ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ - ตอนที่ 746 ลงมือด้วยตัวเอง
ตอนที่ 746 ลงมือด้วยตัวเอง
ซั่งกวนหว่านร้องไห้ด้วยความโศกเศร้า สองมือกุมศีรษะอย่างเจ็บปวด ภาพฝ่ามือหลิงเซียวประทับอยู่ในสมองของนางอย่างลึกที่สุด
แต่ทุกอย่างก็เหมือนทรายในมือของนาง ยิ่งนางหวาดกลัวที่จะกอบกู้สถานการณ์ มันก็ยิ่งไร้ประโยชน์มากขึ้นเท่านั้น
ก่อนหน้านี้ในสมองของนางเต็มไปด้วยความวุ่นวาย แต่ทว่าตอนนี้กลับขาวโพลนไปหมด
“ไม่…ไม่…”
นางศึกษาฝ่ามือหลิงเซียวมาได้อย่างยากลำบาก แล้วนางลืมมันไปได้อย่างใด?!
ถ้าวันนี้ระดับนางตกต่ำกว่าระดับสอง ต่อให้นางอยากจะฝึกฝนใหม่อีกครั้ง มันก็ยากกว่าการขึ้นสวรรค์แล้ว!
ซั่งกวนหว่านตื่นตระหนกอย่างมาก นางหอบหายใจหนัก มือข้างหนึ่งก็ดึงทึ้งผมอย่างแรงโดยที่ไม่รู้ตัว เส้นผมของนางร่วงเป็นหย่อมๆ แต่ซั่งกวนหว่านก็ไม่สนใจมันเลยสักนิด
รูปแบบแปลกๆ ที่ฉู่หลิวเยว่นั้นสร้างขึ้นได้ทำลายฝ่ามือหลิงเซียวที่อยู่ในใจของนางทั้งหมดแล้ว!
และทำลายได้อย่างง่ายดาย!
เมื่อลายมือเส้นสุดท้ายถูกทำลายจนหมดสิ้น ในที่สุดซั่งกวนหว่านก็หยุดมือลง
หมดแล้ว…
ไม่มีแล้วจริงๆ!
ฝ่ามือหลิงเซียวระดับที่สองของนางลดระดับลงแล้ว!
ไม่ว่านางจะคิดอย่างใด ก็ไม่มีอันใดในสมองของนางเลย ตอนที่นางใช้ความคิดอยู่นาน ก็เพียงความเจ็บปวดที่ส่งลงมาเท่านั้น!
ซั่งกวนหว่านเดินถอยหลังไปสองก้าวอย่างหมดแรง ขาทั้งสองข้างอ่อนแรงจนเกือบจะทรุดตัวลงที่พื้น
ฉู่หลิวเยว่ถอนหายใจออกมาเบาๆ แผ่นหลังชุ่มไปด้วยเหงื่อ
ความจริงแล้วหากว่าด้วยจอมยุทธ์ระดับห้าของนางในปัจจุบัน การใช้เคล็ดวิชาฝ่ามือหลิงเซียวระดับที่สามนั้นถือว่าเกินตัวอย่างมาก
แม้ว่าจะแค่ร่างรูปแบบออกมาเท่านั้น ก็ทำให้นางสูญเสียพลังดั้งเดิมไปจำนวนมาก
ถ้าเกิดว่าไม่มีไข่มุกธาราที่อยู่ในตันเถียนคอยสนับสนุน นางไม่มีทางทำได้ถึงระดับนี้อย่างแน่นอน
การโจมตีนี้เหมือนว่าจะเป็นการโจมตีระดับเบา แต่ความจริงแล้วมันแทบจะใช้พลังทั้งในร่างของนาง
แต่ว่ายังดีที่ผลลัพธ์ที่ได้ออกมานั้นน่าพอใจอย่างมาก
“ดูแล้ว ฝ่ามือหลิงเซียวที่เจ้าพูดถึงก็ไม่เท่าไรเลยนี่นา”
ฉู่หลิวเยว่พูดเสียงเบา มุมปากประดับรอยยิ้ม
เมื่อซั่งกวนหว่านได้ยินดังนั้น ก็เหมือนได้สติขึ้นมาทันที นางเงยหน้าขึ้น!
ดวงตาของนางแดงก่ำใบหน้าเต็มไปด้วยความขุ่นเคือง
“ฉู่ หลิว เยว่!”
ซั่งกวนหว่านตะโกนเรียกชื่อของฉู่หลิวเยว่ทีละคำ แต่ละคำล้วนรอดออกมาจากซอกฟัน
น้ำเสียงแฝงด้วยความโกรธแค้น ราวกับอยากจะดื่มเลือดฉีกเนื้อของนางอย่างมาก!
เดิมทีนางคิดว่านางจะสามารถกำจัดฉู่หลิวเยว่ได้อย่างง่ายดาย แต่คิดไม่ถึงว่าจะต้องสูญเสียมากมายขนาดนี้!
ฉู่หลิวเยว่คนนี้มีปัญหา!
กระบวนท่าที่นางเพิ่งแสดงเมื่อครู่นี้ ไม่รู้ว่านางไปเรียนรู้มาจากที่ใด?
ไม่ว่าอย่างใดซั่งกวนหว่านก็คิดไม่ออก แต่นางก็ไม่อยากจะคิดต่อไปแล้ว!
ตอนนี้ในสมองของนางมีเพียงความคิดเดียวเท่านั้น…คือต้องฆ่าฉู่หลิวเยว่!
ถ้าหากนางไม่สามารถจัดการฉู่หลิวเยว่วันนี้ได้ วันข้างหน้าอีกฝ่ายจะต้องเป็นหอกข้างแคร่ของนางอย่างแน่นอน!
แม้ว่าก่อนหน้านี้นางจะไม่ชอบฉู่หลิวเยว่ แต่ความจริงแล้วนางก็ไม่เคยสนใจเรื่องของฉู่หลิวเยว่เลย
แต่ในวันนี้ซั่งกวนหว่านก็รู้สึกได้แล้วว่าฉู่หลิวเยว่นี่จัดการได้ยากกว่าที่นางคิดเอาไว้มาก!
ความโกรธระคนเกลียดชังเกิดขึ้นในใจ มันเยอะจนจะล้นทะลักออกมาอยู่แล้ว!
อารมณ์ที่รุนแรงทำให้นางบ้าคลั่ง ใบหน้าบิดเบี้ยว
ส่วนลึกของแววตามีประกายสีเขียวจางๆ!
ดูแล้วเหมือนกับผีอย่างมาก!
พรึ่บ!
ทันใดนั้นเองก็มีเสียงนกร้องดังขึ้น!
ซั่งกวนหว่านตกใจอย่างมาก ก่อนจะหันหน้ากลับไปมอง จากนั้นนางก็เห็นว่ากษายะหางวายุได้หลุดออกจากตาข่ายยักษ์สีดำแล้ว ก่อนจะพุ่งมาทางนี้อย่างรวดเร็ว!
เปลวเพลิงสีชาดล้นทะลัก พื้นที่ทั้งหมดกลายเป็นทะเลเพลิงทันที
แววตาสีแดงก็เปล่งประกายดุจผลึกหลายสี จิตสังหารสว่างวาบขึ้น!
ร่างกายของซั่งกวนหว่านเย็นยะเยือก!
ตอนนั้นเองราวกับปกคลุมด้วยเทพแห่งความตาย!
อันตราย!
นางรีบกระโดดหลบไปทางด้านหลังอย่างไม่ต้องคิด!
แต่ทันทีที่นางหมุนตัวกลับมา ทันใดนั้นเปลวเพลิงก็ลุกโชน!
พรึ่บ!
ซั่งกวนหว่านตกใจสะดุ้งเฮือก แล้วรีบเบี่ยงตัวหลบ จากนั้นนางก็ล้มลงที่พื้นอย่างไม่ตั้งใจ
นางก้มลงไปมอง จากนั้นก็เห็นว่าชายกระโปรงของนางมีเปลวเพลิงติดอยู่!
นางรีบดับไฟจุดนั้นทันที!
แต่ทว่าจิตสังหารของถวนจื่อในครั้งนี้รุนแรงอย่างมาก มันจะปล่อยนางไปง่ายๆ อย่างนั้นหรือ?
เปลวเพลิงที่อยู่รอบๆ ก็โหมกระหน่ำขึ้นมาอย่างบ้าคลั่ง จากนั้นก็พุ่งเข้าหาซั่งกวนหว่านทุกที่ทุกทาง!
ซั่งกวนหว่านรีบวางม่านพลังด้วยความสิ้นหวัง ในขณะเดียวกันนางก็รีบวิ่งไปยังเกราะศักดิ์สิทธิ์ทองแดงที่ถูกโยนทิ้งเอาไว้ที่พื้น
ต่อให้ตอนนี้นางไม่เป็นเจ้าของเกราะศักดิ์สิทธิ์ทองแดงอย่างเป็นทางการ แต่เมื่อนางสวมมัน ก็ยังมีคุณสมบัติในการป้องกันระดับหนึ่ง
ซั่งกวนหว่านโดนบีบจนไม่มีทางเลือกแล้ว ท่ามกลางตื่นตระหนก นางก็สามารถหาวิธีนี้มาป้องกันเท่านั้น
แต่ในตอนที่นางกำลังจะไปถึงเกราะศักดิ์สิทธิ์ทองแดง ทันใดนั้นปราณที่น่ากลัวก็ปรากฏขึ้นที่ด้านข้างของนาง!
ซั่งกวนหว่านชะงักไป แล้วรู้สึกหวาดผวาอย่างมาก!
ทันใดนั้นอักขระยันต์สีดำก็ปรากฏขึ้นมาที่กลางอากาศ แล้วขวางด้านหน้าของซั่งกวนหว่านเอาไว้!
ตู้ม!
พลังทั้งสองสายปะทะกันอย่างรุนแรง!
รูม่านตาของฉู่หลิวเยว่หดเล็กลง
คาดไม่ถึงว่าเปลวไฟสีชาดที่กลายเป็นลูกบอลไฟจะถูกอักขระยันต์สีดำขวางกั้นเอาไว้ได้!
เมื่อมีการช่วยเหลือของอักขระยันต์สีดำนั้น ซั่งกวนหว่านก็สามารถสวมชุดเกราะศักดิ์สิทธิ์ทองแดงได้อีกครั้ง!
เมื่อนางได้สัมผัสกับตัวเกราะที่แข็งและเย็น นางก็รู้สึกอุ่นใจขึ้นมา
ซั่งกวนหว่านมองอักขระยันต์สีดำนั้น แล้วหรี่ตามองเล็กน้อย
เท่ากับว่าซั่งกวนหว่านมีผู้สนับสนุนที่แข็งแกร่งจริงๆ…
ซั่งกวนหว่านโดนป้องกันอยู่ในม่านพลัง นับว่าได้มีเวลาหายใจหายคอแล้ว
นางพูดขึ้นในใจ
“ขอบคุณเจ้าค่ะผู้อาวุโส”
ทันใดนั้นฝ่ายตรงข้ามก็ตอบกลับด้วยเสียงเยือกเย็นว่า
“ไร้ประโยชน์”
ซั่งกวนหว่านถูกตำหนิ แต่ว่านางก็ไม่กล้าเถียง และไม่กล้าแสดงความไม่พอใจออกไปแม้แต่น้อย
ตัวนางเองก็คิดไม่ถึงว่าฉู่หลิวเยว่จะสามารถบีบนางได้ถึงขนาดนี้!
“…สิ่งที่ผู้อาวุโสสั่งสอนมาถูกต้อง ผู้น้อยประเมินศัตรูต่ำเกินไป…”
“ต่อให้เจ้าทุ่มสุดแรงแล้ว สถานการณ์ก็ไม่ได้ดีกว่าตอนนี้เท่าไรหรอก?”
ภายใต้น้ำเสียงแหบพร่ายังแฝงด้วยการประชดประชันอยู่
“อย่าลืมเสียเล่า ตอนนี้เจ้าก็ยังเป็นขยะที่ไม่สามารถฟื้นฟูเส้นชีพจรได้อยู่!”
ด้วยกระบวนท่าแรกๆ ซั่งกวนหว่านก็ดูได้เปรียบอยู่ แต่เมื่อเวลานานไป นางก็ไม่สามารถยืนหยัดได้
เมื่อถึงช่วงสุดท้ายนางก็ยังถูกฉู่หลิวเยว่ทุบตีกลับมาด้วย!
ซั่งกวนหว่านกัดริมฝีปากแน่นด้วยความเคียดแค้น จนกระทั่งมีเลือดไหลซึมออกมา
เดิมทีในปากของนางก็มีแต่รอยเลือดอยู่แล้ว ดังนั้นนี่จึงไม่จำเป็นต้องกล่าวถึงเลย
“สุดท้ายก็ต้องให้ข้าลงมือเอง”
เสียงที่เย็นชานั้นพูดขึ้น
ซั่งกวนหว่านตกใจและสับสนอย่างมาก
“ผู้อาวุโส…”
พรึ่บ!
ทันใดนั้นก็มีเสียงแปลกประหลาดดังขึ้น!
จากนั้นอักขระยันต์สีดำนั้นก็ค่อยๆ ลอยไปที่กลางหน้าผากของซั่งกวนหว่าน!
ตอนนั้นเองตำแหน่งของอักขระยันต์มันหงิกงอเล็กน้อยราวกับถูกไฟเผา!
ซั่งกวนหว่านยังไม่ทันได้พูดอันใด แต่ใบหน้าของนางก็เกิดการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย
จากนั้นสีหน้าของนางก็คืนสภาพอย่างรวดเร็ว เหลือเพียงความเมินเฉยและเย็นชาเท่านั้น
อีกทั้งแววตาของนางก็ดูแดงก่ำมากขึ้น
ร่างกายของนางแผ่รังสีจิตสังหารออกมาอย่างท่วมท้น!
หัวใจของฉู่หลิวเยว่กระตุกวูบ
“ถวนจื่อ!”
เมื่อได้ยินเสียงเรียกของนางถวนจื่อก็บินกลับมาอย่างรวดเร็ว
วินาทีต่อมาซั่งกวนหว่านก็สะบัดขึ้นอย่างแผ่วเบา
ตู้ม!
ลมที่รุนแรงบ้าคลั่งกระจายไปทั่วสี่ทิศแปดทาง!
พื้นที่ที่อยู่รอบๆ ฉู่หลิวเยว่ก็พังทลายลงอย่างรวดเร็ว!
ทันใดนั้นร่างของนางก็ลอยไปด้านหน้าอย่างไม่สามารถควบคุมได้!