ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ - ตอนที่ 701 เสียดาย
ตอนที่ 701 เสียดาย
เหตุใดฉู่หลิวเยว่ถึงมาอยู่ตรงนี้!?
เกิดคำถามร้อยแปดอย่างขึ้นในหัวของเจียงอวี่เฉิง
เขาจำได้แค่ว่าหลังจากถูกโยนลงไปในรอยแยกแล้ว ปากทางรอยแยกก็ได้ปิดลง
เขาไม่รู้เลยว่าคนอื่นจะเป็นอย่างใด
หรือว่ามีแค่ตนหรือเปล่า ที่ต้องเจอกับเหตุการณ์เช่นนั้น?
แต่ถ้าเป็นแบบนั้นแล้วฉู่หลิวเยว่จะมายืนอยู่ตรงนี่ได้อย่างใด? อีกทั้งยังดูเหมือนว่าไม่ได้รับบาดเจ็บเลยแม้น้อย
ทว่าเมื่อได้เห็นใบหน้าที่ยิ้มแย้มของฉู่หลิวเยว่ เจียงอวี่เฉิงก็รู้สึกโล่งใจขึ้นมาบ้าง
เขามองไปรอบๆ ก่อนจะพบว่านอกจากฉู่หลิวเยว่แล้ว ดูเหมือนจะยังมีคนอื่นอีกสองสามคนนั่งอยู่ไกลๆ
แล้วก็…ค่ายกลสีรุ้งขนาดมหึมา!
และพอสัมผัสได้ถึงความผันผวนอันน่ากลัวจากด้านบนของค่ายกล เจียงอวี่เฉิงก็พลันตระหนักถึงบางสิ่ง แล้วเบิกตากว้าง
“นั่นคือ…สัตว์อสูรระดับเก้าหรือ!?”
การเคลื่อนไหวของพลังปราณแบบนี้ ถ้าไม่ใช่สัตว์อสูรระดับเก้า ก็ไม่มีอย่างอื่นแล้ว!
ฉู่หลิวเยว่พยักหน้าตอบไปอย่างไม่ลังเล
“องค์ชายใหญ่เจียงช่างสายตาเฉียบคม”
เจียงอวี่เฉิงทำทีจะลุกพรวดพลาดออกไป แต่ทันใดนั้น ก็นึกขึ้นได้ว่าร่างกายอีกครึ่งหนึ่งของเขายังคงฝังอยู่ข้างใต้ และไม่สามารถหลุดพ้นได้
ฉู่หลิวเยว่ยิ้ม พลางถามอย่างรู้ทัน
“องค์ชายใหญ่เจียง ท่านเป็นอันใดหรือ?”
ใบหน้าหล่อเหลาเกิดมีสีแดงสลับขาวขึ้น และเมื่อนึกถึงความอับอายของตนในเวลานี้ ก็พลอยรู้สึกหน้าร้อนและเจ็บใจขึ้นมา
โดนใครเจอไม่เจอ ดันเป็นฉู่หลิวเยว่เสียได้…
และยิ่งเห็นสภาพที่ดูดีของนางไร้รอยขีดข่วน เขาก็ยิ่งไม่พอใจเข้าไปใหญ่!
เจียงอวี่เฉิงมักจะกังวลเรื่องภาพลักษณ์ของตัวเองเสมอ ฉะนั้นเมื่อเผชิญกับสถานการณ์เช่นนี้ เขาจึงรู้สึกอับอายจนอยากเอาหน้ามุดดินเสียให้รู้แล้วรู้รอด!
เขาโบกสะบัดมีดในมือ แล้วฟันไปที่รากของต้นไม้ที่รัดแน่น และพยายามพาตัวเองออกไปให้ได้
ซึ่งตอนนั้นเอง ฉู่หลิวเยว่ก็ได้เห็นว่ารากฝอยจำนวนมาก ได้เจาะเข้าไปในร่างกายของเขา และทิ้งรอยแผลไว้มากมาย
แสดงว่า…
ต้นสนฉัตรนี่ได้ดูดกินเลือดของเจียงอวี่เฉิงเข้าไปแล้ว…
แต่ด้วยสภาพร่างกายแบบนั้น เขาจะทนมันได้อีกนานเพียงใดเชียว?
ใบหน้านั่นซีดเซียวราวกับผี
เหอะ
ฉู่หลิวเยว่ชื่นชมรูปลักษณ์ที่น่าสมเพชของเขาครู่หนึ่ง กระทั่งนางอารมณ์ดีขึ้นมาบ้าง
แล้วมันเพราะอันใดน่ะหรือ?
นั่นเพราะแค่นี้น่ะ มันแทบจะเทียบกับความเจ็บปวดที่นางได้รับในอดีตไม่ได้ด้วยซ้ำ!
และดูเหมือนว่าเขาจะสัมผัสได้ถึงสายตาแปลกๆ ของฉู่หลิวเยว่ สุดท้ายเจียงอวี่เฉิงจึงหันไปมองนาง พลางขมวดคิ้ว
แต่ในจังหวะที่เขากำลังจะเอ่ยปาก ฉู่หลิวเยว่กลับพูดแทรกขึ้นก่อน
“องค์ชายใหญ่เจียง ดูแล้วเหมือนท่านจะบาดเจ็บหนัก เช่นนั้นต้องการให้ข้าช่วยหรือไม่?”
เจียงอวี่เฉิงกลืนคำพูดในลำคอกลับไปทันที
ด้วยเหตุผลบางอย่าง เขามักจะรู้สึกว่าการแสดงออกของฉู่หลิวเยว่นั้นช่างดูคลุมเครือ…
นางดูต้องการจะช่วยเขา ทว่าแสงวูบไหวในดวงตาดำสนิทเสมือนหยกนั่น กลับทำให้คนมองเดาทางนางไม่ได้
เจียงอวี่เฉิงเงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนจะมองไปรากไม้ที่ถูกตัด แล้วถามว่า
“นั่นฝีมือเจ้าหรือ?”
ฉู่หลิวเยว่ตอบกลับเสียงเรียบ
“ข้าได้ยินเสียงเลยลองเดินมาดู แล้วก็เห็นรากมันขยับ ข้าเลยคิดว่ารากพวกนี้อันตราย แล้วตัดพวกมันทิ้งเสีย แต่คิดไม่ถึงว่า…จะมาเจอองค์ชายใหญ่เจียงที่นี่”
น้ำเสียงของนางจริงใจมาก
จนเจียงอวี่เฉิงเริ่มเชื่อ
กว่าเขาจะหาวิธีออกมาได้นั้นไม่ง่ายเลย ในเวลานี้ และตอนนี้พลังปราณดั้งเดิมของเขาก็หมดลงแล้วด้วย ดังนั้นจึงต้องออกไปจากที่นี่ให้เร็วที่สุด และหาสถานที่เพื่อปรับลมปราณของเขาให้เข้าที่
เพียงแต่ว่ารากของมันช่างยากต่อการรับมือ!
ขณะพยายามดิ้นให้หลุด เขาก็เอ่ยถาม
“พวกเจ้ามาอยู่ที่นี่ได้อย่างใด? และนอกจากเจ้าแล้ว คนที่เหลือมีใครบ้าง? แล้วคนในขบวนไปไหนหมด?”
ฉู่หลิวเยว่กระตุกยิ้มมุมปาก
แสดงว่าเจียงอวี่เฉิงยังไม่ไว้ใจนาง และถามเพื่อความแน่ใจ
“องค์ชายใหญ่เจียง เรื่องนี้มันยาวมาก ข้าว่าให้ท่านออกมาก่อนแล้วค่อยคุยกันอีกทีจะดีกว่า เช่นนั้นแล้วให้ข้าช่วยท่านดีหรือไม่ หรือท่านว่าอย่างใด?”
เมื่อเจียงอวี่เฉิงตระหนักว่ามันคงเกินกำลังของตน เขาจึงพยักหน้าตกลง
จากนั้นฉู่หลิวเยว่ก็เดินไปข้างหน้าหนึ่งก้าว
“แค่เจ้าตัดรากของมันให้หมดก็พอแล้ว!”
เจียงอวี่เฉิงตอบไป
ฉู่หลิวเยว่ตอบตกลงอย่างง่ายดาย และยกกริชในมือของนางขึ้น
ในขณะที่รากนั่นเคลื่อนไหวไปมา ร่างของเจียงอวี่เฉิงก็ถูกลากไปด้วยเช่นกัน
เหลือเพียงขาสองข้างที่ยังฝังอยู่ใต้ดิน
ฉู่หลิวเยว่ชำเลืองมองมันด้วยหางตา
เปรี้ยง!
ทัณฑ์สวรรค์สายที่สามผ่าลงมาแล้ว!
เกิดเสียงดังกึกก้องไปทั่วผืนป่า
กลุ่มเมฆสีดำทำการปกคลุมท้องฟ้าและดวงอาทิตย์ จนผืนป่าตกอยู่ในความมืดมิด
ฉู่หลิวเยว่ใช้ร่างของตัวเองบังเจียงอวี่เฉิงไว้ทันที
นอกจากนี้ยังมีรากไม้หนาทึบและวัตถุอื่นๆ ปกคลุมเจียงอวี่เฉิงไว้อย่างสมบูรณ์
แม้แต่เชียงหว่านโจวที่คอยจ้องมองมาทางด้านนี้ ก็ยังไม่เห็นว่าเกิดอันใดขึ้นที่นี่
ส่วนผลที่ตามมาอันน่าหวาดกลัวก็คือ ม่านแสงพร่างพรายที่ทอประกายวิบวับอย่างไม่มีที่สิ้นสุด
เกิดสว่างและเงามือสะท้อนลงบนใบหน้าของเจียงอวี่เฉิง
ฉู่หลิวเยว่ยื่นมือออกไป
พวกเขาทั้งสองห่างกันแค่ก้าวเดียว!
ตราบใดที่เธอสะบัดมือ กริชที่คมกริบนั่นก็สามารถเฉือนคอของเจียงอวี่เฉิงได้อย่างง่ายดาย!
ความเกลียดชังที่พลุ่งพล่านและเจตนาฆ่าพุ่งออกมาจากก้นบึ้งของหัวใจ!
แสงเย็นวาบวิ่งผ่านดวงตาของฉู่หลิวเยว่!
กริชเล่มคมหมุนควง พร้อมแสงอันเย็นเฉียบที่สะท้อนออกมา!
เจียงอวี่เฉิงกำลังจัดการกับรากต้นไม้ที่พันรอบหน้าอกของเขา ดังนั้นเขาจึงไม่ได้สังเกตเห็นนาง
ที่เคลื่อนกายเข้ามาพร้อมความแค้น…และความเกลียดชัง…
เพื่อจบทุกเรื่องให้เสร็จภายในพริบตา!
ฉู่หลิวเยว่ขยับข้อมือ!
โครม!
ทว่าในขณะที่ฉู่หลิวเยวกำลังจะลงมือ จู่ๆ รากของต้นไม้ที่อยู่ห่างออกไปก็หลุดออกมาจากหน้าดิน! และโดนผ่าครึ่งกลางลำต้น!
ก่อนจะกลายเป็นเศษซากต้นไม้!
พร้อมกับร่างๆ หนึ่งที่พุ่งออกมา!
ฉู่หลิวเยว่ตวัดสายตามองทันที พลันหรี่ตาลง
มู่ชิงเห่อหรือ!
และขณะเดียวกัน เจียงอวี่เฉิงเองก็โดนการเคลื่อนไหวเหล่านั้นดึงดูดให้จำต้องหันไปมอง
เมื่อเห็นว่าคนผู้นั้นเป็นใคร เขาก็รีบตะโกนเรียกอีกฝ่าย
“รองแม่ทัพมู่!”
มู่ชิงเห่อที่เพิ่งหลุดพ้นจากการถูกฝัง ก็รีบพาตัวเองออกไปให้พ้นบริเวณนั้น
และพอได้ยินเสียงเรียก เขาก็เงยหน้าขึ้นอย่างไว
ก่อนจะเห็นเจียงอวี่เฉิงที่ครึ่งตัวถูกฝังอยู่ในดินและหญิงสาวคนหนึ่งข้างๆ เขา…
เขาหรี่ตาลงมอง
เหตุใดจึงเป็นฉู่หลิวเยว่?
ถึงจะสัมผัสได้ถึงการจ้องมองของมู่ชิงเห่อ แต่สีหน้าของฉู่หลิวเยว่ยังคงไม่เปลี่ยนแปลง นางพลิกฝ่ามือและแทงกริชลงไป!
ฉั๊วะ!
ฉู่หลิวเยว่ตัดรากต้นไม้ออกทันที!
ของเหลวสีแดงสาดกระเซ็นไปทั่ว!
ในขณะเดียวกันก็มีลมเย็นพัดมาจากด้านหลัง!
มันคือรากไม้ที่งอกขึ้นมาใหม่! และกำลังเล็งไปยังแผ่นหลังของฉู่หลิวเยว่!
เมื่อจู่ๆ แผนการถูกขัดขวาง ฉู่หลิวเยว่ก็ยิ่งรู้สึกหงุดหงิด และพอสังเกตเห็นการเคลื่อนไหวนั่น สีหน้าของนางก็เย็นชาขึ้นมาทันตา
นางหันกลับไปมองอย่างรวดเร็วแล้วยกมือขึ้น ลูกไฟสีแดงพลันกลายเป็นแส้เส้นยาวแล้วพุ่งออกไป!
เปรี้ยง!
เสียงแส้กระทบมวลอากาศดังก้อง!
จากนั้นแส้เพลิงก็พันเข้ากับรากของต้นไม้ทันที!
แต่นางไม่ควรประเมินพละกำลังของรากต้นไม้ต่ำเกินไป เพราะเมื่อมันสู้สุดตัว ก็ทำเอาฉู่หลิวเยว่เซจนล้มได้เหมือนกัน!
ฉู่หลิวเยว่กลิ้งไปมาบนพื้น และพลังปราณดั้งเดิมก็พุ่งออกมาจากร่างของนาง!
พรึบ!
ส่งผลให้เปลวเพลิงยิ่งโหมกระหน่ำ!
รากของต้นไม้ทั้งหมดถูกเปลวไฟสีแดงล้อมไว้!
เปลวไฟลุกลามอย่างรวดเร็วและในไม่ช้าก็ห่อหุ้มต้นไม้ทั้งต้น!
ฉู่หลิวเยว่สบทออกมาอย่างเย็นชา
“แหลกไปเสีย!”
ตูม!
ต้นสนฉัตรใบแข็งระเบิดทันที!
ขณะเดียวกันมู่ชิงเห่อก็พุ่งตัวเข้าไป
และด้วยความช่วยเหลือของเขา ในที่สุดเจียงอวี่เฉิงก็หลุดออกมาได้!
“องค์ชายใหญ่ มิเป็นไรใช่หรือไม่ขอรับ?”
มู่ชิงเห่อถามพร้อมกับขมวดคิ้วมุ่น
เจียงอวี่เฉิงไม่ได้ตอบเขา แต่กลับจ้องมองฉู่หลิวเยว่ที่อยู่ด้านหน้าด้วยสายตาว่างเปล่า
เมื่อครู่…นางช่วยชีวิตเขาไว้จริงๆ ด้วย…
บัดซบ!
ฉู่หลิวเยว่มองไปยังเปลวไฟที่ลุกไหม้ตรงหน้า แล้วค่อยๆ กระชับกริชในมือ
น่าเสียดายนัก!