ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ - ตอนที่ 522 รวยแล้ว
ตอนที่ 522 รวยแล้ว [รีไรท์]
เจี่ยนเฟิงฉือชะงักไปครู่หนึ่ง ก่อนจะนึกได้ว่าเขาพูดถึงเรื่องอันใด?
งานหมื่นทูร?
แปดอันดับแรก?
ดูจากท่าทางของเจี่ยนเฟิงฉือ ทำให้รอยยิ้มบนใบหน้าของอวี่เหวินจิงหงแข็งค้างไป
“นี่เจ้าคงไม่ได้ใส่ใจเรื่องนี้สักนิดเลยใช่หรือไม่?”
เจี่ยนเฟิงฉือยักไหล่อย่างเกียจคร้าน
“ก็แค่งานประลองไม่ใช่หรือ? มีอันใดให้น่าสนใจกัน?”
โดยเฉพาะงานประลองที่จัดขึ้นเพราะความต้องการของซั่งกวนหว่านและเจียงอวี่เฉิง เขาไม่ใช่แค่ไม่สนใจ แต่เขาดูถูกมันอย่างมากด้วย!
หากไม่ใช่เพราะช่วยมู่ชิงเห่อ เดิมทีเขาไม่มีทางเข้าร่วมงานเช่นนี้เด็ดขาด
ช่วงหลายวันที่ผ่านมานี้ เขาดื่มเที่ยวกินอยู่ในเมืองซีหลิงนี้อย่างสนุกสนาน จะมีเวลาว่างไปคิดเรื่องอื่นได้อย่างใด?
อวี่เหวินจิงหงแค่นหัวเราะดัง “เหอะ” ขึ้น
“โชคดีที่เจ้ายังพานางมาด้วยนะ!”
แม่นางคนนี้เป็นคนที่มู่ชิงเห่อเป็นคนหามา ความจริงแล้วก็ไม่เกี่ยวข้องกับเขาสักนิดเลย
“เหตุใดการแข่งขันนี้ยังไม่จบสักทีล่ะ?”
อวี่เหวินจิงหงมองหน้าเขาอย่างดูถูกเหยียดหยาม
“ดูเหมือนว่าเจ้าจะไม่ได้สนใจการแข่งขันครั้งนี้จริงๆ จึงไม่รู้ว่าแม่นางที่เจ้าหามานั้น ได้ทำอันใดไว้บ้าง การแข่งขันครั้งนี้เข้าสู่วันที่สี่แล้ว วันนี้คือวันที่ห้า ผู้ที่เข้าร่วมการแข่งขันมีเกือบสองร้อยคน แต่ตอนนี้เหลือเพียงแปดคนเท่านั้น!”
ไม่รอให้เจี่ยนเฟิงฉือได้พูดอธิบาย เขาก็พูดต่อขึ้นมาว่า
“ตอนนี้ที่เมืองซีหลิงมีการเดิมพันครั้งใหญ่เกิดขึ้น พนันว่า ใครที่จะได้เป็นผู้ชนะในการแข่งขันครั้งนี้!”
เมื่อได้ยินถึงตรงนี้ เจี่ยนเฟิงฉือก็ชะงักไปเล็กน้อย
“จริงหรือ?”
เมื่อเห็นแววตาเหยียดหยามของอวี่เหวินจิงหง เจี่ยนเฟิงฉือก็กระแอมไอขึ้นมา
“แล้ว…แล้วอัตราเดิมพันของผู้หญิงคนนั้นเป็นอย่างใด?”
“แน่นอนว่าสูงที่สุดน่ะสิ! นางเป็นคนที่มีระดับต่ำที่สุดในแปดคนนั้น! ไม่สิ นางเป็นคนที่ระดับต่ำที่สุดของผู้เข้าแข่งขันทั้งหมด”
อวี่เหวินจิงหงพูดขึ้นมา จากนั้นก็ยกมือขึ้นมาลูบคางตัวเอง
“เฮ้อ จะว่าไปแล้วนางก็สุดยอดจริงๆ เลยนะ! ข้าไม่คิดว่านางจะอาศัยแค่โชคของตัวเอง ทำให้ผ่านมาได้ขนาดนี้ ไม่ต้องพูดถึงเรื่องอื่นเลย ที่เจ้าเลือกคนนี้มา สายตาเจ้าก็เฉียบแหลมไม่เบาเลยทีเดียว”
ริมฝีปากของเจี่ยนเฟิงฉือยิ้มยียวนขึ้น ช่างเป็นรอยยิ้มที่ดูชั่วร้ายมาก และยังแฝงด้วยความภูมิใจอยู่หลายส่วน
“แน่นอนอยู่แล้ว”
เขาตอบรับ แต่ก็ไม่ได้อธิบายอันใดเพิ่มเติม
“ที่เจ้ามาหาข้าวันนี้ ก็เพราะเรื่องนี้เองน่ะหรือ?” เจี่ยนเฟิงฉือหันกลับหลังมามอง แล้วถามขึ้น
“ฮัดชิ้ว!”
ทันใดนั้นเองจู่ๆ อวี่เหวินจิงหงก็จามขึ้นมาเสียงดัง
เขาถูจมูกของตนเอง แล้วพูดขึ้นว่า
“ไอ้หย๊า ใครกำลังคิดถึงข้ากันเนี่ย?”
เจี่ยนเฟิงฉือมองไปที่เขาอย่างเห็นอกเห็นใจ
มาขัดจังหวัดสุ่ยหลิ่วเอ๋อร์เช่นนั้น เกรงว่าตอนนี้อวี่เหวินจิงหงจะโดนนางด่าไปถึงแปดชั่วโคตรแล้ว
“ฮี่ๆ ตอนแรกข้าจะมาสืบจากเจ้าว่า แม่นางคนนั้นที่เจ้าพามา…เจ้าคิดว่านางจะอยู่ในอันดับที่เท่าไร?” อวี่เหวินจิงหงถูมือไปมา “คือว่า…ช่วงนี้ข้ากำลังร้อนเงิน ดังนั้นจึงจะมาดูว่านางมีโอกาสที่จะชนะบ้างหรือไม่? หากเจ้าบอกว่านางสามารถคว้าที่แปดได้ข้าก็จะพนันที่แปด หากเจ้าบอกว่านางสามารถคว้าที่เจ็ดได้ ข้าก็จะพนันที่เจ็ด”
เจี่ยนเฟิงฉือหรี่ตามอง
“ยิ่งอันดับสูงขึ้น อัตราการเดิมพันก็สูงขึ้นไปด้วย?”
อวี่เหวินจิงหงพยักหน้า
“เช่นนั้นหากพนันว่านางจะได้ที่หนึ่ง อัตราการเดิมพันจะได้เท่าไร?”
อวี่เหวินจิงหงพูดตัวเลขออกมา
เจี่ยนเฟิงฉือก็หมุนตัวเดินออกไปด้านนอกทันที
“เฮ้ย! เฟิงฉือ นั่นเจ้าคิดจะทำอันใดน่ะ?!”
อวี่เหวินจิงหงรีบเดินตามเขาออกไป
เจี่ยนเฟิงฉือตอบโดยไม่หันหลังกลับมามองว่า
“คิดจะรวยแล้วน่ะสิ”
…
งานหมื่นทูรก็ยังอยู่ในการแข่งขัน และเป็นที่สนใจของชาวเมืองซีหลิงทุกคน ราวกับว่าความสนใจทั้งหมดทุ่มอยู่ที่นี่แล้ว
ข่าวลือแพร่กระจายไปทั่วเมืองซีหลิงอย่างรวดเร็วชั่วข้ามคืน
…ว่ากันว่า เจี่ยนเฟิงฉือ นายน้อยแห่งภูเขาเขี้ยวมังกร มาร่วมลงเดิมพันที่บ่อนกลางเมืองซีหลิงด้วยตนเอง เขาทุ่มเงินหนึ่งพันผนึกศิลาขาว เพื่อพนันว่าฉู่หลิวเยว่จะได้เป็นที่หนึ่งในงานหมื่นทูร!
นี่มันเป็นการราดน้ำมันบนกองไฟชัดๆ
ตอนแรกทุกคนก็คาดหวังและรอคอยกับผลการแข่งขันในงานหมื่นทูรนี้อยู่แล้ว แต่การกระทำของเจี่ยนเฟิงฉือเช่นนี้ ทำให้เกิดข่าวลือขึ้นมากมาย
เดิมทีการกระทำของเจี่ยนเฟิงฉือถูกกล่าวขานว่าไม่มีกฎเกณฑ์ ทำตามอำเภอใจอยู่แล้ว
แต่การกระทำของเขาก็ยังทำให้คนจำนวนมากมายตกใจจนอ้าปากค้าง
เพราะสำหรับพวกเขาแล้ว ฉู่หลิวเยว่ไม่มีทางคว้าที่หนึ่งมาได้อย่างแน่นอน
เจี่ยนเฟิงฉือทำเช่นนี้ ก็เหมือนเป็นการเผาเงินไปโดยเปล่าประโยชน์
ต่อให้เขาเป็นคนมีฐานะ แต่ก็ยังทนไม่ได้ที่เขาจะทำแบบนี้
แต่ถ้าหากเขาไม่ได้มีเหตุผลพิเศษ เขาจะทำเช่นนี้หรือ?
เรื่องนี้ คนในซีหลิงต่างรู้กันดี…เพราะว่าเจี่ยนเฟิงฉือเป็นคนพาฉู่หลิวเยว่คนนั้นกลับมาอย่างใดเล่า!
เจี่ยนเฟิงฉือเป็นคนที่มีชื่อเสียงในวงกว้าง แต่ในการแข่งขันขนาดใหญ่เช่นนี้ นี่เป็นครั้งแรกของเขา
ตอนนั้นเองก็มีคนจำนวนมากเดาว่า เป็นไปได้หรือไม่ว่า ในที่สุดคุณชายใหญ่เจี่ยนผู้นี้ จะกลับใจไม่ทำเรื่องชั่วอีกต่อไป?
และมีผู้หญิงจำนวนไม่น้อยที่ต้องเสียใจเกี่ยวกับเรื่องนี้
…
หอร้อยโอสถ
ผู้หญิงหลายคนที่กำลังซื้อของอยู่ที่ชั้นหนึ่ง กำลังซุบซิบพูดคุยกันด้วยเสียงเบาอยู่
“ได้ยินมาว่า ฉู่หลิวเยว่คนนั้น เป็นคนที่เจี่ยนเฟิงฉือพามาจากด้านนอกพรมแดนม่านฟ้า ดูจากฐานะของนางก็ไม่ค่อยเท่าไร ไม่รู้ว่าเขาชอบอันใดในตัวนาง?”
“ฐานะครอบครัวของนางไม่ดีแน่นอน แต่ว่าพวกเจ้าไม่เคยเจอตัวจริงของนางใช่หรือไม่? วันนั้นข้ามองเห็นนางจากที่ไกลๆ นับว่าเป็นคนงามที่หาได้ยากยิ่ง ก็ไม่แปลกใจที่เจี่ยนเฟิงฉือจะชอบนาง”
“ต่อให้หน้าตาดีแล้วอย่างใด? ในโลกนี้มีคนหน้าตาดีมากมายนัก ข้าว่าเจี่ยนเฟิงฉือแค่หลงใหลไปชั่วขณะหนึ่งเท่านั้น รอเวลาผ่านไป เดี๋ยวเขาก็ได้สติเอง!”
“นั่นน่ะสิ แล้วมันจะเป็นไปได้หรือไม่ที่นางจะสามารถเข้าไปเป็นฮูหยินของภูเขาเขี้ยวมังกรน่ะ?”
ในที่สุดพนักงานตัวน้อย ที่แอบอยู่ด้านข้างตู้แสดงสินค้าก็อดถามขึ้นมาไม่ได้
“ไม่ทราบว่าคุณหนูทั้งหลายกำลังพูดถึงฉู่หลิวเยว่ใช่หรือไม่…คนที่เพิ่งเข้ามาที่เมืองซีหลิงคนนั้นหรือ?”
แม่นางทั้งหลายสบสายตากัน จากนั้นก็พยักหน้าขึ้นลงเล็กน้อย
“ใช่แล้ว เหตุใดหรือ?”
พนักงานคนนั้นยิ้มอย่างเกรงใจ
“ไม่ทราบว่าข่าวลือเหล่านั้น พวกท่านได้ยินมาจากที่ใดหรือ? แต่มันห่างไกลจากความเป็นจริงมาก คุณหนูฉู่เป็นแขกกิตติมศักดิ์ของจวนมู่นะขอรับ นางจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับคุณชายเจี่ยนได้อย่างใด?”
หนึ่งในผู้หญิงคนนั้นถามขึ้นว่า
“จวนตระกูลมู่ไหน?”
“ตระกูลมู่ที่อยู่ในเมืองซีหลิงนี่แหละขอรับ!” พนักงานตัวน้อยกล่าวเตือนขึ้นมาว่า “หลายวันก่อน ตอนที่คุณหนูฉู่มาที่นี่ นางยังมาพร้อมกับนายพลต้วน คนใกล้ชิดของรองแม่ทัพมู่คนนั้น! พวกเราที่อยู่ในหอร้อยโอสถวันนั้นต่างเห็นได้อย่างชัดเจน!”
ตอนนั้นเองผู้หญิงทั้งหลายก็หน้าเปลี่ยนสีไป
คาดไม่ถึงว่าฉู่หลิวเยว่คนนั้นจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับเทพสงครามผู้นั้น?
แขกกิตติมศักดิ์…สามารถเป็นแขกกิตติมศักดิ์ได้ด้วย คาดไม่ถึงว่ารองแม่ทัพมู่จะให้ความสำคัญกับนางขนาดนั้น?
ต้องบอกก่อนว่า…ในจวนของเขานั้นไม่มีผู้หญิงเลยแม้แต่ครึ่งคน!
“ที่เจ้าพูดเป็นเรื่องจริงหรือ?” แม่นางอีกคนหนึ่ง เดินขึ้นมาด้านหน้า ก่อนจะถามขึ้นอย่างร้อนรน
พนักงานคนนั้นชี้ขึ้นไปด้านบน
“วันนั้นคุณหนูฉู่คนเดียว ก็ซื้อของไปไม่น้อยเลย คนที่ให้การต้อนรับนางในวันนั้น ก็เลื่อนขั้นไปอยู่ชั้นสองได้ทันที!”
พวกเขาที่อยู่ในหอร้อยโอสถวันนั้นมีใครบ้างที่ไม่อิจฉา?
ตอนนั้นพวกเขาทุกคนกำลังรอให้ฉู่หลิวเยว่กลับมาที่นี่อีกครั้ง
ผู้หญิงเหล่านั้นมองหน้ากันไปมา หนึ่งในนั้นมีคนปิดปากแล้วยิ้มออกมา
“ฉู่หลิวเยว่คนนี้ช่างร้ายกาจเสียจริง ไม่เพียงทำให้คุณชายเจี่ยนสูญเงินไปพันตำลึงเพราะนาง แต่ก็ยังเป็นข้อยกเว้นของรองแม่ทัพมู่ได้อีก ช่างยอดเยี่ยมจริงๆ”
ใบหน้าของพนักงานคนนั้นเปลี่ยนสีไปทันที
“คุณหนูท่านนี้ ระวังคำพูดด้วย”
แต่ผู้หญิงกลับหัวเราะอย่างมีความสุขมากขึ้นกว่าเดิม
“เหตุใดหรือ? หรือว่าหอร้อยโอสถของพวกเจ้าก็กลายเป็นถิ่นของนางไปแล้ว? แค่คำพูดแค่ประโยคเดียวยังพูดไม่ได้?”
“คุณหนูฉู่เป็นแขกระดับสูงของร้านเรา แน่นอนว่าพวกเราต้องเข้าข้างคุณหนูฉู่ก่อนอยู่แล้ว”
ทันใดนั้นก็มีเสียงผู้ชายคนหนึ่งดังขึ้น
ทุกคนหันกลับไปมองที่ด้านหลังทันที
พนักงานที่ชั้นหนึ่งทุกคนต่างโค้งคำนับทำความเคารพ
“คารวะประมุขเย่ว์”