ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ - ตอนที่ 614 มีสหายมาหาเจ้า
ตอนที่ 614 มีสหายมาหาเจ้า [รีไรท์]
ฉินชีพูดขึ้นว่า
“คุณหนูฉู่เกรงใจกันเกินไปแล้ว”
ฉู่หลิวเยว่เก็บจดหมายฉบับนั้นขึ้นมา จากนั้นก็หมุนตัวเดินจากไป
หลังจากเดินออกมาได้สองก้าว ทันใดนั้นก็เหมือนว่านางนึกอันใดขึ้นมาได้ จึงหันกลับไปมองฉินชี
“จริงสิ หลังจากที่ข้าจัดของเสร็จเรียบร้อยแล้ว มีของบางอย่างที่อยากส่งกลับไป แต่ได้ยินมาว่ามีของบางอย่างที่ไม่สามารถส่งข้ามพรมแดนม่านฟ้าได้ ไม่ทราบว่าท่านสามารถกลับไปดูของชิ้นนั้นพร้อมกับข้าได้หรือไม่?”
ฉินชีหันไปมองชายคนที่พูดขึ้นเมื่อก่อนหน้านี้
ชายผู้นั้นโบกมือไปมาอย่างไม่ใส่ใจ
“ไม่ว่าอย่างใดงานในวันนี้ของเจ้าก็เสร็จเรียบร้อยแล้ว เช่นนั้นก็ไปกับคุณหนูฉู่เถอะ!”
และในตอนนี้ ฉู่หลิวเยว่ก็ถือว่าเป็นคนที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในซีหลิงแล้ว
อีกทั้งจากข่าวลือ นางเหมือนว่าจะไม่ใช่แค่เศรษฐีธรรมดาเท่านั้นด้วย!
มีใครบ้างที่ไม่อยากจะสร้างความสัมพันธ์กับนาง?
ไม่แน่ว่านางอาจจะมอบเงินรางวัลให้มากกว่าคนอื่นก็ได้!
ฉินชีกล่าวขอบคุณเขา แล้วเดินไปที่ด้านข้างของฉู่หลิวเยว่
“คุณหนูฉู่ เชิญ…”
…
ระหว่างทาง ทั้งสองคนไม่ได้พูดอันใดเลย
เมื่อเดินมาถึงเรือนพักของนาง ฉู่หลิวเยว่ก็ชวนให้อีกฝ่ายเข้าไปในห้องโถง
หลังจากมั่นใจว่ารอบข้างนั้นปลอดภัยแล้ว ฉู่หลิวเยว่ก็รีบหันมามองฉินชี และเดินเข้ามาหาเขาด้วยความรวดเร็ว พร้อมกดเสียงต่ำแล้วถามขึ้นว่า
“ชีหาน?”
ดวงตาของฉินชีสั่นไหวเล็กน้อย แล้วพูดขึ้นเบาๆ ว่า
“ฝ่าบาท”
เป็นเขาจริงๆ ด้วย!
ฉู่หลิวเยว่ตกใจอย่างมาก
“เหตุใดเจ้าถึงอยู่ที่นี่ได้ล่ะ?”
ครั้งก่อนที่นางได้เจอฉินชี นางจำได้อย่างแม่นยำว่าไม่ใช่คนผู้นี้
หลังจากที่สายตาทั้งสี่ประสานกันแล้ว นางก็มั่นใจว่าเขาไม่ใช่คนอื่น แต่ว่าชีหานควรจะอยู่ที่แคว้นเย่าเฉินไม่ใช่หรือ!
ชีหานกล่าวขึ้นว่า
“ท่านอยู่ที่ซีหลิงคนเดียว ข้าน้อยรู้สึกเป็นห่วงอย่างมาก หลังจากได้รับจดหมายของท่านแล้ว ข้าจึงสับเปลี่ยนตัวกับฉินชี แล้วมาที่นี่”
ฉู่หลิวเยว่ขมวดคิ้วขึ้นเล็กน้อย
“เจ้า…เจ้าทำเช่นนี้มันอันตรายเกินไป!”
ชีหานรีบพูดขึ้นมาว่า
“ฝ่าบาทได้โปรดวางใจ หลังจากที่ข้าน้อยได้เตรียมการอย่างรอบคอบแล้วถึงค่อยมาที่นี่ พวกเขาไม่มีทางจับได้อย่างแน่นอน”
เมื่อเห็นปฏิกิริยาของชายผู้นั้นที่ชื่นชมเขา ก็สามารถอธิบายทุกอย่างออกมาได้แล้ว
“ข้ารู้ว่าเจ้าชำนาญในเรื่องนี้มาก จะต้องไม่มีปัญหาอันใดอย่างแน่นอน แต่ข้ากำลังกังวลเรื่องอื่นอยู่ต่างหาก…” ฉู่หลิวเยว่พูดขึ้นพร้อมนวดขมับของตนเองไปด้วย “ก่อนหน้านี้เจ้าบอกเองไม่ใช่หรือ เจียงอวี่เฉิงสั่งการลงมาว่า จะต้องตามจับตัวของพวกเจ้าให้ได้ ไม่ว่าจะต้องใช้เงินเท่าไหร่ก็ตาม? ถ้าหากเขาพบพวกเจ้าเข้า…”
ปราณที่อยู่บนร่างของสิบสามผู้พิทักษ์เยว่นั้นพิเศษมาก หากเป็นคนที่ค่อนข้างคุ้นเคยกับพวกเขา เขาจะต้องจำพวกเขาได้อย่างง่ายดายแน่นอน
การที่ชีหานปรากฏตัวอยู่ในซีหลิงนั้น เท่ากับกำลังอาศัยอยู่ใต้เปลือกตาของเจียงอวี่เฉิงเลยทีเดียว ดังนั้นมันจึงอันตรายอย่างมาก!
“ฝ่าบาท ก่อนที่ข้าน้อยจะมาที่นี่ ข้าน้อยได้ปกปิดปราณของตนเองเรียบร้อยแล้ว หากข้าน้อยยืนต่อหน้าพวกเขาด้วยร่างกายและใบหน้านี้ พวกเขาก็ไม่มีทางมองออกอย่างแน่นอน”
ชีหานพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบเช่นเคย แต่ภายในน้ำเสียงนั้นมีความมั่นใจอยู่ไม่น้อยเลยทีเดียว
ฉู่หลิวเยว่ชะงักไป จากนั้นถึงได้รู้สึกว่าชีหานนั้นมีการเปลี่ยนแปลงไปจริงๆ ด้วย
การเปลี่ยนแปลงที่ละเอียดอ่อน…แม้กระทั่งปราณที่อยู่บนตัวก็แตกต่างไปจากเดิมไม่น้อยเลยทีเดียว
หากไม่ใช่เพราะนางรู้สึกคุ้นเคยกับแววตาของชีหาน ไม่แน่ว่านางก็อาจจะมองไม่ออกเลยด้วยซ้ำ
“เจ้า…ทำได้อย่างใด?”
ฉู่หลิวเยว่ใช้สายตาสำรวจเขาหนึ่งรอบ จากนั้นก็ถามขึ้นมาด้วยความตกใจ
ผู้บำเพ็ญเพียรแต่ละคนนั้นล้วนมีปราณที่แตกต่างกัน
เจียงอวี่เฉิงกล้าถ่ายทอดคำสั่งให้ตามจับกุมตัวพวกเขา อีกทั้งยังบีบบังคับให้พวกเขาออกจากพรมแดนม่านฟ้ามาก็เพราะเหตุนี้
ก่อนหน้านี้ฉู่หลิวเยว่ก็เป็นห่วงเรื่องนี้อย่างมาก จึงไม่ได้ให้ชีหานติดตามนางมาที่ซีหลิง
แต่คิดไม่ถึงว่า…ตอนนี้เขาได้เปลี่ยนไปเป็นอีกคนหนึ่งแล้ว
ชีหานพูดขึ้นว่า
“ความจริงแล้วในหนึ่งปีกว่าที่ผ่านมานี้ เสี่ยวปา (เจ้าแปด) กำลังแก้ไขปัญหานี้ และก่อนหน้านี้เขาได้ทำใบเทียบยาขึ้นมาใหม่ และมันอาจจะสำเร็จ ข้าน้อยจึงไปหาเขา แล้วให้เขาหลอมโอสถชนิดนั้นออกมา ผลสรุปแล้ว…มันก็สำเร็จจริงๆ!”
ในกลุ่มสิบสามผู้พิทักษ์เยว่ แต่ละคนนั้นมีความสามารถที่แตกต่างกันออกไป
เสี่ยวปาสามารถทำเรื่องเช่นนี้ออกมาได้ เมื่อคิดๆ ดูแล้ว มันก็ไม่ค่อยน่าแปลกใจเท่าไหร่
ฉู่หลิวเยว่เงียบไปครู่หนึ่ง จากนั้นก็ถามขึ้นมาว่า
“เจ้าแน่ใจนะว่าของสิ่งนี้จะสามารถใช้ได้ตลอดไป?”
ชีหานพยักหน้า จากนั้นก็กล่าวเสริมว่า
“เสี่ยวปาคิดว่าข้าแค่อยากจะลองเล่นๆ เท่านั้น เขาไม่รู้ว่าข้าหาท่านเจอ และมาที่ซีหลิงแล้ว”
หากเขารู้ เขาจะต้องรีบตามมาทันที
“เจ้าทำได้ไม่เลว แต่ตอนนี้ก็ไม่ใช่โอกาสที่ดีเท่าไหร่ที่จะบอกพวกเขาจริงๆ”
ฉู่หลิวเยว่ยกมือทั้งสองข้างขึ้นมากอดอก หลังจากที่ครุ่นคิดอยู่นาน นางก็พูดขึ้นว่า
“ในเมื่อเจ้ามาถึงที่นี่แล้ว ก็อยู่ที่นี่ต่อไปเถิด ด้วยฐานะของฉินชี เจ้าน่าจะสามารถจัดการเรื่องราวได้สะดวกมากยิ่งขึ้น”
ชีหานขานรับขึ้นอย่างสงบ
ในใจของฉู่หลิวเยว่ก็ผ่อนคลายลงเล็กน้อย จากนั้นก็นั่งลงพร้อมถามขึ้นมาอย่างเรื่อยเปื่อยว่า
“ตอนนี้สถานการณ์ที่แคว้นเย่าเฉินเป็นอย่างใดบ้าง?”
สีหน้าของชีหานเคร่งเครียดมากขึ้น แล้วพูดขึ้นว่า
“ทูลฝ่าบาท เรื่องทุกอย่างในเมืองหลวงนั้นเรียบร้อยดี แต่ทว่า…เมื่อครึ่งเดือนก่อนสำนักไท่เหยี่ยนถูกลอบโจมตี มีคนตายและบาดเจ็บเป็นจำนวนมาก และตอนนี้ศิษย์จำนวนไม่น้อยก็ได้ทยอยย้ายไปศึกษาที่สำนักอื่น”
ฉู่หลิวเยว่รู้สึกตกใจอย่างมาก และเงยหน้ามองชีหานทันที
“เหตุใดถึงเกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้นมาได้?”
สำนักไท่เหยี่ยนเป็นสำนักเรียนชั้นสูงที่อยู่ในแคว้นเย่าเฉิน ไม่มีใครกล้ามาล่วงเกินง่ายๆ อย่างแน่นอน แล้วเหตุใดถึงได้เกิดเรื่องราวเช่นนี้ชั่วข้ามคืนได้?
ชีหานส่ายหน้า
“แคว้นเย่าเฉินปิดเรื่องนี้ไว้เป็นความลับขั้นสุดยอด จึงแทบจะไม่สามารถสืบหาข่าวคราวอันใดได้เลย พวกเขาได้สืบค้นมือมืดที่บงการเรื่องนี้อยู่ตลอด แต่เรื่องนี้กลับไม่สามารถหาเบาะแสอันใดขึ้นมาได้เลย”
ทันใดนั้นฉู่หลิวเยว่ก็นึกอันใดบางอย่างขึ้นมาได้ แล้วถามว่า
“เช่นนั้นได้สืบหาเรื่องของหยางเจี้ยนชิงและเหิงจิ่งชั่วไปถึงไหนแล้วล่ะ?”
ชีหานส่ายหน้า
“เมื่อเกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้น ทุกคนล้วนตกอยู่ในอันตราย การสืบสวนครั้งนี้จึงต้องหยุดเอาไว้ชั่วคราว”
ฉู่หลิวเยว่เงียบไปเล็กน้อย
จริงๆ ด้วย…
มีคนต้องการขัดขวางการสืบค้นของเรื่องนี้
แต่เมื่อตัวนางอยู่ที่ซีหลิง จึงไม่มีทางรู้เรื่องราวได้มากกว่านี้เลย
หลังจากนั้นนางก็ถามขึ้นมาอีกเล็กน้อย แล้วสั่งให้ชีหานกลับออกไป
หากรั้งให้เขาอยู่นานกว่านี้ ทุกคนจะสามารถจับสังเกตได้
หลังจากที่ส่งชีหานกลับไปแล้ว ฉู่หลิวเยว่จึงกลับไปที่สำนักชงซูเก๋อ
ตอนที่เพิ่งเดินขึ้นไปถึงยอดเขา นางก็เห็นว่าเย่หรานหร่านกำลังวิ่งเข้ามาด้วยความรวดเร็ว พร้อมดวงตาที่เปล่งประกาย น้ำเสียงตื่นเต้นดีใจ
“หลิวเยว่! มีสหายมาหาเจ้าน่ะ!”
ฉู่หลิวเยว่ชะงักไป
สหาย?
เหมือนว่านางจะไม่มีสหายอยู่ที่ซีหลิงนะ ใครกันนะที่มาหานาง?
ฉู่หลิวเยว่ถามขึ้น “ใครหรือ? เจี่ยนเฟิงฉือหรือ?”
เย่หรานหร่านส่ายหน้าอย่างแรง
“ไม่ใช่ๆ เป็นคนที่พวกเราไม่เคยเห็นหน้ามาก่อน! แต่ว่าเขามาที่นี่ได้สักพักแล้ว พวกเขากำลังรอเจ้าอยู่!”
ฉู่หลิวเยว่เดินขึ้นไปด้านหน้าด้วยความสงสัย