ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ - ตอนที่ 869 เรียนเชิญองค์หญิงสามหยิบคทา
ตอนที่ 869 เรียนเชิญองค์หญิงสามหยิบคทา
นางรอคอยวันนี้มานานแล้ว
เมื่อก่อนนางคิดว่าเราทั้งคู่ต่างมีใจให้กัน แต่ความจริงแล้ว บุรุษที่อยู่ตรงหน้านางนั้น ไม่เคยรักใคร่ชอบพอในตัวนางเลยตั้งแต่ต้น
เสียงพิธีการและดนตรีดังขึ้นช้าๆ นางในตอนนี้กำลังเป็นจุดสนใจของทุกคน
เดิมทีนางคิดว่าวันนี้จะเป็นวันที่นางมีความสุขที่สุดในชีวิต
แต่พอถึงเวลาเข้าจริงๆ นางกลับรู้สึกว่างเปล่าเสียอย่างนั้น
และเมื่อนึกถึงภาพวาดผืนนั้น มือของนางก็สั่นเครือขึ้นมาทันที พร้อมความเกลียดชังมากมายที่พวยพุ่งออกมาจากส่วนลึกของจิตใจ!
เจียงอวี่เฉิงที่ตอนแรกกำลังจะโค้งตัวคำนับนาง ก็พลันต้องชะงัก เมื่อเห็นว่าซั่งกวนหว่านยังคงยืนเฉยและไม่คิดจะขยับตัว
ประกายเย็นชาแล่นผ่านเข้ามาในดวงตาของเขา พลันหายวับไป
ทันใดนั้น เขาก็เรียกนางด้วยเสียงทุ้มต่ำและนุ่มนวล
“หว่านเออร์”
ใบหน้าหล่อเหลาแต่งแต้มไปด้วยรอยยิ้ม อีกทั้งน้ำเสียงยังนุ่มละมุนราวกับกลัวว่าจะเผลอทำให้นางตกใจ
ทว่าสายตาของเขากลับเย็นชายิ่งนัก
อันที่จริงแล้วตอนนี้ซั่งกวนหว่านมองไม่ค่อยเห็นสีหน้าท่าทางของเขา และเห็นแค่เพียงโครงร่างที่คลุมเครือเท่านั้น
ทว่าเมื่อได้ยินเสียงของเขา ซั่งกวนหว่านก็พลันตัวสั่นด้วยความกลัวโดยอัตโนมัติ
วิธีที่แสนดุร้ายและเย็นชาที่เขาปฏิบัติต่อนางเมื่อวานนี้ ยังคงตราตรึงอยู่ในใจของเธออย่างชัดเจน!
นางรีบระงับความกลัวในใจไว้แล้วหลับตาลง ก่อนจะก้มลงทำความเคารพครั้งสุดท้าย!
และเมื่อเห็นว่านางยังเชื่อฟังตนอยู่ เจียงอวี่เฉิงก็รู้สึกโล่งใจมาก และคำนับนางกลับเช่นกัน
ผู้อาวุโสท่านนั้นตะโกนด้วยความยินดี:
“พิธีการสำเร็จแล้ว…”
ทันใดนั้นฝูงชนก็โห่ร้องและทำการเฉลิมฉลอง!
ดอกไม้ไฟจำนวนมากถูกจุดและบานสะพรั่งไปทั่วท้องนภา!
บนจัตุรัสขนาดใหญ่เต็มไปด้วยชีวิตชีวา!
แต่สำหรับซั่งกวนหว่านแล้ว กลับดูเป็นเรื่องน่าขันยิ่งนัก!
ทุกคำยินดีและทุกคำอวยพร ล้วนเปรียบเสมือนคำสาปที่สาดใส่นางแทบทุกชั่วยาม!
ชอบหรือ จริงจังหรือ ความรักฉันท์สามีภรรยาหรือ?
ตอแหลทั้งเพ!
เพื่องานมงคลสมรสในวันนี้ นางอุตส่าห์เฝ้ารออย่างใจจดใจจ่อ และลงทุนทุ่มเททั้งกายและใจมาเนิ่นนาน แต่สุดท้ายนางกลับได้แต่งงานกับบุรุษที่ไม่เคยสนใจนางเลย!
แถมชายผู้นี้ก็ยังมีหน้าไปขอหญิงอื่นแต่งงาน ก่อนวันอภิเษกสมรสของเราเพียงวันเดียว!
ด้วยเหตุผลที่ว่านางผู้นั้นหน้าตาคล้ายกับซั่งกวนเยว่ คนที่เขาตกหลุมรักมาเป็นสิบๆ ปีอีก!
“หว่านเออร์ ในที่สุดพวกเราก็ได้อยู่ด้วยกันแล้วนะ”
ใบหน้าหล่อเหลาของเจียงอวี่เฉิงเผยยิ้มโปรยเสน่ห์สู่สายตาสาธารณชน และก้าวไปข้างหน้าเพื่อยกผ้าคลุมหน้าของซั่งกวนหว่านขึ้น
วันนี้ซั่งกวนหว่านแต่งหน้าอย่างประณีต และสวมปิ่นปักผมรูปหงส์ฟ้าที่ดูหรูหราสวยงาม
เมื่อนางยืนเคียงคู่กับเจียงอวี่เฉิงแล้ว ช่างดูเป็นคู่รักที่สมบูรณ์แบบยิ่งนัก
“องค์หญิงสามกับราชบุตรเขย ช่างเป็นคู่รักที่สมบูรณ์แบบเสียจริง!”
“ใช่แล้ว! ไม่ว่าจะเรื่องพื้นฐานครอบครัวหรือรูปร่างหน้าตา ล้วนเหมาะสมกันเสียจนมิมีคู่ใดทัดเทียมได้!”
ฝูงชนส่งเสียงดังราวกับว่าทุกคนกำลังชื่นชมยินดี
“แค่นี้ก็ถือว่าเสร็จพิธีแล้วใช่หรือไม่?”
มู่หงอวี่มองคู่สามีภรรยาตรงหน้า พลันขมวดคิ้วฉับอย่างอดไม่ได้ และขยับเข้าไปใกล้ฉู่หลิวเยว่แล้วกระซิบเบาๆ ว่า
“หลิวเยว่ เจ้าว่าสองคนนี้ดูแปลกๆ หรือไม่?”
“หือ? อย่างใดหรือ?”
“ก็… ก็… ไอ้หยา ข้าก็ไม่รู้จะพูดอย่างใดดี! แต่ข้าแค่คิดว่าสองคนนั้นดูไม่มีความสุขเอาเสียเลย… แม้พวกเขาจะยืนด้วยกัน แต่กลับดูห่างเหินราวเข้ากันไม่ได้… มันก็มีบางจุดที่แปลกๆ จนข้าแอบคิดว่าพวกเขาดูไม่เหมือนคนรักกันเลย”
ไม่ใช่ว่านางไม่เคยเห็นงานแต่งงานกันมาก่อน และถึงจะไม่ใช่งานใหญ่โตเช่นนี้ ทว่าคู่รักที่แต่งงานกันนั้น ส่วนใหญ่ล้วนมาจากความรักทั้งสิ้น แค่คู่บ่าวสาวมองหน้ากัน โดยไม่ต้องพูดอันใด นางก็มองออกแล้วว่าพวกเขามีความรู้สึกดีๆ ต่อกันมากแค่ไหน
แต่คู่ของซั่งกวนหว่านและเจียงอวี่เฉิงนั้น…กลับไม่ทำให้นางรู้สึกเช่นนั้น
ฉู่หลิวเยว่กระตุกยิ้มมุมปากเล็กน้อย
“เจ้าคิดว่าพวกเขาเข้ากันไม่ได้หรือ? แต่ข้ากลับคิดว่า พวกเขาเหมาะสมกันราวสวรรค์ลิขิตเลยล่ะ!”
เมื่อเห็นคนสองคนนั้นยืนอยู่บนขั้นบันไดและคำนับเพื่อทำพิธีอภิเษกสมรส ในใจของนางก็พลันรู้สึกปิติยินดีอย่างยิ่ง
ยินดีที่ตอนนั้นนางไม่ได้แต่งงานกับเจียงอวี่เฉิง มิฉะนั้น นางอาจจะถูกอีกฝ่ายเอาเปรียบไปตลอดชีวิตก็ได้!
คนแบบนี้แหละ เหมาะสมกับซั่งกวนหว่านที่สุดแล้ว!
…
บนขั้นบันได ซั่งกวนหว่านเองก็กำลังแย้มยิ้มเช่นกัน
ทั้งคู่ดูเหมือนจะมีความสุขมาก แต่มีเพียงพวกเขาเท่านั้นที่รู้ว่าต่างคนต่างคิดกระไรอยู่ในตอนนี้
เจียงอวี่เฉิงยื่นมือออกไปจับมือซั่งกวนหว่าน
ซั่งกวนหว่านพลันตัวแข็งทื่อราวกับถูกแช่เข็ง พร้อมความรู้สึกรังเกียจในใจ
แต่นางไม่กล้าขัดใจเขา และทำได้เพียงฝืนยิ้มต่อไป
ทักษะการแสดงของพวกเขาทั้งสองดีมากๆ จนสามารถตบตาผู้คนที่ไม่รู้ตื่นลึกหนาบางได้หลายคนเลยทีเดียว
ในสายตาของคนส่วนใหญ่ พิธีการทุกอย่างเป็นไปอย่างราบรื่น และภาพคู่รักทั้งสองที่ยืนอยู่บนขั้นบันไดนั้น ก็ดูงดงามเช่นกัน
และทันใดนั้น ผู้อาวุโสคนเดิมก็เอ่ยปากขึ้นอีกครา
“อัญเชิญ…คทาอาญาสิทธิ์เทียนลิ่ง!”
เสียงประกาศกร้าวแพร่กระจายไปทั่วอนูอากาศ และดังก้องไปทั่วท้องนภาที่อยู่เหนือตำหนักหลางคุนเป็นเวลานาน! และดังลอดเข้าไปในรูหูของทุกคนอย่างชัดเจน!
ทุกคนล้วนกระตือรืนร้อนขึ้นมาในทันที! และเงยหน้ามองภาพตรงหน้าอย่างใจจดใจจ่อ!
ผู้อาวุโสที่เหลืออีกห้าคนพยักหน้า และหันหลังกลับเข้าไปในตำหนักหลางคุน
สายตานับไม่ถ้วนจับจ้องไปยังประตูบานนั้นด้วยความตื่นเต้น
พวกเขาต่างรู้ดีว่าสิ่งที่ตามมานั้น จะเป็นตอนจบที่แท้จริงของงานมงคลอันยิ่งใหญ่นี้!
วี๊ด!
ทันใดนั้นก็มีเสียงคำรามดังมาจากด้านในตำหนักหลางคุน!
หลายคนตกใจและรีบใช้พลังปราณดั้งเดิมของพวกเขา สร้างค่ายกลขึ้นมาปกป้องตัวเองอย่างรวดเร็ว!
พรึบ!
ผู้อาวุโสผู้เป็นตัวแทนในการดำเนินพิธีโบกสะบัดแขนเสื้อของเขา พลางถดตัวลงไปอยู่ขั้นบันไดชั้นล่าง เพื่อสร้างค่ายกลสีเงินขึ้นมาป้องกันความผันผวนอันน่าสะพรึงกลัวนี้!
ขณะเดียวกัน ในที่สุดผู้อาวุโสห้าคนนั้น ก็เดินออกมาจากตำหนักหลางคุน!
พร้อมกับผลึกสีดำขนาดใหญ่ ที่ถูกเหล่าผู้อาวุโสเคลื่อนย้ายออกมา!
แล้ววางมันลงกับพื้น!
ปัง!
เกิดเสียงดังอึกทึก!
พื้นดินสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง!
ผลึกสีดำนั่นสูงแทบจะเท่าเอวของมนุษย์ และด้านบนของมันก็มีคทาลอยอยู่เงียบๆ!
มีกลุ่มแสงเรืองรองปกคลุมไปทั่วผลึก ทำให้ไม่สามารถมองเห็นลักษณะเฉพาะตัวของมันได้ แต่แรงกดดันของมันกลับทำให้คนมองประหลาดใจกันถ้วนหน้า!
แม้จะมีค่ายกลขวางหน้าพวกเขาอยู่ แต่ทุกคนที่อยู่ในบริเวณตำหนักหลังใหญ่แห่งนี้ กลับรู้สึกอึดอัดจนแทบหายใจไม่ออก!
แต่ในเวลานี้พวกเขาไม่สนใจเรื่องนั้นอีกต่อไป
แต่ยามนี้ พวกเขาไม่ได้สนใจเรื่องพวกนั้นเลยสักนิด
สายตาของทุกคนต่างจับจ้องไปยังผลึกนั่น!
มันคือสัญลักษณ์แห่งอำนาจของราชวงศ์เทียนลิ่ง…คทาอาญาสิทธิ์เทียนลิ่ง!
ผู้อาวุโสโฆษกคนเดิมคุกเข่าลงข้างหนึ่ง
“เรียนเชิญองค์หญิงสามหยิบคทา!”