ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ - ตอนที่ 447 พังทลาย
ตอนที่ 447 พังทลาย [รีไรท์]
บุรุษชุดดำปรากฏตัวต่อหน้านาง
บนใบหน้าของอีกฝ่ายมีหน้ากากสีดำคาดแดงที่ถูกแต้มลายเส้นให้เป็นรูปรอยยิ้มแสยะ มันปกปิดใบหน้าเกือบทั้งหมดของเขาอย่างแน่นหนา และเผยให้เห็นเพียงดวงตาสีน้ำตาลเข้มที่ดูเย็นชาและเฉยเมยเท่านั้น
เขายืนอยู่ตรงนั้นพร้อมปล่อยพลังปราณที่ดุดันออกมารอบตัว!
พลันไม่กี่ชีวิตที่ยืนพูดคุยกันอยู่ตอนนี้ก็ล้มลงกับพื้น คนทั้งหมดไม่ขยับเขยื้อน และสิ้นใจลงในไม่กี่นาทีต่อมา
กลิ่นเลือดเข้มข้นกระจายไปทั่ว
ซือถูซิงเฉินกลั้นหายใจ และยืนนิ่งพร้อมเหงื่อท่วมตัว
ชายคนนั้น…อันตรายอย่างมาก!
“เจ้า เจ้าเป็นใคร!?”
นางเผลอบีบข้อมือตัวเองอย่างลืมตัว แต่กลับสัมผัสได้เพียงความว่างเปล่า ก่อนจะนึกขึ้นได้ว่าสร้อยข้อมือเส้นนั้นถูกเยี่ยจือถิงทำลายไปแล้ว
ทำให้ตอนนี้ไม่ว่านางจะคิดโจมตีหรือป้องกัน มันก็ไม่เกิดประโยชน์แต่อย่างใด!
ทันใดนั้น ชายคนนั้นก็หัวเราะ น้ำเสียงของเขาแหบแห้ง
“เจ้าไม่จำเป็นต้องรู้ว่าข้าเป็นใคร แค่รู้ไว้ว่า ข้ามาเพื่อช่วยเจ้าก็พอ”
“ช่วยข้า?”
ซือถูซิงเฉินขมวดคิ้วแน่น
“ตกลงเจ้าเป็นใครกันแน่? แล้วเหตุใดเจ้าถึงมาช่วยข้า?”
ในหัวของนางมีแต่ความสงสัยใคร่รู้ เพราะจากประสบการณ์ในช่วงสองสามวันที่ผ่านมานั้น แทบจะทำให้นางกลายเป็นบ้า ดังนั้นเมื่อนางได้ยินสิ่งนี้ ยามนี้แทนที่นางจะมีความสุข แต่ลึกๆ กลับรู้สึกไม่สบายใจมากกว่าเดิมแทน
ชายคนนั้นไม่พูดอันใด เขาเพียงสะบัดแขนเสื้อ พลังเพลิงสีเขียวก็ลุกวาบขึ้นมา!
พลันปรากฏหม้อสัมฤทธิ์ขึ้นต่อหน้าต่อตาซือถูซิงเฉิน!
ที่ขอบหม้อมีคราบเลือดแห้งกรังเกาะอยู่!
ซือถูซิงเฉินมองดูมัน พลันรูม่านตาของนางก็หดตัวลง!
นี่มันหม้อไฟสีชาดในตรอกชีเจี่ยวชัดๆ!
ทว่าไอ้จ้าวสิ่งนี้ มิใช่ว่ามันมันถูกขโมยไปแล้วหรอกหรือ?
แล้วมันมาปรากฏอยู่ในมือของชายแปลกหน้าผู้นี้ได้อย่างใด!
หรือว่า…เขาคือคนที่ขโมยมันมา!
“เจ้า…เจ้าคิดจะทำการใดกันแน่?” นานนับครึ่งก้านธูป กว่าซือถูซิงเฉินจะหาเสียงของตัวเองเจอแล้วเอ่ยออกมา
และหลังจากเงียบไปครู่หนึ่ง ในที่สุดชายคนนั้นก็พูดขึ้นว่า
“ต้องการจะทำอันใดน่ะหรือ เจ้าเองก็รู้อยู่แก่ใจหนิ?”
ซือถูซิงเฉินกำมือที่ซ่อนอยู่ใต้ชายแขนเสื้อของตนแน่น!
“นี่เจ้า…”
“อย่าพูดปัดว่าเจ้าไม่รู้เรื่อง แผนการทั้งหมดของเจ้า ข้าคนนี้รู้ดีกว่าใคร เดิมทีสิ่งนี้ถูกเตรียมไว้สำหรับหรงจิ้น แต่น่าเสียดายที่จนถึงทุกวันนี้ เจ้าโง่นั่นก็ยังไม่รู้ว่ามันคืออันใด ดังนั้นตอนนี้มันจึงตกเป็นของเจ้าแทน”
“…เจ้า…เจ้าจะมอบมันให้ข้า? ตอนนี้น่ะหรือ?”
“แต่ดูเหมือนเจ้าจะไม่อยากได้มันเท่าไหร่”
ชายคนนั้นพูด พลางเคลื่อนไหวราวจะดึงหม้อสัมฤทธิ์คืนมา
ซือถูซิงเฉินจึงโพล่งออกไปทันที
“ช้าก่อน!”
นางพยายามต้านทานความเจ็บปวดในร่างกายของตัวเอง และเดินกะเผลกเข้าไปใกล้อีกฝ่าย พลางจ้องไปที่หม้อสัมฤทธิ์อยู่ครู่หนึ่ง
“เจ้าต้องการข้อแลกเปลี่ยนอันใด?”
นางไม่เชื่อว่าอีกฝ่ายจะมาช่วยนางโดยไร้จุดประสงค์อื่นแอบแฝง
“เมื่อถึงเวลานั้น เจ้าจะรู้เอง”
ชายผู้นั้นขี้เกียจเกินกว่าจะใส่ใจกับสิ่งที่นางพูด และตอบกลับราวขอไปที
ส่วนซือถูซิงเฉินเองก็ไม่กล้าถามต่อ และทำได้เพียงเหลือบมองหม้อสัมฤทธิ์ใบนั้น
อย่างใดก็ตาม ขณะที่นางกำลังจะสัมผัสมัน ก็จำต้องชะงักการเคลื่อนไหว ดวงตาที่เต็มไปด้วยความขุ่นเคืองใจ จดจ้องมองมือของตนอย่างไม่ลดละ
มันทั้งเหี่ยวและฟกช้ำจนน่ากลัว!
หากเป็นบาดแผลภายนอกหรือบาดแผลภายใน อย่างใดเสียก็ย่อมหาทางรักษาได้!
ทว่าเมื่อเป็นพิษที่แล่นเข้าสู่ภายในแล้ว ย่อมเป็นสิ่งที่ยากแก่การรักษานัก!
และยิ่งปล่อยไว้นาน มันก็ยิ่งสะสมและฝังลึกอยู่ในกายนางมากขึ้น!
หลังจากนี้ถ้านางหลุดออกไปได้ แต่กลับไม่สามารถรักษาร่างนี้ไว้ได้ล่ะก็ นางจะทำเช่นไรดี?
“ข้า…ข้าอยากจะขอร้องเจ้าเรื่องหนึ่ง”
ซือถูซิงเฉินรวบรวมความกล้าแล้วเอ่ยถาม
“ร่างกายของข้าได้รับบาดเจ็บสาหัส และ และข้าถูกวางยาพิษ… ข้าสงสัยว่าเจ้าจะช่วยข้าได้หรือไม่?”
พลันสายตาของชายคนนั้นก็เปลี่ยนมามองที่ฝ่ามือของนาง
ซือถูซิงเฉินมองเขาอย่างกล้าๆ กลัวๆ
จากนั้นเขาก็เอ่ยเสียงเรียบว่า
“ไม่ได้”
และเมื่อเอ่ยจบอีกฝ่ายก็หมุนตัวเดินออกไปทันที
ซือถูซิงเฉินอ้าปาก แต่ก่อนที่จะได้ตะโกนเรียก แผ่นหลังของชายคนนั้นก็หายไปจากสายตาเสียแล้ว
นางกัดฟันกรอด
คนผู้นั้นมีพลังมหาศาลและต้นกำเนิดของเขานั้นไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน ทว่าเขาไม่มีวิธีดูดพิษออกจากร่างกายของนางเลยหรือ?
หรือเขาแค่ไม่อยากช่วยนางกันแน่!
นางระงับความขุ่นเคืองไว้ในใจและมองดูหม้อไฟสีชาดอีกครั้ง
รอบๆ ตัวนางนั้นมืดสนิท ทว่ามองเห็นคราบเลือดที่ขอบหม้อได้ชัดเจน หลังจากมองดูเป็นเวลานาน ก็สัมผัสได้ถึงบรรยากาศที่หนาวเย็นแปลกๆ อย่างอธิบายไม่ถูก
นางหายใจเข้าลึกๆ แล้ววางมือลงบนหม้อไฟสัมฤทธิ์สีชาด!
ทันทีที่นางสัมผัสมัน รอยเลือดที่เหลืออยู่บนมือของนาง ก็ถูกหม้อไฟสีชาดดูดกลืนเข้าไปทันที!
พลันมีแสงสีแดงแปลกๆ พุ่งออกมาจากหม้อ แล้วปกคลุมร่างของซือถูซิงเฉินไว้อย่างสมบูรณ์!
…
ฉู่หลิวเยว่ตามติดเจี่ยนเฟิงฉือไปตลอดทาง
แต่เมื่อตระหนักได้ว่าเขากำลังมุ่งหน้าตรงไปที่วังหลวง สุดท้ายนางก็หยุดฝีเท้าพลันขมวดคิ้ว
เจี่ยนเฟิงฉือเองก็หยุดชะงักพลางหันไปมองนาง
“อันใดอีก?”
ฉู่หลิวเยว่เหลือบมองระฆังในมือของเขา
มันคือของรักของหวงของเจี่ยนเฟิงฉือที่ไม่เคยทำงานผิดพลาดเลยสักครั้ง
“นายน้อยเจี่ยน เส้นทางนั้นคือทางไปวังนะ ท่านจะบอกว่า หลังจากที่คนๆ นั้นขโมยของสิ่งนั้นไปแล้ว เขาจะยังหลบซ่อนคงอยู่ในวังหรือ?”
ดวงตาเรียวรีของเจี่ยนเฟิงฉือหรี่ลงเล็กน้อย
“นี่เจ้าไม่เชื่อใจข้าหรือ?”
“มิใช่เช่นนั้น”
ฉู่หลิวเยว่ผงะ
“ตามข้ามาเถิดหน่า! เจ้าวางใจได้ นายน้อยอย่างข้าลงทุนช่วยเจ้าเชียวนะ มันต้องสำเร็จแน่นอน!”
เมื่อได้ยินสิ่งที่เจี่ยนเฟิงฉือพูด ฉู่หลิวเยว่ก็รู้สึกสบายใจขึ้นมาเล็กน้อย และยอมเดินตามเขาต่อไป
ทว่าเมื่อทั้งสองมาถึงบริเวณด้านนอกกำแพงวัง และกำลังจะหาทางเข้าไป เจี่ยนเฟิงฉือก็เลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย และแนบระฆังใบเล็กไว้ข้างหู พร้อมตั้งใจฟังอย่างระมัดระวัง
ทันใดนั้น สีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไป
“เหมือนว่าเขาจะไม่ได้อยู่ที่นี่แล้ว”
“อันใดนะ?”
ฉู่หลิวเยว่กวาดตามองไปรอบๆ
ณ เวลานี้ และ ณ บริเวณนี้ ไม่มีผู้ใดสัญจรผ่านไปมาเลยสักคน
“เมื่อครู่ยังอยู่เลย เหตุใดเพียงพริบตาถึงได้…”
“ทางนั้น!”
เจี่ยนเฟิงฉือหันกลับมาอย่างรวดเร็ว!
ซึ่งฉู่หลิวเยว่เองก็ทำตามโดยไม่ลังเล!
อย่างใดก็ตาม หลังจากเดินไปสองก้าว นางก็อดไม่ได้ที่จะมองย้อนกลับไป พลันดวงตาของนางก็หม่นแสงลง
ทว่าเจี่ยนเฟิงฉือที่เดินออกไปไกลแล้ว กลับเพิ่งตระหนักได้ว่าฉู่หลิวเยว่ยังคงยืนอยู่ตรงนั้นโดยไม่ขยับเขยื้อน
“เจ้าเลิกตามล่าชายคนนั้นแล้วหรือ?” เจี่ยนเฟิงฉือค่อนแคะ
ฉู่หลิวเยว่ส่ายศีรษะ
พลันเอ่ยเสียงนุ่มนวล
“ชายคนนั้นแวะเวียนมาที่วังก่อน แล้วจึงจากไป…ทว่าเพราะเหตุใดกัน?”
เจี่ยนเฟิงฉือตกตะลึงครู่หนึ่งและเข้าใจบางอย่างในทันใด
“เจ้าจะบอกว่า เขาตั้งใจมาที่วังหลวงอย่างนั้นหรือ?”
ฉู่หลิวเยว่เงยหน้าขึ้นและจ้องไปยังกำแพงวังหลวงอันสูงชะลูดอย่างระมัดระวัง ราวกับว่านางต้องการพุ่งตัวผ่านกำแพงนั้นและดูว่าเกิดอันใดขึ้นภายใน
และไม่นานนางก็ตัดสินใจได้
“ข้าจะเข้าไปในวัง!”
นางมีลางสังหรณ์ในใจหนักแน่น การที่คราวนี้ผู้ชายคนนั้นมาปรากฏตัว แสดงว่าอีกฝ่ายจะต้องมีแผนแน่ๆ!
ท่ามกลางคนมากมายในวังหลวง มีเพียงจักรพรรดิจยาเหวินผู้เดียวที่มีความข้องเกี่ยวกับหม้อสัมฤทธิ์อย่างใกล้ชิด!
แต่ก็ยังมีซือถูซิงเฉินอีกคน!
แต่ในจังหวะที่ฉู่หลิวเยว่เตรียมหาทางเข้าไป กลับถูกเจี่ยนเฟิงฉือรั้งร่างเอาไว้เสียก่อน
“กลางวันแสกๆ เช่นนี้เจ้าจะลอบเข้าไปอย่างใด?!”
ฉู่หลิวเยว่ขมวดคิ้วและกำลังจะพูดอันใดบางอย่าง ทว่าทันใดนั้นนางก็เห็นดอกไม้ไฟปรากฏขึ้นบนท้องฟ้าจากระยะไกล!
และวินาทีถัดมา มันก็ระเบิด!
ตู้ม!
พร้อมกับธงของกองทัพที่ปลิวไสว!
หัวใจของฉู่หลิวเยว่ตกไปอยู่ตาตุ่มทันที…ประตูเมืองแตกแล้ว!