ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ - ตอนที่ 872 เจ้าว่าใครดุร้ายกัน
ตอนที่ 872 เจ้าว่าใครดุร้ายกัน
ฉู่หลิวเยว่ตกใจสุดขีด!
คทาอาญาสิทธิ์เทียนลิ่งด้ามนั้นเคลื่อนที่เร็วมาก มันพุ่งตัวผ่านอากาศด้วยความเร็วสูงพร้อมทิ้งรอยขีดสีเงินเป็นทางยาวไว้กลางอากาศ มันพุ่งออกมาจากด้านหน้าตำหนักหลางคุนด้วยความเร็วสูง!
เสียงหวีดหวิวดังก้องกังวานในอากาศ!
แกรก!
ก่อนจะมีเสียงแตกร้าวของบางสิ่งดังตามมา!
ทุกคนล้วนหันไปมองอย่างพร้อมเพรียง พลันรู้สึกหวาดผวากันถ้วนหน้า เมื่อเห็นว่าค่ายกลที่ผู้อาวุโสเฉินเค่อสร้างไว้ก่อนหน้า กำลังถูกเจาะอย่างง่ายดาย!
ทว่าผู้อาวุโสเฉินเค่อนั้นเป็นถึงผู้แข็งแกร่งระดับแปดขั้นสูงสุด แน่นอนว่าค่ายกลที่เขาสร้างขึ้นมานั้น ย่อมแข็งแกร่งตามพลังของเขาเช่นกัน!
แต่พอเผชิญหน้ากับคทาอาญาสิทธิ์เทียนลิ่งแล้ว มันกลับถูกเจาะเป็นรูได้อย่างง่ายดาย
ฝูงชนล้วนเงยหน้าขึ้นมองด้วยความกระวนกระวาย สายตาของพวกเขามองตามคทาอาญาสิทธิ์เทียน
ลิ่งอย่างไม่ละสายตา!
ก่อนจะเห็นว่ามันกำลังพุ่งตรงมายังกลุ่มคนทางด้านนี้!
พร้อมปล่อยแรงกดดันมหาศาลให้แพร่กระจายออกไป จนหลายๆ คนตกใจและเผลอรุดถอยหลังหนีโดยไม่รู้ตัว!
“เร็วเข้า! ถอยออกไป!”
พลังปราณของคทาไม่ใช่สิ่งที่พวกเขาจะรับมือได้!
ทุกคนต่างตกใจและตื่นตระหนก!
ผู้อาวุโสของราชวงศ์หลายคนยืนอยู่บนขั้นบันได พลางมองภาพเหตุการณ์ตรงหน้าอย่างหวาดหวั่น
“ผู้อาวุโสเฉินเค่อ พวกเราจักทำอย่างใดกันดี? ท่านช่วยหาวิธีหยุดคทาอาญาสิทธิ์เทียนลิ่งก่อนได้หรือไม่?”
ผู้อาวุโสเฉินเค่อกำหมัดแน่น มีรอยย่นปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเขาทีละน้อย
หยุดหรือ!?
พูดนะมันง่าย!
ถึงพวกเขาสี่ห้าคนจะร่วมมือกัน แต่ก็ไม่อาจควบคุมคทาอาญาสิทธิ์เทียนลิ่งด้ามนี้ได้อย่างสมบูรณ์!
ยิ่งไปกว่านั้น ยามนี้พวกเขาก็ไม่ทราบว่าเหตุใดเจ้าสิ่งนี้ถึงพิโรธขึ้นมาได้ แต่จู่ๆ มันก็ส่งเสียงหวีดร้องออกมา!
เขาเคยเห็นพิธีขึ้นครองราชย์มาแล้วสามครั้งก็จริง แต่เขาไม่เคยเห็นอันใดแบบนี้มาก่อนเลย!
แต่เขาก็ทำได้แค่พูดกับตัวเองในใจเท่านั้น
สถานการณ์ในตอนนี้วุ่นวายมาก และหากไม่สามารถควบคุมมันได้ทันเวลา ผลที่ตามมาอาจจะร้ายแรงจนคุมไม่อยู่ก็ได้!
ผู้อาวุโสเฉินเค่อครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง และตัดสินใจอย่างเด็ดขาด
“เร็วเข้า! รีบใช้หินนิลทมิฬเร็ว!”
หินนิลทมิฬ คือสิ่งที่บรรจุอยู่ในผนึกสีดำนั่น!
ด้านบนของมันมีค่ายกลระดับสูง ที่ถูกสลักด้วยอักขระพิเศษปกคลุมไว้ เพื่อระงับคทาอาญาสิทธิ์เทียนลิ่ง
ซึ่งในปกติแล้ว ค่ายกลที่บนหินนิลทมิฬจะถูกเปิดไว้ตลอด และคทาอาญาสิทธิ์เทียนลิ่งก็จะอยู่ในสภาพสงบนิ่ง
และมีแค่ในช่วงเวลาพิเศษเช่นนี้เท่านั้น ที่พวกเขาจะปิดการทำงานของค่ายกลหินนิลทมิฬล่วงหน้า และหลังจากที่รัชทายาทหยิบคทาออกมาได้สำเร็จ พวกเขาก็จะเปิดใช้งานค่ายกล ให้กลับมาทำงานปกติดังเดิม
แต่คิดไม่ถึงว่าคราวนี้ พวกเขาจะต้องมาทำอันใดแบบนี้ก่อนกำหนดของมัน
ผู้อาวุโสหลายคนลังเล
เพราะเมื่อเปิดใช้งานอีกครั้ง พวกเขาจะไม่สามารถสัมผัสหินนิลทมิฬและคทาอาญาสิทธิ์เทียนลิ่งได้พักหนึ่ง
และถ้าเป็นเช่นนั้น พิธีราชาภิเษกเพื่อแต่งตั้งจักรพรรดิองค์ใหม่ จะต้องถูกเลื่อนออกไปอีกครั้ง
แต่ในเมื่อวันนี้พวกเขาควบคุมคทาไม่ได้แล้ว ก็เกรงว่านี่จะเป็นวิธีเดียวที่สามารถช่วยพวกเขาได้!
ผู้อาวุโสหลายคนมองหน้ากัน และพยักหน้าให้กันอย่างหนักแน่น แต่ละคนยืนล้อมรอบหินนิลทมิฬไว้ แล้วเริ่มลงมือ!
หนึ่งในนั้นยื่นมือออกมาข้างหน้า พร้อมพลังปราณสีเงินหลายสายที่พุ่งออกมา!
“เริ่ม…”
“ช้าก่อน!”
จู่ๆ ผู้อาวุโสเฉินเค่อก็ตะโกนออกมาด้วยความตกใจ!
ผู้อาวุโสหลายคนหยุดมืออย่างรวดเร็ว ก่อนจะเห็นผู้อาวุโสเฉินเค่อทำหน้าตื่นตกใจ ขณะจ้องมองไปยังทิศทางหนึ่ง!
จากนั้นพวกเขาก็หันมองตาม พลันอ้าปากค้างอย่างห้ามไม่ได้!
พวกเขาเห็นฝูงชนที่เดิมทีมาชุมนุมกันด้วยความครึกครื้น แตกกระจายออกเป็นสองฝั่ง เสมือนถูกกระบี่ที่มองไม่เห็นตัดแบ่งกลุ่มคนออกเป็นสองส่วน!
และสุดปลายแถวของฝูงชนนั้น ก็มีสตรีชุดแดงคนหนึ่งยืนอยู่ ซึ่งนางก็คือ ฉู่หลิวเยว่!
จากนั้นคทาอาญาสิทธิ์เทียนลิ่งก็พุ่งฉิวเข้ามา แล้วหยุดลงตรงหน้าฉู่หลิวเยว่ โดยห่างจากนางเพียงหนึ่งก้าว!
…
ราวกับห้วงเวลาหยุดนิ่ง และพื้นที่โดยรอบถูกแช่แข็ง!
ทั่วทั้งบริเวณตกอยู่ในความเงียบ!
ทุกคนจ้องมองไปยังภาพตรงหน้าด้วยความตกตะลึง และตกใจจนพูดไม่ออก!
คทาอาญาสิทธิ์เทียนลิ่งต่อต้านซั่งกวนหว่านอย่างรุนแรง และระเบิดพลังใส่นางอย่างไร้ความปราณี แต่เพียงพริบตา มันกลับพุ่งมาหยุดอยู่ตรงหน้าฉู่หลิวเยว่!
นะ นี่มันหมายความว่าอย่างใด!?
หลังจากตกอยู่ในความตกใจ ในที่สุดก็มีใครบางคนนึกถึงซั่งกวานหว่านขึ้นมาได้ พลันรีบหันกลับไปมอง
เมื่อครู่นี้ซั่งกวนหว่านตกลงมาจากบันไดขั้นที่เก้า
และอาจเป็นเพราะแรงระเบิดของพลังปราณนั้นรุนแรงเกินไป นางจึงล้มลงกับพื้นและดิ้นรนอยู่พักหนึ่ง ก่อนจะลุกขึ้นยืน
ยามนี้ใบหน้างามของนางหมดสภาพสุดๆ
ใบหน้าและมือของนางมีรอยขีดข่วนหลายแห่ง เลือดสีเข้มไหลซึมออกมา และเครื่องสำอางที่ถูกแต่งแต้มไว้บางๆ ก็ถูกทำลายอย่างสมบูรณ์
ผ้าคลุมศีรษะห้อยลงมาสะเปะสะปะ ผมเผ้าที่ถูกมวยไว้กระจัดกระจายยุ่งเหยิง ปิ่นปักผมหงส์ฟ้าอันหรูหราบิดงอและห้อยต่องแต่งติดกับปอยผม
นางไม่รู้ว่าตัวเองได้รับบาดเจ็บภายในหรือเปล่า ทว่ายามนี้ใบหน้าของนางนั้นซีดมาก แต่กึ่งกลางคิ้วและมุมปากของนางกลับดำคล้ำ ซึ่งดูแปลกมาก
ไม่มีใครคาดคิดว่าองค์หญิงสามผู้งดงามราวดอกฟ้าเมื่อครู่นั้น จะกลายเป็นเช่นนี้ไปได้!
ผู้คนบางส่วนค่อยๆ ได้สติคืนมา พร้อมความรู้สึกสับสนในใจที่เพิ่มพูนขึ้น
นี่มัน… ถ้าจำไม่ผิดเมื่อครู่ซั่งกวนหว่านถูกคทาอาญาสิทธิ์เทียนลิ่งระเบิดพลังใส่ใช่หรือไม่?
มันไม่เกี่ยวแล้วว่านางจะยกคทาได้หรือไม่ แต่ประเด็นคือนางถูกคทาอาญาสิทธิ์เทียนลิ่งรังเกียจไม่ยินยอมให้สัมผัสต่างหาก!
แม้ว่าในอดีตจะมีโอกาสที่รัชทายาทจะล้มเหลว แต่ก็ไม่เคยมีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นเลย!
ซั่งกวนหว่านคือองค์หญิงลำดับสาม ที่มีสายเลือดที่แท้จริงของราชวงศ์เทียนลิ่ง!
ซึ่งการโดนปฏิเสธแบบนี้ ไม่ต่างจากการโดนตบหน้ากลางสาธารณชนเลย!
ซั่งกวนหว่านเองก็รู้สึกอับอายอย่างมาก แขนขาของนางเย็นเฉียบ โลหิตในร่างกายพลันแข็งตัว และมีเพียงใบหน้าของนางเท่านั้นที่ร้อนฉ่าเหมือนไฟ!
ยามนี้สายตาของทุกคนที่มองมานั้น เต็มไปด้วยการเสียดสีและเยาะเย้ย!
ในสมองของนางเอาแต่นึกถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อครู่ จนนางแทบจะมุดหน้าแทรกแผ่นดินหนี! แล้วหายตัวไปให้รู้แล้วรู้รอด!
“หว่านเออร์ เป็นอย่างใดบ้าง?”
เจียงอวี่เฉิงตอบสนองอย่างรวดเร็ว เขารีบเดินลงมาแล้วก้าวเท้าไปยืนอยู่ข้างๆ ซั่งกวนหว่าน และเอ่ยถามพร้อมกับขมวดคิ้ว
ทว่าในขณะที่ซั่งกวนหว่านกำลังจะพูด ก็พลันสัมผัสได้ถึงเลือดในช่องอกที่กำลังดันขึ้นมา และกระอักเลือดออกมาดัง “อึก” ใหญ่!
เลือดเหล่านั้นกระเซ็นโดนเจียงอวี่เฉิงที่ยืนอยู่ข้างๆ
เขาขมวดคิ้วฉับ แต่ยังยื่นมือออกไปพยุงซั่งกวนหว่าน
แต่ตอนนี้ซั่งกวนหว่านไม่สนใจเขา หลังจากอาเจียนเป็นเลือด นางก็ยังดันทุรังและรีบเงยหน้ามองฉู่หลิวเยว่ในฝูงชนที่อยู่ห่างออกไป!
“คทา…คทาอาญาสิทธิ์เทียนลิ่ง…เหตุใด…”
นางพยายามพูดทั้งๆ ที่สายตายังจดจ่ออยู่กับภาพด้านหน้า! ความขุ่นเคืองในดวงตาของนางเปรียบเสมือนมีดคม ที่หมายจะหั่นฉู่หลิวเยว่ให้เป็นชิ้นๆ!
เจียงอวี่เฉิงขมวดคิ้วแล้วหันไปดู
แต่เหตุใดในใจเขากลับรู้สึกไม่แปลกใจล่ะ!?
ความจริงแล้วตอนนี้ ผู้คนทั้งในและนอกตำหนักหลางคุนล้วนงุนงงกับสิ่งที่เห็น
ฉู่หลิวเยว่ข้องเกี่ยวกับคทาอาญาสิทธิ์เทียนลิ่งตั้งแต่เมื่อใด?
แล้วเหตุใดมันถึงพุ่งตรงไปหานางเพียงคนเดียว?
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อเทียบกับสิ่งที่ซั่งกวนหว่านโดนแล้ว ยิ่งทำให้ภาพที่เห็นในตอนนี้ดูแปลกกว่าเดิมหลายเท่า!
ใบหน้าของเจียงอวี่เฉิงขึงขังขึ้นทันตา
“คทาอาญาสิทธิ์เทียนลิ่งอันตรายมาก เจ้าระวัง…”
แต่ก่อนที่เขาจะพูดจบ ก็เหมือนว่าคทาอาญาสิทธิ์เทียนลิ่งจะเข้าใจ และควบคุมลมปราณที่ดุร้ายรอบตัวมันให้เบาลง แล้วเคลื่อนไปข้างหน้าช้าๆ
ราวกำลังประจบสอพลอ
ก่อนจะจิ้มแก้มของฉู่หลิวเยว่เบาๆ