CatNovel
  • หน้าหลัก
  • นิยายทั้งหมด
Advanced
  • หน้าหลัก
  • นิยายทั้งหมด
  • โดจิน
  • นิยายทั้งหมด
  • จบแล้ว
  • นิยายวาย Yaoi
ตอนก่อน
ตอนต่อไป
สล็อตเว็บตรง

ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ - ตอนที่ 734 เบิกทาง

  1. Home
  2. ยอดหญิงลิขิตสวรรค์
  3. ตอนที่ 734 เบิกทาง
ตอนก่อน
ตอนต่อไป

ตอนที่ 734 เบิกทาง

ซั่งกวนหว่านล้มลงอย่างแรงอีกครั้ง จนปิ่นหยกหล่นกระแทกพื้น ผมสยายลงมา

แรงตบครั้งนี้ทำให้มึนงงไปเลย จนภาพตรงหน้ากลายเป็นสีดำ

นางอ้าปากกว้าง ระหว่างซอกฟันมีกลิ่นคาวคละคลุ้ง นั่นคือเลือดที่ไหลออกมานั่นเอง

ใบหน้าเต็มไปด้วยความชาและมึนงง หลังจากหยุดชะงักไประยะหนึ่ง ความเจ็บปวดที่เหมือนกับน้ำหลากก็ทะลักออกมา!

แต่นี่เทียบไม่ได้เลยกับความกลัวที่อยู่ในใจลึกๆ ของนาง!

นางรู้ว่าบุคคลลึกลับผู้นั้นแข็งแกร่งมาก แต่กลับไม่รู้ว่าอีกฝ่ายน่ากลัวขนาดนี้!

อีกฝ่ายสามารถจัดการนางได้อย่างง่ายดายเลยทีเดียว!

ต้องบอกก่อนว่า ระดับของนางในตอนนี้คือจอมยุทธ์ขั้นแปดตอนต้น

แต่ตอนที่อีกฝ่ายลงมือมานั้น นางไม่มีแม้เวลาจะตอบสนองเลย ทำให้นางต้องทุกข์ทนต่อการโดนทำร้ายเท่านั้น!

ฝ่ามือทั้งสองฝ่ามือนี้ทำให้ซั่งกวนหว่านรู้อย่างชัดเจนว่านางต่างกับอีกฝ่ายอย่างมาก!

“ตอนนี้เจ้าจะพูดความจริงได้หรือยัง?”

เสียงนั้นดังก้องขึ้น ราวกับเสียงปีศาจที่กระซิบอยู่ข้างหู

หัวใจของซั่งกวนหว่านกระตุกวาบ นางคุกเข่าอยู่ที่พื้นแล้ว หมอบศีรษะลง

“ผู้น้อย…ผู้น้อยผิดไปแล้ว!”

ครั้งนี้นางไม่กล้าเล่นลูกไม้อันใดอีกแล้ว จึงได้แต่ก้มหัวยอมรับผิดแต่โดยดี!

“ได้โปรดให้โอกาสผู้น้อยอีกสักครั้ง! หากท่านมีคำสั่งว่าอันใด ข้าน้อยจะบุกน้ำลุยไฟ ทำให้สำเร็จจนได้!”

นี่ก็เกือบสองปีแล้วที่ซั่งกวนหว่านไม่ได้คุกเข่าให้ใครอีก ยิ่งไปกว่านั้นนางไม่เคยใช้น้ำเสียงอ่อนน้อมขอร้องใครเช่นนี้เลย

เสด็จพ่อสลบไสล อำนาจทั้งหมดของราชวงศ์เทียนลิ่งก็อยู่ในมือของนาง นางอยู่ใต้คนๆ เดียว แต่อยู่เหนือคนนับหมื่น!

ดังนั้นที่นางคุกเข่าครั้งนี้ ในใจของนางจึงรู้สึกอัปยศอย่างมาก

แต่นางไม่กล้าไม่คุกเข่า

“ถ้าเป็นเช่นนี้ตั้งแต่แรก ก็จะได้ไม่ต้องมายุ่งยาก”

อักขระยันต์สีดำนั้นขยับไปมาเบาๆ และแค่นหัวเราะเย็นๆ

ซั่งกวนหว่านไม่กล้าขยับตัวแม้แต่น้อย

“เส้นชีพจรของเจ้า ถูกชีพจรเทียนจิงทำลายไปตั้งนานแล้ว หากพูดตามหลักการแล้วมันไม่มีทางฟื้นฟูได้ เป็นข้าที่มอบโอกาสนี้ให้เจ้า ตอนนี้โอกาสมาอยู่ข้างหน้าแล้ว แต่เจ้ากลับไร้ประโยชน์ เป็นโคลนหย่อมหนึ่งที่ฉาบอย่างใดก็ไม่ติดผนัง[1]”

น้ำเสียงของคนผู้นั้นเอื่อยเฉย แต่กลับมีรัศมีที่สูงส่ง อีกทั้งทุกคำพูดก็ยังตรงไปตรงมา ไม่ไว้หน้าซั่งกวนหว่านเลยแม้แต่น้อย

ใบหน้าของซั่งกวนหว่านเดี๋ยวขาวเดี๋ยวแดง แต่กลับไม่กล้าเถียงเลยสักคำ

“ยัง ยังต้องให้ผู้อาวุโสช่วยแนะนำ!”

ซั่งกวนหว่านไม่ใช่คนโง่เขลา ที่อีกฝ่ายออกมาอย่างกะทันหันเป็นเพราะเรื่องเส้นชีพจรของนางอย่างแน่นอน

และเสียงนั้นก็พูดขึ้นอีกครั้งว่า

“มีคนรู้ตำแหน่งของเจ้าแล้ว หนีไปก็ไม่มีประโยชน์ เจ้าเร่งทำเวลาฟื้นฟูเส้นชีพจรของตนเองจะดีกว่า หลังจากที่เจ้าพบเป้าหมายแล้วข้าจะกางม่านพลังช่วยเจ้า ไม่ให้มีใครมารบกวนได้ ขอเพียงแค่จิตของเจ้าต้องสงบ เรื่องอื่นๆ ล้วนไม่มีปัญหา”

ซั่งกวนหว่านลังเลเล็กน้อย

“แต่ว่า…แต่ว่าผู้อาวุโสตอนนี้ต้องมีคนรู้แล้วแน่นอนว่าข้ากำลังทำอันใดอยู่ที่นี่…ถ้าเรื่องนี้แพร่กระจายออกไป…”

“รู้แล้วอย่างใด? ตราบใดที่เจ้าไม่เผชิญหน้ากับคนจำนวนมาก ก็ไม่มีใครทำอันใดเจ้าได้หรอก อย่าลืมฐานะของเจ้าสิ!”

ซั่งกวนหว่านเบิกตากว้าง

นางตกใจอย่างมาก แล้วเข้าใจอันใดบางอย่างขึ้นมา

ใช่แล้ว!

นางคือองค์หญิงสามแห่งราชวงศ์เทียนลิ่ง ตราบใดที่คนหมู่มากไม่เห็นนางด้วยตาตนเอง ใครจะกล้าบังคับให้นางสารภาพผิดได้?

ถ้านางถูกเปิดโปงจริงๆ นางก็แค่กัดฟันไม่ยอมรับเท่านั้นก็ได้แล้วไม่ใช่หรือ?

ตอนแรกหลังจากซั่งกวนเยว่ตายแล้ว ราชวงศ์เทียนลิ่งทั้งหมดก็สั่นคลอน

คนจำนวนมากสงสัยในการตายของนาง มีบางคนเกือบจะสืบได้แล้วว่านางและเจียงอวี่เฉิงเป็นคนต้นเรื่อง แต่สุดท้ายเรื่องก็เงียบไป

“ขอบคุณท่านผู้อาวุโสที่ชี้แนะ”

“ไม่จำเป็นต้องขอบคุณข้า ที่ข้ามาช่วยเจ้า เพราะข้าเองก็มีเหตุผล ข้าให้เวลาหนึ่งเค่อ ถ้าเจ้ายังทำไม่สำเร็จ ก็อย่าหาว่าข้าไม่ให้โอกาสเจ้า”

“เจ้าค่ะ! เจ้าค่ะ!”

ซั่งกวนหว่านไม่กล้าถามมาก รีบนั่งสมาธิและหาคนที่เหมาะสมทันที

ในตอนนั้นอักขระยันต์สีดำก็กลับมาอยู่ตรงระหว่างคิ้วของนางเช่นเดิม

ความจริงแล้วขั้นตอนมันไม่มีอันใด แต่ซั่งกวนหว่านมักจะรู้สึกว่ามีอันใดบางอย่างอยู่กลางหน้าผากของตนเอง และรู้สึกอึดอัดอย่างมาก

นางกลั้นหายใจแล้วหลับตา

นางหาคนไปพลาง พร้อมคิดในใจไปพลาง

อักขระยันต์สีดำนี้…ความจริงแล้วแม้แต่ตัวนางเองยังไม่รู้เรื่องว่ามันเข้ามาอยู่ในร่างกายของนางตั้งแต่เมื่อไร

ช่วงหลายปีมานี้ นอกจากที่มันพูดขึ้นมาเองสองครั้ง นางก็แทบจะไม่รู้สึกใดๆ เกี่ยวกับอีกฝ่ายเลย

ในใจของซั่งกวนหว่านรู้สึกวิตกอย่างมาก แต่นางก็พยายามอย่างเต็มที่ที่จะเมินเฉยเรื่องนี้ และลืมการมีตัวตนของอีกฝ่ายไป

แต่คิดไม่ถึงว่าวันนี้เขาจะปรากฏตัวขึ้นมาอย่างกะทันหัน

อีกทั้งยังมีวิธีที่แปลกประหลาดเช่นนี้ด้วย

“อย่าคิดเล็กคิดน้อยเลย ไม่เช่นนั้นจุดจบของเจ้าจะต้องน่าอนาถกว่าที่เจ้าจะจินตนาการได้แน่นอน”

เสียงเย็นๆ นั้นดังขึ้นในห้วงความคิดของนาง

ซั่งกวนหว่านตัวสั่นระริก นางตอบรับหนึ่งเสียง แล้วพยายามดึงความคิดของตัวเองให้กลับมา

ทั้งป่าหมอกมายานี้ นอกจากต้นไม้แม่พันธุ์ต้นนี้ทุกอย่างได้พังทลายอย่างสมบูรณ์

อีกทั้งมันยังกักขังคนอยู่ในใต้ดินแล้วใช้โคลนสีดำพัดให้คนพุ่งเข้าไปทางนั้น

ซั่งกวนหว่านสำรวจอย่างละเอียด แต่ก็ต้องตกใจที่ได้พบว่า คนที่นางสามารถสัมผัสได้นั้นน้อยกว่าเดิมมาก

ราวกับว่า…จำนวนทหารม้าทมิฬลดหายไปเป็นจำนวนมาก และยังมีกลุ่มลูกศิษย์จากสำนักต่างๆ

นางรู้สึกแน่นหน้าอกอย่างมาก

เมื่อครู่นางเสียเวลาไปมากขนาดนั้น มิน่าล่ะถึงเสียคนไปจำนวนมาก

มีคนจำนวนมากสามารถหลุดพ้นออกจากพันธนาการได้

โดยเฉพาะคนที่รวมกลุ่มเป็นหมู่คณะ ความสามัคคีเป็นพลังที่แข็งแกร่งจริงๆ ถ้าไม่ได้ใช้วิธีการที่พิเศษ ก็ยากจะจับพวกเขาเอาไว้ได้

เมื่อเทียบกับกองกำลังทหารทหารม้าทมิฬกลุ่มนั้นที่มีร้อยกว่าคน นางสูญเสียพละกำลังอย่างมากที่จะจับพวกเขาเอาไว้

คิดไม่ถึงเลยว่าสุดท้ายแล้ว…

ซั่งกวนหว่านสูดลมหายใจลึกๆ แล้วค้นหาเป้าหมายที่ดีให้ได้

ตอนนั้นเอง…ลูกศิษย์สำนักกระบี่เมฆาม่วงคนนั้น!

…

ซั่งกวนหว่านไม่รู้เลยว่า ในระหว่างที่ซั่งกวนหว่านไม่ได้ลงมือ ฉู่หลิวเยว่และพวกก็ได้เจอกลุ่มคนอีกหลายกลุ่ม อีกทั้งพวกเขาทั้งหมดร่วมเดินทางพร้อมกัน

ในกลุ่มของพวกเขามีทหารม้าทมิฬจำนวนมากที่สุด รองลงมาก็เป็นลูกศิษย์จากสำนักต่างๆ

ที่โชคดีก็คือเขาสามารถเจอตัวศิษย์จากภูเขาเขี้ยวมังกรทั้งหมด นอกเสียจากมีหนึ่งคนที่เสียชีวิตแล้ว ส่วนคนอื่นๆ หาจนครบหมดแล้ว

แม้ว่าพวกเขาจะได้รับบาดเจ็บกันบ้าง แต่หลังจากรักษาอย่างง่ายๆ แล้ว พวกเขาต่างยืนหยัดที่จะเดินทางมาพร้อมกัน

เมื่อพูดไปแล้วก็ต้องขอบคุณจู้หง

ตอนนั้นเขาเป็นคนพบว่ามู่หงอวี่หายไปแล้ว เดิมทีเขาวางแผนจะพาคนไปตามหา แต่สุดท้ายทางด้านเจียงอวี่เฉิงกลับเกิดเรื่อง

เขาจึงตัดสินใจอย่างเด็ดขาดว่า ให้ศิษย์ภูเขาเขี้ยวมังกรทุกคนรวมตัวอยู่ด้วยกัน

สุดท้ายเมื่อพวกเขาตกลงไปในหล่มโคลน พวกเขาก็ยังติดอยู่ด้วยกัน

ต่อมาพวกเขาก็กำลังจะหมดเรี่ยวแรง มันถึงถูกแบ่งเป็นสองกลุ่ม

แต่ระยะห่างของพวกเขาทั้งสองก็ไม่ได้ไกลกันเท่าไรนัก

นอกจากนี้ก็ยังมีศิษย์จากสำนักเพลิงศักดิ์สิทธิ์ที่เจอกันระหว่างทางด้วย

หากนับคร่าวๆ แล้ว กลุ่มนี้ก็มีคนประมาณสามร้อยคน

รวมกับกลุ่มเล็กๆ ที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสไม่สามารถเดินทางต่อไปได้ ก็มีทั้งหมดสี่ร้อยกว่าคน

และในตอนนั้นฉู่หลิวเยว่ก็ได้กลายเป็นกระดูกสันหลังของกลุ่มโดยไม่รู้ตัว

ท้ายที่สุดแล้วก็มีเพียงแค่ฉู่หลิวเยว่คนเดียวเท่านั้นที่รู้ว่าจะหาคนที่อยู่เบื้องหลังนั้นได้อย่างใด

กอปรกับนางได้ทำพันธสัญญากับอสูรศักดิ์สิทธิ์แล้ว จึงทำให้คนจำนวนไม่น้อยทั้งอิจฉาและชื่นชม

แม้กระทั่งเจียงอวี่เฉิงที่มีฐานะสูงที่สุด ก็ยังรู้สึกด้อยกว่านางเล็กน้อย

ทันใดนั้นเองนางก็ชะงักฝีเท้า แล้วมองตรงไปด้านหน้า

“ด้านหน้ามีคนอยู่ ข้าจะเข้าไปดูก่อน”

[1]โคลนหย่อมหนึ่งที่ฉาบอย่างใดก็ไม่ติดผนัง แปลว่า คนไร้ความสามารถ

ตอนก่อน
ตอนต่อไป

ความคิดเห็นทั้งหมดของ "ตอนที่ 734 เบิกทาง"

ใส่ความเห็น ยกเลิกการตอบ

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

*

*

  • อ่านนิยาย
  • แทงหวย24

© 2020 cat-novel.com
เว็บอ่านนิยาย นิยาย pdf เว็บ “cat-novel.com” เว็บอ่านนิยายสนุกๆ เพลิดเพลินไปกับนิยายต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น นิยายวาย, นิยายจีน, นิยายรัก, แฟนตาซี, กำลังภายใน, ผจญภัย สุดยอดวิชากำลังภายใน อัพเดททุกวัน พร้อมรองรับการอ่านบนมือถือ คอมพิวเตอร์ ไอแพด หรือแท็บเล็ต อ่านได้ตลอดเวลา ไม่มีโฆษณา อ่านนิยายฟรีต้อง เว็บ ”cat-novel.com”
นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์