ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ - ตอนที่ 529 ยังมีเรื่องสนุกกว่านี้อีกนะ
ตอนที่ 529 ยังมีเรื่องสนุกกว่านี้อีกนะ [รีไรท์]
หนิงเจียวเจียวหายไปจากตำแหน่งเดิมแล้ว
ตอนนั้นเอง นางถูกคัดออกอย่างเป็นทางการ
สีหน้าของเชียงหว่านโจวเย็นชาอย่างมาก เขาเงยหน้าขึ้นมามองที่ด้านบนทันที!
ฉู่หลิวเยว่อยู่ในลำแสงกลุ่มนั้น!
เขาสะกิดปลายเท้าแล้วพุ่งเข้าหาหยางเซิ่นเอ๋อร์อย่างรวดเร็ว
หยางเซิ่นเอ๋อร์ชะงักไปเล็กน้อย
ฝีมือของนางในตอนนี้อยู่แค่ระดับห้าขั้นสูงเท่านั้น เดิมทีก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเชียงหว่านโจวด้วยซ้ำ
“ช้าก่อน!”
นางรีบพูดขึ้นมา
เชียงหว่านโจวอ้อมตัวนางขึ้นมา และยืนขวางที่ด้านหน้าของนาง ด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึก
เมื่อเห็นท่าทางของเชียงหว่านโจว นางก็รู้สึกเสียวสันหลังวาบขึ้นมา แล้วรีบพูดขึ้นมาว่า
“พวกเราสามารถร่วมมือกันได้!”
เชียงหว่านโจวขมวดคิ้วแน่น
หยางเซิ่นเอ๋อร์อธิบายขึ้นว่า
“ตอนนี้กระบี่หลงหยวนได้เลือกเจ้านายคนใหม่แล้ว มันไม่ได้เลือกคนที่อยู่ในกลุ่มของพวกเราเลย! ถ้าเช่นนั้นเจ้ากับข้ามาร่วมมือกัน ขวางทางคนคนนั้นเป็นอย่างใด?”
เมื่อพูดจบ นางก็ชี้ไปยังตำแหน่งที่ฉู่หลิวเยว่อยู่
สีหน้าของเชียงหว่านโจวดูแปลกประหลาดมากยิ่งขึ้น
หยางเซิ่นเอ๋อร์คนนี้…หรือว่านางคิดว่าเขาจะมาร่วมมือกับนาง เพื่อกำจัดฉู่หลิวเยว่?
เมื่อหยางเซิ่นเอ๋อร์เห็นปฏิกิริยาตอบรับของเขา นางก็คิดว่าอีกฝ่ายสนใจ จึงรีบโน้มน้าวต่อว่า
“เจ้าวางใจเถอะ! พวกเราไม่ต้องลงมือเอง! ข้าส่งหุ่นเชิดของข้าไปจัดการคนคนนั้นแล้ว!”
เชียงหว่านโจวหันกลับไปมองอีกครั้ง
หุ่นเชิดตัวนั้นกำลังสู้อยู่กับอินทรีสามตา!
ตอนนั้นเองหยางเซิ่นเอ๋อร์ก็รู้สึกกังวลใจเล็กน้อย
“อสูรศักดิ์สิทธิ์ตัวนั้นเป็นเพียงจิตวิญญาณเท่านั้น จัดการได้ง่ายมาก!”
ทันใดนั้นเอง นางก็หันหน้ากลับมา
“จริงสิ! เช่นนั้นพวกเราขึ้นไปพร้อมกันเถอะ ไม่จำเป็นต้องชนะ แค่รบกวนคนคนนั้นก็พอ กระบี่หลงหยวนจะได้ไม่สามารถยอมรับเจ้านายคนใหม่ได้สำเร็จ! และคนคนนั้นอาจจะโดนพลังสะท้อนกลับ ไม่ตายก็ต้องพิการอย่างแน่นอน!”
นางพูดอยู่ฝ่ายเดียวอย่างตื่นเต้น แววตาและสีหน้าของเชียงหว่านโจวค่อยๆ เย็นชามากขึ้น
วินาทีต่อมา ปราณของเขาก็พวยพุ่งออกมาทั่วทั้งร่างกาย!
หยางเซิ่นเอ๋อร์จึงคิดว่าเขาตอบตกลงร่วมมือกับนางแล้ว มุมปากก็ยกยิ้มขึ้น แต่ทันใดนั้นเองเชียงหว่านโจวกลับพุ่งตรงเข้ามาหานาง!
รอยยิ้มบนใบหน้านางหายไปทันที นางตกใจแล้วถอยหลังลงไปหลายก้าว
“เจ้าจะทำอันใดน่ะ! ข้าบอกว่าให้ร่วมกำจัดคนคนนั้น! นี่เจ้าบ้าไปแล้วหรือ!”
เชียงหว่านโจวเม้มริมฝีปากแน่น แต่ก็ยังคงพุ่งเข้าใส่นางอย่างรวดเร็ว!
เขายกดาบยาวในมือขึ้น!
แล้วฟันลงไปอย่างโหดเหี้ยม!
…
จัตุรัสเสวียนจี
นี่เข้าสู่วันที่หกของงานแข่งขันหมื่นทูรแล้ว
วันแรกมีคนโดนคัดออกเยอะมากที่สุด และหลังจากนั้นก็มีโดนคัดออกน้อยลงเรื่อยๆ
แต่สิ่งนี้ไม่ได้ทำให้พวกเขาหมดความอดทน แต่กลับตื่นเต้นมากขึ้นเรื่อยๆ
หลายวันมานี้มีเรื่องเกิดขึ้นในเมืองซีหลิงเป็นจำนวนมาก แต่ทุกคนยังคงถกเถียงกันอย่างสนุกสนานและไม่เหน็ดเหนื่อยเลย
หนึ่งหัวข้อที่พวกเขาพูดถึงกันมากที่สุดคือ…ฉู่หลิวเยว่จะได้อันดับที่เท่าไร!
ในจำนวนผู้เข้าแข่งขันร้อยกว่าคน แต่นางเป็นคนที่มีระดับบำเพ็ญเพียรต่ำที่สุด แต่ก็สามารถอยู่ในสนามได้มาจนถึงตอนนี้ จนทำให้ทุกคนให้ความสำคัญกับนางมากทีเดียว
ยิ่งนางยืนหยัดได้นานมากเท่าไร อันดับของนางก็สูงมากขึ้นเท่านั้น และยิ่งทำให้ทุกคนตื่นเต้นมากขึ้น
แม้แต่มุมหนึ่งที่ค่อนข้างห่างไกลในจัตุรัสเสวียนจี ก็ได้เปิดพนันโดยตรงแล้ว!
“ทุกท่าน! รีบลงเดิมพันเร็ว! พลาดโอกาสตอนนี้ก็จะไม่มีอีกแล้ว! การแข่งขันนี้กำลังจะจบลงแล้ว หากไม่รีบลง อาจจะสายเกินไปแล้ว”
“อย่าเร่งสิ! อย่าเร่ง! ข้ากำลังคิดอยู่นะ นี่มันเป็นเงินก้อนสุดท้ายของข้าแล้วด้วย!”
“เฮ้ย แล้วเจ้าจะคิดอันใดอีก? แค่ลงๆ ไปก็พอแล้วไม่ใช่หรือ? ตอนนี้เหลือแค่หกคนแล้ว! นี่มันก็เลือกง่ายแล้วไม่ใช่หรือ?”
“งั้น งั้นข้าลงว่าฉู่หลิวเยว่ได้ที่หก!”
“เจ้าแน่ใจหรือ? คุณชายใหญ่เจี่ยนแห่งภูเขาเขี้ยวมังกรลงเงินก้อนใหญ่ว่าจะให้ฉู่หลิวเยว่ได้ที่หนึ่ง! แต่เจ้ากลับเลือกที่หกเนี่ยนะ?”
“ข้าไม่โง่นะ! ฉู่หลิวเยว่จะได้ที่หนึ่งได้อย่างใด? ถ้าพูดให้ดีหน่อย เจี่ยนเฟิงฉือคนนั้น ใช้เงินหนึ่งพันผนึกศิลา เพื่อสร้างรอยยิ้มให้กับคนงาม ถ้าพูดแย่หน่อย เขาก็เป็นแค่คนโง่ที่มีเงินเยอะเท่านั้น! พวกเราจะไปเปรียบกับเขาได้อย่างใด? ที่หกนั่นแหละ! คนที่โดนตกรอบคนต่อไป ก็คือนางนั่นแหละ!”
“ซื้อแล้วก็ไปได้แล้ว! ห้ามมาเสียใจทีหลังนะ!”
อวี่เหวินจิงหงและเจี่ยนเฟิงฉือบังเอิญผ่านมาได้ยินเข้าพอดี
เมื่อได้ยินชื่อของตนเอง เจี่ยนเฟิงฉือหยุดอย่างกะทันหันทันที ก่อนจะลูบคางเบาๆ แล้วยิ้มออกมา
“ที่แท้ตอนนี้คนอื่นก็พูดถึงข้าเช่นนี้นี่เอง”
วันนี้เขามีเวลาว่างจึงแวะมาดูสถานการณ์การแข่งขันที่จัตุรัสเสวียนจี เพราะสุดท้ายแล้วเขาก็ลงเดิมพันข้างฉู่หลิวเยว่ด้วยจำนวนเงินที่ไม่น้อยเลยทีเดียว
คิดไม่ถึงว่า เขาเพิ่งมาถึงได้ไม่นาน ก็ได้ยินคนพูดถึงเขาเช่นนี้แล้ว
อวี่เหวินจิงหงกระแอมไอเบาๆ
“เจ้าคงไม่โมโหหรอกใช่หรือไม่? ความจริงพวกเขามีปากก็ได้แต่พูดไป…”
“ข้าจะโมโหเหตุใดเล่า? มีคนเอาเงินมาให้ข้าขนาดนี้ ข้าดีใจจะแย่อยู่แล้ว”
อวี่เหวินจิงหงตกใจ ก่อนจะพูดว่า
“ไม่หรอกมั้ง เจ้ายังมีเงินที่จะลงพนันอีกหรือ?”
เจี่ยนเฟิงฉือมองหน้าเขาด้วยสายตารักใคร่
“คนอย่างข้าไม่มีอันใดดี มีเพียงเงินเยอะ แน่นอนว่า เรื่องนี้สำหรับพวกเจ้าแล้วอาจจะเป็นเรื่องที่อธิบายยากแต่วางใจเถอะ ข้าไม่มีทางดูถูกเจ้าอย่างแน่นอน”
ริมฝีปากของอวี่เหวินจิงหงกระตุกขึ้น
นี่มันกวนประสาทกันชัดๆ
“ตามใจเจ้า!”
เขาก็จะขอดูหน่อยสิ ว่าเจี่ยนเฟิงฉือคนนี้จะต้องเสียเงินพนันไปเท่าไร!
เจี่ยนเฟิงฉือยิ้มแล้วเดินเข้าไป
แหวนเฉียนคุนใบหนึ่งปรากฏขึ้นที่กลางโต๊ะพนัน
ทันใดนั้นทุกคนก็เงียบเสียงไปจากนั้นก็เงยหน้าขึ้นไปมองเจ้าของแหวนนั้น
คาดไม่ถึงว่าจะเป็นเจี่ยนเฟิงฉือ!
ก่อนหน้านี้คนที่เคยพูดถึงเขาไม่ดี ก็รีบก้มหน้าลงด้วยความตกใจ
แต่เจี่ยนเฟิงฉือไม่เห็นเรื่องเช่นนั้นอยู่ในสายตาอยู่แล้ว เขายิ้มแล้วพูดขึ้นว่า
“ข้างในนี้มีเงินอยู่ห้าพันผนึกศิลา ข้าพนันว่าฉู่หลิวเยว่จะได้ที่หนึ่ง”
ทุกคนยังเงียบอยู่เช่นเดิม แต่แววตาที่มองไปยังแหวนเฉียนคุนนั้นกลับเปลี่ยนไป
ห้าพันผนึกศิลา!
นี่ไม่เท่ากับยกเงินให้พวกเขาโดยเปล่าประโยชน์หรอกหรือ?
เจี่ยนเฟิงฉือเดิมพันมากกว่าบ่อนที่อยู่กลางเมืองซีหลิงอีก คิดไม่ถึงว่าเขาจะสนับสนุนบ่อนเล็กๆ ของเราเช่นนี้!
“ค่ะ..คุณชายเจี่ยน ท่านแน่ใจหรือ?”
เจี่ยนเฟิงฉือเหลือบตามองคนคนนั้นแล้ว แล้วพูดด้วยใบหน้าคล้ายยิ้มคล้ายไม่ยิ้ม
“วางใจเถอะ เงินแค่นี้ ข้าไม่ได้สนใจมันเท่าไร ขอเพียงแค่…มีความสุขก็พอแล้ว”
ผู้ชายคนนั้นเข่าอ่อนยวบ เขาเกือบจะลงไปคุกเข่าอยู่ที่พื้นแล้ว
พวกเขาทั้งหลายสบตากันไปมา
“ที่แท้คุณชายเจี่ยนก็ใจกว้างขนาดนี้!”
เจี่ยนเฟิงฉือกางพัดกระดูกออกมา จากนั้นก็ถอยหลังไปสองก้าว
“มีคนถูกคัดออกแล้ว!”
ทันใดนั้นคนที่อยู่ด้านข้างก็ร้องตะโกนออกมาด้วยความตกใจ!
จัตุรัสที่ครึกครื้นก็พลันเงียบเสียงลงทันที!
สายตาของทุกคนก็จับจ้องไปที่เขตอาคมแปดเหลี่ยมตาเขม็ง!
ระลอกคลื่นหนึ่งก็เกิดขึ้น…เป็นสัญญาณว่ากำลังจะมีคนออกมาแล้ว!
สักพักหนึ่ง เงาร่างนั้นก็ปรากฏขึ้นมา! แล้วตกลงที่พื้นอย่างแรง!
“เป็นผู้หญิง!”
“ใคร? ใครกันแน่? ใช่ฉู่หลิวเยว่หรือไม่?”
กลุ่มคนเริ่มแตกตื่นขึ้นมาทันที มีคนจำนวนมากอยากจะเข้าไปดูหน้าจนแทบทนไม่ไหว
แม่นางคนนั้นยังนอนหมอบอยู่ที่พื้น ทั้งร่างเต็มไปด้วยเลือด อีกทั้งยังมีรอยไหม้เป็นจำนวนมาก ท่าทางดูจนตรอกอย่างมาก
เห็นได้ชัดว่านางผ่านความโหดร้ายในอาณาจักรเทพเทียนลิ่งมามากขนาดไหน
เหมือนว่านางได้ยินเสียงรอบข้าง แม่นางคนนั้นจึงขยับเล็กน้อย แล้วค่อยๆ เงยหน้าขึ้นมา
ใบหน้าที่เต็มไปด้วยเลือด ปรากฏสู่สายตาสาธารณชน!
“นั่นคือหนิงเจียวเจียว สำนักเสวียนเฟิ่ง”
เมื่อคนได้สติขึ้นมา จากนั้นเขาก็ชี้ไปยังกระดานหยกสีดำแผ่นนั้น
“รายชื่อที่หายไปคือหนิงเจียวเจียว”
ตอนนั้นเองทั่วทั้งจัตุรัสก็พลันเงียบเสียงลงทันที
หนิงเจียวเจียวเป็นลูกสาวเพียงคนเดียวของเจ้าสำนักเสวียนเฟิ่ง เหตุใดถึงตกรอบได้ง่ายขนาดนี้!?
ฉู่หลิวเยว่ล่ะ?
เจี่ยนเฟิงฉือเคาะพัดกระดูกลงที่กลางฝ่ามือเบาๆ จากนั้นก็หันหลังกลับไปมอง
มีคนจำนวนไม่น้อยหน้าซีดขาว รวมถึงผู้ชายคนที่วิจารณ์เขาเสียๆ หายๆ คนนั้นด้วย
ดูเหมือนว่าจะมีคนเดิมพันว่าฉู่หลิวเยว่จะได้ที่หกไม่น้อยเลยทีเดียว
เขาจึงพูดปลอบอย่างจริงใจว่า
“ไม่ต้องกังวล ยังมีเรื่องสนุกกว่านี้อีกนะ”