ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ - ตอนที่ 818 การตายขององค์หญิงใหญ่
ตอนที่ 818 การตายขององค์หญิงใหญ่
หัวใจของซย่าโหวถิงอันเต้นระส่ำ
ความจริงในใจของเขาก็รู้อยู่ว่าการตายขององค์หญิงนั้นมีอันใดประหลาดไป ไม่เช่นนั้นโอสถเก้าสวรรค์ฟื้นคืนคงไม่มาอยู่ในมือของพ่อเขาหรอก
เขาไม่ได้โง่ เขารู้ว่าอันใดถามได้ อันใดถามไม่ได้
ดังนั้นต่อให้ในใจของเขาจะคาดเดาเอาไว้เสมอ แต่เขาไม่เคยพูดอย่างตรงไปตรงมากับพ่อของเขาเลยสักครั้ง แต่เมื่อได้ยินคำพูดเหล่านี้ หัวใจของซย่าโหวถิงอันจึงเต้นระรัวมากยิ่งขึ้น
ในตอนนั้นเอง เขาก็ไม่มีความคิดที่จะถอยออกมา เขาไม่อยากฟังมันอีกต่อไปแล้ว
เขารู้ว่า เรื่องเช่นนี้ถ้ารู้เรื่องเยอะมากเท่าไร ก็จะยิ่งอันตรายมากขึ้นเท่านั้น!
แต่ในตอนที่เขากำลังลังเลอยู่นั้นเอง ภายในห้องก็มีเสียงอีกเสียงหนึ่งดังขึ้นมา
“เหอะ ตั้งแต่เขาร่วมมือวางแผนกับองค์หญิงสามเพื่อกำจัดองค์หญิงใหญ่แล้ว เจ้าก็น่าจะรู้ได้แล้วว่าเขาเป็นคนอย่างใด”
ซย่าโหวถิงอันขมวดคิ้วแน่น
เสียงนี้ฟังดูแล้วคุ้นหูอย่างมาก…
“ตอนแรกองค์หญิงใหญ่นั้นดูแลเขาเป็นอย่างดี หากไม่มีองค์หญิงใหญ่ เจียงอวี่เฉิงจะต้องตายไปไม่รู้กี่รอบแล้ว คนที่เนรคุณเช่นนี้ มีเรื่องอันใดที่ทำไม่ได้บ้าง? แต่ว่าทั้งพวกเราและเขาได้เอาของที่ต้องการออกมาแล้ว จึงไม่ต้องคิดเล็กคิดน้อยมากขนาดนั้น”
ซย่าโหวหรงพูดขึ้นมาด้วยความโกรธ
“จะไม่คิดเล็กคิดน้อยได้อย่างใด? ครั้งนี้ต้องใช้ประโยชน์จากงานแต่งงานของเจียงอวี่จือ เขาจึงต้องการโอสถเก้าสวรรค์ฟื้นคืนกลับไปอย่างใดเล่า ตั้งแต่ต้นจนจบข้าแค่ใช้ตะกร้าไม้ไผ่ตักน้ำ เหลือเพียงความว่างเปล่า!”
ตอนแรกเขาคิดว่าเพราะโอสถเก้าสวรรค์ฟื้นคืนถึงได้ร่วมมือกับเจียงอวี่เฉิง คิดไม่ถึงตอนนี้ทั้งสองอย่างก็ยังไม่ได้อยู่ในมือ
“ใครใช้ให้คุณชายรองของเจ้าสร้างความวุ่นวายที่หอชุนเฟิงขนาดนั้นเล่า? ถึงปล่อยให้ตระกูลเจียงได้เปรียบเสียขนาดนั้น?หากไม่ใช่เรื่องแบบนั้น เดิมทีพวกเราก็ยังจะสามารถสู้กับพวกเขาหน่อย แต่ตอนนี้…จึงทำได้เพียงถอยก่อนเท่านั้น”
เมื่อได้ยินพวกเขาพูดถึงตัวเอง เส้นประสาทของซย่าโหวถิงอันก็ตึงเครียดขึ้นมาทันที
หลังจากนั้นเขาก็ได้ยินเสียงซย่าโหวหรงถอนหายใจ ก่อนจะพูดขึ้นว่า
“ในบรรดาลูกชายทั้งหมด ข้าชอบเขามากที่สุด กอปรกับในช่วงหลังมานี้เจียงอวี่จือก็ชอบเขาด้วย จึงทำให้ข้าชอบเขามากยิ่งขึ้นไปอีก เดิมทีข้าคิดว่าหลังจากจัดงานแต่งงานเรียบร้อยแล้ว จะมอบให้เขาสืบทอดตำแหน่งของข้าอย่างราบรื่น แต่ใครจะคิดเล่าว่า…เขาจะไม่เอาการเอางานเช่นนี้!”
ซย่าโหวหรงเกลียดที่หลอมเหล็กให้เป็นเหล็กกล้าไม่ได้
หลังจากรู้ว่าซย่าโหวถิงอันนอนกับเด็กสาวที่หอชุนเฟิง เขาก็รู้ว่านี่มันเป็นเรื่องใหญ่แล้ว
เดิมทีเขาคิดจะให้ซย่าโหวถิงอันเดินเข้าไปรับผิดที่จวนตระกูลเจียง แต่ใครจะรู้ว่าเขาจะไม่รักดี กลับไม่ยอมพูดอันใดสักคำเลย!
สุดท้ายเขาจึงต้องไล่อีกฝ่ายออกจากจวนชย่าโหว!
เมื่อได้ยินดังนั้น ซย่าโหวถิงอันก็ไม่ได้รู้สึกอันใดมาก
ในตอนที่เขากำลังลังเลว่าจะไปรับผิดดีหรือไม่ แต่เขากลับได้ยินเสียงหัวเราะของชายอีกคนดังขึ้น
“ไม่เอาการเอางานแล้วเกี่ยวอันใดด้วยเล่า? ยังมีคุณชายสามอยู่ไม่ใช่หรือ? สำหรับข้าแล้ว ข้าว่าเขามีเหตุผลและรอบคอบมากกว่าคุณชายรองเสียอีก ตั้งแต่มีข่าวว่าจะได้แต่งงานกับเจียงอวี่จือ เขาก็แสดงท่าทีเหมาะสมมาโดยตลอด ได้ยินมาว่าหลายวันนี้เขาไปที่ตระกูลเจียง เพื่ออยู่กับเจียงอวี่จือตลอด ความสัมพันธ์ของทั้งสองก็พัฒนาไปได้ไม่เลวเลย”
ซย่าโหวหรงหัวเราะขึ้น
“เจ้าก็พูดได้ถูกต้อง เพราะว่าภูมิหลังของมารดาของเขานั้นต่ำต้อย ข้าจึงไม่ได้สนใจเขามากเท่าไรนัก หลายปีมานี้เขาก็ไม่ทำตัวให้เป็นจุดสนใจ คิดไม่ถึงเลยว่าเขาจะจัดการกับเรื่องเช่นนี้ได้! และยังจัดการได้ดีกว่าพี่รองของเขาตั้งไม่รู้กี่เท่า! หลังจากนี้เกรงว่าลูกรองจะกลายเป็นตัวไร้ประโยชน์แล้ว ปล่อยให้เขาสำนึกเองก็พอ”
ซย่าโหวถิงอันสับสนอย่างมาก
ต่อจากนั้นพวกเขาพูดอันใดต่อ ตัวเขาเองก็ฟังไม่สะดวกแล้ว
ในหัวสมองของเขาเต็มไปด้วยคำพูดไม่กี่ประโยคของซย่าโหวหรง
นี่มันเพิ่งผ่านไปแค่ไม่กี่วันเอง คนชั้นต่ำอย่างซย่าโหวอวี้ซู่กลับสามารถครอบครองตำแหน่งของเขาได้อย่างสมบูรณ์แล้ว!?
ความลังเลสุดท้ายที่อยู่ภายในใจของซย่าโหวถิงอันก็จางหายไปหมดสิ้นแล้ว
“…ตอนนี้อำนาจของเจียงอวี่เฉิงก็ได้ปกคลุมทั่วทั้งเมืองซีหลิงแล้ว หากคิดจะไปต่อสู้กับเขาก็เป็นเรื่องที่ไม่ค่อยฉลาดเท่าไร” ผู้ชายคนนั้นพูดเกลี้ยกล่อมขึ้น
ซย่าโหวหรงแค่นหัวเราะอย่างเย็นชา
“ถ้าเขามาบังคับข้า ข้าจะเปิดเผยทุกสิ่งทุกอย่างที่เขาทำเอาไว้ในตอนแรกออกมาทั้งหมด! ถ้าไม่ใช่เพราะการปลอมแปลงเอกสารฉบับนั้น ตอนนั้นองค์หญิงใหญ่จะให้สิบสามผู้พิทักษ์เยว่ออกจากซีหลิงได้อย่างใด? ตราบใดที่สิบสามผู้พิทักษ์เยว่ยังอยู่ เจียงอวี่เฉิงไม่มีทางสำเร็จอย่างแน่นอน! หากเขาจะมาบังคับข้าครั้งแล้วครั้งเล่า ก็อย่าโทษว่าปลาตายตาข่ายขาด*ก็แล้วกัน”
ซย่าโหวถิงอันเอามือกุมหน้าอกเอาไว้ หัวใจเต้นอย่างบ้าคลั่ง ดวงตาเบิกกว้างด้วยความตกตะลึง!
เป็นเช่นนี้นี่เอง!
เป็นเช่นนี้นี่เอง!
ตอนแรกเมื่อองค์หญิงใหญ่เกิดเรื่อง แต่สิบสามผู้พิทักษ์เยว่กลับไม่ได้อยู่ที่ซีหลิง
ทุกคนต่างคิดว่าพวกเขาล้วนมีปัญหาอยู่ที่ชายแดน องค์หญิงใหญ่จึงส่งผู้พิทักษ์เยว่ทั้งสิบสามออกไปตรวจสอบ แต่ก็ไม่กลับมาเลย
หลังจากนั้นไม่นาน เจียงอวี่เฉิงก็ออกมาประกาศว่าสิบสามผู้พิทักษ์เยว่ได้ทรยศผู้เป็นนาย จึงมีคำสั่งให้ติดตามไล่ฆ่าเขา!
นอกเสียจากคนสำคัญไม่กี่คน ไม่มีใครรู้ว่าเหตุใดองค์หญิงใหญ่ถึงต้องส่งสิบสามผู้พิทักษ์เยว่ออกไปพร้อมกันทั้งหมด
ถ้าดูตามลักษณะนิสัยของนางแล้ว นางจะส่งคนออกไปทำภารกิจแค่ไม่กี่คนเท่านั้น และจะเหลือคนเอาไว้ข้างกายเสมอ
คิดไม่ถึงเลยว่าเป็นบิดาแท้ๆ ของเขาเป็นคนลอบตีเฉินชัง**….
“เจียงอวี่เฉิงในตอนนี้ ไม่สามารถเอามาเปรียบได้แล้ว… ยิ่งเจ้าเป็นคนพูดเรื่องเช่นนี้ออกไป ใครเล่าจะเชื่อ? การตายขององค์หญิงใหญ่ โคจรอยู่รอบกาย ไม่ว่าเจ้าหรือข้าก็ยังพัวพันอยู่ในวงโคจรนั้น!”
เมื่อสิ้นเสียงนั้น คนทั้งสองคนที่อยู่ในห้องก็เงียบไปเป็นเวลานาน
ไม่รู้ว่าผ่านไปนานเท่าไร ผู้ชายคนนั้นก็ดูเหมือนว่าจะตัดสินใจจะกลับแล้ว
“ช่างเถิด อย่าพูดถึงเรื่องเหล่านี้ขึ้นมาอีกเลย เพื่อไม่ให้มีปัญหาเกิดขึ้นอีก…”
เขายังไม่ทันพูดจบ แต่ที่กลางสวนหย่อมก็มีเสียงดังขึ้น!
“ใคร!?”
ซย่าโหวหรงที่อยู่ภายในห้องก็ตะโกนขึ้นเสียงดังลั่น! แล้วรีบพุ่งตัวออกไปจากห้องหนังสือทันที!
หัวใจของซย่าโหวถิงอันแทบจะหลุดออกมาจากอกแล้ว!
แต่ตอนที่เขาออกมา เขาเห็นเงาคนปรากฏขึ้นในอีกด้านหนึ่ง
ซย่าโหวหรงที่เพิ่งเดินออกมา ก็เห็นเงากลุ่มนั้นวิ่งผ่านไปพอดี!
ในใจของเขามีประกายความเคียดแค้น เขารีบวิ่งตามออกไปทันที!
ก่อนหน้านี้เขาได้สั่งให้คนออกไปจากบริเวณนี้แล้ว
กอปรกับเมื่อพูดถึงเจียงอวี่เฉิง ความโกรธที่อยู่ภายในท้องก็ปะทุออกมา ทำให้เขาหลงลืมไปชั่วขณะ นี่เป็นเพราะความเป็นประมาทของเขาเอง แต่คาดไม่ถึงว่าจะมีคนลักลอบเข้ามาโดยที่เขาไม่รู้ตัว!
ไม่รู้ว่าคนผู้นั้นได้ยินสิ่งที่เขาพูดไปมากน้อยเท่าใด!
เมื่อคิดมาถึงตรงนี้ ชย่าโหวหรงก็รู้สึกประหม่ามากขึ้นกว่าเดิม ภายในใจร้อนรุ่มดั่งไฟ!
หากมีคนรู้เรื่องนี้แล้วเอาเรื่องนี้ป่าวประกาศออกไป…ผลลัพธ์ที่ว่าจะต้องไม่น่าดูอย่างแน่นอน!
คนที่อยู่ภายในห้องก็ติดตามชย่าโหวหรงออกไปด้วย!
แต่เขาไม่ได้ไล่ตามคนผู้นั้นออกไป แต่กลับเปลี่ยนทิศทางแล้วกระโดดออกจากจวนหลังนี้
เดิมทีซย่าโหวถิงอันก็อยากรู้อยู่แล้วว่าคนผู้นั้นคือใคร แต่เขาก็กลัวว่าฐานะของเขานั้นจะถูกเปิดเผยออกมา
ดังนั้นเขาจึงไม่กล้าขยับซี้ซั้ว เขาจึงเห็นแผ่นหลังของคนผู้นั้นจากไปในคืนเดือนมืดเท่านั้น
หลังจากที่เขาครุ่นคิดแล้ว เขาก็ยังนึกตัวตนของคนผู้นั้นไม่ออกอยู่ดี
หลังจากนั้นไม่นานเขาก็ต้องโยนเรื่องนี้ทิ้งออกไป
เพราะว่าในตอนนี้ห้องหนังสือ…ว่างเปล่าไร้คนแล้ว!
นี่เป็นโอกาสดีที่จะลงมือ!
ก่อนที่ซย่าโหวหรงจะออกไป เขาได้กางม่านพลังเอาไว้ด้านในแล้ว
แต่มันไม่เป็นปัญหาเลยสำหรับซย่าโหวถิงอัน
…เพราะว่าเขาเป็นลูกรักมาตั้งแต่เด็ก ดังนั้นบนตัวของซย่าโหวถิงอันจึงมียันต์ที่สามารถทำม่านพลังของซย่าโหวหรงได้
เขาหยิบยันต์ใบนั้นออกมา แสงสว่างวาบขึ้นมา
ทันใดนั้นพลังที่ราวกับระลอกคลื่นก็ปรากฏขึ้นตรงหน้าของเขา!
จากนั้นเขาก็ถ่ายเทพลังดั้งเดิมลงไปในยันต์นั้น ก่อนจะแปะลงไปที่ม่านพลัง
ตอนนั้นเองช่องว่างก็ปรากฏขึ้นทันที
เขาสาวเท้าก้าวเข้าไป
แต่ในตอนนั้นเขาสัมผัสได้ว่ามีเงาร่างหนึ่งตามมาอยู่ที่ด้านหลังของเขา
*ปลาตายตาข่ายขาด แปลว่า ตกตายไปพร้อมกัน
**ลอบตีเฉินชัง ยุทธศาสตร์ที่หลอกล่อศัตรูหลงงงงวยในด้านหน้า แล้วโจมตีอย่างฉับพลันในด้านข้าง เป็นการส่งเสียงบูรพาฝ่าตีประจิม อันเป็นกุศโลบายและแผนการพิชิตด้วยกลยุทธอันปาฏิหาริย์ ยังเป็นการอุปมาถึงการดำเนินปฏิบัติการอย่างเงียบๆ