CatNovel
  • หน้าหลัก
  • นิยายทั้งหมด
Advanced
  • หน้าหลัก
  • นิยายทั้งหมด
  • โดจิน
  • นิยายทั้งหมด
  • จบแล้ว
  • นิยายวาย Yaoi
ตอนก่อน
ตอนต่อไป
สล็อตเว็บตรง

ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ - ตอนที่ 868 คารวะ

  1. Home
  2. ยอดหญิงลิขิตสวรรค์
  3. ตอนที่ 868 คารวะ
ตอนก่อน
ตอนต่อไป

ตอนที่ 868 คารวะ

ยามนี้เจียงอวี่เฉิงและซั่งกวนหว่านได้เดินจับมือเข้ามา และยืนอยู่กลางจัตุรัสกว้างด้านหน้าตำหนัก

ในขณะเดียวกัน เสียงประกาศของขั้นตอนพิธีการต่างๆ ดังก้องไปทั่วทั้งบริเวณ

สายตาหลายคู่จับจ้องมาที่คนทั้งสอง

วันนี้ซั่งกวนหว่านเองก็แต่งตัวด้วยชุดเต็มยศ ปลายชุดคลุมยาวเฟื้อยสีแดงสดเสมือนหางของหงส์ฟ้า แผ่ขยายระไปตามพื้นในทุกย่างก้าวของนาง ด้ายสีทองที่ฝังอยู่ในผ้าแพรนั้นทอประกายสะท้อนแสงแวววาว

แต่เนื่องจากนางสวมผ้าคลุมศีรษะอยู่ จึงทำให้ผู้คนรอบๆ มองไม่เห็นหน้าตาของนาง ทว่าแค่มองจากชุดอันสวยหรูของนาง ก็สามารถสัมผัสได้ถึงความอลังการที่ซ่อนอยู่ผ้าคลุมนั่นแล้ว

จากนั้นทั้งสองคนก็เดินขึ้นบันไดสวรรค์เก้าขั้นไปพร้อมกัน และทำความเคารพอย่างเป็นทางการที่หน้าตำหนักหลางคุน

เดิมทีหากฝ่าบาทอยู่ที่นี่ พระองค์จักยืนรอทั้งสองคนอยู่ที่หน้าประตู

แต่เพราะตอนนี้เขายังหมดสติอยู่ ขั้นตอนนี้จึงถูกข้ามไป

เจียงอวี่เฉิงกับซั่งกวนหว่านยืนเคียงข้างกันและจับมือกันไว้แน่น หนึ่งสตรีรูปงามและบุรุษที่แสนหล่อเหลา ยิ่งมองยิ่งดูเหมาะสมกันราวกิ่งทองใบหยก

“หว่านเออร์ เราไปกันเถอะ”

เจียงอวี่เฉิงเอียงศีรษะเล็กน้อย ใบหน้าหล่อเผยยิ้มบาง พร้อมเอ่ยด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน

เสมือนว่าหญิงสาวที่อยู่ข้างๆ เขานั้น คือ รักสุดท้ายในชีวิตที่เขาเทิดทูนรักใคร่สุดหัวใจ

ซั่งกวนหว่านพยักหน้าตอบเบาๆ

ไม่มีใครเห็นสีหน้าของนางในตอนนี้

ทั้งสองคนเดินจับมือกันไปข้างหน้า

จากนั้นซั่งกวนหว่านก็เป็นฝ่ายก้าวเท้านำขึ้นไปบนบันไดขั้นแรก

ตามด้วยเจียงอวี่เฉิงที่จงใจเดินตามหลังนางครึ่งก้าว เพื่อเป็นการให้เกียรติ

จะได้ไม่ถูกผู้คนตำหนิทั้งทางด้านวาจาและการกระทำ

ซั่งกวนหว่านเดินต่อไปยังขั้นที่สอง

ทว่าเมื่อถึงตรงนี้ นางก็เริ่มสัมผัสได้ถึงแรงกดดันที่แผ่ออกมาจากตำหนักหลางคุนจางๆ

แต่มันก็ยังทำอันใดซั่งกวนหว่านและเจียงอวี่เฉิงไม่ได้

ขณะที่ทั้งสองย่างก้าวขึ้นไปทีละขั้น แรงบีบอัดของพลังปราณก็หนักขึ้นเรื่อยๆ!

และทุกครั้งเขยิบขึ้นไปทีละขั้น ก็ต้องยิ่งใช้พละกำลังมากกว่าเดิม เพื่อต้านแรงกดดันที่เพิ่มขึ้นนี้!

เมื่อก้าวไปถึงขั้นที่เจ็ด ซั่งกวนหว่านก็เริ่มรู้สึกหมดแรง

แม้ว่าปัจจุบันความแข็งแกร่งของนางจะอยู่ที่ระดับเจ็ดขั้นแรก แต่เพราะว่านางเพิ่งรักษาชีพจรดั้งเดิมของตัวเองได้ ฉะนั้นนางจึงไม่สามารถใช้พลังทั้งหมดได้อย่างเต็มร้อย

ร่างกายของนางหนักอึ้งราวกับตะกั่ว!

เจียงอวี่เฉิงที่อยู่ข้างๆ รู้สึกได้อย่างรวดเร็วว่ามีบางอย่างผิดปกติเกิดขึ้นกับซั่งกวนหว่าน

ไม่กี่วันมานี้ เขาเองก็ได้อาศัยวิธีการบางอย่างเพื่อฟื้นฟูความแข็งแกร่งของตัวเอง ให้ฟื้นคืนสู่ระดับเจ็ดขั้นสูง

แต่ถึงแม้ว่าสภาพร่างกายของเขาจะดีกว่าซั่งกวนหว่าน แต่เขาก็ไม่ควรประมาทแรงกดดันแผ่ออกมาจากในตำหนักนั่น

เขาแอบใช้มือถ่ายพลังปราณเพื่อส่งซั่งกวนหว่านก้าวไปยังขั้นที่แปด!

ขาทั้งสองข้างและร่างกายของซั่งกวนหว่านสั่นสะท้าน

เจียงอวี่เฉิงแอบขมวดคิ้วแล้วรีบช่วยพยุงนาง พลันกัดฟันดันนางให้ขึ้นไปเหยียบบันไดขั้นที่แปด!

และเมื่อยืนอยู่ตรงนี้ พวกเขาก็สามารถมองเห็นได้ชัดเจนว่า ประตูใหญ่ของตำหนักหลางคุนที่อยู่ด้านบนนั้นเปิดอยู่!

โดยปกติแล้ว ประตูใหญ่ของตำหนักหลางคุนจะถูกล็อคอย่างแน่นหนา และผู้อาวุโสของราชวงศ์ทั้งหมดจะร่วมมือกันเปิดมันเฉพาะในช่วงพิธีขึ้นครองราชย์เท่านั้น

เพราะเมื่อเปิดค่ายกลในตำหนักแล้ว จะทำให้แรงกดดันของพลังปราณจากคทาอาญาสิทธิ์เทียนลิ่ง แผ่กระจายไปทั่วบริเวณโดยรอบอย่างไม่หยุดยั้ง!

และเป็นเพราะเหตุนี้ ซั่งกวนหว่านและเจียงอวี่เฉิงถึงต้องเผชิญกับการบีบบังคับที่น่ากลัวเช่นนี้!

ยิ่งเข้าใกล้เท่าไร ลมปราณนั่นก็ยิ่งหนาแน่นขึ้นจนน่าตกใจ!

ผู้คนที่ยืนอยู่ในจัตุรัสด้านล่างเอง ก็กำลังจ้องมองพวกเขาอยู่เช่นกัน

แต่พอเห็นว่าท่าเดินของซั่งกวนหว่านดูอ่อนแรงลง บางคนก็มีปฏิกิริยาตอบสนองที่ต่างไปจากเดิม

“เมื่อครู่นี้ องค์หญิงสามจะล้มหรือเปล่า?”

มีเสียงเบาหวิวโพล่งขึ้นมากจากฝูงชน

ถึงนางจะใส่ชุดคลุมตัวยาวที่มีทั้งผ้าคลุมศีรษะและชายกระโปรงยาวระพื้น แต่คนส่วนใหญ่ก็ยังเห็นท่าเดินที่ดูติดๆ ขัดๆ ของนางเมื่อครู่อยู่ดี

“ไม่ใช่…หรอกกระมั้ง? ถ้าตอนนี้นางขึ้นไปไม่ได้ แล้วจะยกคทาอาญาสิทธิ์เทียนลิ่งได้หรือ?” ใครบางคนโต้กลับทันควัน แต่น้ำเสียงกลับฟังดูไม่มั่นใจเอาเสียเลย

ย้อนกลับไปในอดีต ก็เคยมีการกล่าวถึงบุคคลที่ไม่สามารถยกคทาอาญาสิทธิ์เทียนลิ่งได้ ไว้ในประวัติศาสตร์ของราชวงศ์เทียนลิ่งเช่นกัน

และเมื่อระลึกดูแล้ว ก็มีอยู่ทั้งหมดสี่คน

ทว่าสุดท้าย คนเหล่านี้ก็ถูกลิดรอนสิทธิ์ในการสืบทอดอำนาจของจักรพรรดิอย่างไม่มีข้อยกเว้น และพวกเขาจะไม่มีโอกาสได้กลับมาอยู่ในสถานะเดิมของตัวเองอีกตลอดชีวิต

สำหรับพวกเขาแล้ว นี่ถือเป็นความอัปยศที่ไม่อาจหักล้างได้ และแม้ว่าพวกเขาจะยังได้ถือครองสถานะเชื้อพระวงศ์อยู่ และยังได้รับเงินขวัญถุงไว้ใช้จ่ายเช่นเดิม แต่เพราะความล้มเหลวนี้ พวกเขาจึงไม่สามารถเชิดหน้าชูตาตัวเองแก่สาธารณชนได้อีกเลย

ในบรรดาคนทั้งสี่ มีสองคนที่ทนแรงกดดันหลังจากความล้มเหลวไม่ได้และเลือกที่จะฆ่าตัวตาย ส่วนอีกคนก็ฝึกตนจนสุดท้ายก็กลายเป็นคนบ้า และตายโดยการตัดขาดตัวเอง

ส่วนคนสุดท้ายนั้นไม่ยอมก้าวออกจากประตูวังอีกเลย และไม่ถึงสามปี เขาก็เสียชีวิตลงด้วยโรคซึมเศร้า

จะเห็นได้ว่าการยกคทาอาญาสิทธิ์เทียนลิ่งนั้นสำคัญต่อรัชทายาทของราชวงศ์เทียนลิ่งมากเพียงใด!

และเป็นเพราะเหตุนี้เอง จักรพรรดิทุกองค์จึงระมัดระวังในการเลือกรัชทายาทเป็นพิเศษ และส่วนใหญ่จะเริ่มประเมินความสามารถของพวกเขาตั้งแต่เยาว์วัย

อันดับแรกเขาจะเลือกคนที่ดูพร้อมทุกด้านก่อน จากนั้นก็เน้นไปทางด้านการฝึกฝน และเมื่อโตขึ้นหน่อยก็ค่อยเลือกคนที่พร้อมที่สุด

อย่างใดก็ตาม ซั่งกวนหว่านนั้นไม่เคยได้เป็นผู้ถูกเลือกเลย

ในแง่หนึ่ง อาจจะเป็นเพราะสถานะแม่ผู้ให้กำเนิดของนางนั้นต่ำต้อย ตั้งแต่เล็กจนโตนางจึงไม่เคยได้รับการเหลียวแล และอีกแง่หนึ่งก็อาจเป็นเพราะ นางไม่มีพรสวรรค์ที่พิเศษกว่าคนอื่น ดังนั้นนางจึงกลายเป็นคนนอกสายตาไปโดยปริยาย

และประเด็นหลักก็คือ หลังจากที่ซั่งกวนเยว่เกิดมา และพบว่านางมีชีพจรเทียนจิง องค์จักรพรรดิในปัจจุบันก็เลือกนางเป็นรัชทายาท โดยไม่สนใครอื่นอีกเลย!

ชีพจรเทียนจิงที่พันปีจะพบเพียงหนึ่งครั้งนั้นมีค่ามหาศาล การที่ฝ่าบาททำเช่นนี้จึงถือเป็นเรื่องปกติ

เพียงแต่ไม่มีใครคาดคิดว่าจะเกิดเรื่องแบบนั้นกับนางก่อนวันอภิเษกสมรส!

และสองปีต่อมา ซั่งกวนหว่านกับเจียงอวี่เฉิงก็ร่วมมือกันและค่อยๆ ควบคุมราชวงศ์อย่างค่อยเป็นค่อยไป

ซึ่งนอกจากซั่งกวนหว่าน ตอนนี้ก็ไม่มีใครเหมาะสมไปกว่านางแล้ว

…

สายตานับไม่ถ้วนที่อยู่ข้างหลัง ทำให้ซั่งกวนหว่านรู้ว่าหากตอนนี้นางทำผิดพลาดล่ะก็ แม้ว่ามันจะเป็นเพียงเรื่องเล็กน้อย แต่ความผิดพลาดเหล่านั้นจักถูกประชาชนมากมายเอาไปใส่สีตีไข่อย่างไม่มีที่สิ้นสุดแน่นอน!

นางกัดฟันแล้วดึงพลังทั้งหมดในร่างกายออกมา! และพยายามยกเท้าขึ้นไปยังบันไดขั้นสุดท้าย!

แต่ขาทั้งสองข้างกลับหนักราวพันกิโลกรัม ไม่ว่าจะพยายามอย่างใดนางก็ก้าวขาไม่ออก

นางเริ่มเป็นกังวลและฟุ้งซ่าน

ถ้าขึ้นไปไม่ได้ล่ะก็ พวกคนด้านหลังจะต้อง…

แต่ทันใดนั้นเอง เจียงอวี่เฉิงก็ได้อัดฉีดพลังปราณเข้าไปในร่างกายของนางผ่านมือที่ประสานกันอยู่!

ซั่งกวนหว่านรู้สึกตัวเบาขึ้นมาก และรีบยกเท้าขึ้นเพื่อก้าวไปอย่างรวดเร็ว!

ส่วนเจียงอวี่เฉิงก็ตามไปติดๆ!

ทั้งสองจับมือกันแน่นและเดินตามกันไปติดๆ จนในที่สุดพวกเขาก็มาถึงขั้นสุดท้าย!

เมื่อเท้าของนางแตะพื้น ซั่งกวนหว่านก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก

ที่หน้าประตูตำหนักหลางคุน มีผู้อาวุโสของราชวงศ์หกคนยืนเข้าแถวรอการมาถึงของพวกเขา

อันที่จริงควรมีแปดคน แต่น่าเสียดายที่ทั้งผู้อาวุโสชิวซีและผู้อาวุโสตวนมู่ฉุนเสียชีวิตในแดนภังคะ ดังนั้นจึงเหลือเพียงหกคน

จากนั้นผู้อาวุโสที่อยู่ใกล้ที่สุดก็ก้าวไปข้างหน้า พลางรวบรวมลมปราณจากจุดตันเถียน แล้วแผดเสียงตะโกนออกมาเสียงดังราวกับเสียงระฆัง

“คารวะฟ้าดิน!”

ซั่งกวนหว่านและเจียงอวี่เฉิงหันหลังกลับและโค้งคำนับต่อฟ้าดิน!

“คารวะราชวงศ์เทียนลิ่ง!”

ทั้งสองคนหันกลับมาอีกครั้งและโค้งคำนับไปตำหนักหลางคุน!

“คารวะคู่ชีวิต!”

ทั้งสองคนพลันยืนประจันหน้ากัน

ทว่าชั่วขณะหนึ่ง จิตใจของซั่งกวนหว่านกลับว่างเปล่า

ตอนก่อน
ตอนต่อไป

ความคิดเห็นทั้งหมดของ "ตอนที่ 868 คารวะ"

ใส่ความเห็น ยกเลิกการตอบ

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

*

*

  • อ่านนิยาย
  • แทงหวย24

© 2020 cat-novel.com
เว็บอ่านนิยาย นิยาย pdf เว็บ “cat-novel.com” เว็บอ่านนิยายสนุกๆ เพลิดเพลินไปกับนิยายต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น นิยายวาย, นิยายจีน, นิยายรัก, แฟนตาซี, กำลังภายใน, ผจญภัย สุดยอดวิชากำลังภายใน อัพเดททุกวัน พร้อมรองรับการอ่านบนมือถือ คอมพิวเตอร์ ไอแพด หรือแท็บเล็ต อ่านได้ตลอดเวลา ไม่มีโฆษณา อ่านนิยายฟรีต้อง เว็บ ”cat-novel.com”
นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์