CatNovel
  • หน้าหลัก
  • นิยายทั้งหมด
Advanced
  • หน้าหลัก
  • นิยายทั้งหมด
  • โดจิน
  • นิยายทั้งหมด
  • จบแล้ว
  • นิยายวาย Yaoi
ตอนก่อน
ตอนต่อไป
สล็อตเว็บตรง

ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ - ตอนที่ 688 ป่าหมอกมายา

  1. Home
  2. ยอดหญิงลิขิตสวรรค์
  3. ตอนที่ 688 ป่าหมอกมายา
ตอนก่อน
ตอนต่อไป

ตอนที่ 688 ป่าหมอกมายา

เมื่อก่อนมันเคยเป็นช่องทางที่มีไว้สำหรับเดินทางเข้าออกแดนภังคะ

แต่นั่นเป็นสิ่งที่หลงเหลือมาจากสมัยขององค์ไท่จู่

ซึ่งหลังจากมันอยู่ท้าสายลมและแสงแดดเป็นเวลาหลายพันปี บวกกับการก่อวินาศกรรมโดยตั้งใจ หรือไม่ตั้งใจของผู้คนจำนวนมากหลายต่อหลายครั้ง สุดท้ายค่ายกลเคลื่อนย้ายนี้ก็ถูกปิดตาย

กระทั่งปัจจุบัน มันก็ได้ถูกจัดตั้งขึ้นเป็นพิเศษเพื่ออำนวยความสะดวกในการเข้าออกแดนภังคะ สำหรับกองทัพทหารม้าทมิฬจำนวนมาก

แต่ก็มีเพียงไม่กี่คนที่รู้เรื่องนี้

…

ซั่งกวนหว่านมองค่ายกลเคลื่อนย้ายตรงหน้าด้วยแววตาเป็นประกาย

“ดูๆ แล้วเหมือนค่ายกลนี่จะเพิ่งถูกสร้างขึ้นได้ไม่นานเลยนะ? หรือว่ารองแม่ทัพมู่เป็นคนสร้างมันขึ้นมาอย่างนั้นหรือ?”

สีหน้าของมู่ชิงเห่อชะงักไปพักหนึ่ง

ทว่าไม่นานก็กลับมาเป็นปกติ

“นี่คือสิ่งที่องค์หญิงใหญ่สร้างขึ้น”

เสียงทุ้มเอ่ยอย่างใจเย็น

รอยยิ้มบนหน้าของซั่งกวนหว่านพลันหายไปทันตา

“…เป็นสิ่งที่พี่สาวคนโตทิ้งไว้เองหรือ…ข้าไม่รู้มาก่อนเลย”

ดวงตาของเจียงอวี่เฉิงกระตุกเล็กน้อย พลางมองไปยังค่ายกลเคลื่อนย้ายนั่นอีกครั้ง

เดิมทีฉู่หลิวเยว่นึกว่ามู่ชิงเห่อจะอธิบายเพิ่มอีกสองสามคำ เช่น ค่ายกลเคลื่อนย้ายนี่ถูกสร้างขึ้นเมื่อใด

แต่มู่ชิงเห่อกลับเงียบไม่ได้ขยายความต่อ

เขาทำเพียงเอ่ยว่า

“ค่ายกลเคลื่อนย้ายนี้มีขนาดใหญ่และได้รับการดูแลอย่างดี พวกเราทุกคนสามารถเข้าไปด้านในของแดนภังคะได้พร้อมกัน”

ซั่งกวนหว่านยิ้มเหยพลางพยักหน้า และไม่ได้ถามอันใดต่อมากนัก

ส่วนฉู่หลิวเยว่กำลังเล่นกับแหวนเฉียนคุนในมือของนางอย่างเบื่อหน่าย

“จิ๊”

ก็แค่ค่ายกลเคลื่อนย้ายอันเดียวมิใช่หรือ มีอันใดที่ต้องรู้สึกผิดด้วยหรือไร

ดูเหมือนว่าคนอื่นๆ จะไม่ได้สังเกตเห็นคลื่นใต้น้ำที่กำลังปั่นป่วนนี้

ตอนนี้หลายคนกำลังขบคิดกันอย่างขะมักเขม้น และคิดแต่เรื่องที่จะเข้าไปในแดนภังคะเท่านั้น

ภายใต้การชี้นำของมู่ชิงเห่อ ทุกคนก็พากันเดินไปอยู่บนยังค่ายกลเคลื่อนย้าย เพื่อเดินทางไปยังแดนภังคะ!

…

“ค่ายกลเคลื่อนย้ายนี้ดูเสถียรมาก…มันไม่มีผันผวนใดๆ เลย…พูดแล้วมันก็คล้ายกับค่ายกลเคลื่อนย้ายที่เราใช้มาที่นี่เมื่อครู่เลยนะ!”

“อันนั้นเป็นขององค์ไท่จู่ที่สร้างไว้ตอนท่านมาที่นี่ และได้รับการบำรุงรักษาอย่างอุตสาหะมานับพันปี ดังนั้นมันจึงใช้งานได้ง่ายโดยไม่ขัดข้อง แต่อันนี้…ไหนว่าเป็นของที่องค์หญิงใหญ่สร้างไว้มิใช่หรือ?”

“องค์หญิงใหญ่เกิดมาพร้อมกับชีพจรเทียนจิง ความสามารถของนางนั้นที่ไม่มีใครเทียบได้ อีกทั้งยังมีความแข็งแกร่งที่ไม่ธรรมดา กับอีแค่สร้างค่ายกลเคลื่อนย้ายนี่ ถือเป็นเรื่องจิ๊บจ๊อยไปหน่า?”

“น่าเสียดายที่หลังจากนั้น… เมื่อก่อนคนในซีหลิงมักลือกันว่าองค์หญิงใหญ่น่ะ เป็นผู้สืบเชื้อสายขององค์ไท่จู่เลย และก็คาดว่า จะเป็นคนที่สามารถทะลวงขอบเขตพลังปราณของจอมยุทธระดับเก้าได้ด้วย…น่าเสียดายจริงๆ เชียว!”

เกิดเสียงซุบซิบนินทาจากทั่วสารทิศ

ฉู่หลิวเยว่ยืนฟังเงียบๆ และมองไปยังซั่งกวนหว่านที่ยืนตัวแข็งทื่อทำหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออกอยู่ข้างหน้า

ถึงนางจะตายไปแล้ว และถูกซั่งกวนหว่านเข้ามายึดรังนกของนางไป แต่มันก็ยังมีบางสิ่งที่ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงหรือทดแทนกันได้อยู่

อย่างเช่น… ความจริงที่ว่า ซั่งกวนหว่านจะไม่มีวันได้ครอบครองชีพจรเทียนจิงอย่างใดล่ะ!

แค่เรื่องนี้เรื่องเดียว ก็สามารถทำให้ซั่งกวนหว่านเจ็บช้ำน้ำใจไปตลอดชีวิตแล้ว

ตั้งแต่นางก้าวขึ้นมาอยู่บนตำแหน่งนี้ นางก็ถูกคนเอาไปเปรียบกับซั่งกวนเยว่ไม่หยุดหย่อนเลยมิใช่หรือ?

ส่วนเทียบได้หรือไม่ได้นั้น แค่มองก็น่าจะรู้แล้ว

ฉู่หลิวเยว่รู้สึกได้ทันทีว่าการเดินทางครั้งนี้ช่างคุ้มค่านัก

แม้ว่าจะยังไม่สามารถแสดงตัวได้ แต่คนเหล่านี้ก็ได้ถูกกวาดล้างจนหมดสิ้นแล้ว

แต่ถ้ายิ่งได้เห็นสีหน้าจะเป็นจะตายพูดไม่ออกของคนพวกนั้นบ้าง คงไม่เลวเลย!

มู่ชิงเห่อคนให้สมญานามแก่แดนภังคะแห่งนี้ก็จริง แต่…ความจริงแล้วมันเป็นสถานที่ของนางต่างหาก!

“หลิวเยว่ นั่นเจ้าหัวเราะด้วยเหตุใด?”

มู่หงอวี่ที่อยู่ข้างๆ ถามอย่างแปลกใจ

ฉู่หลิวเยว่กดยิ้มลึกขึ้น พลันทำทีกะพริบตาปริบๆ

“ไม่มีอันใด ข้าแค่คิดว่าเราใกล้ถึงแดนภังคะแล้ว ไหนจะสมบัติมากมายอีก แค่คิดก็ตื่นเต้นแล้ว”

มู่หงอวี่คลายความสงสัย พลันยิ้มตอบ

“ข้าเองก็เหมือนกัน!”

เย่หรานหร่านชูมือขึ้น

“ข้าด้วย!”

เหลือเพียงเชียงหว่านโจวเท่านั้นที่ยังเก็กท่าดูเย็นชาเช่นเคย

เขาเหลือบมองพวกนางเล็กน้อย ก่อนจะหลับตาลง

…

หลังจากนั้นไม่นาน ทุกคนก็เดินทางมาถึงทางออกของค่ายกลเคลื่อนย้ายอีกครั้ง!

หลายคนเริ่มรู้สึกปั่นป่วนขึ้นมาเล็กน้อย

เพราะข้างนอกนั่น…คือแดนภังคะของจริงแล้ว!

มู่ชิงเห่อหันมามอง พลันพูดเสียงขึงขัง

“ทุกคนเตรียมพร้อม…ไป!”

เกิดการบีบอัดและระเบิดของพลังปราณขึ้นมาอีกรอบ!

ทุกคนรีบออกมาจากค่ายกลเคลื่อนย้ายกันทันที!

ทว่าครั้งนี้พวกเขาใช้เวลาน้อยกว่าเดิมมาก ทุกคนล้วนรีบปรับตัวให้เข้ากับแสงโดยรอบทันทีที่ออกมา

เพียงฉู่หลิวเยว่ก้าวออกไป นางก็ได้ยินเสียงหอบหายใจดังอยู่รอบตัว

นางหยุดฝีเท้าแล้วก้มหน้ามอง

ก่อนจะเห็นศิลาสีเทาขาวบริเวณใต้ฝ่าเท้า วางเรียงทอดยาวไปด้านหน้าหลายสิบลี้

ส่วนด้านหลังก็เป็นทะเลทรายสีทอง คล้ายกับฉากที่นางเพิ่งเห็นเมื่อครู่ก่อน

ด้านซ้ายมือเป็นป่าทึบ และด้านขวามือเป็นทะเลสาบที่แผ่ขยายออกไปทั่วสารทิศ

ผืนป่ากว้างใหญ่และไร้ขอบเขต ทะเลสาบกว้างใหญ่เสมือนเชื่อมต่อกับท้องฟ้า เปล่งประกายด้วยคลื่นสีเงินวิบวับราวกับกระจกบานใหญ่

“แผ่นศิลาแห่งนี้คือศูนย์กลางของแดนภังคะ หรือที่เรียกว่าสามเหลี่ยมสีเทา นอกจากนี้มันยังเชื่อมต่อกับทะเลทรายจันทราสีชาด ทะเลสาบกระจกและป่าหมอกมายาอีกด้วย”

มู่ชิงเห่อยืนอธิบายอยู่ข้างๆ ซั่งกวนหว่าน

คราวนี้เขาจงใจเปล่งเสียงออกมาดังๆ เพื่อให้คนอื่นๆ ที่อยู่ที่นั่นได้ยินเขาอย่างชัดเจน

“สถานที่ทั้งสามแห่งนี้มีบรรยากาศที่แตกต่างกัน ดังนั้นสถานการณ์อันตรายที่อาจเกิดขึ้นภายในนั้น ก็แตกต่างกันด้วย แม้แต่ผู้มีประสบการณ์ก็ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ทั้งหมด ดังนั้น ขอทุกคนจงระมัดระวังและพยายามหลีกเลี่ยงการไปไหนมาไหนคนเดียว”

จิตใจของทุกคนสั่นสะท้านและต่างก็ระแวดระวังในสิ่งที่ได้ยิน

เมื่อก่อนมันอาจจะเป็นเพียงเรื่องเล่าขาน ทว่าตอนนี้เมื่อได้มาเห็นกับตาตัวเอง พวกเขาก็รู้แล้วว่ามันเป็นสถานที่แบบใด!

มู่ชิงเห่อหันมองซั่งกวนหว่าน

“องค์หญิง ท่านต้องการไปที่ใดก่อนหรือ?”

ซั่งกวนหว่านยังคงตกตะลึงกับเหตุการณ์ตรงหน้า

ทว่านางไม่ได้แสดงสีหน้าใดๆ ออกมา ใบหน้างดงามยังคงดูสงบมาก

นางครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดว่า

“ว่ากันว่าครั้งหนึ่งเคยมีอสูรศักดิ์สิทธิ์ปรากฏตัวขึ้นในป่าหมอกมายา ข้าสงสัยว่ารองแม่ทัพมู่เคยเห็นมันหรือไม่?”

มู่ชิงเห่อส่ายศีรษะ

“กระหม่อมยังไม่เคยเห็นด้วยตาตัวเอง แต่… ในป่าหมอกมายา มีสัตว์อสูรระดับสูงจำนวนมากอาศัยอยู่”

ตอนแรกซั่งกวนหว่านรู้สึกผิดหวังเล็กน้อย แต่เมื่อได้ยินประโยคหลัง นางก็รู้สึกตื่นเต้นและอยากรู้อยากเห็นขึ้นมาทันที

เมื่อก่อนนางเคยมีสัตว์อสูรในครอบครอง แต่เมื่อชีพจรดั้งเดิมถูกทำลาย สัตว์อสูรก็ถูกเผาจนตาย

และต่อมา เนื่องจากนางไม่สามารถฟื้นฟูชีพจรดั้งเดิมของตัวเองได้ นางจึงไม่สามารถทำสัญญากับสัตว์อสูรตัวใหม่ได้

ทว่านี่เป็นโอกาสของนางแล้ว!

เมื่อคนอื่นๆ ได้ยินเช่นนี้ พวกเขาก็ไม่สามารถซ่อนความปรารถนาของตัวเองได้ และมองไปยังซั่งกวนหว่านทีละคน

“ข้ารู้สึกว่าตำนานอสูรศักดิ์สิทธิ์ของที่นี่นั้นไม่ใช่เรื่องปรัมปราทั่วไป บางทีอาจมีบางอย่างอยู่ในป่าหมอกมายาจริงๆ ก็ได้ เช่นนั้นก็ไปที่นั่นกันก่อนดีกว่า!”

ซั่งกวนหว่านลังเลอยู่ครู่หนึ่ง และในที่สุดก็ตัดสินใจได้

มู่ชิงเห่อเอ่ยอย่างลังเล

“องค์หญิง ป่าหมอกมายาคือจุดที่อันตรายที่สุด ท่านคิดจะ…ไปที่นั่นจริงหรือ?”

อันตรายที่สุดหรือ?

เช่นนั้นก็ยิ่งดีมิใช่หรือ?

ซั่งกวนหว่านคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ และพยักหน้าตอบไป

“เพื่อเสด็จพ่อ ต่อให้อันตรายเพียงใด ข้าก็จะไป! ไปที่ป่าหมอกมายากัน!”

มู่ชิงเห่อไม่ได้โต้แย้งแต่อย่างใด ก่อนจะนำทางพานางไปที่นั่น

“เชิญทางนี้ขอรับ…”

จากนั้นทั้งขบวนเสด็จก็มุ่งหน้าไปที่นั่นโดยพร้อมเพรียงกัน

มู่ชิงเห่อก้าวเท้าไปข้างหน้าพลางเอ่ย

“อายพิศม์ที่กระหม่อมเคยบอกไป แพร่กระจายออกมาจากป่าหมอกมายา ฉะนั้นยามที่ท่านเข้าไป ท่านต้องใช้พลังจากชีพจรดั้งเดิมสร้างค่ายกลขึ้นมาคลุมร่างของท่านไว้… มิเช่นนั้นอายพิศม์จะทะลวงเข้าไปทำลายหยวนตันของท่าน”

ซั่งกวนหว่านชะงักฝีเท้า พร้อมสีหน้าที่เปลี่ยนเป็นวิตกกังวล

ชีพจรดั้งเดิมของนางถูกทำลายอย่างสมบูรณ์ แล้วนางจะทำแบบนั้นได้อย่างใด?

ตอนก่อน
ตอนต่อไป

ความคิดเห็นทั้งหมดของ "ตอนที่ 688 ป่าหมอกมายา"

ใส่ความเห็น ยกเลิกการตอบ

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

*

*

  • อ่านนิยาย
  • แทงหวย24

© 2020 cat-novel.com
เว็บอ่านนิยาย นิยาย pdf เว็บ “cat-novel.com” เว็บอ่านนิยายสนุกๆ เพลิดเพลินไปกับนิยายต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น นิยายวาย, นิยายจีน, นิยายรัก, แฟนตาซี, กำลังภายใน, ผจญภัย สุดยอดวิชากำลังภายใน อัพเดททุกวัน พร้อมรองรับการอ่านบนมือถือ คอมพิวเตอร์ ไอแพด หรือแท็บเล็ต อ่านได้ตลอดเวลา ไม่มีโฆษณา อ่านนิยายฟรีต้อง เว็บ ”cat-novel.com”
นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์