท่านั้น?”

ผู้อาวุโสจงเยี่ยรู้สึกจุกอกไปทันที

“เจ้า!”

“คืนนี้ได้เกิดเรื่องใหญ่ขึ้นถึงเพียงนี้ แน่นอนว่าต้องดึงดูดสายตาผู้คนไม่น้อย ผู้อาวุโสจงเยี่ยเป็นคนฉลาด ถ้าท่านยอมให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ข้าก็จะคิดเสียว่าเรื่องในวันนี้ไม่ได้เกิดขึ้น แต่ถ้าท่านไม่ยอม…ก็อย่าหาว่าข้าไม่ไว้หน้าก็แล้วกัน!”

ซือถูเหยียนมาแล้วไม่ได้ผล แล้วคิดว่าจงเยี่ยมาอีกคนแล้วจะจบเรื่องนี้ได้งั้นรึ?

ผู้อาวุโสเยี่ยลูบเครา

“ข้านึกขึ้นได้ว่าช่วงนี้ไม่ได้ไปเทียนซานหมิงเยว่มานานแล้ว คงต้องหาเวลากลับไปเยี่ยมเยียนสักหน่อยแล้วล่ะ”

ผู้อาวุโสจงเยี่ยโมโหจนหน้าแดงก่ำ

เขานึกไม่ถึงเลยว่าตัวเองจะถูกจักรพรรดิจยาเหวินและเยี่ยจือถิงขู่เช่นนี้!

แต่นี่ก็เป็นจุดอ่อนของเขาจริงๆ!

เขารับบทลงโทษของเทียนซานหมิงเยว่ไม่ได้จริงๆ…

ถ้าจะให้ฝ่าฟันออกไป ก็ใช่ว่าเขาจะไม่สามารถออกไปได้

แต่ถ้าทำเช่นนั้นก็จะเหลือเพียงซือถูซิงเฉินอยู่ที่นี่คนเดียว

ในใจของเขานั้นไม่สามารถวางใจได้จริงๆ

จากนั้นสีหน้าของผู้อาวุโสจงเยี่ยก็เปลี่ยนไป และในที่สุดเขาก็กัดฟันและยอมรับ!

เขาจ้องผู้อาวุโสเยี่ยตาเขม็ง

“เยี่ยจือถิง เจ้าอย่าเพิ่งรีบได้ใจไป!จากทีข้าดูแล้ว ลูกศิษย์หัวแก้วหัวแหวนของเจ้าต้องมีจิตใจที่ล้ำลึกมาก!ไม่แน่สักวันอาจจะกลับมาแว้งกัดเจ้าโดยไม่รู้ตัวก็เป็นได้!”

ผู้อาวุโสเยี่ยยิ้มพลางเอ่ยปาก

“เรื่องระหว่างอาจารย์กับลูกศิษย์ของพวกข้านั้น เจ้าก็เป็นเพียงแค่คนนอกเท่านั้น อย่าได้กังวลไปเลยท่านจงเยี่ย เอาเวลาไปดูแลใส่ใจซือถูซิงเฉินเถิด! ถ้าปล่อยให้บาดแผลนี้อยู่นานเข้า ต่อไปอาจจะกลายเป็นแผลไม่รู้ด้วยล่ะ…”

“เจ้า!”

“ออ ใช่แล้ว ไม่เจอกันนานหลายปี ดูเหมือนความสามารถของเจ้าจะไม่ได้พัฒนาอันใดเลย ถ้าอย่างงั้นก็ได้เวลาถือโอกาสนี้ทบทวนแล้วล่ะ!”

ผู้อาวุโสเยี่ยพูดจบแล้วก็ดีดนิ้วทันที!

ขนนกสีขาวนับไม่ถ้วนกระตุ้นพลังที่แข็งแกร่งออกมาและแยกพวกเขาทั้งสองออกจากกัน!ก่อนจะเก็บรวบรวมอย่างรวดเร็ว!

“เกรงว่าสองสามวันนี้คงต้องลำบากผู้อาวุโสเยี่ยแล้ว”

จักรพรรดิจยาเหวินกล่าว

ซือถูซิงเฉินยังพูดง่ายหน่อย แต่ผู้อาวุโสจงเยี่ยนั้น…มีเพียงผู้อาวุโสเยี่ยเท่านั้นที่จะควบคุมกดขี่เขาได้

ผู้อาวุโสเยี่ยโบกมือ

“ข้าไม่ถูกชะตากับเขามาตั้งนานแล้ว ครั้งนี้ก็ถือว่าเป็นการได้แก้แค้นก็แล้วกัน แต่…ฝ่าบาทมีความเห็นอย่างใดกับสิ่งที่เขาพูดก่อนหน้านี้บ้าง?”

จักรพรรดิจยาเหวินลังเลไปสักพัก และในที่สุดก็พูดความจริงออกมา

“ข้าคิดว่า…ก็ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้”

ผู้อาวุโสเยี่ยขมวดคิ้ว

“พูดแบบนี้ แสดงว่าฝ่าบาทสงสัยฉู่หลิวเยว่จริงๆรึ?”

จักรพรรดิจยาเหวินยิ้มพลางส่ายหน้า

“ข้าก็ต้อง…ของสิ่งนั้นเป็นของสำคัญมาก ถึงคนอื่นจะไม่รู้แต่ท่านผู้อาวุโสเยี่ยคงรู้ดีที่สุด ที่ข้าทำเช่นนี้ก็ไม่ได้ทำเพื่อตัวเอง แต่..เพื่อทำเพื่อแคว้นเย่าเฉิน”

ผู้อาวุโสเยี่ยครุ่นคิดสักพัก

“ถ้าอย่างงั้นถ้าไปถามเองเลยไม่ดีกว่ารึ?”

จักรพรรดิจยาเหวินตั้งใจครุ่นคิด ทันใดนั้นก็รู้สึกเหมือนว่านี่จะเป็นทางออกที่ดีที่สุดแล้ว

เขาก็ชอบเด็กฉู่หลิวเยว่คนนั้นมากเช่นกัน

ด้านหนึ่งก็คือเพราะนางเป็นว่าที่มเหสีของหรงเซียว แต่ถ้าไปยุ่งกับนาง หรงซิวคงไม่ยอมแน่นอน

อีกด้านหนึ่ง ยังมีมู่ชิงเห่อด้วย…

“ถ้าอย่างงั้นก็คงต้องขอรบกวนผู้อาวุโสเยี่ยด้วย”

…

ไฟไหม้พระราชวังตลอดทั้งคืน

จนถึงเช้าตรู่ของวันรุ่งขึ้น ในที่สุดไฟก็มอดไปหมดแล้ว

ทั้งพระราชวังถูกเผาทำลายไปหมดแล้ว แม้แต่วิหารที่อยู่รอบๆก็โดนไปด้วยและกลายเป็นซากปรักหักพังหมดแล้ว

และยังได้คร่าชีวิตของบ่าวในวังไปไม่น้อยด้วย

จากการบอกต่อนั้นบอกว่าเป็นเพราะพระราชวังไม่ได้รับการซ่อมแซมมานาน ถึงได้เกิดไฟเผาและเผาไหม้ลุกโชนไปทันที

ที่จริงแล้วคนที่ตาดีก็จะรู้ว่า เปลวไฟสีฟ้าขาวนั้นไม่ใช่เปลวไฟธรรมดาแต่อย่างใด และเป็นไปได้อย่างมากว่าจะเป็นผงหลินเซียงที่เผาไหม้

และของสิ่งนี้ก็เป็นของที่คนทั่วไปไม่มี

ไม่ต้องเดาก็รู้ว่าเรื่องนี้นั้นต้องเป็นมีส่วนเกี่ยวข้องแน่นอน

แต่ในเมื่อทางพระราชวังได้แถลงการณ์ออกมาแล้ว จึงไม่มีใครทำตัวไม่รู้ร้อนรู้หนาว

เพียงแต่ พระราชวังโย่วเหอนี้เป็นที่ประทับของหรงจิ้น เขาเพิ่งจะถูกปลดออกไปแล้วก็เกิดไฟไหม้ขนาดใหญ่ถึงเพียงนี้ จะไม่ให้ผู้คนคิดมากได้อย่างใด

ครั้งนี้เขาคงถือโอกาสหันหลังกลับไม่ได้อีกแล้ว

…

ตำหนักองค์ชายหลีหวัน

ขันทีหมินเดินทางมาหาด้วยตัวเอง เพื่อบอกว่าฝ่าบาทเรียกให้หรงซิวเข้าพบ

คนของตำหนักองค์ชายหลีหวันพากันตกใจ

ฝ่าบาททรงให้ความสำคัญกับหรงซิวมาโดยตลอด เมื่อนึกถึงร่างกายที่ไม่แข็งแรงของเขาแล้วจึงไม่ค่อยจะให้เขาเข้ามาในวัง

แต่มาวันนี้กลับเรียกไปอย่างกะทันหัน

เหมือนว่าหรงเซียวจะไม่ได้คิดอันใดมาก เมื่อเก็บของเสร็จแล้วก็สวมเสื้อคลุมสีดำแล้วเดินเข้าวังตามขันทีหมินไป

จักรพรรดิจยาเหวินกำลังรออยู่ในห้องหนังสือ

“เสด็จพ่อ”

เห็นหรงซิวเข้ามาและกำลังจะคำนับ จักรพรรดิจยาเหวินก็เอ่ยปากทันที

“เรื่องงานอภิเษกนั้นเลื่อนออกไปก่อน ที่ข้าเรียกเจ้ามาวันนี้นั้นก็เพราะมี

เรื่องอยากจะถามเจ้า”

สีหน้าของหรงซิวยังคงเป็นปกติ และดูอบอุ่นมาโดยตลอด

“ถ้าลูกรู้ไม่มีอันใดที่ลูกไม่ตอบ”

จักรพรรดิจยาเหวินกำลังจะอ้าปากแล้ว แต่ในใจกลับรู้สึกลังเลขึ้นมา

หรงซิวเป็นลูกชายที่เขารักมากที่สุด

หลายปีมานี้ เป็นเพราะเขาไม่สามารถอยู่ข้างกายหรงซิวได้ เขาจึงรู้สึกผิดในใจมากๆมาโดยตลอด

ฉะนั้นหลังจากที่หรงซิวกลับมา เขาจึงคิดหาวิธีชดเชยมาโดยตลอด

ถ้าถามปัญหานี้กับเขาในตอนนี้…คงต้องไม่เหมาะสมแน่นอน

หรงซิวยืนอยู่ตรงนั้นเงียบๆ ราวกับว่ามองความลำบากใจของจักรพรรดิจยาเหวินไม่ออก

ผ่านไปสักพัก ในที่สุดจักรพรรดิจยาเหวินก็กัดฟันและตัดสินใจเอ่ยปากถาม

“หรงซิว เมื่อคืนนี้ตอนที่เกิดไฟไหม้ในวัง มีของสิ่งหนึ่งหายไปและมีคนชี้ตัวว่าฉู่หลิวเยว่เป็นคนทำ เจ้ามีความเห็นอย่างใด?”

ตอนก่อน
ตอนต่อไป

ความคิดเห็นทั้งหมดของ "ตอนที่ 437 พยาน"

ใส่ความเห็น ยกเลิกการตอบ

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

*

*

  • อ่านนิยาย
  • แทงหวย24

© 2020 cat-novel.com
เว็บอ่านนิยาย นิยาย pdf เว็บ “cat-novel.com” เว็บอ่านนิยายสนุกๆ เพลิดเพลินไปกับนิยายต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น นิยายวาย, นิยายจีน, นิยายรัก, แฟนตาซี, กำลังภายใน, ผจญภัย สุดยอดวิชากำลังภายใน อัพเดททุกวัน พร้อมรองรับการอ่านบนมือถือ คอมพิวเตอร์ ไอแพด หรือแท็บเล็ต อ่านได้ตลอดเวลา ไม่มีโฆษณา อ่านนิยายฟรีต้อง เว็บ ”cat-novel.com”
นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์