ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ - ตอนที่ 574 สะท้อนกลับ ตอนที่ 575 ไม่ต้องให้ข้า
ตอนที่ 574 สะท้อนกลับ / ตอนที่ 575 ไม่ต้องให้ข้า [รีไรท์]
ตอนที่ 574 สะท้อนกลับ
ไข่มุกธาราปรากฏขึ้นอย่างไร้เสียง แต่ก็ทำให้เกิดขึ้นระลอกคลื่นขึ้น
นี่มัน…จะต้องเป็นคำตอบที่ถูกต้องอย่างแน่นอน!
ฉู่หลิวเยว่ชะงักไปครู่หนึ่ง จากนั้นถึงได้สติกลับคืนมา
คาดไม่ถึงว่ามันจะเป็นเช่นนี้จริงๆ…
พลังเหล่านั้นยังคงพวยพุ่งออกมาจากไข่มุกธาราอย่างต่อเนื่อง หลังจากที่มันผสมกับทรายรวมศูนย์แล้ว มันก็เลือกที่จะสู้กลับ!
เมื่อเป็นเช่นนี้ ไม่เพียงแต่จะสามารถนำพลังงานที่ใช้ไปนั้นกลับมาได้ มันยังสามารถดึงพลังดั้งเดิมของทรายรวมศูนย์กลับมาได้อีกครั้ง และกลืนกินมันทั้งหมด!
ฉู่หลิวเยว่เงียบไปครู่หนึ่ง จากนั้นก็พูดออกมาอย่างยากลำบากว่า
“เจ้านี่มัน…ไม่ยอมขาดทุนแม้แต่น้อยเลยจริงๆ…”
“หลิวเยว่…หลิวเยว่!”
เมื่อเห็นว่าฉู่หลิวเยว่ไม่ตอบสนอง อวี้ฉือซงจึงเรียกนางอย่างประหม่า
เมื่อฉู่หลิวเยว่ได้สติกลับมา ก่อนจะเบิกตาโพลง
ทั้งอวี้ฉือซงและเชียงหว่านโจว ต่างมายืนอยู่ด้านหน้าของนาง พร้อมมองมาด้วยความเป็นห่วง
“เจ้าเป็นอย่างใดบ้าง?” อวี้ฉือซงถามขึ้น และใช้สายตาสำรวจร่างกายนางอย่างระมัดระวัง เพราะกลัวว่านางจะเป็นอันใดไป
แม้ว่าเชียงหว่านโจวจะไม่ได้พูดอันใด แต่สายตาของเขาจับจ้องอยู่ที่ฉู่หลิวเยว่ตลอดเวลา
สุดท้ายแล้วทรายรวมศูนย์พวกนี้ มันคืออันใดกันแน่ ก่อนหน้านี้เขาอยู่ที่ชายแดนใต้ ยังไม่เคยเจอสถานการณ์แบบนี้มาก่อนเลย
หากฉู่หลิวเยว่เป็นอันใดไปเพราะเหตุนี้จริงๆ เขาจะไม่มีวันให้อภัยตัวเองเลย
“ข้าไม่เป็นไร”
ฉู่หลิวเยว่รีบพูดขึ้น
เมื่อพูดจบ นางก็ลุกขึ้นแล้วมองฝ่ามือของตัวเอง
ก่อนหน้านี้มีแผลเลือดออก แต่ตอนนี้แผลนั้นแห้งจนตกสะเก็ดไปแล้ว
“ท่านอาจารย์ เสี่ยวโจว พวกเจ้าไม่ต้องเป็นห่วง ข้าก็ไม่เป็นไรแล้วไม่ใช่หรือ?”
ฉู่หลิวเยว่พูดขึ้น จากนั้นก็กางฝ่ามือให้พวกเขาทั้งสองดู
“เมื่อครู่มันเกิดอันใดขึ้นกันแน่?”
อวี้ฉือซงยังไม่กล้าวางใจ
“ของสิ่งนั้น…ของสิ่งนั้นเข้าไปในร่างกายเจ้าได้อย่างใด…”
เขาหันศีรษะ เหลือบสายตามองเชียงหว่านโจว
“หว่านโจว ก่อนหน้านี้เจ้าบอกว่าของสิ่งนี้ไม่เป็นพิษต่อมนุษย์มากนัก แต่มันสามารถกินพลังดั้งเดิมได้เร็วขนาดนั้น แล้วยิ่งตอนนี้มันอยู่ในร่างกายของฉู่หลิวเยว่แล้ว นี่ควรจะทำอย่างใดต่อไป?”
อวี้ฉือซงที่มักจะมีท่าทีสงบนิ่งอยู่เสมอ แต่ตอนนี้กลับเผยท่าทางร้อนรน ในใจของฉู่หลิวเยว่จึงรู้สึกทั้งเจ็บปวดและอบอุ่น
นางคว้ามือของอวี้ฉือซงเอาไว้
“อาจารย์ ข้าไม่เป็นไรจริงๆ ถ้าท่านไม่เชื่อก็ลองจับชีพจรของข้าได้เลย”
อวี้ฉือซงวางนิ้วบนข้อมือของฉู่หลิวเยว่อย่างสงสัย
ทันใดนั้น สีหน้าของเขาก็แปลกไป
หลังจากนั้นเขาก็หันมองหน้าฉู่หลิวเยว่ราวกับไม่แน่ใจแววตาเต็มไปด้วยความประหลาดใจ และสงสัย
สาวน้อยคนนี้… เหมือนว่าเมื่อครู่ได้ใช้พลังกำเนิดไปมากมาย แต่ตอนนี้กลับมีพลังเต็มเปี่ยมแล้วล่ะ
ฉู่หลิวเยว่มองเขาด้วยรอยยิ้ม
“เป็นอย่างใดบ้าง? ตอนนี้ท่านวางใจได้แล้วใช่หรือไม่?”
อวี้ฉือซงตรวจชีพจรของนางอีกรอบ เมื่อพบว่าร่างกายของนางไม่มีปัญหาใดๆ และพลังกายภายในก็สมบูรณ์อย่างมาก!
เขาค่อยๆ ปล่อยมือออก ก่อนจะกระแอมไอเบาๆ “จริงด้วย…”
ฉู่หลิวเยว่หันไปมองทางเชียงหว่านโจว
“เสี่ยวโจว ตอนนี้เจ้าก็วางใจได้แล้วใช่หรือไม่?”
แม้ว่าเชียงหว่านโจวจะไม่ใช่หมอเทวดา แต่เขามีปราสาทสัมผัสทั้งห้าที่เฉียบไวมาก
ปราณบนร่างของฉู่หลิวเยว่ไม่เพียงไม่มีทรายรวมศูนย์ที่แปลกประหลาด แต่แรงกดดันที่อยู่รอบๆ กลับแข็งแกร่งขึ้นเล็กน้อย
อวี้ฉือซงจึงอดถามขึ้นมาไม่ได้
“นี่…นี่มันเกิดเรื่องอันใดขึ้นกันแน่?”
ฉู่หลิวเยว่ปวดหัวเล็กน้อย
นี่นางจะต้องอธิบายกับพวกเขาอย่างใดดีนะ…
ถ้าจะให้พูดก็คือ นางไม่เพียงไม่ได้รับบาดเจ็บใดๆ แต่ได้กลืนกินพลังทั้งหมดของทรายรวมศูนย์เข้าไปด้วย!?
“คือว่า…หากพูดไปแล้ว…ความจริงแล้วข้าเองก็ไม่ค่อยแน่ใจ…” ฉู่หลิวเยว่พูดขึ้นอย่างคลุมเครือ
แต่เหมือนว่าอวี้ฉือซงจะเข้าใจอันใดได้บางอย่าง
“หรืออาจจะเป็นเพราะพลังในร่างกายของเจ้า เป็นผู้ที่ละลายพวกมัน?”
ฉู่หลิวเยว่ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นก็พยักหน้า
“น่าจะเป็น…เช่นนั้นเจ้าค่ะ….”
พูดไปแล้วมันก็ไม่มีปัญหาอันใด ผลึกน้ำแข็งของทรายรวมศูนย์ ก็ถูก “หลอมละลาย” จริงๆ
และพลังที่อยู่ในนั้น ก็กลายเป็นของนางแล้ว
ทันใดนั้นเชียงหว่านโจวก็พูดขึ้นว่า
“ตอนนี้ ต่อให้เจ้าไม่ได้ไปดูที่ฝ่ามือของเจียงอวี่เฉิง ก็สามารถรู้ได้ว่านั้นเป็นฝีมือของเขาหรือไม่”
ฉู่หลิวเยว่ชะงักไป “อย่างใดหรือ?”
สีหน้าของเชียงหว่านโจวราบเรียบอย่างมาก
“เพราะว่าหลังจากที่เจ้าสลายทรายรวมศูนย์ไปแล้ว พลังที่เขาได้รับจากทรายรวมศูนย์นั้นจะเกิดการสะท้อนกลับ! สถานเบา ระดับการฝึกฝนของเขาจะถดถอย แต่ในสถานหนัก…ชีพจรของเขาจะถูกทำลาย!”
ตอนที่ 575 ไม่ต้องให้ข้า
ทันใดนั้นสีหน้าของฉู่หลิวเยว่ก็เปลี่ยนไปเล็กน้อย
ระดับพลังถดถอย…
ชีพจรถูกทำลาย…
ฟังแล้วก็ดูไม่เลวเลยทีเดียว…
“เจ้าแน่ใจหรือ?”
มุมปากของฉู่หลิวเยว่ยกยิ้มขึ้น นางถามอย่างตื่นเต้น
เชียงหว่านโจวขมวดคิ้วอย่างสงสัย
เหตุใดดูเหมือนฉู่หลิวเยว่จะมีความสุขมาก…
แววตาของนางเปล่งประกายราวกับด้านในมีดวงดาวส่องประกายระยิบระยับ รอยยิ้มของนางปรากฏขึ้นเล็กน้อย อารมณ์ของเชียงหว่านโจวก็ดูผ่อนคลายลงไปมากเช่นกัน
เขาพยักหน้าเบาๆ
“ถ้าตอนแรกเขาเป็นคนลงมือ มันก็ต้องเป็นเช่นนี้อย่างแน่นอน”
ในใจของฉู่หลิวเยว่ตอนนี้มีเพียงคำคำเดียวเท่านั้นที่ปรากฏขึ้นมา นั่นคือมีความสุข!
นางไม่เคยมีความรู้สึกเช่นนี้มาก่อนเลย นางหวังอย่างยิ่งว่าคนที่อยู่เบื้องหลังการกระทำครั้งนี้ คือ เจียงอวี่เฉิง!
แม้ว่าตอนนี้นางจะไม่สามารถเผชิญหน้ากับเจียงอวี่เฉิงได้ตรงๆ แต่นางสามารถฉวยโอกาสนี้ ให้บทเรียน “เล็กๆ” กับเขา ซึ่งมันก็ดีมากเหมือนกัน
เมื่อเห็นปฏิกิริยาของฉู่หลิวเยว่แล้ว อวี้ฉือซงก็ไม่ได้คิดอันใดมาก คิดว่านางดีใจที่สามารถสืบค้นความจริงได้ก็เท่านั้น
“ถ้าเช่นนั้นละก็ เรื่องนี้ก็จัดการได้ง่ายมาก” อวี้ฉือซงกล่าวออกมาอย่างครุ่นคิด
ฐานะของเจียงอวี่เฉิงสูงส่ง เรื่องราวที่เกิดขึ้นในราชวงศ์เทียนลิ่งในตอนนี้ ล้วนเป็นเขาที่ช่วยซั่งกวนหว่านทำ
อยากจะพบหน้าเขาเพื่อลองหยั่งเชิงฝีมือของเขา ก็เป็นเรื่องที่ทำได้ไม่ยาก
“วันนี้อาจารย์จะลงเขาไปหาตระกูลเจียงด้วยตนเอง ผลลัพธ์เป็นอย่างใด ไปดูเดี๋ยวก็รู้แล้ว!”
ฉู่หลิวเยว่ตกใจเล็กน้อย
“ท่านจะไปวันนี้เลยหรือ?”
อวี้ฉือซงกล่าวว่า “ถูกต้อง ไม่ว่าอย่างใดเรี่องราวก็มาถึงขนาดนี้แล้ว หากเขามีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้จริงๆ เขาจะต้องรู้แล้วอย่างแน่นอน ไม่มีประโยชน์อันใดที่จะผัดวันประกันพรุ่ง เช่นนั้นไปเสียตอนนี้เลยยังจะดีกว่า”
ฉู่หลิวเยว่ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นก็คิดว่ามันสมเหตุสมผลอย่างมาก
นี่คือแผนการโจมตีแบบซึ่งหน้าของอวี้ฉือซง!
ไม่ว่าอย่างใดชงซูเก๋อก็เป็นแค่เหยื่อ หากจะต้องสอบสวนเรื่องนี้ คนที่ควรหวาดกลัว น่าจะเป็นคนที่ทำความชั่วมากกว่า!
เมื่อพูดจบ อวี้ฉือซงก็จากไปทันที
จากนั้นฉู่หลิวเยว่รีบตะโกนขึ้นมา
“อาจารย์ ท่านลืมไปเรื่องหนึ่ง”
“อันใดหรือ?”
ฉู่หลิวเยว่กะพริบตาปริบๆ
“ตอนนี้สวนสมุนไพรกลับมาเป็นปกติแล้ว ตอนนี้ท่านจะให้ทุกคน…เอ่อศิษย์พี่ทั้งหลาย มาจัดระเบียบสถานที่นี้ใหม่อีกครั้งหรือไม่?”
“ให้ตายเถอะ…เรื่องสำคัญเช่นนี้ ข้าเกือบจะลืมไปแล้ว!”
อวี้ฉือซงหัวเราะออกมาเสียงดัง
“ดี! นี่เป็นคำสั่งของอาจารย์ ให้ลูกศิษย์ทุกคนที่อยู่ในสำนัก มารวมตัวกันที่นี่”
แม้ว่าการรอคอยให้สมุนไพรที่เพิ่งปลูกไปนั้นเติบโต จะเป็นเวลาที่ยาวนาน แต่สำหรับสำนักชงซูเก๋อนั้น มันเต็มไปด้วยการรอคอยการเริ่มต้นที่สดใส
ตอนนี้ปัญหาทรายรวมศูนย์ได้ผ่านพ้นไปแล้ว ภูเขาชิงหยวนก็กลับมาเป็นดังเดิมแล้ว พวกเขาไม่ต้องกังวลเรื่องจะปลูกสมุนไพรไม่ขึ้นอย่างเมื่อก่อนแล้ว
เรื่องนี้สิเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุด!
…
สวนสมุนไพรที่ถูกทิ้งให้รกร้างไว้ก็ได้กลับมาเปิดอย่างเป็นทางการแล้ว อีกทั้งได้เริ่มปลูกสมุนไพรรอบใหม่แล้ว
ข่าวนี้ได้แพร่กระจายไปยังลูกศิษย์ทุกคนอย่างรวดเร็วราวกับติดปีกบิน!
แรกเริ่มทุกคนก็ยังรู้สึกสงสัยอย่างมาก แต่เมื่อได้ยินท่านประมุขพูดว่า สวนสมุนไพรของพวกเราได้รับการฟื้นฟู สมุนไพรที่ปลูกเอาไว้สามารถเติบโตได้ ทุกคนก็รู้สึกกระตือรือร้นกันอย่างมาก
ตอนบ่าย ภายในสวนสมุนไพร สมุนไพรทุกชนิดก็แทบจะได้รับการปลูกใหม่ทั้งหมด
แม้ว่าตอนนี้จะยังเห็นว่ามันเป็นพื้นที่ว่างโล่ง แต่ด้วยคำพูดของท่านประมุขแล้ว ทำให้พวกเขานั้นมีความหวังอีกครั้ง
ฉู่หลิวเยว่เองก็ปลูกสมุนไพรเอาไว้เล็กน้อยเช่นกัน อีกทั้งด้วยคำพูดของอวี้ฉือซง ทำให้นางได้มีอำนาจส่วนใหญ่ในสวนสมุนไพรแห่งนี้
ตอนแรกฉู่หลิวเยว่เองก็ปฏิเสธ แต่นางก็ไม่สามารถทนการโน้มน้าวของอวี้ฉือซงได้ สุดท้ายจึงต้องตอบตกลง
ความจริงแล้วนางก็ชอบการดูแลสมุนไพรเหล่านี้มาก
แต่อีกด้านหนึ่งอวี้ฉือซงก็ให้สัญญากับนางว่า ในอนาคตนางสามารถมาหยิบใช้สมุนไพรในสวนนี้ได้ตามสบาย
ฉู่หลิวเยว่จึงรู้สึกหวั่นไหว และตอบตกลงไปในที่สุด
ความจริงแล้วในตอนที่เลือกว่าใครจะได้เป็นผู้ดูแลสวนสมุนไพรแห่งนี้ มีลูกศิษย์จำนวนมากมายแย่งกันอย่างดุเดือด
แต่เมื่ออวี้ฉือซงเลือกฉู่หลิวเยว่ ตอนนั้นนางยังคิดว่าต้องมีผู้คนจำนวนไม่น้อยที่สงสัยในความสามารถและคุณสมบัติของนางอย่างแน่นอน
แต่คิดไม่ถึงว่าความคิดของทุกคนกลับคล้อยตามกันอย่างน่าแปลกใจ
ในเมื่อศิษย์น้องหญิงอยากทำ เช่นนั้นก็ให้นางทำ!
เมื่อมองไปทั่วสำนักชงซูเก๋อ ยังจะมีใครเหมาะสมไปกว่าศิษย์น้องหญิงผู้นี้อีกหรือ?
ไม่มี!
ทุกคนเห็นด้วยโดยทันที อีกทั้งเริ่มตีสนิทฉู่หลิวเยว่และเชียงหว่านโจวอย่างบ้าคลั่ง
การเข้าหาฉู่หลิวเยว่นั้นก็ยังเป็นเรื่องที่พอเข้าใจได้ แต่เมื่อเห็นทุกคนเข้าไปคุยกับเชียงหว่านโจวที่เย็นชาราวกับจะกัดหัวทุกคนนั้น ฉู่หลิวเยว่ก็รู้สึกสับสนอย่างมาก
หลังจากที่ได้สอบถามมาแล้ว นางถึงได้รู้ว่า ก่อนหน้านี้ลู่จือเหยาได้เล่าเรื่องราวทุกอย่างให้ศิษย์พี่ทั้งหลายฟังหมดแล้ว
แม้ว่าศิษย์น้องคนนี้จะดูเย็นชา แต่ก็เชื่อฟังคำสั่งของศิษย์น้องหญิงเป็นอย่างมาก!
อีกทั้งศิษย์น้องหญิงก็ปฏิบัติตัวต่อศิษย์น้องเป็นอย่างดี!
ถ้าเป็นเช่นนั้นแล้วละก็ ไม่ว่าจะสานความสัมพันธ์กับใคร ก็เป็นเรื่องที่ดีทั้งนั้น
ดังนั้นหลังจากที่ทุกคนทักทายฉู่หลิวเยว่และเชียงหว่านโจวเรียบร้อยแล้ว ภายในห้องนอนของพวกเขาทั้งคู่ก็เต็มไปด้วยกองของขวัญนานาชนิด
ฉู่หลิวเยว่มองกองของขวัญที่อยู่เต็มห้องของตัวเอง ก็รู้สึกหัวเราะไม่ได้ร้องไห้ไม่ออก
พวกเราเพิ่งปลูกสมุนไพรไปได้เมื่อไม่กี่ชั่วยามก่อนหน้านี้ ตอนนี้พวกเขากลับกระตือรือร้นกันเช่นนี้ นี่มันเร็วเกินไปหน่อยหรือไม่
เห็นได้ชัดว่าพวกเขาเอาสวนสมุนไพรเหล่านั้นมาเป็นข้ออ้างเท่านั้น ที่ให้พวกเขามานั้นน่าจะเป็นของรับขวัญเสียมากกว่า
ตอนนี้ศิษย์ที่อยู่ในสำนักชงซูเก๋อมีจำนวนน้อยมาก คนที่ยังอยู่ เหลือเพียงแต่คนที่มีความผูกพันธ์ลึกซึ้งกับสำนักเท่านั้น
คนเหล่านั้นสามารถประคับประคองสำนักมาจนถึงตอนนี้ได้ ถือว่ามิตรภาพของพวกเขานั้นลึกซึ้ง และจริงใจมากกว่าศิษย์สำนักอื่นๆ มากมายนัก
ในขณะเดียวกัน ฉู่หลิวเยว่และเชียงหว่านโจวกลับเลือกเข้าสำนักชงซูเก๋อในเวลานี้ แม้ว่าพวกเขาจะไม่พูด แต่ในใจกลับรู้สึกซาบซึ้งและดีใจอย่างมาก
จึงรู้สึกชอบพวกเขาทั้งสองมากเป็นพิเศษ และเกรงว่าพวกเขาจะได้รับความขับข้องใจ
ฉู่หลิวเยว่เอนตัวไปพิงที่กรอบประตู เมื่อคิดถึงสถานการณ์เมื่อครู่นี้ มุมปากของนางก็อดที่จะยกยิ้มขึ้นมาไม่ได้
นางไม่ใช่คนที่ชอบความสนุกคึกครื้น
แต่เมื่อครู่นี้ในห้องของนางก็เสียงดังมาก แต่นางกลับรู้สึกมีความสุขอย่างมาก
ก่อนหน้านี้เมื่อนานมาแล้ว ด้วยฐานะที่สูงส่งของนาง
ทำให้ทุกคนต้องเคารพนาง ให้เกียรตินาง อิจฉานาง ริษยานาง…
แต่มันไม่ใช่ความรู้สึกแบบนี้
แต่หลังจากที่นางกลับมาเกิดใหม่อย่างยากลำบาก นางเป็นคนตัวเล็ก และต่ำต้อยอย่างมาก
ทุกคนก็จะรังแกนาง หยามเหยียดนาง ดูถูกนาง เยาะเย้ยนาง…
และมันไม่ใช่ความรู้สึกแบบนี้
เดิมทีที่นางเลือกสำนักชงซูเก๋อนั้น ส่วนใหญ่ก็เพราะอวี้ฉือซง
แต่ตอนนี้นางกลับรู้สึกว่าโชคดีมากที่นางเลือกที่นี่
เชียงหว่านโจวยืดตัวขึ้นจากกองของขวัญที่มีขนาดเท่าภูเขาหย่อมๆ
บนตัวของเขายังมีตุ๊กตาตัวเล็กที่เย่หรานหร่านมอบให้อยู่
ฉู่หลิวเยว่ยิ้มออกมาน้อยๆ แล้วพูดว่า
“เสี่ยวโจวไม่ต้องรีบ เราค่อยๆ แกะ”
ใบหน้าของเชียงหว่านโจวมืดครึ้ม
ฉู่หลิวเยว่เดินไปที่ด้านข้างของเขา แล้วกางกระดาษออกมาใบหนึ่ง
“นี่เป็นครั้งแรกที่พวกศิษย์พี่มอบของรับขวัญให้พวกเรา นี่เป็นตัวแทนน้ำใจของพวกเขา ดังนั้นเราต้องเก็บเอาไว้อย่างดี เจ้าจัดระเบียบแล้วข้าจะจดบันทึกเอาไว้”
เมื่อพูดเสร็จนางก็เหลือบสายตามองเชียงหว่านโจว ก่อนจะจดลงไปว่า
“เย่หรานหร่าน ของเล่นหนึ่งชิ้น”
ความจริงแล้วเย่หรานหร่านทำมาสองชิ้น มอบให้พวกเขาคนละชิ้น
สีหน้าของเชียงหว่านโจวก็มืดครึ้มมากขึ้น เมื่อครู่เขาแค่อยากจะดึงตุ๊กตานี้ออก แต่เมื่อสัมผัสถึงผ้านิ่มและฝีเข็มที่ละเอียด เขาก็หยุดการะกระทำลง เขาค่อยๆ ปลดตะขอออก แล้วนำมันลง
ฉู่หลิวเยว่มองเขาด้วยความพอใจ
เห็นอยู่ชัดๆ ว่าเด็กคนนี้ชอบของชิ้นนั้น! แล้วยังจะทำหน้าบึ้งตึงอยู่เหตุใดเล่า!
นางยิ้มให้เชียงหว่านโจวก่อนจะพูดว่า
“เสี่ยวโจวหลังจากที่จดบันทึกเสร็จแล้ว เจ้าต้องเก็บมันเอาไว้ดีๆ นะ ทีหลังหยิบออกมาจะได้จำได้ว่าจะต้องตอบแทนศิษย์พี่”
เชียงหว่านโจวเบือนหน้าหนี
“ไม่ต้องให้ข้า”