ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ - ตอนที่ 821 ความฝันไร้สาระ
ตอนที่ 821 ความฝันไร้สาระ
ซั่งกวนหว่านตัวแข็งทื่อไปทันที
แต่นางก็ได้สติกลับคืนมาอย่างรวดเร็ว ใบหน้าของนางมีรอยยิ้มประดับเล็กน้อย แล้วถามอีกฝ่ายอย่างไม่ตั้งใจ
“ใต้เท้าอวี่เหวินหมายความว่าอย่างใด?”
อวี่เหวินเว่ยชะงักไปเล็กน้อยก่อนจะอธิบายว่า
“คือว่า…ท่านก็รู้ว่า ตอนแรกองค์หญิงใหญ่ตั้งใจจะจัดเตรียมงานมงคลสมรสอยู่แล้ว ความจริงแล้วเรื่องเหล่านี้ได้ตระเตรียมเสร็จหมดแล้ว อีกทั้งยังทำตามมาตรฐานระดับสูง ท่านมองว่าจะทำตามองค์หญิงใหญ่ หรือว่า….ท่านจะปฏิบัติตามพิธีการขององค์หญิงทั่วไป?”
แม้ว่าคำพูดของเขาจะเป็นคำพูดที่สลวยสวยหรู แต่ซั่งกวนหว่านก็เข้าใจความหมายของเขาได้อย่างดี
นั้นเพราะว่าซั่งกวนเยว่ไม่ได้จัดพิธีมหามงคลสมรสอย่างยิ่งใหญ่เฉกเช่นองค์หญิงองค์อื่นๆ แต่เป็นการยกระดับงานพิธีให้ก้าวขึ้นไปอีกขั้น
ไม่ต้องสงสัยเลย เพราะในฐานะที่นางเป็นองค์หญิงใหญ่นั่นเอง!
ราชวงศ์เทียนลิ่งสืบทอดมาอย่างยาวนานกว่าพันปี เมื่อจักรพรรดิของพวกเขาจัดงานราชาภิเษกจึงจำเป็นต้องจัดอย่างยิ่งใหญ่
โดยทั่วไปแล้วองค์หญิงก็เป็นคนในราชวงศ์ การปฏิบัติตนต่อเบื้องสูงก็เป็นแบบเดิมกัน
แต่สำหรับซั่งกวนเยว่แล้วนั้น พิธีของนางจะยิ่งใหญ่กว่าที่เคยจัดมา!
นั่นเป็นเพราะหลังจากที่สืบทอดเชื้อสายองค์ไท่จู่ นางคือคนที่สองที่มีชีพจรเทียนจิงของราชวงศ์เทียนลิ่ง
และเพราะเช่นนี้ จึงได้ใช้แรงและเงินจำนวนนับไม่ถ้วนลงไปเพื่อจัดเตรียมงานมหามงคลเช่นนี้ และประชาชนทั่วทั้งเมืองซีหลิงก็ไม่มีใครคัดค้านเลยแม้แต่คนเดียว!
ในมุมมองของพวกเขา พวกเขาคิดว่านี่เป็นสิ่งที่องค์หญิงใหญ่สมควรได้รับแล้ว
แต่ตอนนี้เปลี่ยนเป็นซั่งกวนหว่านแล้ว
แม้ว่าซั่งกวนหว่านจะกุมอำนาจเอาไว้ทั้งหมด แต่ความนิยมก็ไม่ได้เทียบเท่าองค์หญิงใหญ่เลย
ดังนั้นหากพูดตามหลักการแล้ว นางควรจะปฏิบัติตามพิธีการขององค์หญิงเท่านั้น
แต่อย่างใดก็ตามอวี่เหวินเว่ยรอบคอบอย่างมาก จึงเดินทางมาสอบถามนางเสียก่อน เพื่อไม่ให้เกิดเหตุผิดพลาด
ซั่งกวนหว่านยืนตัวตรง ประสานมือทั้งสองไว้ที่ด้านหน้า
สีหน้าของนางก็ยังสงบนิ่งอย่างมาก แต่มือที่ประสานกันอยู่ในแขนเสื้อก็บีบแน่น!
สำหรับนางแล้ว คำถามนี้เป็นคำถามที่สร้างความอัปยศให้นาง
ตั้งแต่เด็กจนโต ซั่งกวนเยว่ดีกว่านางทุกอย่าง!
ตั้งแต่เรื่องเล็กอย่างพู่กัน จนถึงเรื่องใหญ่อย่างเช่นตำหนัก!
ทุกๆ ด้าน ซั่งกวนเยว่ล้วนกดหัวนางเอาไว้ตลอด!
ในที่สุดตอนนี้ซั่งกวนเยว่ก็ตายแล้ว นางจะเหยียบย่ำกระดูกของอีกฝ่ายเอาไว้ที่ใต้เท้า!
เดิมทีนางคิดว่านางสามารถเอาชนะซั่งกวนเยว่ได้ตลอดกาลแล้ว แต่นางกลับค่อยๆ พบว่ามันไม่ใช่แบบนั้นเลย
อย่างเช่นพิธีการงานมหามงคลสมรสนี้
แน่นอนว่าในใจนางต้องการจัดงานโดยใช้พิธีการอย่างเดียวกับซั่งกวนเยว่ แต่ว่านางทำไม่ได้
…เพราะนางรู้ดีว่าหากเลือกจัดพิธียิ่งใหญ่ขนาดนั้นจะเกิดเรื่องยุ่งยากอย่างใดกับนางบ้าง!
นางเงียบไปครู่หนึ่ง จากนั้นซั่งกวนหว่านก็พูดขึ้นมา
นางพยายามบังคับเสียงของตัวเองให้สงบนิ่งมากที่สุด
“ข้าจะเทียบกับพี่หญิงใหญ่ได้อย่างใด? จัดพิธีตามกฎขององค์หญิงก็พอ!”
มุมปากของนางยกขึ้นเป็นรอยยิ้มเล็กน้อยแต่แววตายังมีความเย็นชาอยู่
อวี่เหวินเว่ยจึงพยักหน้า
“พ่ะย่ะค่ะ ทั้งหมดจะเป็นไปตามพระประสงค์ของฝ่าบาท นอกจากนี้…”
เขาชะงักไปเล็กน้อย ท่าทางลังเลที่จะพูดออกมา
ซั่งกวนหว่านเลิกคิ้วขึ้น
“ใต้เท้าอวี่เหวินยังมีเรื่องอันใดอีกหรือ?”
“…ความจริงแล้วหม่อมฉันยังมีอีกเรื่องที่ต้องการคำแนะนำจากฝ่าบาทพ่ะย่ะค่ะ นั่นก็คือ… สิ่งของที่องค์หญิงใหญ่ได้ตระเตรียมสำหรับงานแต่งงาน มีบางส่วนจัดการแล้ว และยังมีอีกบางส่วนที่ยังไม่ได้เคลื่อนย้ายไปไหน เช่น สมบัติบางอย่างที่เลือกออกมาเพื่อใช้ในงานมหามงคลนี้โดยเฉพาะ…ท่านคิดว่าควรจะจัดการอย่างใดกับมันดีพ่ะย่ะค่ะ?”
ตอนแรกงานมงคลสมรสของซั่งกวนเยว่นั้นจะจัดอย่างยิ่งใหญ่ที่สุดและหรูหราที่สุด
เครื่องประดับทุกชิ้นที่เลือกใช้มาล้วนเป็นของที่ถูกคัดสรรมาอย่างดี
แค่หยิบส่งๆ มาสักอย่าง ก็จะเห็นว่ามันมีค่าอย่างมหาศาล
เท่าที่ซั่งกวนหว่านรู้ ตอนนั้นพวกเขาเตรียมพรมแดงเอาไว้ด้วยตนเอง มันถูกถักทอด้วยน้ำแข็งกำมะหยี่ที่มีค่ามากที่สุด นอกจากนั้นด้านบนยังฝังอัญมณีจำนวนมากมายนับไม่ถ้วนอีกด้วย
เรียกว่าได้ว่าล้ำค่าอย่างที่สุด เดินหนึ่งก้าวมีค่าดั่งทอง!
แค่พรมแดงผืนเดียวยังทำให้คนตกใจมากเสียขนาดนี้ เรื่องอื่นๆ ยิ่งไม่ต้องพูดถึง ทั้งหมดล้วนล้ำค่าอย่างยิ่ง!
ตอนนี้อวี่เหวินเว่ยกำลังถามนางว่า นางจะใช้ของเหล่านี้หรือไม่
ด้านหนึ่ง องค์หญิงใหญ่สวรรคตจากอุบัติด่วนจากไปก่อนที่จะแต่งงาน หากใช้ของเหล่านี้ก็เกรงว่าจะไม่เหมาะสม
อีกด้านหนึ่ง สิ่งเหล่านี้ก็ถูกตระเตรียมด้วยคนจำนวนมาก ถ้าหากให้เตรียมใหม่อีกครั้งก็คงเป็นเรื่องที่ยุ่งยาก
ซั่งกวนหว่านสะกดกลั้นความโมโหที่อยู่ในใจเอาไว้ นางหลับตาลง แล้วถอนหายใจยาวๆ
“ท้ายที่สุดแล้วของเหล่านี้ก็เป็นของพี่หญิงใหญ่ เมื่อข้าเห็นของเหล่านี้ก็จะพาลนึกถึงเรื่องในอดีต ในใจจึงเสียใจอย่างมาก ดังนั้นไม่ต้องใช้หรอก เอาของเหล่านั้นเก็บไปให้ดี”
สีหน้าของอวี่เหวินเว่ยเปลี่ยนไปเล็กน้อย
ความจริงแล้วเขาคิดว่าซั่งกวนหว่านจะเลือกใช้สิ่งของบางส่วนจากเหล่านี้ด้วยซ้ำ
เรื่องเหล่านี้ไม่เกี่ยวกับเงินเลย
เพราะว่าทุกครั้งที่สมาชิกของราชวงศ์เทียนลิ่งจะมีงานมงคล มีของบางอย่างที่ไม่ได้สั่งให้จัดทำขึ้นมาใหม่ แต่จะใช้ของที่มีอยู่ก่อนหน้านี้
หนึ่ง เพื่อแสดงให้เห็นการสืบทอดอำนาจ อีกด้านหนึ่งก็แสดงให้เห็นถึงความเกี่ยวพันทางสายเลือด
แต่คิดไม่ถึงว่าซั่งกวนหว่านจะไม่ใช้มันเช่นนี้…
“ฝ่าบาท หากจะต้องเปลี่ยนใหม่ทั้งหมด เกรงว่าเวลาอาจจะกระชั้นชิด…”
“นี่คือสิ่งที่ใต้เท้าอวี่เหวินต้องจัดการ หรือว่าเจ้าจะต้องให้ข้าทำเรื่องเหล่านี้ด้วยตนเอง?”
ในใจของซั่งกวนหว่านนั้นหมดความอดทนแล้ว น้ำเสียงที่พูดก็เย็นชาขึ้นเล็กน้อย
อวี่เหวินเว่ยเข้าใจในคำพูด และรีบตอบรับทันที
“พ่ะย่ะค่ะ ฝ่าบาทได้โปรดวางใจ หม่อมฉันจะทำอย่างสุดความสามารถ!”
ความโกรธของซั่งกวนหว่านก็ลดลงเล็กน้อย เหลือเพียงแววตาและหัวคิ้วเท่านั้นที่หลงเหลือความเย็นชาเอาไว้
“หากฝ่าบาทไม่มีเรื่องที่จะสั่งการแล้วละก็ หม่อมฉันทูลลาพ่ะย่ะค่ะ”
ซั่งกวนหว่านโบกมือไล่
อวี่เหวินเว่ยคำนับหนึ่งครั้ง จากนั้นก็เดินออกไป
จนกระทั่งเงาร่างของเขาเดินผ่านพ้นประตูออกไปแล้ว แต่ความโกรธของซั่งกวนหว่านก็ยังไม่จางหายไป
ที่อวี่เหวินเว่ยเดินทางมาครั้งนี้ ทำให้นางรู้สึกขยะแขยงขึ้นมา!
เดี๋ยวก็องค์หญิงใหญ่ เดี๋ยวก็องค์หญิงใหญ่!
คนตายมาเกือบจะสองปีแล้ว จะไปพูดถึงนางอีกเหตุใด!
“เอาล่ะ อย่าคิดเรื่องที่มันไร้สาระเลย รีบหาวิธีทางฟื้นคืนเส้นชีพจรของเจ้าให้ฟื้นกลับมาโดยเร็วจะดีกว่า!”
ทันใดนั้นเสียงแหบพร่าเย็นชาก็ดังขึ้นในสมองของนาง
ตัวของซั่งกวนหว่านสั่นสะท้านไปทั้งตัว แววตาเต็มไปด้วยความตกใจหวาดกลัว
“…เจ้าค่ะ! เจ้าค่ะ!”
“หากเส้นชีพจรของเจ้ายังไม่ฟื้นคืน เมื่อถึงตอนนั้นเจ้าก็ไม่สามารถปิดบังคนจำนวนมากได้อย่างแน่นอน แล้วเจ้าจะยกคทานั้นขึ้นหรือ?”
คำพูดเหล่านี้ทิ่มแทงซั่งกวนหว่านอย่างมาก
นี่เป็นสิ่งที่นางกังวลมาโดยตลอด!
“ผู้อาวุโสพูดได้ถูกต้อง!”
“ก่อนหน้านี้ข้าก็ให้เจ้าเรียกคนเข้าวัง แต่เจ้าก็กลัวอย่างยิ่ง ตอนนี้หากเจ้ายังไม่ลงมืออีก เจ้าก็จะไม่มีเวลาแล้ว!”
ซั่งกวนหว่านปวดหัวอย่างมาก
“แต่…แต่ถ้าทำอย่างโจ่งแจ้งเช่นนี้ มันจะทำให้คนอื่นรู้สึกสงสัยขึ้นมาได้…”
ก่อนหน้านี้นางได้ดูดพลังจากหยางซิ่นเอ๋อร์มาส่วนหนึ่ง หลังจากเรื่องเปิดเผยขึ้น ก็ทำให้คนสงสัยอยู่เป็นระยะเวลานาน และเจียงอวี่เฉิงก็ยังตำหนินางอย่างรุนแรงอีกด้วย!”
ตอนนี้นางไม่กล้าแล้วจริงๆ…
เสียงนั้นหัวเราะออกมาอย่างเย็นชา
“หากเจ้าไม่กล้าเรียกพวกเขาเข้ามา เจ้าก็ไปหาพวกเขาเองเลยสิ มันก็ได้แล้วไม่ใช่หรือ?”
“ออกไป? แต่ว่า…”
“วางใจเถอะ เมื่อถึงตอนนั้นข้าจะช่วยเจ้าเอง”
“…เจ้าค่ะ!”
…
หลังจากที่ตู๋กูโม่เป่าและคนอื่นๆ จากไปแล้ว ฉู่หลิวเยว่ก็ยังมองไปที่แผ่นหลังสีดำนั้น นางกำลังตกอยู่ภวังค์แห่งการตกตะลึง นางนิ่งไปนานไม่ได้สติกลับมาเสียที
เถ้าแก่ใหญ่…นางเคยเจอมาก่อน!
ก่อนหน้านี้นางต้องเจอได้พูดคุยพบปะกันอย่างแน่นอน!
อีกทั้งภาพมายาที่เหมือนฝันเหล่านั้น น้ำเสียงของเขาทั้งคุ้นหูและอ่อนโยนอย่างมาก
เขาเรียกนางว่า “เยว่เอ๋อ”!
การคาดเดาที่ไร้สาระของฉู่หลิวเยว่ก็เกิดขึ้น!
เขาคือ…