ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ - ตอนที่ 601 เปิดด้วยตนเอง
ตอนที่ 601 เปิดด้วยตนเอง [รีไรท์]
เสียงนั้นทั้งทุ้ม หนา และมีพลังอย่างมาก เหมือนว่ามันดังมาจากระยะไกล แต่ก็คล้ายเสียงฟ้าผ่าเข้าที่โสตประสาทของทุกคน!
เมื่อได้ยินเสียงนั้น สีหน้าของผู้อาวุโสถงชวนก็เปลี่ยนไปทันที
และคนในท้องพระโรงจำนวนไม่น้อยที่มีสีหน้าแข็งค้างขึ้นมา
จากนั้นก็มีร่างหนึ่งปรากฏขึ้นราวกับสายฟ้า เขากำลังก้าวผ่านความว่างเปล่า! พริบตาเดียวก็มาปรากฏตัวอยู่ที่ด้านหน้าของประตูแล้ว!
ชายชราผู้นั้นมีรูปร่างท้วมเล็กน้อย ใบหน้ากลม มีรอยยิ้มที่อ่อนโยนประดับอยู่ ดวงตาทั้งสองข้างก็โค้งขึ้นเป็นขีดเดียวเท่านั้น
เขาสาวเท้าขึ้นมาด้านหน้า ฝีเท้าไร้เสียง
อย่างใดก็ตามเมื่อเห็นว่าบุคคลนั้นกำลังเดินเข้ามา คนที่อยู่ท้องพระโรงก็รู้สึกกระสับกระส่ายอย่างมาก
หรงซิวหันกลับไปมอง ทันใดนั้นริมฝีปากของเขาก็ยกโค้งขึ้น
“ผู้อาวุโสหมิงที่สามสิบหก ท่านมาได้อย่างใดหรือ?”
“ได้ยินมาว่าในที่สุดฝ่าบาทก็ทำความสะอาดไอ้พวกเด็กเหลือขออย่างตำหนักหวู่ซวงแล้ว ข้าจึงรู้สึกดีใจเป็นอย่างมาก จึงมาที่นี่เพื่อเฉลิมฉลอง”
ผู้อาวุโสหมิงที่สามสิบหกพูดออกมาพร้อมหัวเราะอย่างยินดี โดยไม่ปิดบังความตื่นเต้นดีใจของตนเองเลยสักนิด
เขาไม่ชอบไอ้พวกตำหนักหวู่ซวงมาตั้งนานแล้ว!
หรงซิวเองก็อดทนมาอยู่ตั้งนาน ในที่สุดก็ลงมือแล้ว อีกทั้งยังฆ่าทั้งหมดด้วย!
เขาจึงมีความสุขอย่างมาก!
“ฝ่าบาท ได้ยินมาว่าครั้งนี้ท่านพากำลังคนไปไม่เยอะ อีกทั้งใช้เวลาเพียงวันเดียวก็สามารถจัดการตำหนักหวู่ซวงได้ทั้งหมดแล้ว เห็นได้ชัดว่าช่วงนี้ฝีมือของฝ่าบาทก้าวหน้าขึ้นอีกแล้วนะพ่ะย่ะค่ะ!”
ทุกคนก็เงียบมากขึ้น
เหตุใดจุดสนใจของผู้อาวุโสหมิงที่สามสิบหกถึงได้แตกต่างจากคนอื่นเล่า?
แต่ฝีมือของเขานั้นก็แข็งแกร่งมาก ถ้าเทียบในกลุ่มผู้อาวุโสแล้ว เขาก็นับว่าเป็นคนที่อาวุโสที่สุดคนหนึ่ง เมื่อคนทั่วไปต้องเผชิญหน้ากับเขา ก็ทำได้เพียงก้มหน้าเท่านั้น
ตอนที่พวกเขาเผชิญหน้ากับหรงซิว บางทีเขาก็สามารถเป็นตัวเองได้ แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าผู้อาวุโสหมิงที่สามสิบหก พวกเขากลับไม่มีความกล้านั้นเลย
แม้กระทั่งผู้อาวุโสถงชวน ก็พยายามหลีกเลี่ยงที่จะยั่วโมโหเขาด้วย
หรงซิวหัวเราะขึ้นมา
“ขอบคุณสำหรับคำชม เมื่อได้ฝึกฝนอยู่ด้านนอกช่วงเวลาหนึ่ง ข้าได้พัฒนาขึ้นบ้างเล็กน้อย”
ผู้อาวุโสหมิงที่สามสิบหกลูบคางเบาๆ แล้วหัวเราะขึ้นมา
อย่างนั้นน่ะหรือ!
แม้กระทั่งสะใภ้ก็หามาแล้ว ยังมีอันใดที่พูดได้อีกเล่า?
เขาเบนหน้าไปมองผู้อาวุโสถงชวน ใบหน้ายังคงประดับด้วยรอยยิ้ม แต่คำพูดไม่ได้สุภาพขนาดนั้นแล้ว
“ถงชวน ตอนนั้นบรรพบุรุษได้เก็บกวาดยี่สิบแปดกระทรวง คนนับหมื่นนับแสนยอมสวามิภักดิ์! เขาใช้เพียงความแข็งแกร่ง! แต่เหตุใดถึงตอนองค์ชาย เจ้ากลับไม่เห็นด้วยเช่นนี้ล่ะ? ตำหนักหวู่ซวงได้กระทำผิดครั้งแล้วครั้งเล่า ยิ่งไปกว่านั้นยังเป็นเรื่องลอบปลงพระชนม์ ควรจะประหารชีวิตทั้งหมดอยู่แล้ว! นี่ต่างหาก ถึงจะเรียกว่าควบคุมกำลังคนให้อยู่ใต้อาณัติ! สำหรับข้าแล้ว ที่ฝ่าบาททำเช่นนี้ ข้าไม่เห็นว่าจะมีความผิดตรงที่ใด แต่กลับเป็นเรื่องดีต่างหาก!”
ในเมื่อเป็นโอรสสวรรค์ ก็ควรจะต้องมีความน่าเกรงขามและวิธีการเยี่ยงโอรสสวรรค์!
ก่อนหน้านี้หรงซิวกังวลเรื่องมากมาย ถึงได้เลือกที่จะถอยออกมา แต่ตอนนี้มันมีข้อดีอันใดที่ต้องถอยให้?
ผู้อาวุโสถงชวนอ้าปาก คล้ายว่าต้องการจะพูดอันใดสักอย่าง แต่ผู้อาวุโสหมิงที่สามสิบหกก็พูดแทรกขึ้นมาอีกครั้ง
“เจ้าไม่พอใจกับการกระทำของฝ่าบาท หรือว่าเจ้าจะเปลี่ยนฝั่งแล้วพูดว่าวิธีการของบรรพบุรุษก็โหดเหี้ยมเช่นกัน?”
ผู้อาวุโสถงชวนลุกขึ้นยืนทันที
“ข้าไม่ได้หมายความว่าเช่นนั้น! ผู้อาวุโสหมิงที่สามสิบหก ท่านอย่ามาชี้นิ้วว่าคนอื่นซี้ซั้วเช่นนี้นะ!”
“ข้าเป็นคนชี้ แต่เจ้าร้อนตัวเช่นนี้ เราทุกคนต่างก็รู้กันดี แต่เหตุใดเจ้าต้องมาตะโกนโหวกเหวกด้วยเล่า?”
ผู้อาวุโสหมิงที่สามสิบหกคร้านจะพูด
ใบหน้าของผู้อาวุโสถงชวนมีสีแดงก่ำ
ของโบราณเก่า ไม่ยอมออกจากกรุก็ช่างเถิด แต่เมื่อออกมาแล้วก็โวยวายไม่จบไม่สิ้น! เอาแต่ใจตนเองอย่างยิ่ง!
ไม่ว่าอย่างใดก็ทำอันใดเขาไม่ได้หรอก!
ผู้อาวุโสหมิงที่สามสิบหกกวาดสายตามองไปรอบๆ
“ยี่สิบแปดกระทรวงจะต้องให้เกียรติโอรสสวรรค์ เมื่อโอรสสวรรค์จะทำความสะอาดกระทรวง ไหนเลยจะให้พวกเจ้ามาพูดจาพล่อยๆ ได้? แล้วก็พวกเจ้าทุกคนต่างมีฐานะ หน้าที่ พวกเจ้าไม่คิดจะแก้ไขปัญหาเหล่านี้ แต่กลับมาซักไซ้โอรสสวรรค์เช่นนี้น่ะหรือ…พวกเจ้าลืมกฎเกณฑ์ไปหมดแล้วอย่างนั้นหรือ!?”
เขาดูเหมือนว่าจะเป็นคนที่อ่อนโยน แต่พอพูดออกมาแล้ว ก็เหมือนตบหน้าทุกคน!
หรงซิวก็พูดขึ้นอย่างอ่อนโยน
“ผู้อาวุโสหมิงที่สามสิบหก ที่ผู้อาวุโสทุกท่านทำก็เพื่อข้าและกระทรวงทั้งยี่สิบแปด…ข้าคิดว่า เรื่องเช่นนี้จะไม่เกิดขึ้นอีกแล้ว ทุกท่านคิดว่าใช่หรือไม่?”
หลังจากเงียบไปอยู่ช่วงหนึ่ง ในที่สุดก็มีผู้อาวุโสคนหนึ่งลุกขึ้นมา จากนั้นก็โค้งคำนับหรงซิวและผู้อาวุโสหมิงที่สามสิบหก
“ฝ่าบาท ท่านไม่จำเป็นจะต้องแก้ต่างแทนพวกเรา ผู้อาวุโสหมิงที่สามสิบหกพูดได้ถูกต้อง เรื่องเช่นนี้เป็นเพราะพวกเราคิดไม่รอบคอบ ฝ่าบาทได้โปรดยกโทษให้พวกเราด้วยพ่ะย่ะค่ะ”
เมื่อมีคนเริ่ม คนที่เหลือก็ทำตามกันอย่างพร้อมเพรียง
หลังจากนั้นไม่นานคนนับครึ่งท้องพระโรงก็แสดงท่าทางเช่นนั้น จากนั้นก็ค่อยทยอยเดินจากไป
การต่อสู้ที่ดุเดือดก็ค่อยๆ แตกกระจัดกระจายออกไป
ใบหน้าของผู้อาวุโสถงชวนซีดขาวขึ้นทันที แต่กลับไม่กล้าพูดอันใดออกมา
คุณสมบัติของผู้อาวุโสหมิงที่สามสิบหกนั้นสูงกว่าเขาเสียอีก อีกทั้งไม่เคยเล่นตามกติกา ทำให้เขาต่อกรด้วยอย่างยากลำบาก
ถ้าไม่ใช่เพราะโดนบีบจนจนตรอก เขาก็ไม่มีทางลุกขึ้นมาสู้กับอีกฝ่ายอย่างแน่นอน
พริบตาเดียวสถานการณ์ก็กลับตาลปัตร ทำให้เขาเสียใจอย่างมาก
สุดท้ายเขาก็เห็นว่าเขาไม่สามารถดำเนินการต่อได้ เขาก็ลุกขึ้นยืน เตรียมเดินจากมา
แต่ในตอนที่กำลังจะออกจากท้องพระโรง เสียงของหรงซิวก็ดังขึ้นมาจากด้านหลัง พร้อมพูดอย่างเนิบนาบว่า
“ผู้อาวุโสถงชวน รบกวนอย่าลืมส่งบันทึกเหล่านั้นมาให้ข้าด้วยนะ แล้วก็ ในเมื่อข้ากลับมาแล้ว เช่นนั้นบันทึกของกระทรวงทั้งยี่สิบแปดก็ไม่ต้องรบกวนให้ท่านผู้อาวุโสถงชวนช่วยตรวจสอบแล้ว”
ผู้อาวุโสถงชวนยืนหันหลังให้กับหรงซิว ใบหน้าซีดขาวยิ่งขึ้นกว่าเดิม สุดท้ายเขาก็รีบตอบรับและเดินจากไปอย่างรวดเร็ว
ในที่สุดภายในท้องพระโรงก็เหลือเพียงหรงซิวและผู้อาวุโสหมิงที่สามสิบหก
“วันนี้ข้าผู้เฒ่ามาได้เวลาพอดิบพอดี!”
ผู้อาวุโสหมิงที่สามสิบหกหัวเราะขึ้น
“โชคดีที่พวกเด็กเหลือขอพวกนั้นโดนข้าสั่งสอน จึงให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี!”
หรงซิวหัวเราะ
“วันนี้ขอบคุณท่านมากที่ช่วยออกหน้าให้”
คำพูดบางคำ หากให้เขาพูดคงจะไม่เหมาะสม แต่หากเปลี่ยนเป็นผู้อาวุโสหมิงที่สามสิบหกเป็นคนพูด เรื่องมันก็จะง่ายมากขึ้นด้วย
อย่างน้อยตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ก็ไม่มีใครกล้าหยิบเรื่องที่เขาจะกระทำการอย่างโหดร้ายขึ้นมาพูดอีกแล้ว
ต่อให้คนของตำหนักหวู่ซวงตายเยอะ แต่ก็ไม่มีใครช่วยพวกเขาพูดเลย
ครั้งนี้ถือว่าเขาได้เปรียบแล้ว หลังจากนี้ไม่ว่าจะทำเรื่องอันใดมันก็จะสะดวกมากยิ่งขึ้น
ผู้อาวุโสหมิงที่สามสิบหกโบกมืออย่างไม่ใส่ใจ
“ข้าช่วยเหลือเจ้ามาตั้งนานแล้ว แค่เพิ่มเรื่องนี้เท่านั้นจะเป็นไรไป! หากเจ้าอยากขอบคุณข้าจริงๆ แล้วละก็ เจ้าก็รีบพาตัวพระชายากลับมาเร็วๆ สิ พามาให้ข้าดูหน่อย!”
หรงซิวเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย
เหมือนว่าผู้อาวุโสหมิงที่สามสิบหกจะยืนหยัดหนักแน่นในเรื่องนี้เสียจริง…
“นางมีเรื่องสำคัญที่ต้องทำ ในช่วงเวลานี้ จึงไม่สามารถมาหาได้”
ทันทีที่หรงซิวพูดจบ ก็เห็นว่าเยี่ยนชิงรีบวิ่งเข้ามาด้วยความรีบร้อน
“ฝ่าบาท!”
ก่อนหน้านี้เขารออยู่ที่ด้านนอกมาตลอด หลังจากเห็นว่าผู้อาวุโสทั้งหลายออกมาแล้ว เขาก็คิดว่าเรื่องคงจะจบแล้ว จึงรีบเข้ามาทันที
ในมือของเยี่ยนชิงมีจดหมายอยู่ฉบับหนึ่ง
“คุณหนูหลิวเยว่ส่งมาพ่ะย่ะค่ะ ได้โปรดเปิดมันด้วยตนเอง”