ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ - ตอนที่ 842 ตามหา
ตอนที่ 842 ตามหา
ซย่าโหวหรงตกตะลึง
“อันใดนะ?!”
เขารีบมองไปยังปราณสีดำที่อยู่ในกล่องไม้ พร้อมขมวดคิ้วเป็นปมอย่างรวดเร็ว ก่อนจะปฏิเสธเสียงแข็ง
“เป็นไปไม่ได้! ข้าเก็บสิ่งนี้อยู่อย่างระมัดระวังมาโดยตลอด ไม่มีใครมาแตะต้องมันได้อย่างแน่นอน!”
สีหน้าของเจียงอวี่เฉิงเย็นชามากขึ้น ทั่วทั้งร่างกายแผ่ลมปราณที่เย็นเยียบ
“เห็นได้ชัดว่าตราประทับที่อยู่ด้านบนมันเปลี่ยนไป ของสิ่งนี้ข้าเป็นคนมอบให้เจ้าด้วยตนเอง ตอนแรกมันเป็นอย่างใด นึกว่าข้าไม่รู้เรื่องหรือ?”
ซย่าโหวหรงสะอึกไป
“แล้วกุญแจนั้นล่ะ?”
เจียงอวี่เฉิงยื่นมือออกมา
ในใจของซย่าโหวหรงไม่ยินดีอย่างมาก แต่ก็ยังโยนกุญแจให้ไป
สีหน้าของเขาย่ำแย่อย่างมาก
“คุณชายใหญ่ ในเมื่อข้าสัญญาแล้วว่าจะคืนของสิ่งนี้ให้เจ้า เขาไม่มีทางผิดคำพูดอย่างเด็ดขาด ถ้าเจ้าอยากดู ก็สามารถทำได้!”
ในตอนนั้นเจียงอวี่เฉิงสัญญากับเขาว่าโอสถเก้าสวรรค์ฟื้นคืนให้เป็นรางวัลแก่เขา
ตอนนี้เขายังไม่ทันได้ใช้มัน แต่กลับเรียกคืนเสียแล้ว
คำพูดของซย่าโหวหรงมีคำตำหนิอยู่กลายๆ เขาไม่พอใจกับเจียงอวี่เฉิงมาตั้งนานแล้ว
ดังนั้นเวลาที่พูดคุยกันนั้นก็ดูไม่มีความเกรงใจกันเล็กน้อย
เจียงอวี่เฉิงรับกุญแจดอกนั้นมา ไม่ได้สนใจเขา แต่เริ่มเปิดกล่องไม้สีดำกล่องนั้นแทน
แกร๊ก!
เสียงกล่องไม้เปิดขึ้น!
…ว่างเปล่า!
ใบหน้าของเจียงอวี่เฉิงมืดครึ้มลงทันที เขาแค่นหัวเราะเสียงเย็น จากนั้นก็มองไปยังซย่าโหวหรง
“ใต้เท้าซย่าโหว ท่านจะพูดว่าอย่างใด?”
ดวงตาของซย่าโหวหรงเบิกโพลง พร้อมจ้องกล่องไม้ที่ว่างเปล่าตาเขม็ง
“เป็นไปได้อย่างใด? นี่มันเป็นไปได้อย่างใด? ข้าดูแลรักษามันมาอย่างดีโดยตลอด! ทมันถึงหายไปแล้วล่ะ!”
เจียงอวี่เฉิงโยนกล่องไม้สีดำใบนั้นไปตรงหน้าซย่าโหวหรงอย่างแรง จากนั้นเขาก็พูดขึ้นมาด้วยเสียงบูดบึ้ง
“เรื่องจริงหรือไม่ ท่านก็ดูเอาเองเถิด!”
ซย่าโหวหรงไม่ได้สนใจอันใดมาก รีบหยิบกล่องไม้สีดำที่ตกลงพื้นขึ้นมาดูอย่างละเอียด
เขาพลิกกล่องแล้วมองไปโดยรอบ หลังจากมั่นใจแล้วว่ามันไม่มี สีหน้าของเขาก็ขาวซีดขึ้นภายในทันที หน้าผากมีเม็ดเหงื่อ เม็ดเล็กๆ ผุดขึ้นมาเป็นจำนวนมากริมฝีปากสั่นระริก
กล่องไม้สีดำที่อยู่ในมือก็กลายเป็นเผือกร้อนลวกมือ!
ซย่าโหวหรงจะหยิบขึ้นมาก็ไม่ได้ จะทิ้งลงไปก็ไม่ได้ สีหน้าเปลี่ยนไปเปลี่ยนมา น่าประหลาดใจอย่างมาก!
เจียงอวี่เฉิงจึงจ้องไปที่เขาด้วยความเย็นชา สายตาของเขาก็หนาวเหน็บ
ในตอนนั้นเองก็เหมือนว่าซย่าโหวหรงมีปฏิกิริยาตอบรับแล้ว เขาจึงรีบเงยหน้าขึ้นมา
“ข้าไม่รู้! ข้าไม่รู้เรื่องจริงๆ!”
หลังจากที่เขาได้ของสิ่งนี้มา เขาก็เก็บรักษามันอย่างดีมาโดยตลอด แล้วเหตุใดมันถึงหายไปเช่นนี้ได้เล่า?
เจียงอวี่เฉิงยกริมฝีปากขึ้น แต่มันก็ไม่ได้เป็นรอยยิ้ม
“เช่นนั้นท่านจะบอกว่า ของชิ้นนี้มันวิ่งหนีออกไปเองอย่างนั้นหรือ?”
ซย่าโหวหรงเริ่มทบทวนความจำอย่างรวดเร็ว ภาพความทรงจำนับไม่ถ้วนปรากฏขึ้นในสมองของเขา
“ไม่ ไม่…”
วันนี้เขาเข้าไปที่ห้องหนังสือเพื่อหยิบกล่องนี้ออกมาด้วยตนเอง แต่ว่าในตอนที่เขาหยิบออกมานั้น ไม่มีร่องรอยการเคลื่อนย้ายเลยแม้แต่น้อย!
นั่นก็หมายความว่าอีกฝ่ายสามารถหยิบของสิ่งนั้นออกไปได้อย่างไร้เสียง!
คนที่สามารถทำเรื่องเช่นนี้ได้ก็มี…
ช้าก่อน!
ทันใดนั้นสีหน้าของซย่าโหวหรงก็เปลี่ยนไปทันที!
คนที่รู้เรื่องเหล่านี้อย่างชัดเจน มีจำนวนน้อยมาก จนแทบนับนิ้วได้!
โดยเฉพาะคนที่รู้วิธีหยิบมันออกมาไปนั้น…
“ดูเหมือนว่าใต้เท้าซย่าโหวจะรู้แล้วสินะขอรับว่าเป็นฝีมือของใคร?”
เจียงอวี่เฉิงพูดขึ้นเสียงเรียบ แววตาประชดประชัน
ซย่าโหวหรงเม้มริมฝีปากแน่น และพูดขึ้นเสียงต่ำอย่างไม่อยากจะเชื่อ
“เป็นไปไม่ได้…”
“คนของใต้เท้าซย่าโหวเอง ข้านั้นไว้ใจท่านมาเสมอ แต่ครั้งนี้ ข้าเชื่อว่าทหารยามไม่เข้มงวด หากท่านสามารถหาตัวคนกระทำได้ภายในหนึ่งวัน และสามารถนำโอสถเก้าสวรรค์ฟื้นคืนมาคืนได้อย่างสมบูรณ์ ข้าจะทำเป็นเหมือนไม่เคยมีเรื่องอันใดเกิดขึ้น”
เจียงอวี่เฉิงหลุบตาลงต่ำ แล้วหมุนแหวนที่นิ้วโป้ง แล้วพูดขึ้นอย่างช้าๆ
“ส่วนคนที่ทำเรื่องนี้ ก็รบกวนให้ตระกูลซย่าโหวจัดการด้วยนะขอรับ ท้ายที่สุดแล้วเรื่องนี้ให้คนรู้น้อยเท่าไรยิ่งดีเท่านั้น ข้าคิดว่าที่ทำเช่นนี้เพื่อปกป้องชื่อเสียงของท่านเองนะ ท่านละว่าอย่างใด?”
เขาคิดว่าที่ตนเองจัดการปัญหาเช่นนี้ก็ใจดีมากแล้ว
แต่เมื่อซย่าโหวหรงได้ยินดังนั้นก็รู้สึกว่านี่เป็นเรื่องน่าลำบากใจอย่างไม่ต้องสงสัย
เพราะว่า…คนที่ลงมือผู้นี้ เป็นไปได้อย่างมากว่าจะเป็น คุณชายรองของตระกูลซย่าโหว ซย่าโหวถิงอัน!
ซย่าโหวหรงเงียบไปครู่หนึ่ง แล้วกลืนน้ำลายพร้อมพูดขึ้นว่า
“…คือว่า…คนผู้นั้น…หากหาเจอแล้ว คุณชายจะไว้ชีวิตของเขาไว้ได้หรือไม่?”
เจียงอวี่เฉิงเหลือบสายตามองเล็กน้อย แล้วมองหน้าซย่าโหวหรง
เมื่อเห็นใบหน้าตื่นตระหนกของซย่าโหวหรง ทันใดนั้นเขาก็หัวเราะออกมาหนึ่งเสียง
“ดูเหมือนว่าคุณชายอย่างเขาจะสามารถคาดเดาได้ถูกต้องนะ นี่เป็นฝีมือของซย่าโหวถิงอันจริงๆ ด้วย คิดไม่ถึงเลยว่าเขาจะใจกล้าขึ้นมากขนาดนี้ แม้กระทั่งเรื่องเช่นนี้ก็ยังกล้าทำด้วย”
มือทั้งสองข้างของซย่าโหวหรงสั่นระริก
“ระ…เรื่องนี้ยังไม่มีข้อสรุปเลยนะขอรับ บางทีอาจจะเป็นคนอื่นก็ได้ ท่านเองก็รู้ ว่าก่อนหน้านี้ข้าเพิ่งไล่เขาออกจากตระกูล เกรงว่าตอนนี้บาดแผลคงยังไม่หายดีด้วยซ้ำ แล้วจะมา…”
เสียงของเขาเบาลงเรื่อยๆ
พูดตามตรงเลยว่าแม้แต่เขาที่เป็นคนพูด เขาก็ยังไม่เชื่อด้วยซ้ำ
คนที่สามารถเข้าออกตระกูลซย่าโหวได้อย่างง่ายดาย อีกทั้งสามารถผ่านเข้ามาในม่านพลังภายในห้องหนังสือได้อย่างไร้เสียง แล้วยังหากุญแจเพื่อเปิดกล่องไม้นี่ได้อีก สุดท้ายก็หยิบของชิ้นนั้นไป…
นอกจากตัวเขาเองแล้ว ก็มีเพียงซย่าโหวถิงอันเท่านั้น!
เจียงอวี่เฉิงมองดูซย่าโหวหรงเหมือนกำลังนั่งดูละครปาหี่
“เป็นพ่อแม่ที่น่าสงสารจริงๆ จากคำขอร้องของใต้เท้าซย่าโหว ไม่ว่าท่านจะอยากปกป้องเขามากสักแค่ไหน แต่น่าเสียดาย ที่เขาไม่เคยเห็นพ่ออย่างท่านอยู่ในสายตาเลย หากเขาคิดถึงตระกูลซย่าโหว เขาจะไม่มาทำเช่นนี้อย่างเด็ดขาด”
คำพูดของเจียงอวี่เฉิงเหมือนมีดปลายแหลม และปักเข้าไปในหัวใจของซย่าโหวหรงทันที
เขาหลับตาลง สะกดกลั้นอารมณ์ที่พลุ่งพล่านแล้วพูดขึ้นว่า
“คุณชายใหญ่วางใจเถิด ข้าจะต้องนำของกลับมาโดยไร้ร่องรอยขีดข่วนอย่างแน่นอน! หากเป็นลูกชายผู้นั้นของข้าทำจริงๆ แล้วละก็…ข้าหวังว่าคุณชายใหญ่จะเห็นแก่หน้าข้า แล้วยอมปล่อยเขาไปสักครั้ง!”
ซย่าโหวหรงพูดด้วยน้ำเสียงต้อยต่ำอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน
ต่อให้ตอนแรกเขาทำเพื่อให้ได้โอสถเก้าสวรรค์ฟื้นคืนเม็ดนั้นมา แต่เขาก็มีการปรึกษาเจียงอวี่เฉิงอยู่เสมอ
นี่เป็นครั้งแรกที่เขาร้องขอเช่นนี้
เจียงอวี่เฉิงชะงักไปนาน สุดท้ายเขาก็พยักหน้า
“ได้”
…
หลังจากซย่าโหวหรงออกไปแล้ว เขาก็รีบพาซย่าโหวอวี้ซู่และคนอื่นๆ จากไปอย่างรวดเร็ว
นอกจากเขากับเจียงอวี่เฉิงแล้ว ก็ไม่มีใครรู้ว่าพวกเขาทั้งสองคนออกไปคุยกันเรื่องอันใด
ทุกคนล้วนคิดว่าเป็นเรื่องเกี่ยวกับงานแต่งงาน พวกเขาคิดว่าทุกอย่างจะเกิดขึ้นอย่างราบรื่น หลังจากงานแต่งงานที่ยิ่งใหญ่เกิดขึ้นแล้ว สองตระกูลใหญ่จะสามารถสร้างสัมพันธ์ได้อย่างแข็งแรง
หลังจากกลับไปที่จวนแล้ว ซย่าโหวหรงก็รีบสั่งให้คนไปจับตัวซย่าโหวถิงอันกลับมาทันที
ทุกคนที่อยู่ในจวนซย่าโหวก็ล้วนตกใจอย่างมาก
เพิ่งไล่คนออกไปได้ไม่นาน เหตุใดถึงให้คนไปตามเขากลับมาอีกแล้วล่ะ?
แต่ไม่ว่าอย่างใด…อีกฝ่ายก็เป็นลูกชายแท้ๆ อีกทั้งหลายปีมานี้เขาก็ทะนุถนอมอีกฝ่ายมาก เรื่องที่จะอาลัยอาวรณ์ก็เป็นเรื่องสมควรแล้ว
หลังจากนั้นไม่นานก็มีข่าวกลับมาบอกว่า ซย่าโหวถิงอันนั้นอาศัยอยู่กับแม่นางคนนั้นจากหอชุนเฟิงอยู่ตลอด
เมื่อซย่าโหวหรงได้ยินดังนั้น ก็รู้สึกโมโหอย่างมาก และรีบไปหาอีกฝ่ายด้วยตนเองทันที!