ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ - ตอนที่ 831 ลืมอันใดไป
ตอนที่ 831 ลืมอันใดไป
ก้านสีเขียวมรกตหักลงทันทีที่สัมผัสกับเลือดของฉู่หลิวเยว่ และเสียงดังแกร๊กก็ดังขึ้น!
หลังจากนั้นดอกบัวระบำก็ลอยออกมาอย่างเงียบๆ แล้วตกลงที่กลางฝ่ามือของฉู่หลิวเยว่!
ฉู่หลิวเยว่มองบัวระบำที่อยู่ในมือด้วยสายตาว่างเปล่า
นี่…นี่เกิดเรื่องอันใดขึ้นหรือ?
เมื่อครู่นี้นางยังไม่ทันได้ทำอันใดเลยนะ เหตุใดของสิ่งนี้ถึงรีบวิ่งเข้ามาในมือของนางได้ล่ะ?
แม้ว่าก่อนหน้านี้นางจะไม่เคยเจอบัวระบำด้วยตาตัวเอง แต่นางก็เคยอ่านตำราโบราณที่พรรณนาถึงสรรพคุณของมันเอาไว้
ด้านในนั้นเขียนเอาไว้ว่า ของสิ่งนี้ควรดึงดูดด้วยเลือดสดๆ…
แต่สุดท้ายแล้ววิธีการค่อนข้างลำบาก
ดังนั้นก่อนหน้านี้นางจึงเตรียมตัวมาไม่น้อยเลยทีเดียว เพราะนางกลัวว่าจะเกิดข้อผิดพลาดอันใดบางอย่างขึ้นมา แต่ว่าตอนนี้ เหมือนสิ่งที่นางเตรียมมานั้น…จะเปล่าประโยชน์?
ฉู่หลิวเยว่กะพริบตาปริบๆ และพบว่าหยดเลือดของนางได้ซึมเข้าไปในก้านบัวอย่างไร้เสียง กลีบดอกทั้งห้าก็รวมตัวขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ เมื่อมองดูแล้วมันช่างสดใสและงดงามอย่างมาก
เมื่อเห็นดังนี้ นางจึงรู้สึกว่าการดึงบัวระบำครั้งนี้ประสบความสำเร็จอย่างมาก
…แม้ความจริงแล้วนางจะไม่ได้ทำอันใดเลยก็ตาม
นอกจากนั้นมู่หงอวี่และคนอื่นๆ ที่มองอยู่ในระยะไกลๆ ก็เฝ้ามองเหตุการณ์ที่อยู่กลางทะเลสาบกระจกอย่างใกล้ชิด
ตอนที่พวกเขาเห็นว่าเมื่อฉู่หลิวเยว่ยื่นมือออกไป จากนั้นบัวระบำก็เข้ามาอยู่ที่กลางฝ่ามือของนาง ทุกคนก็รู้สึกมึนงงเล็กน้อย
มู่หงอวี่ยกมือขึ้นแล้วถามอย่างประหลาดใจว่า
“หรานหร่าน เมื่อครู่เจ้าเพิ่งพูดไม่ใช่หรือว่าการเก็บบัวระบำนั้นมันทั้งยากและอันตรายอย่างมาก แล้วเหตุใดข้าถึงเห็นหลิวเยว่สามารถเก็บดอกบัวนั้นขึ้นมาอย่างง่ายดายล่ะ…”
เย่หรานหร่านก็ตกตะลึงเช่นกัน
“ข้า…ข้าเองก็ไม่รู้เหมือนกัน!”
ก่อนหน้านี้ศิษย์พี่ของข้าเคยพูดถึงสมุนไพรชนิดนี้เช่นกัน ตอนนั้นเขายังกำชับกับพวกเราว่า หากเจอสมุนไพรชนิดนี้อย่าบุ่มบ่ามเข้าไปเก็บอย่างรวดเร็ว ไม่อย่างนั้นแล้วละก็ ไม่รู้ว่าจะได้ตายแบบใด แต่เมื่อครู่นี้ข้ากลับเห็นหลิวเยว่สามารถเก็บบัวระบำได้อย่างง่ายดายมาก…
พวกเขาก็รออยู่ริมทะเลสาบด้วยความประหม่า แต่ทว่ารอบข้างกลับดูไม่มีความผิดปกติใดๆ เลย!
ฉู่หลิวเยว่กระโดดขึ้นไปบนหลังของถวนจื่อ ชั่วพริบตาเดียวหนึ่งนายหนึ่งบ่าวก็กลับเข้ามาแล้ว
“หลิวเยว่…เจ้าไม่เป็นไรใช่หรือไม่?”
ในใจของเย่หรานหร่านยังรู้สึกประหลาดใจอยู่เลย จึงอดที่จะถามขึ้นไม่ได้ ในขณะเดียวกันสายตาของนางก็กำลังจับจ้องไปที่บัวระบำที่อยู่กลางฝ่ามือของอีกฝ่าย
มันนอนนิ่งๆ อยู่ตรงนั้น เหมือนกับดอกไม้ธรรมดาดอกหนึ่ง
ฉู่หลิวเยว่เองก็หัวเราะไม่ได้ร้องไห้ไม่ออก
“ข้าไม่เป็นไร”
โชคดีที่เมื่อครู่นางไม่ได้เตรียมตัวอันใดมากมายขนาดนั้น…
“วัตถุดิบวิเศษด้านการโจมตีอย่างบัวระบำมันดึงออกมาง่ายขนาดนี้เลยหรือ?”
เย่หรานหร่านบ่นพึมพำเสียงเบา ท่าทางดูสับสนและไม่เข้าใจ
ความจริงแล้วในใจของฉู่หลิวเยว่เองก็รู้สึกสงสัยอย่างมาก
เหมือนว่าบัวระบำนี้จะปฏิบัติต่อนางด้วยความอ่อนโยนอย่างมาก เมื่อครู่นี้มันยังหักก้านตัวเองลงมาที่มือของนางเลย
อีกทั้งนาง…ก็รู้สึกคุ้นเคยกับมันอย่างบอกไม่ถูก
ราวกับว่าเดิมทีบัวระบำชิ้นนี้ควรเป็นของนางอยู่แล้ว
ความรู้สึกเช่นนี้มันละเอียดอ่อนอย่างมาก แม้กระทั่งตัวของฉู่หลิวเยว่เองก็ไม่รู้ว่าจะอธิบายอย่างใด
หลังจากที่นางครุ่นคิดอยู่สักพักหนึ่ง จากนั้นนางก็พูดขึ้นว่า
“อาจจะเป็นเพียงเพราะข้าดวงดีละมั้ง”
เมื่อพูดจบนางก็เหลือบสายตามองบัวระบำอีกครั้ง ก่อนจะหยิบกล่องหยกออกมา จากนั้นก็วางมันลงไปอย่างระมัดระวัง
“ดูนั่นสิ! มันคืออันใดน่ะ!”
ทันใดนั้นเองมู่หงอวี่ก็อุทานออกมาอย่างตกใจ ใบหน้ามองตรง
พวกเขาทั้งหลายจึงหันหน้ามองตามสายตาของนาง
เย่หรานหร่านอ้าปากค้าง พร้อมอ้าปากกว้าง
พี่เหลยสี่เองก็อดที่จะอุทานออกมาไม่ได้
“ให้ตายเถอะ! นี่มันเกิดอันใดขึ้นกันหรือ?”
แม้กระทั่งฉินอีที่มีใบหน้าราบเรียบมาโดยตลอด ก็ยังหรี่ตาลงเล็กน้อย
ส่วนเชียงหว่านโจวก็ไม่รู้ว่ากำลังคิดอันใดอยู่ เขาถึงได้ขมวดคิ้วมุ่นเช่นนั้น
ฉู่หลิวเยว่เองก็หันกลับไปมองเช่นกัน
เมื่อนางมองไปแล้ว ก็ทำให้นางรู้สึกตกใจอย่างมาก
บนผิวน้ำที่กว้างใหญ่ไพศาล คาดไม่ถึงว่าบัวระบำอีกหนึ่งดอกค่อยๆ เติบโตขึ้น!
งดงามสะกดใจ อ่อนหวานละมุนละไม!
สามารถเห็นบัวระบำหนึ่งดอกนับว่าเป็นเรื่องยากแล้ว แต่ใครจะไปคิดเล่าว่า ฉู่หลิวเยว่เพิ่งเดินออกมาแค่ไม่กี่ก้าว ทะเลสาบกระจกก็มีบัวระบำผุดขึ้นมาอีกดอกหนึ่งแล้ว!
ต่อให้เป็นฉู่หลิวเยว่ แต่เมื่อเจอกับเหตุการณ์เช่นนี้ก็ต้องมึนงงแน่นอน
“นี่…นี่มันเกิดอันใดขึ้นหรือ?”
หรือว่าที่นี่มีบัวระบำสองดอก เพียงแต่ว่าก่อนหน้านี้ปรากฏแค่ดอกเดียวเท่านั้น ตอนนี้จึงเพิ่มมาอีกดอกผุดขึ้นมา?
แต่เพิ่งสิ้นเสียงของฉู่หลิวเยว่ได้ไม่นาน พวกเขาก็เห็นว่าด้านข้างของบัวระบำมีอีกดอกกำลังเติบโตขึ้นอย่างช้าๆ!
หากรวมกับบัวระบำหนึ่งดอกที่อยู่ในมือของฉู่หลิวเยว่นั้น นี่ก็เป็นดอกที่สามแล้ว!
แต่ทว่า…มันไม่ได้สิ้นสุดเท่านั้น!
หลังจากนั้นภายในชั่วเวลาสั้นๆ เพียงครึ่งชั่วยาม ภายในทะเลสาบกระจกกลับมีบัวระบำนับสิบดอกผุดขึ้นทีละดอกอย่างต่อเนื่อง!
แสงอาทิตย์สาดส่อง สายน้ำกระเพื่อม กลีบดอกไม้สีขาวสั่นไหวไปตามแรงลม
ไม่ว่าใครเมื่อมาเห็นทิวทัศน์เช่นนั้น ก็ต้องชมเชยมันอย่างแน่นอน
แต่ทว่าในตอนนี้ พวกเขาไม่มีกะจิตกะใจที่จะมาชมเชยความงาม ตอนนี้มีเพียงความรู้สึกตกใจเท่านั้น!
เมื่อเห็นการปรากฏตัวอย่างต่อเนื่องของบัวระบำ ทำให้ความเงียบเข้าปกคลุมพวกเขา
รอบด้านไร้เสียง
ฉู่หลิวเยว่มองไปที่บัวระบำที่กำลังกวัดแกว่งอยู่กลางทะเลสาบ ทันใดนั้นในสมองของนางก็นึกอันใดขึ้นมาได้
นางชะงักไปครู่หนึ่ง
ภาพเหตุการณ์เช่นนี้…
เหมือนนางเคยเห็นมาก่อนเลย?
อีกทั้งไม่รู้ว่าเหตุใด เมื่อเห็นบัวระบำเหล่านั้นปรากฏอยู่ตรงหน้า ตอนแรกนางก็ตกใจ แต่ความจริงแล้วนางก็ไม่ได้รู้สึกตกใจขนาดนั้น
ราวกับว่า…ที่นางเคยเห็นมันเยอะกว่านี้?
นางหลับตาลง ต้องการนึกย้อนไปถึงภาพเหตุการณ์เหล่านั้น แต่ไม่ว่าจะนึกอย่างใดก็นึกไม่ออก
แต่นั้นเป็นความรู้สึกที่คุ้นเคยอย่างมาก และมันก็หนักแน่นมากขึ้นเรื่อยๆ!
เวลาผ่านไปเพียงครู่เดียว ฉู่หลิวเยว่ก็หลับตาขึ้นมา ก่อนจะมองไปที่ภาพตรงหน้าตาเขม็ง แววตาเต็มไปด้วยความสับสน
ถ้าหาก…ความรู้สึกแบบนี้ ไม่ใช่ความรู้สึกที่คิดไปเอง ถ้าเช่นนั้น…
นางเคยเจออันใดมาก่อนกันแน่ เหตุใดถึงเคยเห็นบัวระบำจำนวนมากมายขนาดนั้น แล้วยังความรู้สึกที่คุ้นเคยนี่อีก?
พวกเขาบอกว่านางลืมเรื่องอันใดบางอย่างไป ถ้าเช่นนั้น…ท้ายที่สุดแล้ว นางลืมอันใดไปกันแน่?