ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ - ตอนที่ 477 ข้าจะต้องกลัวอะไร
ตอนที่ 477 ข้าจะต้องกลัวอะไร [รีไรท์]
ยอมแพ้?
ไม่ว่าอย่างใดอู่จ้าวก็พูดสองคำนี้ออกมาไม่ได้
หรือสู้ต่อ?
กริชคมที่คอเกือบเฉือนคอเขา!
เขาอดไม่ได้ที่จะคิดว่า เพียงแค่ฉู่หลิวเยว่ต้องการจะทำ ก็สามารถเฉือนเขาได้ในตอนนี้!
สายตานับไม่ถ้วนรอบตัวเขามองมาอย่างพร้อมเพรียง ทำให้เขาอับอายถึงขั้นสุด จนแทบอยากมุดแผ่นดินหนี!
“อืม?”
ฉู่หลิวเยว่ดีดตรงกริชเบาๆ พลันเกิดเสียงใสก้องดังออกมา
ร่างกายของอู่จ้าวสั่นตามไปด้วย
“เจ้าชนะแล้ว!”
เขาหลับตาลง พลางตอบราวกับยอมแพ้ในโชคชะตา!
เมื่อพูดจบ ความเงียบงันก็ปกคลุมอยู่รอบตัวเขา
อู่จ้าวยอมแพ้…จริงๆ หรือ!?
นักรบระดับห้าอย่างเขา จะพ่ายแพ้ให้กับนักรบระดับสามเพียงคนเดียว!?
หากข่าวนี้ถูกกระจายออกไป คงจะสร้างความฮือฮาในเมืองซีหลิงไม่น้อยเลย!
“หรือเพราะข้าไม่ค่อยได้เห็นอันใดแบบนี้? นักรบระดับสามจากที่อื่นแข็งแกร่งขนาดนี้เมื่อไหร่กัน!?”
ชายนิรนามในกลุ่มฝูงชนพึมพำเสียงเบา
“หรือว่าความสามารถของนักรบระดับห้าอย่างอู่จ้าว…จะเป็นของปลอม?”
สีหน้าของอู่จ้าวแดงขึ้นแล้วเปลี่ยนเป็นสีขาวซีด เส้นเอ็นของเขาก็ชัดขึ้น จนอยากด่ากราด
ความสามารถของเขาหรือ…ปลอม!?
ถ้าพวกเขาแน่จริง ก็มาลองเองสิ!
ฉู่หลิวเยว่…นางไม่ใช่คนธรรมดา!
มิใช่ว่าเขาจะไม่เคยต่อสู้กับนักรบระดับสาม แต่ก็ไม่เคยเจอใครที่เป็นแบบนาง!?
ยังไม่ต้องพูดถึงเรื่องอื่น แค่ความแข็งแกร่งและความว่องไวทางร่างกาย ก็ไม่ได้ด้อยไปกว่าเขาเลยแม้แต่น้อย!
ไม่รู้เหมือนกันว่านางเป็นตัวประหลาดอันใดกันแน่!
“ยอมแพ้แล้วหรือ?”
ฉู่หลิวเยว่เผยอมุมปากขึ้นอย่างชอบใจ
“ได้ ถ้าอย่างนั้นก็จ่ายข้ามาสิบผลึก”
เขาชะงักไปชั่วขณะ
“เจ้าว่าอันใดนะ!?”
ฉู่หลิวเยว่อธิบายด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม
“ข้าบอกว่า ในเมื่อเลือกที่จะยอมแพ้แล้ว ก็จ่ายข้ามาสิบผลึก แล้วจะจบเรื่องนี้เพียงเท่านี้”
อู่จ้าวตะลึงไปสักพัก
“ข้า เหตุใดข้าต้องจ่ายเจ้าเยอะขนาดนั้น!? ข้าให้เจ้าชนะแล้ว เจ้าต้องการอันใดอีก!?”
พวกเขาไม่ได้เดิมพันกันด้วยสิบผลึก ที่ผู้แพ้จะต้องจ่ายเสียหน่อย!
ฉู่หลิวเยว่กะพริบตาปริบๆ
“อ้าว? ถ้าพูดเช่นนี้ แสดงว่าเจ้าไม่อยากจ่ายข้าอย่างนั้นหรือ?”
“ฝันไปเถอะ!”
อู่จ้าวตะโกน
เขาอาศัยอยู่ในเมืองซีหลิงมานานหลายปี ยังไม่เคยเจอคนที่ไม่เพียงไม่จ่ายเงิน กลับยังขอเงินเขาแบบนี้เลย!
“เจ้าชื่อฉู่หลิวเยว่ใช่หรือไม่? ข้าขอเตือนเจ้า ที่นี่ไม่ใช่เมืองเล็กกระจอกๆ ที่จะทำอันใดตามอำเภอใจได้! ทำอันใดแค่พอประมาณก็พอ ไม่เช่นนั้น…”
ฉู่หลิวเยว่ทิ่มกริชไปข้างหน้าอย่างไม่สบอารมณ์
ปลายแหลมของกริชแทงเข้าไปในผิวหนังของเขา!
เลือดอุ่นๆ มีกลิ่นคาวและหวาน ไหลลงมาจากกริช
เสียงกระทืบเท้าของอู่จ้าวหยุดลงทันที!
“ยอมแพ้ซะ แล้วจ่ายข้ามาสิบผลึก ไม่เช่นนั้นข้าจะทำต่อ… ทำมันต่อไป”
ฉู่หลิวเยว่อธิบายอีกรอบอย่างใจดี
“ข้าถามเจ้าอีกครั้ง ว่าเลือกทางไหน?”
หัวของอู่จ้าวแทบจะระเบิดอยู่แล้ว!
“เจ้า! เจ้า! เจ้ากล้าหรือ!”
“ดูเหมือนชีวิตเจ้า จะไม่มีค่าเท่ากับสิบผลึก?”
ฉู่หลิวเยว่ส่ายหน้าด้วยความรู้สึกน่าเสียดาย
“น่าเสียดายจริงๆ”
พูดจบ มือของนางขยับ เตรียมลงมือ!
“ข้าจะจ่าย! ข้าจะจ่าย พอใจหรือยัง!”
ในที่สุดอู่จ้าวก็ไม่สามารถอดที่จะตะโกนออกไปได้!
เขามีลางสังหรณ์ว่า…ฉู่หลิวเยว่กล้าฆ่าเขาแน่นอน!
เขาตัวแข็งทื่อ แล้วหยิบสิบผลึกออกมาจากถุงเฉียนคุน ก่อนมอบให้กับฉู่หลิวเยว่
“เอาไป!”
ฉู่หลิวเยว่ส่งสายตาไปทางถวนจื่อ
ถวนจื่อรีบก้าวไปข้างหน้าในทันที พร้อมกับรับผลึกทางฉู่หลิวเยว่
ฉู่หลิวเยว่เหลือบมอง เมื่อแน่ชัดว่าเป็นจำนวนสิบผลึกแล้ว ก็ถอยกลับในที่สุด
เมื่อรู้สึกได้ว่ากริชห่างตัวไปแล้ว อู่จ้าวก็รู้สึกโล่งอก แต่ก็อดไม่ได้ที่จะมองย้อนไปทางฉู่หลิวเยว่ด้วยความแค้นใจ
เขายกมือขึ้นชี้ไปทางฉู่หลิวเยว่
“เรื่องของวันนี้ ข้าอู่จ้าวจะจำไว้! ทางที่ดีที่สุดเจ้าควรภาวนาให้ไม่เจอข้าอีก!”
คิ้วของฉู่หลิวเยว่โค้งขึ้น พร้อมกับสะบัดผลึกในมือของตน
“ยินดีที่สุด”
สีหน้าของอู่จ้าวโกรธแค้นมาก แต่สุดท้ายเขาก็หันหลังกลับออกไป!
จนกระทั่งแผ่นหลังของเขาลับตาไป ผู้คนรอบๆ ยังคงอยู่ในความสงบ
สิ่งที่คาดการณ์ไว้กับความเป็นจริงในตอนจบต่างกันราวฟ้ากับเหว ดังนั้นนางจะไม่โทษที่พวกเขาตกตะลึงขนาดนี้
ฉู่หลิวเยว่เก็บสิบผลึกนั่นไว้ แล้วเดินไปหยุดอยู่หน้าเจี่ยนเฟิงฉือ ก่อนแตะถุงเฉียนคุนของตน
“เบี้ยก้อนแรก!”
แม้ว่าในสายตานาง เบี้ยก้อนนี้จะไม่ได้มากมาย แต่ว่าก็ถือเป็นการเก็บหอมรอมริบ
เมื่อมีเบี้ยพวกนี้ ก็ช่วยให้การใช้ชีวิตในเมืองซีหลิงราบรื่นขึ้นไปบ้าง
มุมปากของเจี่ยนเฟิงฉือกระตุกอย่างแรง
เบี้ย เบี้ยก้อนแรก?!
สาวน้อยผู้นี้กล้าจะพูดประโยคนี้ออกมาได้อย่างใด!
เขาคิดมาตลอดว่าตนหน้าด้านหน้าทนมากพอแล้ว แต่ไม่คิดว่าหน้าของฉู่หลิวเยว่จะทนกว่าเขาหลายเท่า!
คนที่แย่งชิงเบี้ยจากผู้รีดไถได้…ดูเหมือนนางจะเป็นคนแรก!
อย่างใดก็ตาม หลังจากการต่อสู้ในครั้งนี้ ชื่อเสียงของฉู่หลิวเยว่จะต้องถูกแพร่กระจายในเมืองซีหลิงอย่างแน่นอน!
“เจ้า…เจ้ากล้าฆ่าอู่จ้าวจริงหรือ?” เจี่ยนเฟิงฉือถาม “อย่างใดเสีย เขาก็เป็นศิษย์ของเจ้าสำนัก”
ฉู่หลิวเยว่เหลือบมอง ก่อนเผยรอยยิ้มกว้าง
“ข้าก็มีนายน้อยเจี่ยนคุ้มครองอยู่ไม่ใช่หรือ?”
เจี่ยนเฟิงฉือ “?”
“ข้าพูดเมื่อไหร่กัน…”
เจี่ยนเฟิงฉือกำลังจะโต้กลับ แต่เมื่อเห็นสายตาที่แฝงไปด้วยความยั่วยวนของฉู่หลิวเยว่ก็เข้าใจในทันที
ใช่สิ!
เขาเป็นคนพาฉู่หลิวเยว่มาเอง!
แต่มันจะหมายความว่าฉู่หลิวเยว่เป็นคนของเขา?
คนของสำนักปาฟางไม่กล้าเป็นศัตรูกับเขาซึ่งๆ หน้า
ถึงแม้ว่าวันนี้ฉู่หลิวเยว่จะฆ่าอู่จ้าวจริงๆ พวกนั้นก็ไม่กล้าทำอันใดโดยพละการแน่นอน
เพราะคนมากมายขนาดนี้เห็นการต่อสู้นี้อย่างชัดเจน ว่าฉู่หลิวเยว่ใช้ฝีมือของตนชนะการต่อสู้ในครั้งนี้!
แพ้เป็นบ่าว ชนะเป็นพระเจ้า!
ไม่แปลกใจที่นางมั่นใจขนาดนี้…
เจี่ยนเฟิงฉือหรี่ตาเล็กน้อย
“เจ้ากำลังจะใช้ประโยชน์จากมัน…ยังไม่ทันที่เจ้าจะเข้าไปในเมืองซีหลิง เจ้าก็ทำให้สองสำนักนี้ขุ่นเคืองไปแล้ว ก็ไม่รู้ว่าเจ้าใจกล้าหรือ…”
“อย่างแรกไม่เกี่ยวกับข้าอย่างแน่นอน”
“วางใจเถอะ พวกเขาต้องรวมเจ้าเข้าไปแล้วแน่ๆ”
“ดังนั้นนับว่าเราหายกันแล้วนะ”
“…”
เจี่ยนเฟิงฉือได้ยินดังนั้น ก็รู้สึกถึงความผิดปกติบางอย่าง
แม่นางผู้นี้ไม่ยอมเสียเปรียบเลยสักนิด!
“ในเมื่อเรื่องจบแล้ว เราก็ไปกันเถอะ”
เจี่ยนเฟิงฉือยกคางขึ้น
ฉู่หลิวเยว่คล้อยตาม
ทั้งสองออกจากจัสตุรัสผิงเหลียง เหลือไว้แต่สายตาที่นับไม่ถ้วน
หลังจากเดินไปสักระยะ เจี่ยนเฟิงฉือเหลือบมองฉู่หลิวเยว่หลายครั้ง ก่อนถามด้วยความสงสัย
“แม้ว่าเจ้าจะมีความสามารถบ้าง แต่เจ้าก็ทำให้หลายคนขุ่นเคือง ในใจเจ้าไม่รู้สึกกลัวเลยหรือ?”
ฉู่หลิวเยว่มองไปที่ประตูเมืองที่สูงตระหง่านและหนาทึบ ก่อนจะเผยรอยยิ้มบนใบหน้า
“จะให้ข้ากลัวเรื่องอันใด?”
คนที่นางจะต้องรับมือก็คือผู้สูงศักดิ์แห่งเมืองซีหลิง!
จะสนใจพวกกระจอกเหตุใดกัน?
พวกกระจอกก็เป็นได้แค่คู่ซ้อมมือเท่านั้น!
ที่นางกลับมาคราวนี้ นางตั้งใจว่าจะโค่นล้มซีหลิงให้ราบคาบ
เมื่อเห็นประกายในดวงตาของฉู่หลิวเยว่ หัวใจของเจี่ยนเฟิงฉือก็เริ่มสั่นไหว
ไม่รู้เพราะเหตุใด เขารู้สึกถึงความผิดปกติจากลมปราณของฉู่หลิวเยว่ ราวกับว่านางต้องการฆ่าคน!
ฉู่หลิวเยว่เลิกคิ้ว ก่อนเดินไปทางประตูเมือง!
“ซีหลิง มันต้องน่าตื่นเต้นมากแน่ๆ”