CatNovel
  • หน้าหลัก
  • นิยายทั้งหมด
Advanced
  • หน้าหลัก
  • นิยายทั้งหมด
  • โดจิน
  • นิยายทั้งหมด
  • จบแล้ว
  • นิยายวาย Yaoi
ตอนก่อน
ตอนต่อไป
สล็อตเว็บตรง

ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ - ตอนที่ 684 ออกเดินทาง

  1. Home
  2. ยอดหญิงลิขิตสวรรค์
  3. ตอนที่ 684 ออกเดินทาง
ตอนก่อน
ตอนต่อไป

ตอนที่ 684 ออกเดินทาง

หลังจากครุ่นคิดนาน ฉู่หลิวเยว่ก็ยังไม่สามารถหาคำตอบได้ สุดท้ายจึงต้องหยุดคิดเรื่องนี้เอาไว้ก่อนชั่วคราว

จากนั้นก็เก็บใบโพธิ์สีทองม่วงอย่างระมัดระวังแล้ว นางก็เข้าสู่การบำเพ็ญเพียรอีกครั้ง

เวลาสองวันผ่านไปอย่างรวดเร็ว

เช้ารุ่งขึ้นวันที่สาม ฉู่หลิวเยว่เพิ่งโคจรพลังเสร็จ ก็ได้ยินเสียงเย่หรานหร่านดังขึ้นจากด้านนอก

“หลิวเยว่ ได้เวลาออกเดินทางแล้ว!”

ฉู่หลิวเยว่ลืมตาขึ้น แววตากระจ่างใส เหมือนมีประกายแสงพาดผ่านดวงตาของนาง

หลังจากที่นางทะลวงอวัยวะทั้งห้าได้แล้ว ความเร็วในการบำเพ็ญเพียรของนางก็เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว แม้กระทั่งพลังดั้งเดิมที่อยู่ในร่างกายก็ยังบริสุทธิ์กว่าเดิมมาก

นางกำหมัดกรอด เพื่อขยับกล้ามเนื้อและกระดูก จากนั้นนางก็ยังได้ยินเสียงกระดูกลั่นเบาๆ

ความรู้สึกพลังเต็มเปี่ยมที่หายไปนาน ทำให้ตอนนี้ฉู่หลิวเยว่รู้สึกสดชื่นอย่างมาก

นางเดินออกไปเปิดประตู

เย่หรานหร่านกับเชียงหว่านโจวกำลังรอนางอยู่แล้ว

“ไปกันเถิด!”

…

หลังจากพวกเขาลงจากเขามาแล้ว ก็รีบเดินทางไปที่จัตุรัสผิงเหลียง

พวกเขาต้องเริ่มเดินทางจากที่นั่นเพื่อไปแดนภังคะ

ซีหลิงเป็นเมืองที่คึกคักอยู่เสมอ แต่วันนี้บรรยากาศกลับดูเคร่งเครียดมากขึ้น บนถนนหนทางมีผู้คนเดินน้อยลง

จนกระทั่งพวกเขาไปถึงที่จัตุรัสผิงเหลียง ถึงได้รู้ว่าที่นี่มีคนน้อยกว่าอีก

เพราะว่าทหารม้าทมิฬได้ประกาศกฎอัยการศึกไว้ก่อนแล้ว

ดังนั้นค่ายกลเคลื่อนย้ายจำนวนมากจึงถูกปิดการใช้งานชั่วคราว มีเพียงค่ายกลตรงกลางเท่านั้นที่เปิดใช้งานอยู่

ด้านข้างค่ายกลเคลื่อนย้ายคือทหารม้าทมิฬจำนวนหนึ่งพันนายที่พร้อมออกเดินทาง

ด้านหน้าของกองทัพทหารม้าทมิฬ มีชายคนหนึ่งสวมชุดเกราะสีดำ แผ่นหลังเหยียดตรง ปราณกระหายเลือดแผ่กระจายออกจากมาทั่วทั้งร่างกายของเขา!

คนผู้นั้นคือมู่ชิงเห่อ!

แม้ว่าเขาจะเป็นนายพล แต่ส่วนใหญ่ที่เขาอยู่ในเมืองซีหลิง ดังนั้นแล้วเขามักจะสวมชุดลำลอง

แต่ตอนนี้เขาสวมชุดเกราะสีทะมึน รัศมีโหดเหี้ยมที่เคยอยู่ในสมรภูมิรบพร้อมฆ่าคนตายเรือนแสนคนก็ปะทุขึ้นมาอีกครั้ง!

จึงทำให้คนที่มองรู้สึกหวาดกลัวอย่างมาก!

เย่หรานหร่านพูดด้วยเสียงเบาว่า

“วันนี้รองแม่ทัพมู่ดูไม่ค่อยเหมือนเดิมเลยนะ…สมแล้วที่เป็นรองแม่ทัพทหารม้าทมิฬ!”

ภายในระยะเวลาสั้นๆ ประมาณสิบปี เขาสามารถไต่เต้าจนขึ้นมาสู่ตำแหน่งนี้ได้นั้น นับว่ามีฝีมือจริงๆ

ฉู่หลิวเยว่หันไปมองทางนั้น จากนั้นก็เบนสายตากลับมา สายตาของนางดูสงบราบเรียบอย่างมาก

ตอนนี้มู่ชิงเห่อเป็นอย่างใดล้วนไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับนางทั้งนั้น

เย่หรานหร่านเหลือบสายตามองหน้านางเล็กน้อย แต่เมื่อเห็นท่าทีที่สงบนิ่งของนางจึงรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย

“หลิวเยว่ เจ้ากับรองแม่ทัพมู่มีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันไม่ใช่หรือ? พวกเราควรเข้าไปทักทายเขาหรือไม่?”

ฉู่หลิวเยว่ส่งยิ้มเล็กน้อย

“อีกเดี๋ยวองค์หญิงสามก็จะมาแล้ว ในเวลาเช่นนี้คงไม่ค่อยเหมาะสมละมั้ง?”

เย่หรานหร่านเห็นด้วย

แล้วด้านหลังของเขายังมีทหารกว่าอีกพันนาย!

“เช่นนั้นพวกเราไปรอที่ด้านข้างดีหรือไม่? ข้าเห็นว่าสำนักอื่นก็มาถึงกันแล้ว!”

ฉู่หลิวเยว่พยักหน้า

ทั้งสามคนจึงเดินไปด้านข้าง

มู่ชิงเห่อลืมตาขึ้นมาเล็กน้อย บังเอิญเห็นว่าฉู่หลิวเยว่และพวกไม่กี่คนกำลังเดินเข้ามาพอดี

คนรอบข้างจำนวนไม่น้อยล้วนมองไปที่นาง

สงสัย เลื่อมใส ชื่นชม ริษยา อิจฉา…

ทุกสายตาจับจ้องอยู่ที่ตัวของนาง

เมื่อเทียบกับครั้งสุดท้ายที่ได้เจอกัน เหมือนว่าฉู่หลิวเยว่จะมีการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย

เหมือนว่า…จะน่าดึงดูดมากกว่าครั้งที่แล้ว

เป็นความรู้สึกที่ยากจะอธิบาย

สรุปง่ายๆ ว่า นางเหมือนหินหยาบๆ ที่ค่อยๆ ผ่านการเจียระไน และค่อยๆ ส่องประกายแสงจากตนเอง

หรือบางทีนางอาจจะเป็นไข่มุกที่เปื้อนฝุ่นเม็ดหนึ่ง ในที่สุดตอนนี้ก็สามารถขจัดฝุ่นเหล่านั้นออกได้แล้ว พร้อมเปล่งประกายความงดงามออกมา

ช่างต่างจากหญิงสาวท่าทางขัดเขินและรอบคอบที่เขาพบที่เมืองเย่าเฉินเมื่อหลายเดือนก่อนมาก มันแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง

ในช่วงเวลาสั้นๆ แค่นี้ แต่ฉู่หลิวเยว่กลับกลายเป็นคนที่มีชื่อเสียงที่สุดของเมืองซีหลิงไปแล้ว

แม้ว่าเขาจะเป็นคนหานางมา แต่ความจริงแล้วเรื่องราวหลังจากที่นางมาซีหลิงนั้นล้วนไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเขาเลย

โดยเฉพาะหลังจากที่นางย้ายออกจากจวนตระกูลมู่ ทั้งสองฝ่ายก็ไม่ค่อยได้ติดต่อกันเลย

เมื่อมาเจอกันอีกครั้งในที่นี่ เขากลับมีความรู้สึกทอดถอนหายใจอย่างไม่สามารถอธิบายได้

แต่เขาเพียงแค่เหลือบสายตามอง จากนั้นก็รีบถอนสายตากลับมาอย่างรวดเร็ว

…

มีหลายสำนักมาถึงก่อนหน้าพวกเขาแล้ว

ฉู่หลิวเยว่เหลือบสายตาไปมอง ก็เห็นว่ามีคนคุ้นหน้าคุ้นตาอยู่หลายคน

เมื่อเห็นพวกเขาทั้งสามคน เสียงทักทายที่เคยพูดคุยกันเมื่อครู่นี้ก็เงียบลงทันที

พวกเขารู้เรื่องที่สำนักชงซูเก๋อจะส่งคนมาแค่สามคนตั้งนานแล้ว

ดังนั้นสำนักอื่นๆ จึงมีรายชื่อพิเศษเพิ่มขึ้นมาอีกสำนักละคน

และพวกเขากำลังคาดเดาว่าสำนักชงซูเก๋อจะส่งใครออกมาบ้าง

แต่เมื่อเห็นพวกเขาทั้งสามคน พวกเขาจึงรู้สึกตกใจอยู่ไม่น้อยเลย

ทั้งสามคนนี้…ล้วนเป็นเมล็ดพันธุ์ที่ดีที่สุดของสำนักชงซูเก๋อในตอนนี้!

ไม่ต้องพูดถึงฉู่หลิวเยว่และเชียงหว่านโจว แต่ในงานประชุมสำนักเย่หรานหร่านก็ได้แสดงพรสวรรค์เหนือธรรมดาออกมาด้วย

ไม่ว่าอย่างใดแดนภังคะก็ถือเป็นสถานที่ที่อันตราย คาดไม่ถึงว่าสำนักชงซูเก๋อจะปล่อยศิษย์ดีเด่นทั้งสามคนออกมาในคราวเดียวเช่นนี้?

พวกเขาเองไม่กลัวว่าจะเป็นอันใดไปเลยหรือ?

มีสายตาหลากหลายความหมายจ้องมองมายังพวกเขา ฉู่หลิวเยว่ทำเป็นไม่สนใจ เชียงหว่านโจวนั้นไม่ใส่ใจแม้แต่น้อย

ส่วนเย่หรานหร่าน…ไม่ว่าอย่างใดนางก็ต้องติดตามฉู่หลิวเยว่และเชียงหว่านโจวอยู่แล้ว มีอันใดให้น่ากลัวกัน?

ดังนั้นพวกเขาทั้งสามจึงหาที่ยืนด้านข้างอย่างสงบ

หลังจากนั้นก็มีคนเข้ามาทักทายพวกเขาเล็กน้อย ฉู่หลิวเยว่และคนอื่นๆ จึงตอบกลับอย่างเหมาะสม

“ดูเหมือนว่าครั้งนี้สำนักชงซูเก๋อจะเชื่อมั่นในตัวของพวกเจ้าจริงๆ เลยนะ คาดไม่ถึงว่าจะให้พวกเจ้ามาพร้อมกัน?”

เสียงที่ค่อนข้างแหลมดังขึ้น

ฉู่หลิวเยว่เงยหน้าขึ้นมองอย่างเกียจคร้าน

หนิงเจียวเจียว

ฉู่หลิวเยว่ยิ้มขึ้น จากนั้นก็พูดอย่างช้าๆ

“หรือว่าคุณหนูใหญ่จะเป็นห่วงว่าพวกข้าจะได้รับอันตราย? มีคนมากมายขนาดนี้ ข้าว่าคงไม่เกิดเรื่องอันใดขึ้นหรอก เจ้าคิดเช่นนั้นหรือไม่?”

หนิงเจียวเจียวแค่นหัวเราะเบาๆ

“ไม่กลัวหนึ่งหมื่น กลัวหนึ่งในหมื่น! ข้าเองก็พูดไปเรื่อย ไม่ได้มีความหมายอื่น!”

เมื่อเทียบกับก่อนหน้านี้ ท่าทางที่นางปฏิบัติต่อฉู่หลิวเยว่ก็เปลี่ยนไปไม่น้อยเลยทีเดียว

ท้ายที่สุดแล้วโลกนี้ผู้ที่แข็งแกร่งเป็นใหญ่

ก่อนหน้านี้ฉู่หลิวเยว่เป็นที่หนึ่งในงานหมื่นทูร ส่วนในงานประชุมสำนักนางก็ชนะรวด

ตอนนั้นหนิงเจียวเจียวก็ยังอยู่ในงานแข่งขันด้วย

ต่อให้ในใจของนางเต็มไปด้วยความไม่ยินยอม แต่ก็ต้องยอมรับว่านางไม่สามารถดูเบาความสามารถของฉู่หลิวเยว่ได้เลย

ก่อนออกเดินทางครั้งนี้ ท่านพ่อของนาง หนิงปิงไห่ ได้กำชับกับนางว่า ห้ามก่อเรื่องเด็ดขาด

ก่อนหน้านี้หนิงเจียวเจียวเคยเสียเปรียบมาก่อน ตอนนี้นางจึงไม่กล้าทะนงตนมากเกินไป

และแน่นอน ไม่มีใครรู้ว่านางกำลังคิดอันใดอยู่ในใจ

ฉู่หลิวเยว่รู้ว่านางถอนตัวออกยากจึงไม่ได้ใส่ใจอันใดมาก มุมปากกระตุกขึ้นแต่ก็ไม่ได้พูดอันใด

หนิงเจียวเจียวจึงลอบถอนหายใจออกมา

ทันใดนั้นแววตาของนางก็มีความสงสัย แล้วถามขึ้นอย่างยากจะควบคุม

“เจ้าเลื่อนขั้นเป็นจอมยุทธระดับห้าแล้วหรือ?”

ฉู่หลิวเยว่เหลือบสายตามองนางเล็กน้อย

เรื่องนี้มันก็เห็นๆ กันอยู่แล้วไม่ใช่หรือ?

หนิงเจียวเจียวก็รู้สึกตัวแล้วว่าตนเองเสียกริยาแล้ว นางกัดริมฝีปากแล้วเบนสายตาออกมา

แต่ในใจของนางกลับรู้สึกตกใจอย่างมาก

ฉู่หลิวเยว่เพิ่งมาถึงที่ซีหลิงได้ไม่นาน คาดไม่ถึงว่าจะเลื่อนขั้นจากจอมยุทธระดับสามเป็นระดับห้าแล้ว?

เช่นนั้นฝีมือของนางก็จะแข็งแกร่งขึ้นใช่หรือไม่?

ไม่เพียงแต่หนิงเจียวเจียวที่ตกใจ ทุกคนที่ยืนอยู่ด้านข้างล้วนตกใจกันทั้งนั้น

“จอมยุทธระดับห้า มีอันใดให้น่าภูมิใจกัน?”

น้ำเสียงเย็นชาแฝงด้วยความประชดประชันดังขึ้นจากด้านหลังของเขา

ตอนก่อน
ตอนต่อไป

ความคิดเห็นทั้งหมดของ "ตอนที่ 684 ออกเดินทาง"

ใส่ความเห็น ยกเลิกการตอบ

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

*

*

  • อ่านนิยาย
  • แทงหวย24

© 2020 cat-novel.com
เว็บอ่านนิยาย นิยาย pdf เว็บ “cat-novel.com” เว็บอ่านนิยายสนุกๆ เพลิดเพลินไปกับนิยายต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น นิยายวาย, นิยายจีน, นิยายรัก, แฟนตาซี, กำลังภายใน, ผจญภัย สุดยอดวิชากำลังภายใน อัพเดททุกวัน พร้อมรองรับการอ่านบนมือถือ คอมพิวเตอร์ ไอแพด หรือแท็บเล็ต อ่านได้ตลอดเวลา ไม่มีโฆษณา อ่านนิยายฟรีต้อง เว็บ ”cat-novel.com”
นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์