ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ - ตอนที่ 476 ยอมแพ้หรือสู้ต่อ
ตอนที่ 476 ยอมแพ้หรือสู้ต่อ [รีไรท์]
ขาของสตรีผู้นี้ทำมาจากเหล็กกล้าหรืออย่างใด!?
ความคิดนี้ของอู่จ้าวแล่นผ่านท่ามกลางทะเลความคิดอย่างรวดเร็ว พลันสีหน้าเปลี่ยนเป็นซีดขาว!
ผู้ชมรอบข้างเห็นฉากนี้แล้วต่างพากันอ้าปากค้างด้วยความสับสนงุนงง
ฉู่หลิวเยว่ผู้นั้นเพิ่งหักกระดูกของอู่จ้าวไปชัดๆ!
ดูจากอาการบาดเจ็บของเขาแล้วนั้น ดูท่ากระดูกซี่โครงหักไปแล้วอย่างน้อยสามซี่!
ตั้งแต่เมื่อไรกันที่พละกำลังของนักรบระดับสามแข็งแกร่งถึงเพียงนี้!
ต้องรู้ก่อนว่า อายุเท่านี้เป็นแค่นักพรตระดับห้าขั้นแรก โดยปกติแล้วยังไม่มีคุณสมบัติที่จะมาหาเงินที่จตุรัสผิงเหลียง
เหตุผลที่ว่าเหตุใดอู่จ้าวถึงเป็นข้อยกเว้น นั่นก็เพราะเขามีพลังมหาศาลแต่กำเนิด!
มัดกล้ามที่ขดตัวบนร่างกายนั้นไม่ใช่เครื่องประดับตกแต่งแต่อย่างใด!
ทว่าเมื่อครู่ เขากลับถูกสตรีรูปร่างผอมบางจัดการเสียจนอยู่หมัด!
ฉู่หลิวเยว่ก้มลงมองอู่จ้าว หางตาและหางคิ้วแฝงไปด้วยรอยยิ้ม
“เจ้านี่อึดกว่าที่ข้าคิดไว้อีกนะ…”
อู่จ้าวโกรธแค้นอย่างมาก เขายกสองมือขึ้นจับข้อเท้าของฉู่หลิวเยว่เอาไว้!
ฉู่หลิวเยว่กระทืบเท้าอย่างแรงอีกครั้งหนึ่ง!
กร๊อบ!
เสียงกระดูกแตกหักได้ยินชัดเจนยิ่งกว่าเก่า!
ความเจ็บปวดอย่างรุนแรงที่หน้าอกแล่นปราดขึ้นมา เจ็บเสียจนอู่จ้าวถึงกับหลั่งเหงื่อเย็นออกมาอย่างรวดเร็ว
เขาอยากที่จะยันกายลุกขึ้น ทว่าร่างกายกลับหนักราวกับถูกถ่วงด้วยภูเขา!
ทำให้เขาขยับตัวไม่ได้เลยแม้แต่น้อย!
ก่อนหน้านี้ เขาไม่เคยคิดมาก่อนว่าตนจะพ่ายแพ้อย่างหมดรูปแก่สตรีที่บอบบางเช่นนี้!
สู้ระยะประชิดปกติธรรมดาเช่นนี้เห็นทีคงเอาชนะไม่ได้แน่!
อู่จ้าวประมวลความคิดในหัว แล้วตัดสินใจใช้วรยุทธทันที!
เมื่อรู้สึกได้ถึงการโคจรพลังทั่วกายของเขา ฉู่หลิวเยว่ก็เลิกคิ้วขึ้น
ถ้าหากว่านางไม่ใช้พลังของไข่มุกวารีภายในจุดตันเถียน กำลังภายในย่อมมิใช่คู่ต่อสู้ของนักรบระดับห้าอย่างอู่จ้าว
ดังนั้น นางจะไม่ยอมให้โอกาสนี้แก่เขาเป็นอันขาด!
ชิ้ง!
อู่จ้าวปล่อยพลังสายหนึ่งออกจากฝ่ามือ!
ฉู่หลิวเยว่หลบไปด้านข้าง พร้อมถอยไปหนึ่งก้าว!
อู่จ้าวในใจลิงโลดยิ่ง ใช้ฝ่ามือยันตัวขึ้นมาจากพื้น กลับมายืนขึ้น!
ทว่าเมื่อเขาหยัดตัวลุกขึ้นได้แล้ว ตรงหน้ากลับไม่พบร่างเงาของฉู่หลิวเยว่แล้ว!
ทันใดนั้นในใจเขาเกิดความหวาดหวั่น
มีลมเย็นสายหนึ่งพัดมาทางด้านหลังศีรษะเข้าโจมตี!
เขากลิ้งไปข้างหน้าโดยไม่ทันได้ยั้งคิด
ฉึบ!
มีดบินเล่มหนึ่งที่บางราวกับปีกจักจั่น พุ่งตรงเข้าปักในตำแหน่งที่เขายืนอยู่เมื่อครู่!
กริชเล่มนั้นฝังเข้าไปถึงหนึ่งส่วนสาม!
อู่จ้าวหันกลับไปมอง ก่อนจะเห็นกริชเล่มนั้นพลันสั่นไปทั้งกาย เปลือกตาของเขากระตุกถี่รัว
จัตุรัสแห่งนี้ทำมาจากไพฑูรย์หล่อ มีความทนทานอย่างมาก อาวุธโบราณปกติย่อมไม่สามารถทิ้งร่องรอยอันใดไว้ได้!
ทว่า ฉู่หลิวเยว่ผู้นี้เพียงแค่ซัดมีดบินเล่มนี้ออกมา ก็สามารถทำให้มันแยกออกได้!
เรื่องนี้ แม้แต่ตัวเขาเองยังไร้หนทางจะทำได้แบบนี้!
คิดได้ไม่ยากเลยว่า หากเขาหลบช้ากว่านี้เพียงก้าวเดียว จะต้องพบเจอกับชะตากรรมเช่นไร!
อู่จ้าวรู้สึกเย็นวาบทั่วร่าง ในใจเกิดความเสียใจรางๆ อยู่บ้าง
ผู้ที่สามารถมีมีดบินระดับนี้ไว้ในครอบครอง ย่อมมีภูมิหลังที่ไม่ธรรมดา!
แต่จะให้ยอมแพ้ตอนนี้แล้วล่ะก็ เขาย่อมต้องกลายเป็นที่ขบขันของทั่วทั้งเมืองซีหลิงเป็นแน่!
คิดได้ดังนั้น เขาจึงชักกระบี่ที่เหน็บไว้ข้างเอวออกมาโดยพลัน!
อาวุธยาวกว่าย่อมได้เปรียบ!
เขาไม่มีทางเชื่อ ว่าตัวเองพ่ายแพ้ให้กับนักรบระดับสาม!
ในตอนที่เขาเริ่มถ่ายโอนพลังไปให้กระบี่ข้างเอวอย่างบ้าคลั่ง ฉู่หลิวเยว่ก็ซัดมือบินในมือออกไปอีกครั้ง!
สถานการณ์ตึงเครียด อู่จ้าวยังไม่ทันจะแสดงวรยุทธกลับถูกบีบบังคับให้ต้องเงื้อกระบี่ขึ้นสกัดการโจมตีจากมีดบิน!
ฉับ!
มีดบินขนาดเท่าเพียงแค่นิ้วมือ เข้าปะทะกับกระบี่ของอู่จ้าวอย่างรุนแรง!
สะเก็ดและประกายไฟกระจายทั่ว!
พลันเสียงปะทะเสียดหูเงียบลง เขาก็ต้องตะลึงพรึงเพริดเมื่อพบว่ากระบี่ของตน นั้นเกิดรอยร้าวที่แสนประณีตขึ้นสายหนึ่ง!
ทันใดนั้น เคร้ง!
กระบี่ของเขาก็หักออกเป็นสองท่อน!
เกี่ยวเนื่องจากที่กำลังภายในของเขาได้รับความปั่นป่วน กลายเป็นความสับสนเข้ามาแทนที่
ฉู่หลิวเยว่จึงฉวยโอกาสนี้ สาวเท้าไปข้างหน้า! พุ่งเข้าเผชิญหน้ากับร่างของอู่จ้าว! จากนั้นก็ยกขาขึ้น จู่โจมเข้าไปยังลิ้นปี่ของเขา!
อู่จ้าวใจสั่นระรัว เขาโยนด้ามกระบี่ทิ้งไป ก่อนจะประสานหมัดที่กำไว้แน่นไขว้สกัดการโจมตี!
ขาของฉู่หลิวเยว่เตะเข้าที่ข้อมือที่ได้รับบาดเจ็บเมื่อครู่ด้วยความแม่นยำไร้เทียมทาน!
กร๊อบ!
ฉับพลันข้อมือของเขาก็ปรากฏเป็นรูปร่างประหลาดพิกล
อู่จ้าวร้องโหยหวน ถอยไปครึ่งก้าว ภายในแววตาแผดเผาไปด้วยเพลิงโทสะ
“ต่ำช้า!”
ฉู่หลิวเยว่กลับยืมกำลังย้อนกลับแล้วกระโดดดีดตัวขึ้น!
อู่จ้าวบันดาลโทสะ ลืมทิ้งซึ่งอาการบาดเจ็บ ใช้มืออีกข้างจับน่องของฉู่หลิวเยว่ไว้แน่น! จากนั้นก็ทุ่มตัวลงกับพื้นอย่างรุนแรง!
ปึง!
หลังของฉู่หลิวเยว่กระแทกลงบนพื้นอย่างรุนแรง!
ร่างของนางกระตุกครั้งหนึ่ง พลันกระอักเลือดออกมากองหนึ่ง!
ดวงตาของอู่จ้าวสีแดงฉาน ทันใดนั้นเขาก็ลากฉู่หลิวเยว่ไปทางข้างหลัง
บนพื้นเปรอะเปื้อนไปด้วยรอยเลือดจากรอยเลือดบนตัวฉู่หลิวเยว่!
ในตอนที่นางกำลังคิดหาทางเอาตัวรอดอยู่นั่นเอง อู่จ้าวกลับหยุดเดินโดยพลัน จากนั้นก็เหวี่ยงตัวฉู่หลิวเยว่ลงบนพื้นอีกครั้งอย่างหนักหน่วง!
บนพื้น มีคมมีดส่องประกายแวววาวสายหนึ่ง!
นั่นก็คือมีดบินที่ฉู่หลิวเยว่ซัดออกไปก่อนหน้านี้!
ในช่วงเวลาเพียงเสี้ยววิ ย่อมสามารถแทงทะลุหัวใจได้อย่างแน่นอน!
“ไปตาย…”
อู่จ้าวคำรามด้วยเสียงโกรธเกรี้ยว!
ทว่าในตอนนั้นเอง จู่ๆ ความเจ็บปวดแล่นปะทุขึ้นมา
เขาปล่อยมือออกโดยไม่ทันได้ตั้งตัว!
เมื่อหันไปมอง กลับพบเพียงพังพอนโลหิตระดับสามตัวหนึ่ง คอยฉีกกระชากชิ้นผิวเนื้อส่วนเนื้อของอู่จ้าวซ้ำๆ
โลหิตสดหลั่งรินไม่หยุด!
ฉู่หลิวเยว่ฉวยโอกาสนี้พาตัวเองหลบหนี กลิ้งร่างกายบนพื้น พยายามหลบการโจมตีของอู่จ้าว
จากนั้น นางกวัดแกว่งข้อมือ ลำแสงเยือกเย็นสายหนึ่งปรากฏออกมาจากกลางฝ่ามือ
อู่จ้าวมองเห็นชัดเจนแล้ว ครั้งนี้คือกริชเล่มหนึ่ง!
เขารีบหลบด้วยความรวดเร็ว!
ทว่า ขณะที่กริชกำลังจะเฉียดผ่านหูเขา มีดบินก็พุ่งออกมาจากด้านบนทันทีทันใด!
อู่จ้าวหดม่านตา! รีบเคลื่อนตัวหลบในทันที!
ทว่ายังคงช้าไปก้าวหนึ่ง!
มีดบินเล่มนั้นพุ่งตรงเข้ามาและแทงทะลุหัวไหล่ของเขา!
เมื่อครู่ตอนที่ฉู่หลิวเยว่กำลังลุกขึ้นจากพื้น นางถือโอกาสนี้ซัดมีดบินออกไป จากนั้นก็เรียกกริชออกมา!
อู่จ้าวกุมหัวไหล่เอาไว้ ทว่าโลหิตยังคงไหลทะลักออกมาไม่หยุด!
ฉู่หลิวเยว่พุ่งเข้ามาอีกครั้ง!
อู่จ้าวในใจกล้ำกลืนถึงขีดสุด!
เขาอยากใช้วรยุทธเหลือคณา แต่ว่าการโจมตีของฉู่หลิวเยว่ทั้งรวดเร็วและเฉียบขาด ทำให้เขาไม่มีเวลารวบรวมพลัง!
แต่ละครั้งที่เขาเตรียมจะโจมตี ฉู่หลิวเยว่มักจะชิงลงมือก่อนเสมอ!
นางดูไม่เสียดายชีวิตเลยแม้แต่น้อย ทุกครั้งลงมือล้วนไม่ยั้งแรง! ราวกับว่าไม่มีความเกรงกลัวเลยสักนิดว่าหากตัวเองเกิดพลาดท่าจะต้องประสบชะตากรรมอันใดบ้าง!
เขาเหลือบสายตามองฉู่หลิวเยว่ หยกสีนิลคู่นั้นลุกโชนไปด้วยจิตวิญญาณแห่งการต่อสู้ที่แสนบ้าคลั่ง! ราวกับว่าต้องการสู้จนกว่าใครคนใดคนหนึ่งจะหมดลมหายใจเฮือกสุดท้าย!
แท้จริงแล้ว แผลบนร่างกายของนางไม่ได้ดีไปกว่าเขาเท่าไหร่ ทั่วทั้งร่างเต็มไปด้วยคราบเลือด ทว่าจิตสังหารของนางเหมือนจะเข้มข้นขึ้นกว่าเก่า!
อู่จ้าวพลันใจกระตุก เกิดความครั่นคร้ามสุดจะพรรณนา
แม้ว่าเขาจะฝึกตนมาเป็นเวลาหลายปี ประสบการณ์การต่อสู้ล้วนเผชิญมามากมาย ทว่ากลับมิเคยพบเจอจิตใจที่กล้าจะเสี่ยงชีวิตขนาดนี้มาก่อน
ฉู่หลิวเยว่ผู้นี้ ไม่คิดเสียดายชีวิตเลยแม้แต่น้อย!
ในการต่อสู้ พลังกายนั้นสำคัญมาก แต่ในขณะเดียวกัน ไม่ควรมองข้ามความสำคัญของพลังใจเช่นเดียวกัน!
เมื่อไรก็ตามที่พลังใจถดถอย ย่อมหมายถึงการพ่ายแพ้หมดท่าอย่างต่อเนื่อง!
ซึ่งอู่จ้าวในตอนนี้ ก็เป็นเช่นนั้น!
เมื่อต้องเผชิญหน้ากับฉู่หลิวเยว่ที่สาวเท้าเข้ามาใกล้ เขาก็ก้าวถอยหลังโดยไม่รู้ตัว!
ทันใดนั้น สุ้มเสียงแปลกประหลาดสุ้มเสียงหนึ่งดังขึ้นจากข้างหลัง!
เขาหันศีรษะไปมองโดยพลัน กลับพบว่าเพียงพังพอนโลหิตตัวนั้นกำลังคาบกริชไว้ในปาก!
มันส่ายหางไปมา แล้วเหวี่ยงกริชออกไป!
ฉู่หลิวเยว่สาวเท้าพุ่งมาด้านหน้า ก่อนจะคว้ากริชเล่มนั้นเอาไว้!
อู่จ้าวกำลังจะตอบโต้ พลันรู้สึกถึงความเจ็บปวดที่เย็นเยียบบริเวณหลังคอ!
“จะยอมแพ้ หรือสู้ต่อ!?”