ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ - ตอนที่ 513 หลุมยุบ
ตอนที่ 513 หลุมยุบ [รีไรท์]
จะด่าเจี่ยนเฟิงฉือก็ด่าไปสิ แต่มาด่านางร่วมไปด้วยได้หรือ นางไม่มีทางทนอยู่แล้ว!
เมื่อชายมีเคราเห็นสีหน้าของฉู่หลิวเยว่ เขาก็รู้สึกตกใจขึ้นมาทันที และในใจก็รู้สึกตระหนกอย่างมาก
แต่ตอนนั้นเองก็มีความคิดหนึ่งผุดขึ้นมา แค่พวกเราคนเดียวก็สามารถเอาชนะฉู่หลิวเยว่ได้อย่างง่ายดายแล้ว หากผสานพลังกันเล่า?
ฉู่หลิวเยว่ต้องสู้สามต่อหนึ่ง เดิมทีก็เป็นนางนั่นแหละที่หาเรื่องตาย!
ยิ่งไปกว่านั้นเจี่ยนเฟิงฉือไม่ได้อยู่ที่นี่ด้วย มีอันใดที่พวกเขาต้องกลัวกัน!
เหมือนว่าหยางเซิ่นเอ๋อร์จะยังไม่ยอมแพ้ จึงกล่าวโน้มน้าวต่อว่า
“คุณหนูฉู่ พวกเราไม่ได้มีเจตนาร้าย เพียงแค่อยากจะขอความช่วยเหลือจากเจ้าเพียงเท่านั้น…ศิษย์พี่ทั้งสองของข้าก็ได้รับบาดเจ็บ…”
“พวกเขาบาดเจ็บ แล้วเกี่ยวอันใดกับข้า?”
ฉู่หลิวเยว่พูดตัดบทหยางเซิ่นเอ๋อร์อย่างหมดความอดทน
“หากข้าจำไม่ผิดล่ะก็ เมื่อครู่พวกเขาทั้งสองคนรุดหน้าไปเพื่อต้านทานปราณกระบี่ ส่วนเจ้า…กลับหลบอยู่!”
ใบหน้าของหยางเซิ่นเอ๋อร์เปลี่ยนสีทันที คิดไม่ถึงว่าในตอนนั้นฉู่หลิวเยว่ก็มองเห็นด้วย!
“เจ้าเป็นศิษย์น้องของพวกเขา เจ้ายังไม่ช่วย แต่เรียกให้ข้าช่วยเนี่ยนะ? เห็นว่าข้า…โง่เง่าขนาดนั้นเลยหรือ?”
ฉู่หลิวเยว่พูดอย่างช้าๆ ชัดๆ
ความเร็วในการพูดของนางช้าและราบเรียบอย่างมาก แต่เมื่อคนทั้งสามได้ยินเช่นนั้น ก็รู้สึกสั่นสะท้านไปทันที
ใบหน้าของหยางเซิ่นเอ๋อร์แดงก่ำ นัยน์ตามีหยาดน้ำตาไหลริน
“ข้า…ข้า…”
ท่าทางเช่นนั้นทำให้ผู้ชายทั้งสองคนมีความรู้สึกรักหยกถนอมบุปผาขึ้นมาทันที
ชายร่างผอมสูงจ้องฉู่หลิวเยว่ตาเขม็งแล้วตะโกนขึ้นมาเสียงดังว่า
“เจ้าจะไปรู้อันใด!? ตอนนั้นอยู่สถานการณ์วิกฤต พวกเราเป็นฝ่ายบอกให้นางถอยออกไปเอง นางถึงได้ถอย! ไม่เช่นนั้นพวกเราทั้งสามคนคงบาดเจ็บกันหมดแล้ว! ฉู่หลิวเยว่ เจ้าอย่ามาสร้างความบาดหมางให้พวกเรา!”
หยางเซิ่นเอ๋อร์รีบดึงเขากลับมา
“ศิษย์พี่ เป็นความผิดของข้าเอง…พวกท่านอย่าโกรธเลย…”
ฉู่หลิวเยว่ยักไหล่
มีคนไม่เอาสมอง ไม่สนใจชีวิต เช่นนั้นนางก็ไม่เปลืองน้ำลายคุยด้วย
“อยากจะพูดอันใดก็แล้วแต่เจ้าเถอะ ข้ายังมีธุระ ขอตัวก่อน”
เมื่อพูดจบ ฉู่หลิวเยว่ก็สาวเท้าขึ้น เพื่อเดินหลีกเลี่ยงพวกเขาออกมา
ชายมีเครามีสีหน้ามืดครึ้มอย่างมาก แล้วเดินมาขวางทางนางเอาไว้
“ใครให้เจ้าไป?”
ฉู่หลิวเยว่เงยหน้ามอง เมื่อเห็นใบหน้าที่เต็มไปด้วยความหยิ่งยโสของชายผู้นั้น นางก็หัวเราะขึ้น
รอยยิ้มเหยียดหยามและดูถูกของนางค่อยๆ ปรากฏขึ้นอย่างช้าๆ ก่อนจะจ้องมองชายมีเคราผู้นั้นด้วยความโกรธ
เขาจับกระบี่ที่อยู่ในมือแทงไปทางฉู่หลิวเยว่ทันที
“วันนี้ข้าจะทำให้เจ้ารู้ว่า ว่ามีคนที่เจ้าไม่ควรไปยั่วโมโห!”
ทันทีที่สิ้นเสียง ข้อมือของเขาก็เบนออกไปทันที คมกระบี่แทงไปที่มือซ้ายของฉู่หลิวเยว่อย่างกะทันหัน
…เห็นได้ชัดว่าเขาพุ่งเป้าไปที่พรมแดนไวฑูรยะ!
แววตาของฉู่หลิวเยว่เย็นชามากขึ้น ทันใดนั้นที่มือขวาของนางก็มีมีดสั้นเล่มหนึ่งปรากฏขึ้นกลางฝ่ามือ!
ได้ยินเพียงเสียงกระทบดังลั่น กระบี่เล่มนั้นถูกปัดป้องได้อย่างง่ายดาย!
แขนของชายมีเคราคนนั้นสั่นสะท้านอย่างรุนแรง คาดไม่ถึงว่าจะทำให้แขนทั้งแขนของเขาชาได้เช่นนี้!
“บังอาจ!”
ชายร่างผอมสูงเห็นดังนั้น ก็ตะโกนออกมาเสียงดัง แล้วออกกระบวนท่าอย่างรวดเร็ว
แม้ว่าเขาจะไม่มีกระบี่แล้ว พลังการต่อสู้ของเขาจึงลดลงอย่างมาก แต่ด้วยวรยุทธ์ของเขาที่อยู่ในนักรบระดับหก เมื่อมาเทียบกับระดับสามเช่นนาง แค่นั้นมันก็เกินพอแล้ว
“หมัดแปดวิถี”
เสียงของเขาแหบพร่า เปลี่ยนจากฝ่ามือเป็นกำหมัด พร้อมโจมตีไปที่ฉู่หลิวเยว่!
หมัดนี้มีความรุนแรงอย่างมาก!
ฉู่หลิวเยว่ฉวยโอกาสนี้ แกล้งก้าวผิดจังหวะ คาดไม่ถึงว่านางจะชนแล้วเข้าไปอยู่ในอ้อมแขนของชายมีเครา!
แต่ตอนนั้นเขายังไม่ทันได้รู้ตัว นางก็คว้าแขนของเขาให้พลิกขึ้นมาอีกด้านหนึ่ง!
ตอนนั้นเองชายมีเคราก็แทบจะกลายเป็นเกราะให้ฉู่หลิวเยว่อย่างสมบูรณ์แล้ว!
ชายรูปร่างชายผอมเห็นดังนั้น จึงคิดจะถอนการโจมตีทันที แต่ว่าหมัดของเขาถูกปล่อยออกไปแล้ว หากขืนดึงกลับมาจะทำให้เกิดการสะท้อนกลับอย่างรุนแรง!
เขารู้สึกจนปัญญาอย่างมาก ชายมีเคราต้องบาดเจ็บเพราะหมัดนี้แล้ว!
มือขวาที่เขากำลังถือดาบอยู่นั้นชาอยู่ ขยับไม่ได้เลย มีเพียงมือซ้ายเท่านั้นที่สามารถโจมตีฉู่หลิวเยว่ได้ เขาจึงยื่นมือไปบีบคอของนาง!
แต่ในตอนนั้นเอง!
ฉู่หลิวเยว่กลับกระแทกศอกกลับ!
ศอกของนาง โดนกับซี่โครงของชายมีเคราอย่างแรง!
ชายมีเคราคนนี้รู้สึกเจ็บปวดอย่างมาก เขารู้สึกโกรธแค้นฉู่หลิวเยว่มาก จนแทบอยากจะฆ่าอีกฝ่ายโดยตรง!
แต่…ฉู่หลิวเยว่กลับเร็วกว่า
นางหยิบมีดออกมา ปาดไปที่ข้อมือข้างขวาของชายมีเคราคนนั้น!
ในมือนั้นของเขากำลังถือกระบี่อยู่ และกระบี่เล่มนั้นก็กระเด็นหลุดมือไปทันที!
หยางเซิ่นเอ๋อร์รู้สึกว่าท่าไม่ดีแล้ว จึงรีบเดินมาด้านหน้า
ฉู่หลิวเยว่ฉวยโอกาสนี้ควบคุมร่างกายของชายมีเครา จากนั้นก็พลิกตัวหันหลัง ไปเตะเข้าที่กลางลำตัวของชายร่างผอมสูง
ทั้งสองคนปะทะกันทันที
ฉู่หลิวเยว่กระดกเท้า กระบี่ที่ตกอยู่บนพื้น ก็มาอยู่ในมือของนาง
เดิมทีนางคิดจะเข้าไปหยุดการทะเลาะวิวาทนี้ แต่เมื่อเห็นสายตาของฉู่หลิวเยว่ที่กวาดตามองมา ใบหน้าคล้ายยิ้มคล้ายไม่ยิ้ม ทำให้นางรู้สึกกังวลใจทันที
นางจึงชักกระบี่ออกมาจากเอวของตัวเอง แล้วกัดฟันพุ่งโจมตีไปที่ฉู่หลิวเยว่
แต่ฉู่หลิวเยว่นั้นไม่อยากจะมาเสียเวลากับนางอยู่แล้ว จึงเป็นฝ่ายเข้าไปโจมตีก่อน!
กระบี่เล่มนั้นหนักมาก แต่ฉู่หลิวเยว่ก็สามารถถือมันได้ด้วยท่าทีที่สบายๆ ราวกับว่ามันไม่ได้หนักเลยสักนิด
หลังจากฝึกฝนด้วยไข่มุกธารามาหลายครั้ง ร่างกายของนางจึงแข็งแกร่งกว่าที่คิดไว้มาก
พริบตาเดียวที่นางพุ่งตัวไปด้านหน้า ก่อนที่หยางเซิ่นเอ๋อร์จะใช้พลังดั้งเดิมของตนเองได้ กระบี่ของนางก็ปลิวออกไปไกลแล้ว!
หยางเซิ่นเอ๋อร์กรีดร้องออกมาอย่างเจ็บปวด ที่ข้อมือของนางมีแผลหนึ่งปรากฏขึ้น!
ฉู่หลิวเยว่ก็ไม่ต้องการที่จะสู้ยืดเยื้อ เมื่อนางโจมตีแล้ว นางก็รีบถอยหลังกลับมาทันที!
พลังภายในของนางพวยพุ่งขึ้นมาอย่างรวดเร็ว!
ฉู่หลิวเยว่ตกใจอย่างมาก เหมือนว่านางกำลังจะเลื่อนขั้นไปอีกก้าวแล้ว
เพราะว่าปราณฟ้าดินที่อยู่รอบๆ ไหลเข้ามาในร่างกายอย่างต่อเนื่อง จนทำให้พลังภายในของนางถูกชำระล้าง!
นางรีบวิ่งตรงไปที่ตำแหน่งของกระบี่หลงหยวนทันที
เดิมทีหยางเซิ่นเอ๋อร์คิดว่าจะไล่ตามไป แต่เมื่อเห็นกระบี่หลงหยวนขนาดใหญ่ และสามารถสัมผัสได้ถึงปราณที่แข็งแกร่งและลึกล้ำ ในใจของนางก็รู้สึกกระวนกระวายเล็กน้อย
นางกะพริบตาปริบๆ แล้ววิ่งกลับไปหาศิษย์พี่ทั้งสอง
“ศิษย์พี่ เซิ่นเอ๋อร์ไร้ประโยชน์ ไม่ได้ตามนางไป…”
นางให้ศิษย์พี่ทั้งสองเห็นแผลที่ข้อมือของนางอย่างไม่ได้ตั้งใจ
ทั้งสองคนก็ไม่ได้เอะใจสงสัย แต่กลับโยนความขุ่นเคืองโกรธแค้นสู่ฉู่หลิวเยว่ทั้งหมด
“ฉู่หลิวเยว่คนนี้ ช่างเจ้าเล่ห์เสียจริง! หากพวกเราไม่ได้บาดเจ็บจากปราณกระบี่เมื่อครั้งนั้น พวกเราไม่มีปล่อยนางให้หนีไปได้หรอก!”
ชายมีเครากระอักเลือดออกมา แล้วพูดอย่างโกรธแค้น
เพราะการโจมตีผิดพลาด ชายรูปร่างผอมสูงจึงทำร้ายสหายร่วมสำนักของตนเอง เขาทั้งรู้สึกผิดและละอายใจ แต่ก็ให้เอาความผิดพลาดทั้งหมดใส่ไปที่ฉู่หลิวเยว่
“…หากได้เจอนางอีกครั้ง ข้าจะต้องจัดการนางให้สาสม!”
หยางเซิ่นเอ๋อร์หลุบตาลงต่ำ แววตายังมีประกายดูถูกพวกเขาอยู่
นางยังรู้สึกกังวลอยู่ ต่อให้ไม่ได้ออกเต็มแรงก็ช่างเถอะ แต่พวกเขาทั้งสองคน ระดับก็ไม่ต่ำ คาดไม่ถึงว่าจะไร้ประโยชน์ขนาดนี้
แม้ว่าจะเป็นศิษย์ที่มาจากสำนักใหญ่ที่โดดเด่น แต่ระดับการต่อสู้กลับไม่ได้ดีนัก
หากประมือในเวลาปกติก็ช่างเถอะ แต่ตอนนี้ได้เจอกับคนที่โหดเหี้ยมอย่างฉู่หลิวเยว่ ที่สามารถกำหนดความเป็นความตายได้ เขากลับล้มลงทันที
นางกระแอมไอหนึ่งครั้ง แล้วกล่าวเตือนด้วยเสียงนุ่มนวลว่า
“ศิษย์พี่ ตอนนี้นางไปแล้ว…พวกเราจะตามนางไปหรือไม่?”
ชายทั้งสองคนชะงักไปครู่หนึ่ง
หากเป็นเมื่อก่อน พวกเขาจะบอกว่าตามไป แต่ว่าตอนนี้…เขาเหลือบมองทางกระบี่หลงหยวนเล่มนั้น ในใจของพวกเขาก็รู้สึกหวาดหวั่นเล็กน้อย
หลังจากนั้นไม่นาน ชายมีเคราก็พูดขึ้นว่า
“พวกเราทั้งหมดล้วนบาดเจ็บ เช่นนั้นจัดการตัวเองอยู่ที่นี่ก่อน เมื่ออยู่ในสภาพที่เตรียมพร้อมที่สุดแล้ว ค่อยเข้าไปด้านในก็แล้วกัน”
ส่วนชายร่างผอมสูงคนนั้นก็ไม่มีความคิดเห็น และรีบตอบตกลงทันที
แม้ว่าในใจของหยางเซิ่นเอ๋อร์จะไม่พอใจ แต่นางก็ไม่ได้ปฏิเสธ จึงได้แต่ตามน้ำไป
ส่วนอีกด้านหนึ่ง ฉู่หลิวเยว่ที่มีพรมแดนไวฑูรยะเป็นตัวช่วย ก็สามารถวิ่งเข้าไปได้โดยไม่มีอุปสรรค ตอนนี้นางเข้าใกล้กระบี่หลงหยวนมากขึ้นเรื่อยๆ
เมื่อเดินเข้าไปใกล้ๆ นางก็เห็นแล้วว่า รอบๆ ด้านของกระบี่หลงหยวนนั้น มีหลุมยุบขนาดใหญ่อยู่
วี๊วๆ
เสียงลมพัดโหยหวน!
แรงกดดันที่แข็งแกร่งปกคลุมอยู่โดยรอบพื้นที่รกร้างแห่งนี้!