ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ - ตอนที่ 873 ส่งคืน
ตอนที่ 873 ส่งคืน
เจียงอวี่เฉิงจำต้องกลืนคำพูดที่เหลือลงคอไปทันทีจนเกือบสำลักตาย ใบหน้าหล่อเหลาแปรเปลี่ยนเป็นตกใจ!
เมื่อคนรอบข้างเห็นฉากนี้ ปฏิกิริยาของพวกเขาไม่ได้ต่างไปจากเจียงอวี่เฉิงเลยสักนิด พวกเขาทั้งหมดล้วนตกตะลึง!
นี่มัน เกิดอันใดขึ้นกันแน่!?
คทาอาญาสิทธิ์เทียนลิ่งนั้นเป็นดั่งกฤษฎีกาอันสูงส่งจากสวรรค์ และมิอาจลบหลู่ได้มิใช่หรือ?
และมันถูกบัญญัติขึ้นไว้แล้วว่า เฉพาะผู้ที่ถือคทาอาญาสิทธิ์เทียนลิ่งเท่านั้น ที่จะสามารถครอบครองอำนาจของราชวงศ์ได้ แล้วขึ้นสู่จุดสูงสุดได้มิใช่หรือ?
แต่แล้วเหตุใดจู่ๆ มันถึงกลายเป็นแบบนี้ไปได้ล่ะ!?
เมื่อครู่ก่อนคทาอาญาสิทธิ์เทียนลิ่งนั้นดุร้ายมาก มันระเบิดพลังใส่องค์หญิงสามจนนางกระเด็นลอยออกไปอย่างแรง ทว่าต่อมา มันกลับพุ่งมาหยุดอยู่ตรงหน้าฉู่หลิวเยว่…
แปลกเกินไปแล้ว!
ทั่วทั้งบริเวณเงียบสงัด สายตานับไม่ถ้วนจับจ้องไปยังฉู่หลิวเยว่ด้วยสีหน้าที่แตกต่างกัน
ฉู่หลิวเยว่เองก็ตกใจมาก
เมื่อนางเห็นคทาพุ่งมาหาตนเมื่อครู่ นางก็พอจะเดาอันใดบางอย่างได้แล้ว แต่แค่คิดไม่ถึงว่ามันจะปฏิบัติต่อนางอย่างสนิทสนมเช่นนี้
ใช่แล้ว สนิทสนมมากเลยล่ะ
ตอนที่มันพุ่งเข้ามาหยุดอยู่ตรงหน้าและค่อยๆ เคลื่อนเข้ามาแตะใบหน้าของนาง ความคิดแรกที่เข้ามาในหัวของฉู่หลิวเยว่ก็คือ มันเหมือนว่าคทาอาญาสิทธิ์เทียนลิ่งสนิทสนมและโปรดปรานนาง
นางไม่สามารถอธิบายความรู้สึกนี้ แต่มันคือเรื่องจริง
ฉู่หลิวเยว่กะพริบตาปริบๆ และมองไปยังคทาอาญาสิทธิ์เทียนลิ่งตรงหน้า
ในขณะนี้ ทั้งตัวของมันยังคงปกคลุมไปด้วยกลุ่มแสงจางๆ
และเพราะว่าอยู่ใกล้กันมาก นางจึงสามารถมองเห็นรูปร่างของมันได้พอสมควร
มันคือคทาทรงกระบอกสีดำ ที่ด้านบนจะกว้างและค่อยๆ แคบลงเมื่อใกล้ส่วนปลาย และมีความยาวประมาณสามไม้บรรทัด
ส่วนหัวของมันถูกแกะสลักเป็นรูปหัวมังกร ส่วนปลายด้ามที่ดูแหลมคมนั้นถูกลงอักขระบางอย่างไว้
แม้ว่ามันจะยับยั้งลมปราณบางส่วนรอบๆ ตัวไว้แล้ว แต่นางก็ยังสัมผัสได้ถึงแรงกดอันยิ่งใหญ่และทรงพลังนั่น ราวกับว่ามันคือพลังจากบรรพกาล!
ฉู่หลิวเยว่รู้สึกได้อย่างชัดเจนว่า คทาอาญาสิทธิ์เทียนลิ่งด้ามนี้เลือกนาง!
ชั่วขณะหนึ่ง นางใจเต้นระรัวด้วยคลื่นอารมณ์บางอย่างที่พวยพุ่งออกมา และกำลังจะเอื้อมมือออกไปคว้ามันไว้!
แต่นางก็ยังตระหนักได้ทันว่า ตอนนี้นางกำลังอยู่ที่ใดและตกเป็นเป้าสายตาของผู้คนมากมายแค่ไหน!
ทว่าในขณะที่นางกำลังระงับความต้องการในใจ กลับมีเสียงแหลมบาดแก้วหูที่เต็มไปด้วยโทสะ ตวาดโพล่งขึ้นมาเสียก่อน
“ฉู่หลิวเยว่! เจ้ากล้าดีอย่างใด!”
เสียงตะโกนนั้นรุนแรงเสียดหูอย่างมาก จนหลายๆ คนถึงกับสะดุ้งโหยง
ฉู่หลิวเยว่เงยหน้ามองทันที
คนที่พูดคือ ซั่งกวนหว่าน
ในขณะนี้ นางกำลังจ้องฉู่หลิวเยว่อย่างโกรธเคือง ดวงตากลมคู่นั้นเบิกกว้างแทบถลน ใบหน้างามบิดเบี้ยวราวแค้นเคือง
“คทาอาญาสิทธิ์เทียนลิ่งเป็นวัตถุศักดิ์สิทธิ์ ที่ราชวงศ์เทียนลิ่งประดิษฐานไว้เป็นเวลาหลายพันปี และเป็นสัญลักษณ์ทางอำนาจของจักรพรรดิ! เจ้ากล้าดีอย่างใดถึงทำให้มันเกิดมลทินเช่นนี้!”
สีหน้าของฝูงชนเปลี่ยนไปทันตา
หากมิได้ตาบอด ก็จะมองเห็นได้ชัดเจนว่าเมื่อครู่นั้น คทาอาญาสิทธิ์เทียนลิ่งพุ่งไปหาฉู่หลิวเยว่เอง และเป็นมันเองที่คิดเข้าไปสัมผัสฉู่หลิวเยว่อย่างพินอบพิเทา
ตั้งแต่เริ่มจนถึงตอนนี้ ฉู่หลิวเยว่แค่ยืนอยู่เฉยๆ ตรงนั้น และไม่ได้ทำอันใดเลย
ซึ่งการที่ซั่งกวนหว่านกล่าวหาว่านางทำให้คทาเป็นมลทินนั้น…
ช่างเป็นคำพูดที่ไร้หลักการเสียจริง…
ฉู่หลิวเยว่เลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย พลันเผยยิ้มให้อีกฝ่ายแทนที่จะโมโห แล้วตอบว่า
“องค์หญิงสามเจ้าคะ ท่านหมายความว่า ข้าเป็นผู้อัญเชิญให้คทาอาญาสิทธิ์เทียนลิ่งบินมาหา และควบคุมให้มันทำสิ่งต่างๆ เมื่อครู่หรือเจ้าคะ?”
ซั่งกวนหว่านถึงกับสะอึก
ถ้านางตอบว่าใช่ นั่นก็ยอมรับว่าคทาเลือกฉู่หลิวเยว่เลยมิใช่หรือ? นี่นางคิดจะทำให้ราชวงศ์ขายหน้าหรืออย่างใด?!
แต่ถ้าตอบว่าไม่ใช่… เช่นนั้นเพราะเหตุใดจู่ๆ คทาอาญาสิทธิ์เทียนลิ่งถึงแผลงฤทธิ์ออกมาเล่า?
มันปฏิเสธไม่ให้นางเข้าใกล้และทำร้ายนาง แต่เพียงพริบตามันกลับไปทำตัวออดอ้อนอยู่ตรงหน้าฉู่หลิวเยว่!
แม้แต่ในประวัติศาสตร์พันปีของราชวงศ์เทียนลิ่ง ก็ยังไม่เคยมีเรื่องแบบนี้มาก่อน!
และสิ่งที่น่าอายที่สุดคือในขณะนี้ก็คือ คทาอาญาสิทธิ์เทียนลิ่งด้ามนั้นยังคงลอยอยู่ข้างกายฉู่หลิวเยว่เงียบๆ ราวกับว่ามันเลือกแล้วว่ามันจะไม่กลับมา
แต่นางต้องเอาคทาอาญาสิทธิ์เทียนลิ่งด้ามนั้นมาให้ได้!
ทว่าในสถานการณ์แบบนี้ นางจักทำอย่างใดดี!?
หัวใจของซั่งกวนหว่านเต็มไปด้วยความเกลียดชัง!
ฉู่หลิวเยว่!
ฉู่หลิวเยว่อีกแล้ว!
เมื่อเย็นวันก่อน เจียงอวี่เฉิงก็สารภาพรักกับนาง และยังขอนางแต่งงาน
พอมาตอนนี้ แม้แต่คทาอาญาสิทธิ์เทียนลิ่งก็ยังเลือกนางอีก!
“ใครจะรู้กัน บางทีเจ้าอาจใช้วิธีบางอย่างก็ได้!”
ซั่งกวนหว่านถูกโทสะครอบงำจนหน้ามืดตามัว นางชี้หน้าฉู่หลิวเยว่เตรียมเปิดฉากด่า แต่เจียงอวี่เฉิงที่อยู่ข้างๆ ก็หยุดนางไว้อย่างรวดเร็ว
“หว่านเออร์ เจ้าใจเย็นลงหน่อย!”
เขาบีบมือซั่งกวนหว่านแน่นและเตือนนาง
นางไม่ได้ดูสภาพตัวเองตอนนี้เลยด้วยซ้ำว่าเป็นอย่างใด!
หากนางสูญเสียการควบคุมอารมณ์และเอะอะโวยวายอีกครั้ง ทุกอย่างจักจบสิ้นแน่นอน!
ซั่งกวนหว่านกัดปากแน่นเพื่อควบคุมอารมณ์ของตัวเอง
เจียงอวี่เฉิงปรายตามองฉู่หลิวเยว่และคทาอาญาสิทธิ์เทียนลิ่งตรงหน้านาง ด้วยสายตาลึกซึ้ง ในสมองของเขาเต็มไปด้วยความคิดยุ่งเหยิง
“ผู้อาวุโสเฉินเค่อ”
เขาตะโกนสียงเข้ม
“ท่านได้รับหน้าที่ให้คอยดูคทาอาญาสิทธิ์เทียนลิ่งมาตลอด เช่นนั้นท่านคงจะรู้ว่ามันเกิดเรื่องอันใดขึ้น?”
ผู้อาวุโสเฉินเค่อที่โดนเรียกตัว รีบก้าวออกมาทันทีด้วยสีหน้ากล้ำกลืน
“คะ… คือว่า… จากการสังเกตมาระยะหนึ่ง ข้าเองก็ไม่รู้ว่ามันเกิดอันใดขึ้น… น้อยครั้งนักที่คทาจะบินออกไปจากหินนิลทมิฬเช่นนี้…”
“ท่านเป็นหัวหน้าของผู้อาวุโสทั้งแปดของราชวงศ์ และท่านมีหน้าที่รับผิดชอบเรื่องเหล่านี้ ถ้าท่านไม่รู้แล้วผู้ใดจักรู้ได้?”
น้ำเสียงของเจียงอวี่เฉิงเย็นชาขึ้นกว่าเดิมเล็กน้อย
“ไม่ว่าอย่างใด ท่านต้องนำคทาอาญาสิทธิ์เทียนลิ่งกลับมา! หากพิธีขึ้นครองราชย์ขององค์หญิงสามล่าช้า นั่นถือเป็นความผิดของพวกเจ้า!”
ผู้อาวุโสพี่เฉินเค่อแอบบ่นอยู่ในใจ
เรื่องนี้มันเกี่ยวกับเขาตรงไหน?
ไม่ว่าคทาจะบินไปหาฉู่หลิวเยว่หรือไม่ ก็ไม่มีใครทำอันใดได้ และถึงฉู่หลิวเยว่จะไม่อยู่ที่นี่ แต่ซั่งกวนหว่านจะยกมันขึ้นมาได้จริงหรือ?
ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อครู่ยังติดตาเขาไม่หาย!
คทาอาญาสิทธิ์เทียนลิ่งต่อต้านซั่งกวนหว่านเต็มกำลัง มันไม่ยอมให้นางแตะต้องมันด้วยซ้ำ! เช่นนั้นก็อย่าพาดพิงถึงผู้อื่นเลย!
และถ้ามันทำให้พิธีขึ้นครองราชย์ของนางล่าช้า…
นั่นก็ขึ้นอยู่ว่านางมีความสามารถมากพอหรือไม่!
เพราะหากคทาอาญาสิทธิ์เทียนลิ่งไม่ยินยอม พิธีในวันนี้ก็จะดำเนินต่อไปไม่ได้!
เมื่อนึกถึงสิ่งนี้แล้ว ท่าทีผู้อาวุโสเฉินเค่อก็เบาลง
“ท่านราชบุตรเขย ข้ามีหน้าที่พิทักษ์คทาอาญาสิทธิ์เทียนลิ่งก็จริง แต่ข้าไม่เคยควบคุมมันได้เลย! ได้โปรดยกโทษให้ข้าที่ไร้ความสามารถด้วย แต่ข้าอาจไม่สามารถทำตามคำขอของท่านได้”
เจียงอวี่เฉิงร้อนใจขึ้นมาทันที
และพอซั่งกวนหว่านได้ยินเช่นนั้น นางก็ยิ่งโกรธมากขึ้น พลันตวาดเสียงดังลั่นแล้วหันไปชี้ฉู่หลิวเยว่
“ไม่ว่าอย่างใด พวกเจ้าทุกคนก็ต้องนำคทากลับไปยังหินนิลทมิฬให้จงได้! มิฉะนั้นข้าจะทำพิธีต่อไปได้อย่างใด?”
ผู้อาวุโสเฉิอเค่อกำหมัดทั้งสองข้างแน่น พลางก้มลงทำความเคารพ และพูดเน้นทีละคำ
“องค์หญิงสาม ท่านทราบหรือไม่ว่าคทาอาญาสิทธิ์เทียนลิ่งด้ามนี้ คือสมบัติศักดิ์สิทธิ์ที่สืบทอดมาในราชวงศ์นานกว่าหลายพันปี และมันก็มีจิตวิญญาณของมันเอง หากมันยอมรับท่าน มันจะตอบรับคำขอของท่านแน่นอน และไม่ว่าจะอยู่ที่ใด ท่านย่อมหยิบยกมันขึ้นมาได้ โดยไม่จำเป็นว่ามันจะต้องอยู่บนหินนิลทมิฬหรือไม่ แต่ถ้ามันไม่ยินยอมล่ะก็… ต่อให้เป็นข้าก็ทำอันใดไม่ได้!”
ซั่งกวนหว่านหน้าแดงก่ำ
นี่เขากำลังด่านางโต้งๆ ว่านางไม่มีคุณสมบัติในการสืบทอดบัลลังก์หรือ!?
นางกำมือทั้งสองข้างแน่น และตวัดตามองฉู่หลิวเยว่
“ข้าขอสั่งเจ้า จงนำคทาอาญาสิทธิ์เทียนลิ่งไปคืนที่เดิมเดี๋ยวนี้!”