ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ - ตอนที่ 578 ส่งของ
ตอนที่ 578 ส่งของ [รีไรท์]
ตอนนี้ก็เป็นช่วงเวลาพลบค่ำแล้ว ใครกันนะที่มาหานางในช่วงเวลานี้?
ฉู่หลิวเยว่ลุกขึ้นยืน แล้วเดินไปเปิดประตู ก่อนจะเห็นว่าลู่จือเหยายืนรออยู่ที่หน้าประตูแล้ว
“ศิษย์พี่ลู่ ใครมาหาข้าหรือ?”
ศิษย์พี่ทั้งหลายเพิ่งเจอกันไปเมื่อตอนบ่าย ไม่น่าจะกลับมาหานางเร็วขนาดนี้
ท่าทางของลู่จือเหยานั้นมึนงงเล็กน้อย
“เป็นคนที่มาจากด้านนอก… เขาเป็นผู้ชายคนหนึ่ง บอกว่าจะมาหาเจ้า ข้าจึงให้เขารออยู่ที่ตีนเขา”
ตอนนี้สำนักชงซูเก๋อมีการป้องกันที่แน่นหนาอย่างมาก แม้ว่าจะไม่ได้ห้ามให้ศิษย์เข้าออก แต่สำหรับคนนอกแล้ว ถือว่ามีการควบคุมอย่างเข้มงวด
ชายผู้หนึ่ง?
ฉู่หลิวเยว่คิดย้อนกลับไปอย่างรวดเร็ว
นางเพิ่งมาเมืองซีหลิงได้ไม่นาน นอกจากคนจากสำนักชงซูเก๋อกลุ่มนี้แล้ว นางก็ไม่ได้รู้จักใครเป็นพิเศษ
อีกทั้งไม่น่าจะเป็นเจี่ยนเฟิงฉือหรือมู่ชิงเห่อ
สองคนนี้มีชื่อเสียงมากในเมืองซีหลิง ลู่จือเหยาจะต้องรู้จักอย่างแน่นอน
หรือว่าเป็นคนที่พวกเขาส่งมา?
“เขาได้บอกหรือไม่ว่าเขาเป็นใคร?”
ลู่จือเหยาพยักหน้า
“เขาบอกว่าเขาชื่อเยี่ยนชิง มาที่นี่เพื่อมาหาเจ้าโดยเฉพาะ”
ฉู่หลิวเยว่รู้สึกตกใจอย่างมาก
เยี่ยนชิง!
เขามาที่นี่ได้อย่างใด!
ตอนนี้เขาน่าจะอยู่กับหรงซิวที่หมิงเยว่เทียนซานไม่ใช่หรือ?
เมื่อเห็นว่าสีหน้าของฉู่หลิวเยว่เปลี่ยนไปเล็กน้อย ลู่จือเหยาจึงถามอย่างไม่มั่นใจว่า…
“ศิษย์น้องหญิง เป็นคนรู้จักของเจ้าหรือ?”
ฉู่หลิวเยว่พยักหน้า
“เป็น…สหายของข้าเอง รบกวนศิษย์พี่เชิญเขาขึ้นมาเถอะ”
หากไม่มีเรื่องเร่งด่วนอันใด เขาไม่มีทางเดินทางมาพันๆ ลี้เพื่อมาที่นี่หรอก
หรือว่าจะเกิดเรื่องกับหรงซิวแล้ว?
เมื่อคิดได้เช่นนั้น ฉู่หลิวเยว่ก็รู้สึกกระวนกระวายขึ้นมา
ลู่จือเหยาเห็นว่าในแววตาของนางมีประกายของความกังวลแฝงอยู่ ในใจของนางก็อดคิดขึ้นมาไม่ได้ว่า เยี่ยนชิงผู้นั้น ท่าทางเป็นคนที่มีมากด้วยพรสวรรค์ หรือว่าเขาจะมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับศิษย์น้องหญิง?
หากเป็นเช่นนั้นจริงๆ แล้วละก็ พวกเขาจะต้องช่วยศิษย์น้องหญิงตรวจสอบคนผู้นี้ให้ละเอียด!
เมื่อคิดได้เช่นนั้น ลู่จือเหยาก็รู้สึกว่าตัวเองมีภารกิจที่หนักอึ้งแบกเอาไว้บนบ่า
“ศิษย์น้องหญิงรอสักครู่ ข้าจะไปพาตัวคนผู้นั้นมาให้”
เมื่อพูดจบ นางก็รีบจากไปอย่างรวดเร็ว
ฉู่หลิวเยว่มองแผ่นหลังที่หายไปริบๆ ของเขา ก็รู้สึกอดตกตะลึงไม่ได้
ไม่รู้ว่าลางสังหรณ์ของนางผิดไปหรือไม่ แต่เหตุใดนางรู้สึกว่า…จู่ๆ เหมือนลู่จือเหยาก็อยากจะพบหน้าเยี่ยนชิงขึ้นมา?
“หลิวเยว่ ได้ยินว่ามีคนต้องการมาหาเจ้าหรือ?”
ตอนที่ฉู่หลิวเยว่ที่กำลังคิดไปเรื่อยเปื่อย ทันใดนั้นเย่หรานหร่านก็เดินมาอยู่ด้านข้างของนาง ใบหน้าเต็มไปด้วยความสงสัย
เมื่อเห็นแววตาสงสัยของฉู่หลิวเยว่ เย่หรานหร่านจึงรีบอธิบายขึ้นมาว่า
“ลู่จือเหยาไม่ได้เป็นคนบอกข้า แค่บังเอิญได้ยินเท่านั้น! ส่วนศิษย์พี่ศิษย์น้องคนอื่นๆ ก็ยังไม่รู้เรื่องนี้!”
“…ตอนนี้ศิษย์พี่ทั้งหลายอยู่ที่ไหนกันหรือเจ้าคะ?”
ทันใดนั้นเย่หรานหร่านก็หน้าแดงขึ้นทันที แต่ยังไม่ได้พูดอันใด
“หือ?”
เย่หรานหร่านเดินก้าวไปด้านหน้าสองก้าว ก่อนจะมองใบหน้าของฉู่หลิวเยว่อย่างระมัดระวัง และพูดอย่างช้าๆ ว่า…
“หน้าประตูทางเข้า”
ฉู่หลิวเยว่ชะงักไปทันที
หน้าประตู?
นั่นมันก็เป็นประตูด้านหน้าไม่ใช่หรือ!?
เมื่อเยี่ยนชิงเดินเข้ามา ทุกคนก็สามารถมองเห็นได้ทันที!
ภาพวันแรกที่ฉู่หลิวเยว่เข้ามาที่สำนักชงซูเก๋อปรากฏขึ้นมาในสมองของนางอีกครั้ง
หลังจากเดินเข้าบันไดจำนวนมากมายนับไม่ถ้วน ทันทีที่มาถึงนางก็เห็นใบหน้าของศิษย์ทุกคนที่เต็มไปด้วยความกระตือรือร้น
ฉู่หลิวเยว่ “…”
ตอนนี้นางรู้สึกสงสัยอย่างมาก สาเหตุที่สำนักชงซูเก๋อตกต่ำลง เป็นเพราะศิษย์ส่วนใหญ่ ชอบซุบซิบนินทากันใช่หรือไม่?
ไม่ยอมตั้งใจบำเพ็ญเพียร และจะกลายเป็นผู้แข็งแกร่งได้อย่างใด?
เย่หรานหร่านจึงรีบอธิบายขึ้นมาว่า
“คือว่า ความจริงแล้วพวกเราก็ไม่ได้ตั้งใจนะ เพียงแค่ตอนที่เย่หรานหร่านขึ้นมา ระหว่างทางก็ได้เจอกับศิษย์พี่ที่เพิ่งกลับมา ก็เลยบอกพวกเขาไป…”
“จากนั้น เมื่อเดินมาถึงครึ่งทาง ทุกคนก็รู้เรื่องนี้กันหมดแล้ว?”
“ถูกต้อง…”
เย่หรานหร่านตอบรับเสียงเบา
แม้ว่านางจะเข้ามาก่อนฉู่หลิวเยว่ เหมือนว่าจะต้องเป็นศิษย์พี่ของฉู่หลิวเยว่ แต่ด้วยฐานะของฉู่หลิวเยว่นั้น เหมือนว่านางจะมีรัศมีความแข็งแกร่ง และน่าเคารพมากกว่า กอปรกับก่อนหน้านี้ฉู่หลิวเยว่เคยช่วยนางออกหน้ามาก่อน ดังนั้นจึงเป็นเรื่องยากที่นางจะกล้าสู้หน้าฉู่หลิวเยว่โดยตรง
เมื่อฉู่หลิวเยว่กวาดสายตาลงมา นางจึงรีบหดคอลง และรู้สึกผิดอย่างมาก
ฉู่หลิวเยว่สาวเท้าเดินไปด้านหน้า และในตอนนั้นเอง เชียงหว่านโจวก็ได้ยินความเคลื่อนไหว จึงเปิดประตูห้องด้านข้างออกมา เขามองไปทางฉู่หลิวเยว่ด้วยความสงสัย
ดูเหมือนว่า นางจะใส่ใจผู้ชายคนที่มาใหม่นั้นไม่น้อยเลย?
เย่หรานหร่านจึงขยับกายไปยืนอยู่ด้านข้างเชียงหว่านโจว ก่อนจะกระซิบถามเสียงเบาว่า
“หว่านโจว เจ้ารู้จักคนที่ชื่อเยี่ยนชิงคนนี้หรือไม่?”
เชียงหว่านโจวส่ายหน้า
“ศิษย์น้องหญิง คนมาแล้ว!”
เสียงของลู่จือเหยาดังมาจากที่ไกลๆ
มุมปากของฉู่หลิวเยว่กระตุกเล็กน้อย
นี่กลัวว่าทุกคนจะไม่ได้ยินหรืออย่างใด?
ฉู่หลิวเยว่สาวเท้าเร็วขึ้น หลังจากนั้นไม่นานนางก็เห็นว่าศิษย์พี่ทั้งหลายก็มายืนมุงดูกัน
ฉู่หลิวเยว่ “…”
ตอนนั้นนางก็ครุ่นคิดอย่างจริงจังว่าควรจะแยกตัวออกมาจากศิษย์พี่ทั้งหลายหรือไม่ แต่ทันใดนั้นเองศิษย์พี่หญิงคนหนึ่งก็มองมาเจอนางพอดี จึงรีบพูดขึ้นมาอย่างตกใจว่า
“ศิษย์น้องหญิงก็มาแล้ว!”
ทันใดนั้นทุกคนก็เงียบเสียงลง จากนั้นศิษย์พี่ที่ยืนล้อมกันอยู่ก็แตกกระจายเหมือนมดแตกรังทันที
“ศิษย์น้องหญิง พวกเรายังมีธุระ ขอตัวก่อนะ!”
“พวกเจ้าคุยกันไปนะ ค่อยๆ คุยกัน!”
ปากบอกว่าจะไปแล้ว แต่ดวงตาทั้งสองข้างก็ยังจ้องมาทางนี้อย่างใจจดจ่อ
ในตอนนั้นเอง ลู่จือเหยาก็เดินมาถึงที่หน้าประตูแล้ว
เยี่ยนชิงเดินตามอยู่ด้านหลัง
เขาสวมเกราะเหล็กสีดำ บนร่างยังเปื้อนคราบเลือดเล็กน้อย แม้ว่าท่าทางของเขาจะดูสงบนิ่งอย่างมาก แต่บนร่างกายของเขายังมีจิตสังหารแผ่ออกมาอยู่
ราวกับว่าเขาเพิ่งกลับมาจากสนามรบ!
แรงกดดันนี้ทำให้ศิษย์พี่ที่กำลังจะจากไป หยุดชะงักฝีเท้า ไม่ยอมจากไปในทันที
ผู้ชายคนนี้ไม่ธรรมดาเลย
มาหาศิษย์น้องหญิงอย่างกะทันหันเช่นนี้ มีเรื่องอันใดกันแน่?
ฉู่หลิวเยว่เองก็ไม่เคยเห็นท่าทางเช่นนี้ของเขามาก่อน เมื่อเห็นดังนั้น นางก็รู้สึกตกตะลึงทันที
“เยี่ยนชิง?”
ก่อนที่เยี่ยนชิงจะขึ้นมา เขาก็ได้สัมผัสถึงปราณหลายสายที่ด้านนอกของประตูแล้ว ดังนั้นเมื่อเห็นกลุ่มคนเหล่านี้ เขาก็ไม่ได้รู้สึกประหลาดใจอันใด
เขาเงยหน้าขึ้นไปมอง ตอนนั้นเองก็เห็นฉู่หลิวเยว่ที่มีสีหน้าตระหนกตกใจยืนอยู่
เขารีบสาวเท้าขึ้นไปด้านหน้า แล้วหยุดยืนอยู่ตรงหน้าของฉู่หลิวเยว่ ก่อนจะคุกเข่าลงข้างหนึ่ง
“เยี่ยนชิง คารวะคุณหนูฉู่!”
ทุกคนต่างมองหน้ากันไปมาทันที
อ่า…เหมือนว่าจะไม่ได้เป็นแบบที่พวกเขาคิด
ฉู่หลิวเยว่พยุงอีกฝ่ายให้ลุกขึ้นยืน จากนั้นก็รีบสำรวจตัวของเขา พร้อมขมวดคิ้วแล้วพูดว่า
“เจ้ามาที่นี่ได้อย่างใด? แล้วยังสวมชุดเช่นนี้อีก นี่…นี่มันเกิดอันใดขึ้นหรือ?”
เยี่ยนชิงส่ายหน้า
“คุณหนูหลิวเยว่ไม่ต้องกังวล นายท่านไม่เป็นอันใด ที่ข้ามาวันนี้ เพื่อนำของบางอย่างให้ท่าน”
ความจริงเขามาถึงเมืองซีหลิงสักพักแล้ว เพียงแต่ว่าเขาไม่รู้ว่าฉู่หลิวเยว่พักอยู่ที่ใด ดังนั้นจึงต้องเสียเวลาไปเล็กน้อย
จากนั้นเขาถึงนึกได้ว่า เมื่อฉู่หลิวเยว่เป็นศิษย์สำนักชงซูเก๋อ ดังนั้นเป็นไปได้อย่างมากว่า นางน่าจะอยู่ที่ภูเขาชิงหยวน
ดังนั้นเขาจึงมาดู และอีกฝ่ายก็อยู่ที่นี่จริงๆ
สีหน้าของทุกคนเปลี่ยนไปอีกครั้ง
นายท่าน?
นายท่านของเขา?
เป็นอันใดกับศิษย์น้องหญิงของเขา?
ฉู่หลิวเยว่รู้สึกโล่งใจขึ้นมาเล็กน้อย แต่ก็ยังรู้สึกสงสัยอย่างมาก
“เขาให้เจ้ามาส่งสิ่งใดหรือ?”
ของชิ้นนั้นมันมีความสำคัญอย่างใดกันแน่? ถึงต้องรีบร้อนขนาดนี้ แม้กระทั่งเสื้อเกราะเยี่ยนชิงก็ยังไม่มีเวลาถอดออก ซ้ำยังต้องมาไกลขนาดนี้ด้วย?
เยี่ยนชิงหยิบกล่องหยกเล็กๆ ออกมา พร้อมยื่นให้ด้วยสองมือ
ฉู่หลิวเยว่รับมันมา กล่องนั้นมีขนาดเท่าฝ่ามือ ด้านในมันจะสามารถใส่อันใดได้บ้าง?
เสียง “แกร๊ก” ดังขึ้น นางเปิดฝากล่องหยกออก
แหวนวงหนึ่งส่องประกายวิบวับจางๆ นอนอยู่ด้านในอย่างเงียบสงบ