ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ - ตอนที่ 748 เจ้ามาเพราะใคร
ตอนที่ 748 เจ้ามาเพราะใคร
แสงดาบสว่างวาบ!
หัวใจของซั่งกวนหว่านเต้นระส่ำไม่เป็นจังหวะ!
เมื่อเห็นว่ากระบี่เทพเมฆาสำริดกำลังจะตัดที่รากไม้นั้นโดยตรง!
แต่ในขณะที่กำลังจะสัมผัสกับรากไม้นั้น ทันใดนั้นฉินอีก็คว้ามือของเชียงหว่านโจวเอาไว้
การเคลื่อนไหวของเขาแผ่วเบาอย่างมาก เหมือนกับว่าเป็นการแตะแค่เล็กน้อยเท่านั้น
แต่เชียงหว่านโจวกลับหยุดการกระทำทันที!
ใบหน้าที่งดงามของเชียงหว่านโจวเต็มไปด้วยความโกรธ สองมือจับด้ามกระบี่เอาไว้แน่น เขาพยายามออกแรงขัดขืนอีกครั้ง!
แต่ว่าฝีมือของฉินอีนั้นแข็งแกร่งเกินไป การกระทำของเชียงหว่านโจวถูกเขาหยุดยั้งอย่างสมบูรณ์แล้ว!
แค่เขาจับมือ เชียงหว่านโจวก็เดินไปไหนมาไหนไม่ได้แล้ว!
ตอนนั้นเขาก็พบว่าเขาไม่ใช่คู่ต่อสู้ของฉินอีจริงๆ นั่นแหละ เชียงหว่านโจวจึงเงยหน้าขึ้นมองอย่างโมโห
เขาไม่เชื่อว่าฉินอีจะดูไม่ออกว่าที่นี่เกิดอันใดขึ้น!
แล้วเหตุใดยังขวางเขาอยู่ล่ะ?
เขาอยากจะฆ่าซั่งกวนหว่านให้ตายเป็นหมื่นครั้ง!
สีหน้าของฉินอีสงบราบเรียบดังเดิม แต่แววตาของเขากลับมองลงไปยังเหวลึก
“เรื่องยังไม่ตรวจสอบให้ชัดเจน ดังนั้นอย่าเพิ่งด่วนสรุป!”
ขณะที่เขาพูดเขาก็มองไปที่ซั่งกวนหว่านด้วยสีหน้าอ่อนโยน
“พวกเราจะไปช่วยเจ้าลงมาก่อน”
ซั่งกวนหว่านพยักหน้ารัวๆ อย่างดีใจ
เมื่อฉินอีพูดจบ เขาก็สะบัดแขนเสื้อหนึ่งครั้ง จากนั้นก็มีเชือกเส้นหนึ่งพันรอบตัวซั่งกวนหว่าน
เมื่อเขาสะบัดข้อมืออีกเล็กน้อย ซั่งกวนหว่านก็ถูกดึงลงมาแล้ว!
เมื่อออกจากพื้นที่ที่ถูกปกคลุมด้วยสีเขียว ซั่งกวนหว่านก็รู้สึกเหมือนเพิ่งได้ปีนออกมาจากนรก
เมื่อนางกลับไปนางก็ยังรู้สึกหวาดกลัวอยู่ ทั่วทั้งตัวของนางเต็มไปด้วยเหงื่อเย็นๆ
ถ้าตอนนั้นนางไม่สามารถคว้ารากไม้เอาไว้ได้ และประมาทไปอีกนิดเดียว…คนที่ตกลงไปจะต้องเป็นนางอย่างแน่นอน!
และในตอนนั้นเองที่กลางอากาศก็มีระลอกคลื่นปรากฏขึ้น!
เงาของคนคนหนึ่งกำลังเดินออกมา!
ซั่งกวนหว่านหันกลับไปมองและรู้สึกตกใจอย่างมาก
เพราะคนที่มาคือเจียงอวี่เฉิงนั่นเอง
“อวี่เฉิง!?”
ซั่งกวนหว่านอุทานออกมาอย่างตกใจ แล้วรีบวิ่งเข้าไปกอดเขา
“อวี่เฉิง! ในที่สุดเจ้าก็มาแล้ว!”
ตอนแรกเจียงอวี่เฉิงยังไม่ทันได้ตั้งตัว เมื่อนางพุ่งตัวเข้ามาในอ้อมกอด เขาจึงโอบเอวของซั่งกวนหว่านอย่างไม่รู้ตัว
“…เมื่อครู่นี้ข้ากลัวมากเลย! ข้าเกือบจะตายอยู่แล้ว! อวี่เฉิง เจ้ามาที่นี่เพื่อมาหาข้าใช่หรือไม่?”
เจียงอวี่เฉิงรู้ตำแหน่งของนางอยู่ก่อนแล้ว
เมื่อเขาปรากฏตัวขึ้นตอนนี้ แสดงว่าเขาจะต้องมาตามหานางอย่างแน่นอน
เรื่องที่ซั่งกวนหว่านประสบเมื่อก่อนหน้านี้ ทำให้นางยังมีอารมณ์ตกใจค้างอยู่ เมื่อเห็นเจียงอวี่เฉิงปรากฏตัวขึ้น นางก็แทบจะควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่ได้ สมองของนางแทบจะระเบิดออกมาอยู่แล้ว
ทั้งตกใจ หวาดกลัว และวิตกกังวล…
ภายในชั่วเวลาสั้นๆ ชีวิตของนางต้องแขวนอยู่บนความเป็นความตายตั้งหลายครั้ง และจิตวิญญาณของนางก็ตึงเครียดอย่างมาก
ในที่สุดตอนนี้นางก็สามารถผ่อนคลายลงได้แล้ว
เสื้อตรงหน้าของเจียงอวี่เฉิงเปียกชุ่มไปด้วยน้ำตาของซั่งกวนหว่าน
สองมือของนางกอดร่างกายของเขาจนแน่น ร่างกายของนางยังสั่นสะท้านอยู่เล็กน้อย เห็นได้ชัดว่านางกำลังหวาดกลัวอย่างถึงที่สุด
แม้แต่เจียงอวี่เฉิงเอง ยังไม่ค่อยเห็นนางต้องอยู่ในสภาพแบบนี้เลย
เขาพูดปลอบใจด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนพร้อมตบไหล่ของนางเบาๆ
“ไม่เป็นไร ข้าก็มาแล้วนี่ไง? ไม่ต้องเป็นห่วงนะ…”
เมื่อเชียงหว่านโจวเห็นเจียงอวี่เฉิงปรากฏตัวขึ้นมาอย่างกะทันหัน เขาก็เม้มริมฝีปากแน่น แล้วหันไปสบสายตากับฉินอี
ที่แท้เพราะเขาสัมผัสได้ว่ามีคนกำลังจะมานั่นเอง…
อีกทั้งคนผู้นั้นคือเจียงอวี่เฉิง!
ไม่อยากจะคิดเลยถ้าตอนที่เจียงอวี่เฉิงมาถึง แล้วเห็นว่าเขากำลังจะฆ่าซั่งกวนหว่านพอดีผลจะเป็นอย่างใด!
แต่ถึงอย่างนั้น…แล้วฉู่หลิวเยว่ล่ะ?
เชียงหว่านโจวมองไปที่เหวลึก จากนั้นก็กำกระบี่เมฆาสำริดที่อยู่ในมือจนแน่น
เจียงอวี่เฉิงกอดปลอบใจซั่งกวนหว่านอยู่ แต่สายตาก็สอดส่องไปรอบๆ ราวกับว่ากำลังหาคนอยู่
ระหว่างคิ้วมีร่องรอยของความกังวลปรากฏขึ้น
ฉินอีมองเห็นได้อย่างชัดเจน จึงอดที่จะลอบถอนหายใจไม่ได้ รอยยิ้มสะท้อนออกทางดวงตา
เขาพูดเสียงเบาว่า
“คุณชายเจียงมาที่นี่เร็วมาก พวกเราเพิ่งมาถึงที่นี่ ท่านก็ตามมาทันเสียแล้ว”
เจียงอวี่เฉิงชะงักไป
ระดับฝีมือของเขาดีไม่เท่าฉินอี อีกทั้งยังบาดเจ็บ ความจริงแล้วเขาไม่ควรมาถึงเร็วขนาดนี้
แต่ที่สำคัญก็คือเขาไม่ได้ตามพวกเขาทั้งสองคนมา แต่ก็ยังมาถึงที่นี่ เขาจึงไม่มีเหตุผลที่เหมาะสมที่จะพูดออกไป
“หลังจากที่พวกเจ้ามา ข้าก็ได้รับข้อความขอความช่วยเหลือ ดังนั้นข้าตามมาที่นี่”
เจียงอวี่เฉิงอธิบายให้ฟังอย่างคร่าวๆ
เขาไม่อยากจะเข้าไปพัวพันกับคนทั้งสองคน
ไม่ว่าพวกเขาจะเชื่อหรือไม่ แต่ก็ไม่มีสิทธิ์มาซักไซ้เขา
ท้ายที่สุดแล้วเขากับซั่งกวนหว่านก็คู่หมั้นกัน อีกทั้งฐานะสูงส่ง ถ้าจะมีไพ่ไม้ตายก็ถือเป็นเรื่องปกติ
เมื่อพูดจบ เขาโทษตัวเองแล้วพูดขึ้นอย่างเศร้าใจ
“หว่านเอ๋อร์ เหตุใดเจ้าถึงส่งข่าวมาช้าเยี่ยงนี้เล่า? พวกเราตามหาเจ้าจนจะแทบบ้าอยู่แล้ว!”
ซั่งกวนหว่านก็รู้ว่าเวลานี้ควรทำอันใด ยิ่งไปกว่านั้นตอนนี้นางก็อยากปิดบังตัวตนบางอย่างด้วยเช่นกัน
นางไม่ได้ตอบอันใด แต่กลับกอดเจียงอวี่เฉิงแน่นขึ้นและร้องไห้สะอึกสะอื้น!
สายตาของฉินอีมองสองคนนั้นด้วยความว่างเปล่า ราวกับว่าไม่ได้ต้องการจะซักไซ้ถามต่อ
“อย่างนี้นี่เอง”
เจียงอวี่เฉิงลอบถอนหายใจอย่างโล่งอก จากนั้นก็มองไปรอบๆ ก่อนจะถามว่า
“หว่านเอ๋อร์ ที่นี่…มีเจ้าอยู่คนเดียวหรือ?”
ซั่งกวนหว่านซบอยู่ในอ้อมกอดของเขา ไม่มีใครสามารถเห็นสีหน้าของนางได้
“…อื้อ”
ซั่งกวนหว่านพยักหน้าหงึกหงัก น้ำเสียงหม่นหมอง
นี่นาง…กำจัดฉู่หลิวเยว่ไปแล้วใช่หรือไม่?
เจียงอวี่เฉิงชะงักไป ในใจก็รู้สึกเสียใจและหมดอาลัยตายอยาก…
ราวกับมีใครเอาเข็มค่อยๆ แทงที่หัวใจของเขาทีละเล่มๆ เขาจึงรู้สึกเจ็บปวดอย่างต่อเนื่อง
ความจริงแล้วในใจของเขาก็รู้สึกลังเลอย่างมาก
ด้านหนึ่งคือฉู่หลิวเยว่ที่น่าจะเดาออกแล้วว่าซั่งกวนหว่านกำลังทำอันใด ถ้าพูดจากจุดนี้ ก็จำเป็นจะต้องกำจัดนางทิ้ง มิเช่นนั้นนางจะต้องเป็นหอกข้างแคร่!
ส่วนอีกด้านในใจของเขาก็รู้สึกเป็นห่วงอยู่ตลอดเวลา อยู่ไม่เป็นสุข เมื่อนึกถึงภาพเหตุการณ์ที่ซั่งกวนหว่านจัดการฉู่หลิวเยว่เขาก็รู้สึกเสียใจอย่างมาก
เดิมทีเขาไม่ได้วางแผนว่าจะมาที่นี่
แต่หลังจากที่ได้สติ เขาก็มาหยุดยืนอยู่ตรงนี้เสียแล้ว
เหมือนเขาได้รับแรงขับเคลื่อนจากอันใดบางอย่างในความมืด
เจียงอวี่เฉิงไม่กล้าคิดมาก เหมือนว่ามันเป็นข้อห้ามที่อยู่ในใจ
ถ้าสัมผัสแล้วมันจะต้องพังทลายอย่างสมบูรณ์แน่นอน!
และซั่งกวนหว่านล้วนไม่รู้เรื่องนี้อย่างแน่นอน
นางคิดเพียงแค่ว่าที่เจียงอวี่เฉิงมาที่นี่ก็เพราะว่าเป็นห่วงนาง
ท้ายที่สุดแล้วเขาก็รู้ว่าเหตุใดนางมาที่แดนภังคะนี้
เมื่อคิดถึงตรงนี้ ในใจของซั่งกวนหว่านก็รู้สึกแค้นเคืองอย่างมาก
อีกเพียงแค่นิดเดียวเส้นชีพจรของนางก็จะสามารถฟื้นฟูได้แล้ว!
ถ้าไม่ใช่เพราะฉู่หลิวเยว่…
เจียงอวี่เฉิงหลับตาลง
เมื่อเห็นฉากที่วุ่นวาย ก่อนหน้านี้ที่นี่จะต้องมีสงครามครั้งยิ่งใหญ่มาก่อนแน่นอน
เขาขมวดคิ้วแน่น
น่าแปลก
ถ้าซั่งกวนหว่านจะฆ่าฉู่หลิวเยว่ก็ต้องเป็นเรื่องง่ายดายไม่ใช่หรือ เหตุใดถึงต้องทำให้มันวุ่นวายขนาดนี้ด้วย?
หรือว่าเพราะกษายะหางวายุตัวนั้น
“ในเมื่อคุณชายเจียงมาแล้ว เช่นนั้นก็ช่วยพาองค์หญิงสามออกไปเถิด”
ฉินอีพูดขึ้น
“ข้าจะลงไปดูข้างล่าง ว่ามันเกิดอันใดขึ้นกันแน่?”
เจียงอวี่เฉิงมองไปตามสายตาของเขา จากนั้นก็เข้าใจได้ทันทีว่าฉินอีนั้นกำลังหมายถึงอันใด
คาดไม่ถึงว่าเขาจะกระโดดลงไปในเหวลึกประหลาดที่มีแสงสีเขียวส่องออกมา
“เจ้า…”
“เจ้าคิดจะทำอันใด?”
ซั่งกวนหว่านได้ยินดังนั้นก็หันขวับไป ก่อนจะถามด้วยความตื่นตระหนก
ในเมื่อนางฆ่าฉู่หลิวเยว่แล้ว นางก็ไม่อนุญาตให้ใครก็ตามลงไปช่วยเด็ดขาด!
เจียงอวี่เฉิงลูบไหล่ของนางเป็นการปลอบใจ แล้วพูดโน้มน้าวด้วยเสียงอ่อนโยนอย่างใจเย็นว่า
“หว่านเอ๋อร์ คุณชายฉินน่าจะแค่…”
เสียงของเจียงอวี่เฉิงหยุดชะงัก แล้วรีบผลักตัวซั่งกวนหว่านออกไปราวกับเห็นผี!
ใบหน้าที่เคยงดงามแต่ตอนนี้กลับมีเลือดไหลพราก น่ากลัวเหมือนกับผี