ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ - ตอนที่ 462 หลบหนี
ตอนที่ 462 หลบหนี [รีไรท์]
เปลวไฟสีแดงกำลังลุกไหม้ไปทั่วร่างกายของนาง และสะท้อนกับดวงตาของนาง ราวกับเปลวเพลิงที่กำลังเริงระบำ
จังหวะการก้าวเท้าของนางช้าลง แต่ทุกย่างก้าวนั้นดูเหมือนกำลังย่ำผ่านหัวใจของผู้คน มีแต่เพียง
เจี่ยนเฟิงฉือและเยี่ยเหล่า ที่กำลังจะรีบไปช่วยนาง ถึงกับหยุดฝีเท้าโดยไม่รู้ตัว
ส่วนชีหานนั้นกำหมัดแน่น และพยายามควบคุมคลื่นพายุในหัวใจของเขาอย่างหนักหน่วง
องค์หญิง…อย่างใดเสียก็ยังเป็นองค์หญิงคนเดิม!
ถึงจะตกอยู่ในสถานการณ์ที่เสียเปรียบ แต่ก็เอาตัวรอดได้เสมอ!
จะมีสักกี่คนในโลกที่ทำเช่นนี้ได้!?
เขาหันควับไปมองหรงซิวอย่างอดไม่ได้ แต่สีหน้าของอีกฝ่ายกลับไร้ซึ่งอารมณ์ประหลาดใจใดๆ และมีเพียงรอยยิ้มจางๆ ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเขา ราวกับว่าเขาคาดการณ์เรื่องทั้งหมดนี้ไว้แล้ว
องค์ชายหลี่หวันผู้นี้…ช่างดูลึกลับและทรงพลังเกินคาด…
…
ดวงตาที่เย็นชาและดุร้ายของซือถูซิงเฉินเบิกโพล่ง เต็มไปด้วยความตกใจและตื่นตระหนก
ด้วยเหตุผลบางอย่าง นางสัมผัสได้ถึงภัยคุกคามที่แข็งแกร่งจากฉู่หลิวเยว่!
ที่ไม่ได้มาจากนักรบระดับสามทั่วไป…ความกดดันและพลังปราณเข้มข้นเช่นนี้ มาจากที่ใดกัน!?
และในที่สุดฉู่หลิวเยว่ก็หยุดเดิน ก่อนจะเงยหน้ามองซือถูซิงเฉิน
พลันยกมือขึ้น
พริบตา เปลวไฟสีแดงกลุ่มหนึ่งก็ผุดขึ้นบนฝ่ามือของนาง!
ความกดดันที่น่าสะพรึงกลัวค่อยๆ แผ่ออกมาจากลูกไฟนั่น!
ซือถูซิงเฉินเริ่มวิตกกังวลมากขึ้นเรื่อยๆ จนลำคอแห้งผาก
ฉู่หลิวเยว่จ้องมองนาง พลันแย้มยิ้มมุมปากอย่างเย็นชา
นางเอ่ยเน้นเสียงทีละคำ
“ข้าเกลียดคนที่ขโมยของของข้าไปมากที่สุด”
เมื่อก่อนเป็นอย่างใด ตอนนี้ก็ยังคงเป็นเช่นนั้น!
ซือถูซิงเฉินใจหายวาบ และสัญชาตญาณสั่งให้นางถอยหนี!
ฉู่หลิวเยว่ยังคงยืนอยู่ตรงนั้น พลันสะบัดมือ
“รับไปซะ!”
ลูกไฟขนาดเท่ากำปั้นลอยพุ่งไปทางซือถูซิงเฉินทันที!
ไม่ว่านางจะหนีไปทางใด พื้นที่นางเหยียบก็จะแตกร้าว และเกิดรอยแยกเสมือนว่าแผ่นดินกำลังแตกตัวออก!
ซือถูซิงเฉินรีบหนีด้วยความเร็วที่มากกว่าปกติ แต่รอยร้าวนั่นกลับเร็วกว่า!
ทุกคนเห็นเพียงลูกไฟที่พุ่งลงมาจากท้องฟ้า!
และวินาทีต่อมา ลูกไฟก็ได้พุ่งไปใส่ด้านหน้าของซือถูซิงเฉินเต็มๆ!
เมื่อไร้ซึ่งทางหนีทีไล่ ซือถูซิงเฉินก็ทำได้เพียงกัดฟันแล้วยืนหยัดสู้!
อย่างใดเสีย ฉู่หลิวเยว่ก็เป็นเพียงนักรบระดับสาม จะแข็งแกร่งกว่าระดับห้าอย่างนางได้หรือ?
นางไม่มีทางยอมรับว่าตัวเองจะจนตรอกและผ่ายแพ้ให้กับฉู่หลิวเยว่!
และเมื่อคิดเช่นนี้ ซือถูซิงเฉินก็รวบรวมพลังปราณดั้งเดิมในร่างกายของนางอย่างรวดเร็ว แล้วเปลี่ยนมันให้กลายเป็นกระบี่ประธีปสีชาดเล่มยาว และพุ่งไปข้างหน้า!
เปรี้ยง!
ใบมีดสีชาดปะทะเข้ากับลูกไฟอย่างแรง และแตกออกเป็นสองส่วน!
ซือถูซิงเฉินชะงักตัวแข็งทื่อ
“อันใดกัน…”
ยังไม่ทันได้พูดจบ สีหน้าของคนสติหลุดนั่น ก็แทนคำพูดของนางได้แล้ว!
ฉู่หลิวเยว่หัวเราะเสียงทุ้มลึก
“ตอนแรกข้าอยากจะให้มันค่อยเป็นค่อยไป แต่ไม่คิดว่าเจ้าจะกระตือรือร้นเช่นนี้ แต่มันช่วยข้าได้มากเลยทีเดียว”
นอกจากซือถูซิงเฉินแล้ว ก็ไม่มีใครเห็นว่า มีเปลวไฟโปร่งใสซ่อนอยู่กลางลูกไฟสีแดง!
ฉู่หลิวเยว่หลอมรวมพลังปราณทั้งสอง และโจมตีอย่างรุนแรง!
ในจังหวะที่ซือถูซิงเฉินเห็นเปลวไฟที่โปร่งใส ดวงตาของนางก็เบิกกว้างด้วยความสยดสยอง!
นั่นมัน…
พรึบ!
เปลวไฟทั้งสองกำลังลุกไหม้และพุ่งมาทางนี้!
ทว่าก่อนที่ซือถูซิงเฉินจะได้ขยับตัวหนี นางก็รู้สึกเจ็บแปลบที่หน้าอกเสียก่อน!
เธอจึงค่อยๆ ก้มหน้ามองลงมา พลันเห็นตำแหน่งช่องท้องส่วนล่างของตน มีรูเลือดขนาดเท่ากำปั้นเจาะทะลุผ่านร่างเข้ามา!
แต่ถึงจะพูดว่าเป็นรูเลือด แต่จริงๆ แล้วไม่มีเลือดไหลออกมาสักหยด
เนื่องจากเปลวไฟที่มีอุณหภูมิสูงจนน่าสะพรึงกลัว เนื้อรอบๆ แผลจึงไหม้เกรียมทันที และแผลทั้งหมดก็ถูกตรึงไว้
ทว่าสิ่งที่สำคัญกว่านั้นคือ หยวนตัน ที่อยู่ในตำแหน่งของช่องท้องส่วนล่างต่างหาก!
เมื่อหน้าท้องส่วนล่างถูกเจาะ หยวนตันที่อยู่ในนั้นก็แตกเป็นเสี่ยงๆ เช่นกัน!
ซือถูซิงเฉินตกตะลึงอยู่พักใหญ่ ขณะมองดูอาการบาดเจ็บบนร่างกายของตน
จนกระทั่งนางสังเกตเห็นว่า พลังภายในของตัวเองเริ่มกระจายออกไปอย่างควบคุมไม่ได้ เธอถึงมีปฏิกิริยาตอบสนองขึ้นมา
“เจ้า! เจ้าทำลายร่างกายของข้าหรือ!?”
นางเงยหน้าขึ้นทันควัน พร้อมเส้นเลือดในตาที่ปูดบวม!
นี่เป็นโอกาสที่หาได้ยากของนางเชียวนะ!
นางได้ครอบครองร่างนี้เพียงหนึ่งในสี่ชั่วยามเอง!
ฉู่หลิวเยว่ยิ้มเหยียดพลางเอ่ย
“เจ้าไม่คู่ควรกับร่างนี้ ข้าเลยช่วยสงเคราะห์ให้”
ซือถูซิงเฉินโกรธจนเลือดขึ้นหน้า!
นางอดทนรอมาตั้งหลายปี และพยายามรวบรวมพลังไว้อย่างดีที่สุด แต่สุดท้ายแผนของนางก็ถูกฉู่หลิวเยว่ทำลายอย่างง่ายดาย!
“วอนตายเสียแล้ว!”
ซือถูซิงเฉินแผดเสียงคำรามที่เต็มไปด้วยความแค้นออกมา!
ทว่าเมื่อหยวนตันถูกทำลาย นางจึงไม่สามารถรวมพลังปราณจากร่างนี้ได้อีกต่อไป!
ยิ่งนางหวังจะฟื้นตัวมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งแย่ลงเท่านั้น
เช่นเดียวกับในยามที่ถือทรายไว้ในมือมากเท่าไหร่ มันก็ยิ่งหายไปจากมือเร็วเท่านั้น
นางพยายามอยู่หลายครั้ง แต่เพราะแกนพลังปราณดั้งเดิมอย่างหยวนตันถูกทำลาย จึงไม่สามารถคืนสู่สภาพเดิมได้
“ทุกครั้งที่เจ้าทำการยึดร่าง มันจะใช้พลังปราณมหาศาลและอาจสร้างความเสียหายให้กับตัวเจ้าได้ ข้าคิดว่าตอนนี้เจ้าคงไม่สามารถยึดร่างผู้อื่นได้เป็นครั้งที่สองแล้วใช่หรือไม่?”
ฉู่หลิวเยว่เอ่ยถามพลางยิ้มบาง
ซือถูซิงเฉินหน้าซีดเผือด
เพราะสิ่งที่อีกฝ่ายพูดมานั้นเป็นความจริง!
ภายใต้สถานการณ์ในตอนนี้ การคิดจะยึดร่างอีกครั้ง และฆ่าฉู่หลิวเยว่ทิ้ง คงเป็นได้แค่ความฝันของคนโง่!
ทว่าจู่ๆ สีหน้าของนางก็เปลี่ยนไป แววตาที่ไร้ความปราณีฉายผ่านดวงตาของนาง
ตู้ม!
ร่างกายของซือถูซิงเฉินระเบิดออกทันที!
“ซิงเฉิน!”
ผู้อาวุโสจงเยี่ยถึงกับหน้าซีดราวสติหลุด!
เขามองดูฉากนี้อย่างไม่เชื่อสายตา และรู้สึกเพียงว่าโลกกำลังหมุน เท้าของเขาเซอย่างอ่อนแรง และเกือบจะล้มลงกับพื้น
ซือถูซิงเฉินเห็นเขารักและทะนุถนอมเลี้ยงดูนางอยู่ที่หมิงเยว่เทียนซานมาหลายปี เสมือนลูกสาวแท้ของตัวเอง
แต่เขากลับต้องมาเห็นฉากนี้ต่อหน้าต่อตา ซึ่งมันทำให้เขาตกตะลึงจนแทบเสียสติ
ดวงตาของเขาแดงก่ำในทันที และเขาเกลียดฉู่หลิวเยว่ยิ่งกว่าสิ่งใดในโลก!
“ฉู่หลิวเยว่! ข้าจะฆ่าเจ้า!”
ทว่าก่อนที่เขาจะทันได้ลงมือ เยี่ยเหล่าก็พุ่งมาหยุดอยู่ตรงหน้าเขาอีกครั้ง!
ผู้อาวุโสจงเยี่ยร้องตะโกนอย่างบ้าคลั่ง
“เยี่ยจือถิง! ฉู่หลิวเยว่สังหารซิงเฉิน แค้นนี้ข้าต้องเอาคืน!”
เยี่ยเหล่าหัวเราะอย่างโกรธเคือง
“ซือถูซิงเฉินตายไปตั้งแต่ตอนที่ถูกยึดร่างแล้ว หากเจ้าจะโทษ ก็ต้องโทษวิญญาณที่สิงร่างนาง จะมาโทษลูกศิษย์ของข้าได้อย่างใด?”
กรรมใดใครก่อ กรรมนั้นย่อมคืนสนอง ในเมื่อพวกเขาไม่ใช่คนเริ่มเรื่อง พวกเขาก็จะไม่รับผิดชอบเด็ดขาด!
“สาเหตุที่ซือถูซิงเฉินต้องจบชีวิตเช่นนี้ ก็เป็นเพราะนางกลืนกินพลังของหม้อไฟสัมฤทธิ์สีชาดอย่างบ้าคลั่ง จนร่างวิญญาณถูกเรียกออกมา! นางทำตัวของนางเอง! ทั้งๆ ที่รู้ว่ามันจะเป็นเช่นนี้ แต่นางก็ยังเลือกที่จะทำ!?”
ใบหน้าของผู้อาวุโสจงเยี่ยเปลี่ยนเป็นสีแดงสลับขาว และเส้นสีน้ำเงินก็พุ่งออกมาที่หน้าผากและคอของเขา ราวกับว่าเขาใกล้จะทรุดเต็มที
แต่เขาไม่สามารถพูดอันใดเพื่อหักล้างคำพูดของอีกฝ่ายได้เลย
เพราะเขารู้อยู่แก่ใจว่าสิ่งที่เยี่ยจือถิงพูดนั้นถูกต้อง!
แต่จะให้เขายอมรับ คงเป็นไปไม่ได้!
“…ทุกอย่างเป็นเพราะฉู่หลิวเยว่บีบบังคับนาง! ไม่เช่นนั้น ซิงเฉินคงไม่เป็นเช่นนี้!”
ขณะพูด เขาก็หันไปตะโกนใส่ฉู่หลิวเยว่ด้วยความโกรธ
“ฉู่หลิวเยว่! ชีวิตต้องแลกด้วยชีวิต! จงเยี่ยผู้นี้ อีกทั้งคนทั้งแคว้นซิงหลัว จะไม่มีวันปล่อยเจ้าไปเด็ดขาด!”
ทว่าฉู่หลิวเยว่แทบไม่ได้มองเขาด้วยซ้ำ หลังจากที่ร่างของซือถูซิงเฉินระเบิด นางก็เห็นลำแสงสีแดงเข้มพุ่งออกมาอย่างรวดเร็ว!
วิญญาณตนนั้นกำลังจะหลบหนี!