ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ - ตอนที่ 641 ยาจื่อหยาง
ตอนที่ 641 ยาจื่อหยาง
เจี่ยนชูเย่ทำได้เพียงอวดครวญอย่างเสียดายอยู่ตรงนี้
แต่ฉู่หลิวเยว่ที่อยู่ทางนั้นกลับไม่ได้รับอันใดเลย และกำลังจดจ่ออยู่กับการปรุงยาในหม้อต้มโอสถตรงหน้านาง
ปัจจุบันนางเป็นเซียนหมอระดับสี่ ส่วนหนิงจื้อชิงอยู่ระดับห้า
หากนางต้องการชนะการประลองครั้งนี้ นางจำต้องต้องกลั่นยาอายุวัฒนะระดับห้าออกมาเช่นกัน
โชคดีที่ตอนเดินขึ้นมาบนเวที นางได้ตัดสินใจอย่างแยบยลแล้ว
ยิ่งไปกว่านั้น ในแหวนเฉียนคุนของนางก็มีวัตถุดิบยาเพียงพอ
เห้อ คิดแล้วก็ต้องขอบคุณหรงซิวจริงๆ
ถ้าเขาไม่ส่งแหวนเฉียนคุนวงนี้มาให้ นางคงต้องฝืนใจออกไปซื้อสมุนไพรจำนวนมากแน่ๆ…
…
นางใส่วัตถุดิบทีละชิ้นอย่างเป็นระบบ และแบ่งเปลวไฟในหม้อต้มโอสถออกเป็นหลายส่วน ซึ่งแต่ละส่วนจะใช้ความร้อนในการต้มที่ต่างกัน
ขณะเดียวกัน หนิงจื้อชิงเองก็ประมวลคุณภาพของวัตถุดิบ พลางเหลือบมองฉู่หลิวเยว่เป็นระยะ
และเมื่อเขาเห็นว่าหม้อต้มโอสถของนาง ถูกแบ่งออกเป็นห้าส่วน เขาก็ตกใจเล็กน้อย
คนทั่วไปจะทำเช่นนี้ได้ก็ต่อเมื่อขยับขึ้นไปถึงเซียนหมอระดับห้าแล้ว… แต่ฉู่หลิวเยว่กลับใช้มันได้อย่างสะดวก ราวกับไม่ต้องใช้ความพยายามเลย
ร่องรอยความสงสัยฉายวาบขึ้นในใจของหนิงจื้อชิง นี่นางเป็นแค่เซียนหมอระดับสี่จริงๆ หรือ?
…
“เจ้าสำนักเก๋อ ท่านรู้หรือไม่ว่าศิษย์น้องหญิงคิดจะปรุงยาอายุวัฒนะชนิดใด?”
ลู่จือเหยาเฝ้าดูอยู่ครู่หนึ่ง และเห็นเพียงฉู่หลิวเยว่ที่กำลังโยนสมุนไพรลงในหม้อต้มโอสถอย่างต่อเนื่อง แต่เขาดูไม่ออกว่านางกำลังจะทำอันใด
อวี้ฉือซงลูบเคราของเขาและพึมพำ
“นางมุ่งมั่นที่จะเอาชนะให้ได้…”
ลู่จือเหยาถึงกับงงงวยในคำตอบนั่น
จากนั้นอวี้ฉือซงก็หันมามองเย่หรานหร่านที่อยู่ข้างกัน
“หรานหร่าน เจ้ามองออกหรือเปล่า?”
เย่หรานหร่านคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดว่า
“ดูแล้วเหมือนว่านาง…กำลังจะปรุงยาจื่อหยางระดับห้าขั้นต้นกระมั้ง?”
อวี้ฉือซงพยักหน้าเข้าใจ
“เจ้าเดาถูกแล้ว”
พรสวรรค์ของเซียนหมอในตัวเย่หรานหร่านนั้นดีกว่าใครหลายคน ดังนั้นนางจึงสามารถเดาคำตอบได้อย่างแม่นยำ
ลู่จือเหยาตกตะลึง
“ยาอายุวัฒนะระดับห้าหรือ? ศิษย์น้องหญิงเป็นเซียนหมอระดับสี่มิใช่หรือ?”
“ถ้านางกลั่นแค่ยาเม็ดระดับสี่ โดยทั่วไปแล้ว นางจะไม่มีโอกาสชนะ ดังนั้นนางจึงลองเสี่ยงใช้ยาเม็ดระดับห้า…”
อวี้ฉือซงแอบถอนหายใจ
นั่นเป็นเหตุผลที่ว่า เหตุใดเมื่อครู่เขาถึงตอบลู่จือเหยาแบบนั้น
“แล้ว…ศิษย์น้องหญิงจะทำสำเร็จหรือไม่?”
แม้ว่าศิษย์น้องหญิงจะเก่งกาจในทุกด้าน แต่การฝึกปรุงยาของเซียนหมอนั้น แตกต่างจากการฝึกฝนอีกสองประเภท
ในการประลองปรมาจารย์ บางทีเราอาจพึ่งพาโชคลาภได้
และในการประลองของจอมยุทธ เราก็สามารถดับเครื่องชนได้ตรงๆ โดยไม่คาดหวัง
แต่สำหรับเซียนหมอนั้น…จำต้องพึ่งพลังปราณของตัวเองล้วนๆ!
เนื่องจากขั้นตอนในการปรุงยานั้นซับซ้อนมาก ยิ่งระดับของเม็ดยาสูงเท่าไหร่ ก็จะยิ่งยากในการปรับแต่ง
ซึ่งไม่เพียงแต่ต้องจัดการกับวัตถุดิบยาจำนวนมาก แต่ยังต้องใส่ใจกับรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ มากมายอีกด้วย และถ้าไม่ระมัดระวัง ทุกสิ่งอย่างที่อดทนรอมานานก็จะหายไปในทันที
และระหว่างปรุงยา จะต้องไม่มีการวอกแวกใดๆ ทั้งสิ้น
เพราะไม่ว่าจะเป็นวิธีการปรุงยาหรือการควบคุมเปลวไฟ ล้วนแล้วแต่มีข้อกำหนดที่แม่นยำ
ตอนนี้ฉู่หลิวเยว่กำลังบังคับตัวเองให้ปรุงยาอายุวัฒนะระดับห้าออกมา… แต่มันจะสำเร็จจริงๆ หรือเปล่า?
เย่หรานหร่านเอ่ยขึ้นอย่างใจจดใจจ่อ
“ศิษย์พี่ลู่ ข้าคิดว่าหลิวเยว่ทำได้ ข้าสังเกตท่าทางของนางแล้ว ดูเหมือนว่านางจะชำนาญกว่าข้ามากเลยทีเดียว…”
ความจริงแล้วอวี้ฉือซงเองก็คิดเช่นนั้น
เขามองไปที่ฉู่หลิวเยว่ การเคลื่อนไหวของนางนั้นดูราวกับว่ามีความชำนาญ และประสบการณ์ในการปรุงยามาหลายปีแล้ว
มันไม่ใช่สิ่งที่จะพูดได้ว่าเป็นพรสวรรค์เสียทีเดียว
หรือว่า…ท่านอาจารย์ที่นางเคยติดตามก่อนหน้านี้ อาจจะไม่ใช่คนธรรมดา?
…
เวลาผ่านไปอย่างเชื่องช้า กระทั่งถึงเวลาที่พระอาทิตย์เตรียมลับขอบฟ้า
พระอาทิตย์ตกสีแดงอมส้มเปรียบเสมือนลูกไฟลุกโชน ที่ปกคลุมเมฆบนท้องฟ้าด้วยชั้นสีโทนร้อน
และตอนนี้ สมุนไพรนับร้อยชนิดของฉู่หลิวเยว่ ก็ผสมผสานกันอย่างลงตัวแล้ว!
ต่อไปก็เหลือเพียงการกลั่นยา!
ฉู่หลิวเยว่กลั้นหายใจและตั้งสมาธิ พลางเลียริมฝีปากที่ซีดที่แตกแห้งของตัวเอง
หากว่าตามความแข็งแกร่งในปัจจุบันของนางล่ะก็ มันไม่ง่ายเลยที่จะกลั่นยาอายุวัฒนะระดับห้า
ฉะนั้นนางจึงต้องระมัดระวังอย่างมาก!
อีกทั้งพลังที่เหลือในตอนนี้ สามารถใช้กลั่นได้เพียงครั้งเดียวเท่านั้น ซึ่งถ้าพลาดก็จะถือว่าหมดโอกาสทันที
นางผสมสมุนไพรในหม้อต้มโอสถอย่างระมัดระวังทีละนิด
ทางฝั่งตรงข้าม หนิงจื้อชิงเองก็สังเกตเห็นการเคลื่อนไหวของฉู่หลิวเยว่ และอดไม่ได้ที่จะเงยหน้าขึ้นมอง
พอเขาเห็นว่าเปลวไฟในหม้อต้มโอสถของฉู่หลิวเยว่รวมตัวกันอีกครั้ง ก็พลันขมวดคิ้วมั่นทันที
ฉู่หลิวเยว่เริ่มกลั่นยาก่อนเขาเสียอีก!
จากนั้นเขาก็หันมามองหม้อต้มโอสถของตัวเอง
ข้างในนั้นยังมีสมุนไพรสองสามชนิดที่ยังไม่ทันได้ผสมกันดี
ราวกับถูกตบหน้าฉาดใหญ่!
เขาพยายามข่มอารมณ์ในใจไว้อย่างสุดความสามารถ และปลอบตัวเองในใจว่า
บางทีฉู่หลิวเยว่อาจจะรีบ จนมองข้ามอันใดไปหลายอย่างก็ได้?
และข้อห้ามที่สำคัญที่สุดของการปรุงยาก็คือ ห้ามวู่วามรีบร้อนเด็ดขาด!
ถึงเขาจะช้ากว่านางก็ไม่สำคัญ ขอเพียงสุดท้ายแล้วเขาเป็นผู้ชนะก็พอ!
เมื่อคิดเช่นนี้ เขาก็ค่อยๆ ใจเย็นลง และประมวลผลวัตถุดิบที่เหลืออย่างรวดเร็ว
หลังจากนั้นค่อยเริ่มกลั่นยาอายุวัฒนะ!
…
ฉู่หลิวเยว่ผสมสมุนไพรอย่างระมัดระวัง
แม้ว่าเมื่อก่อนนางจะเคยกลั่นยาจื่อหยางมาหลายครั้งแล้ว และจดจำกระบวนการทั้งหมดได้ แต่นางก็ไม่เคยมั่นใจแบบเต็มร้อยเลยสักครั้ง
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในตอนที่ระดับความแข็งแกร่งของนางยังไม่เพียงพอเช่นนี้ นางจึงต้องให้ความสนใจกับมันเป็นพิเศษ
นางจ้องมองสิ่งที่อยู่ในหม้ออย่างตั้งใจ และเติมน้ำสมุนไพรสีเขียวลงไป
หวีด…
จู่ๆ ก็มีเสียงหวีดแหลมดังขึ้น!
น้ำสีเขียวเริ่มปล่อยควันสีขาวออกมา!
ท่าไม่ดีแล้ว!
สมุนไพรนี้กำลังจะถูกทำลาย!
และที่สำคัญกว่านั้นคือ นี่เป็นขั้นตอนที่สำคัญสำหรับการกลั่นยา!
คราวนี้ เกรงว่าแม้แต่วัตถุดิบปรุงยาที่อยู่ข้างๆ เองก็จะถูกทำลายไปด้วย!
ฉู่หลิวเยว่ปล่อยเปลวเพลิงสีแดงออกไปทันที และพยายามแยกน้ำสีเขียวออกมา
แต่ผลก็คือ ทันทีที่สัมผัสมัน น้ำสมุนไพรก็ยิ่งไหม้มากขึ้นไปอีก!
กลิ่นไหม้โชยมา!
ฉู่หลิวเยว่ใจเสียขึ้นมาทันควัน!