ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ - ตอนที่ 594 อยู่ที่นี่ก่อนเถอะ
ตอนที่ 594 อยู่ที่นี่ก่อนเถอะ [รีไรท์]
มู่หงอวี่ถอนหายใจออกมา
“เรื่องนี้มันเริ่มต้นขึ้นเมื่อครึ่งเดือนก่อน…”
หลังจากที่ฉู่หลิวเยว่ออกจากเมืองหลวงแคว้นเย่าเฉินไปแล้ว มู่หงอวี่ก็ไปขอลาหยุดกับทางสำนัก ตั้งใจจะกลับบ้านไปพร้อมกับท่านแม่
ตั้งแต่นางมาเรียนอยู่ที่เมืองหลวง นางก็ไม่เคยกลับไปที่บ้านอีกเลย
ครั้งนี้สุขภาพของท่านแม่ไม่แข็งแรง นางจึงอยากกลับไปหาครอบครัว
แต่คิดไม่ถึงว่า พวกเขาจะโดนลอบโจมตี
ที่แท้ผู้อาวุโสหวู่ซานคิดทรยศ และนำคนมาลอบสังหารพวกเขา
ด้วยสถานการณ์ที่คับขัน มู่หงอวี่จึงต้องล่อให้คนเหล่านั้นออกมา ยังดีที่สามารถทำให้ผู้อาวุโสจีฉ่างพาท่านแม่ของนางหนีออกไปได้
แต่เพราะท่านแม่ขัดขืนมาตลอดทาง มู่หงอวี่จึงต้องใช้หลังมือสับหลังคอของนางให้สลบไป
เดิมทีมู่หงอวี่คิดว่าตนเองจะต้องตายแล้วอย่างแน่นอน สุดท้ายในตอนที่นางกำลังอยู่ในความตาย นางก็หล่นลงจากหน้าผา ตกลงสู่แม่น้ำที่เชี่ยวกรากที่อยู่ด้านล่าง
ตอนนั้นร่างกายของนางบาดเจ็บสาหัสมาก ไหลไปตามแม่น้ำสามวันสามคืน
ถ้าไม่ได้หมีแผงคอทองคำ นางอาจจะตายอยู่ในแม่น้ำไปตั้งนานแล้วก็ได้
หลังจากที่มึนงงสับสนอยู่สามวัน ในที่สุดก็มีเรือลำหนึ่งลอยเข้ามา
บนเรือลำนั้นมีคนมากกว่ายี่สิบคน เหมือนว่าพวกเขาล้วนเป็นผู้แข็งแกร่ง
ตอนแรกนางก็รู้สึกได้ว่ามันมีบางอย่างผิดปกติไป แต่ในตอนนั้นนางกำลังลอยอยู่บนความเป็นและความตาย ยากมากว่าจะได้เจอโอกาสรอดชีวิต นางจึงไม่ได้สนใจอันใดมากขนาดนั้น?
ดังนั้นนางจึงขอร้องอีกฝ่ายอย่างสุดชีวิต ใช้เงินทั้งหมดที่มี เพื่อแลกกับโอกาสที่จะได้ขึ้นบนเรือ
นางคิดว่าตราบใดที่นางสามารถขึ้นบกได้ นางจะต้องมีหนทางกลับไปอย่างแน่นอน
แต่ผลสุดท้าย คิดไม่ถึงว่าเมื่อเรือลำนี้จอด นางก็เดินทางมาถึงที่พรมแดนม่านฟ้าแล้ว!
ก่อนหน้านี้ตอนที่จักรพรรดิจยาเหวินเรียกพรมแดนม่านฟ้า มู่หงอวี่ก็เคยมองมันจากที่ไกลๆ
ดังนั้นตอนที่เห็นพรมแดนม่านฟ้าที่ยิ่งใหญ่และกระจายไปทั่วท้องฟ้า ในที่สุดนางก็นึกได้ว่า…เรือลำนั้นที่ตนเองโดยสารมานั้น ไม่ใช่แค่มีปัญหาธรรมดาเท่านั้น!
เมื่อคนกลุ่มนั้นกำลังลงจากเรือ แต่กลับโดนคนพบเข้าอย่างไม่ทันระวัง จึงตามไล่ฆ่าพวกเขา
ท่ามกลางการต่อสู้ที่วุ่นวาย มู่หงอวี่ก็หลบหนีไป จากนั้นไม่นานก็ต้องสลบไปเพราะความเหนื่อยล้า
ตอนที่ตื่นมาอีกครั้ง นางก็พบว่านางอยู่ตัวคนเดียว แต่นางก็คาดไม่ถึงว่าได้เข้ามาในพรมแดนม่านฟ้าแล้ว
นางกับหมีแผงคอทองคำเดินไปอย่างไม่รู้ทิศทาง หิวก็กินหญ้า เหนื่อยก็นอนพักที่พื้น ช่วงเวลาสิบปีก่อนหน้านี้ไม่เคยได้ลำบาก แต่ก็มาผจญความลำบากทุกอย่างในตอนนี้
หลังจากเดินไปสองวัน นางก็ได้พบกับคนอีกกลุ่มหนึ่ง
คนเหล่านั้นก็คือคนของหออวี่เซี่ยง
เดิมทีพวกเขาจะเดินผ่านไปอยู่แล้ว แต่เมื่อเห็นว่ามู่หงอวี่เดินอยู่ที่ชายแดนพรมแดนม่านฟ้าคนเดียวจึงได้เข้ามาจับกุมนาง
ความจริงแล้วตอนแรก พวกเขาก็ไม่ได้จริงจังอันใดกับมู่หงอวี่มากนัก แต่หลังจากทราบว่ามู่หงอวี่สามารถหายตัวได้ สามารถเดินทางจากที่หนึ่งไปยังที่หนึ่งได้อย่างอิสระ จึงตระหนักได้ถึงความพิเศษของมู่หงอวี่
สุดท้าย พวกเขาจึงพานางกลับมาที่ซีหลิง
ระหว่างทางมู่หงอวี่พยายามหลบหนีอยู่สองสามครั้ง แต่ก็โดนพวกเขาจับกลับมาอยู่ดี
เพื่อทำให้นางเชื่อฟัง พวกเขาจึงมอบโอสถให้นาง
หลังจากที่ตื่นมาอีกครั้ง นางก็อยู่ในกรงเหล็กนั้นแล้ว
หลังจากมู่หงอวี่เล่าเรื่องทุกอย่างเสร็จ ภายในห้องก็เหลือเพียงความเงียบงัน
ฉู่หลิวเยว่สูดลมหายใจเข้าลึกๆ ก่อนจะนวดหัวคิ้วของตนเอง
“…คนที่อยู่บนเรือลำนั้น น่าจะเป็นคนที่ลักลอบเข้ามา”
ด้านนอกพรมแดนม่านฟ้า มีกลุ่มที่มีลักษณะพิเศษเช่นนี้อยู่
ฝีมือของพวกเรายังไม่ถึงนักรบระดับเจ็ด ภายในพรมแดนม่านฟ้าก็ไม่มีคนที่คุ้นเคย เป็นไปไม่ได้ที่จะเดินทางเข้าช่องทางปกติได้
ไม่ว่าอย่างใดพวกเขาก็มีความหวังและความปรารถนาที่เข้ามาในพรมแดนม่านฟ้า ดังนั้นจึงต้องพยายามอย่างเต็มที่ ใช้ทุกวิถีทาง เพื่อลอบเข้ามาในพรมแดนม่านฟ้าให้ได้
ขอบเขตของพรมแดนม่านฟ้านั้นกว้างมาก ต่อให้ทุกแคว้นส่งทหารจำนวนนับไม่ถ้วนมาประจำที่ชายแดน แต่ก็ไม่สามารถรับประกันได้ว่าจะสามารถป้องกันพวกลักลอบข้ามชายแดนมาได้อย่างสมบูรณ์
ส่วนมู่หงอวี่จะมากับกองกำลังนั้นพอดี
เมื่อฉู่หลิวเยว่ได้ยินประสบการณ์ทั้งหมดของนาง ก็อดที่จะถอนหายใจออกมาไม่ได้
“…เจ้าสามารถมีชีวิตอยู่รอดได้ถึงที่นี่ ก็ถือเป็นปาฏิหาริย์ในปาฏิหาริย์แล้ว”
ระหว่างการเดินทางนั้นทั้งลำบากและอันตราย
ไม่ว่าจะอยู่ในช่วงตอนไหน ขอเพียงแค่ประมาทนิดเดียว ก็อาจจะจบชีวิตลงได้
แต่มู่หงอวี่ก็โชคดีสามารถรอดพ้นจากทุกอุปสรรคได้…อีกทั้งยังโชคดีที่ได้มาเจอพวกเขา!
นี่สามารถพูดได้ว่าเพราะเป็นการช่วยเหลือจากพระเจ้าโดยแท้
เจี่ยนเฟิงฉือและสุ่ยหลิ่วเอ๋อร์ที่นั่งอยู่ข้างๆ ก็มีสีหน้าซับซ้อน
เมื่อได้เห็นบาดแผลของมู่หงอวี่ก็รู้ว่าก่อนหน้านี้ นางจะต้องมีช่วงเวลาที่ยากลำบากอย่างแน่นอน
แต่เมื่อนางพูดเรื่องเหล่านั้นออกมา กลับรู้สึกว่านี่มันเกินความคาดหมายไปมาก
เจี่ยนเฟิงฉือค่อยหายใจเข้าช้าๆ แล้วพูดด้วยเสียงทุ้มต่ำว่า
“ถ้าเช่นนั้นเงินหกล้านหกแสนของข้าก็ไม่ถือว่าเสียเปล่าแล้ว…”
สุ่ยหลิ่วเอ๋อร์ตวัดสายตามองเขา
พูดดีๆ เป็นหรือไม่?
เมื่ออยู่ต่อหน้าผู้หญิงคนอื่นล้วนทำตัวอ่อนโยน เข้าอกเข้าใจผู้อื่นไม่ใช่หรือ?
เหตุใดเมื่ออยู่ต่อหน้ามู่หงอวี่ ถึงได้พูดแต่เรื่องแบบนี้ได้นะ?
เจี่ยนเฟิงฉือก็รู้สึกว่ามีอันใดบางอย่างไม่ถูกต้อง จึงกระแอมไอขึ้นมา
ยังดีที่เหมือนว่ามู่หงอวี่จะไม่ได้ถือสา
ฉู่หลิวเยว่ครุ่นคิดอยู่สักพัก จากนั้นก็กล่าวขึ้นมาว่า
“งั้นร่างซวีหยวนของเจ้าล่ะ…มันเกิดอันใดขึ้น?”
มู่หงอวี่ยักไหล่ ใบหน้าเต็มไปด้วยความไร้เดียงสา
“ข้าเองก็ไม่รู้ เหมือนว่าอยู่ดีๆ มันก็กลายเป็นแบบนั้น หลังจากคนของหออวี่เซี่ยงมาจับตัวข้าแล้ว ข้าก็บังเอิญได้ยินว่าพวกเขาจะขายข้า ในใจข้าก็รู้สึกหวาดกลัวอย่างมาก คิดแต่ว่าอยากจะหนีออกไป ผลสุดท้ายไม่รู้ว่าเหตุใด ข้าเลยไปปรากฏตัวอยู่ที่อื่น”
“หลังจากที่พวกเขาจับตัวข้าได้อีกครั้ง ข้าก็ใช้จังหวะในตอนที่เขาเผลอ ทดลองทำอีกครั้ง และมันก็สำเร็จ! จากนั้นข้าถึงได้รู้ว่าร่างกายของข้ามันมีอันใดบางอย่างผิดปกติไป”
ริมฝีปากของฉู่หลิวเยว่โค้งขึ้นเล็กน้อย
นี่มันเรียกว่าผิดปกติที่ไหนเล่า?
เห็นได้ชัดว่านี่คือโอกาสที่ยอดเยี่ยมที่สุด!
ร่างซวีหยวนหายสาบสูญไปจากโลกนี้ตั้งหนึ่งพันปีที่แล้ว มิน่าคนของหออวี่เซี่ยงต้องการหาตัวนางให้พบ และส่งตัวนางมาที่ซีหลิงโดยเฉพาะ
มู่หงอวี่ครุ่นคิดอยู่สักพัก แล้วพูดขึ้นมาว่า
“อ่า! จริงสิ ข้าลอยอยู่ในแม่น้ำตั้งสามวัน หลังจากขึ้นเรือมาแล้ว ก็เหมือนว่าปราณของข้าก็เริ่มแข็งแกร่งมากขึ้นเรื่อยๆ จนคนของอวี่เซี่ยงหาข้าเจอ ในที่สุดปราณของข้าก็หยุดอยู่ที่ระดับห้าขั้นสูง นี่อาจเป็นเพราะ…น้ำในแม่น้ำนั่นอย่างนั้นหรือ? แต่ว่าคนที่อยู่บนเรือ กลับไม่เห็นเป็นเหมือนข้าสักคน…”
ร่างกายของนางแปลกๆ ไป ขนาดนางเลื่อนระดับมาได้อย่างใด นางยังสับสนอยู่เลย
ฉู่หลิวเยว่หัวเราะขึ้นมา
ตอนนี้เรื่องที่มู่หงอวี่เปลี่ยนเป็นร่างซวีหยวนตั้งแต่เมื่อไหร่และอย่างใดนั้น ไม่สามารถหาคำตอบได้
แต่นั่นก็ไม่ใช่เรื่องสำคัญอันใด
ที่สำคัญก็คือ…นางเป็นร่างซวีหยวน!
นี่คือสิ่งที่ผู้คนมากมายต้องการจะมีมัน แต่ก็ไม่สามารถมีได้ แต่มู่หงอวี่กลับได้รับมาอย่างมึนงง!
ถ้าพูดออกไปก็ไม่รู้ว่าจะมีคนอิจฉามู่หงอวี่สักกี่คน!
“หงอวี่ ในเมื่อเรื่องนั้นมันผ่านไปแล้ว เจ้าก็ไม่ต้องไปคิดถึงมันอีกเลย ละตอนนี้เจ้ามาถึงที่เมืองซีหลิงแล้ว เช่นนั้นก็อยู่ที่นี่เถอะ ตอนนี้เจ้าเป็นร่างซวีหยวนแล้ว มีพรสวรรค์ที่น่าทึ่ง อนาคตเจ้าจะมีพลังไร้เทียมทาน ถ้ากลับเย่าเฉินไป มันอาจจะทำให้เจ้าฝึกฝนล่าช้า ขอเพียงเจ้าอยู่ที่นี่ เจ้าก็จะมีโอกาสได้เป็นผู้แข็งแกร่งระดับต้นๆ แล้ว!”