ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ - ตอนที่ 894 ใครบอกว่านางไม่เหมาะสม
ตอนที่ 894 ใครบอกว่านางไม่เหมาะสม
กระดูกเข่ากระแทกลงที่พื้นอย่างรุนแรง ตอนนั้นเองก็มีเสียงคลุมเครือดังขึ้น ตามด้วยเสียงกระดูกหัก คนที่ได้ยินเสียงนั้นต่างรู้สึกหนังศีรษะด้านชา!
เดิมทีใบหน้าของซั่งกวนหว่านขึ้นสีแดงก่ำเพราะว่าความโมโห แต่ในตอนนั้นเองใบหน้าของนางกลับเปลี่ยนเป็นสีขาวซีดทันที!
รอยเลือดสุดท้ายก็ปรากฏขึ้นมา
นางไม่สามารถทนรับพลังที่น่าสะพรึงกลัวนี้ได้ ในตอนที่นางคุกเข่าลง ร่างกายของนางก็พุ่งตัวถลาไปด้านหน้า พร้อมกระอักเลือดออกมาหนึ่งคำ!
เดิมทีนางก็ได้รับบาดเจ็บอยู่แล้ว เมื่อโดนการโจมตีเช่นนี้ ยิ่งทำให้นางไม่สามารถฟื้นขึ้นมาได้อย่างเด็ดขาด!
นางฟุบตัวลงที่พื้น รอยเลือดปรากฏขึ้นบนมือทั้งสองข้าง ซึ่งมันเจ็บปวดจนยากจะทานทน
เดิมทีอิฐที่อยู่บนพื้นล้วนเป็นสีขาวสะอาดสะอ้าน แต่ตอนนี้กลับเต็มไปด้วยหยดเลือด ท่าทางดูจนตรอก
ซั่งกวนหว่านรู้ดีว่านั่นคือเลือดของนาง
นางอยากจะลุกขึ้นยืนแต่ว่ามันช่างลำบากเหลือเกิน
เลือดและเนื้อทุกส่วนบนร่างกายของนางนั้น เหมือนถูกกดทับด้วยพลังที่ยิ่งใหญ่ จนตอนนี้ทำให้นางรู้สึกหายใจลำบากอย่างยิ่ง
ท่ามกลางความเงียบงัน เสียงฝีเท้าของคนผู้หนึ่งก็ดังขึ้น
ซั่งกวนหว่านที่กำลังคุกเข่าอยู่บนพื้น เมื่อได้ยินเสียงนั้น ก็เงยหน้าขึ้นไปมองอย่างไม่รู้ตัว
รองเท้าสีดำ ชายกระโปรงสีแดง
“ในเมื่อเจ้ายืนไม่ไหว เช่นนั้นก็คุกเข่าแล้วพูดออกมาเถิด”
เสียงของฉู่หลิวเยว่ดังขึ้นมาจากด้านบน มันทั้งกระจ่างใสและแผ่วเบา
น้ำเสียงของนางนั้นสงบราบเรียบอย่างมาก แต่สิ่งที่ซั่งกวนหว่านได้ยินนั้นกลับเป็นน้ำเสียงที่ดูถูกเหยียดหยามและเต็มไปด้วยการประชดประชัน
ซั่งกวนหว่านตื่นตระหนก พร้อมกัดฟันกรอด
“เจ้าทำ…”
ในตอนที่นางกำลังจะยันตัวขึ้นมา ทันใดนั้นเองนางก็รู้สึกเย็นวาบที่หลังคอ! ตัวของนางทรุดลงอีกครั้ง!
กระบี่หลงหยวนที่อยู่ในมือของฉู่หลิวเยว่กำลังฟาดเข้าที่คอของนางอยู่!
ลมหนาวเย็นเสียดกระดูกแผ่กระจายออกมาจากกระบี่เล่มหนา!
บนกระบี่ที่คมกริบนั้นมีจิตสังหารที่เข้มข้นพวยพุ่งออกมา!
ราวกับว่าถ้านางกล้าขยับ กระบี่เล่มนี้จะสามารถปลิดชีพนางได้ในทันที!
ฉู่หลิวเยว่เอียงคอเล็กน้อย พร้อมโน้มตัวขยับมาจ้องใบหน้าของซั่งกวนหว่านใกล้ๆ
ริมฝีปากของนางโค้งขึ้นเป็นรอยยิ้ม แววตาของนางจริงใจอย่างสุดซึ้ง นางค่อยๆ พูดออกมาทีละคำว่า
“จะว่าไปแล้ว ข้าควรจะต้องขอบคุณเจ้าเสียหน่อยนะ ถ้าไม่ใช่เพราะเจ้า ข้านั้นอาจจะต้องแต่งงานกับเจียงอวี่เฉิงไปแล้ว แบบนั้นมันจะต้องแย่มากอย่างแน่นอนเลย”
“เจ้า!”
ซั่งกวนหว่านรู้สึกโกรธอย่างมาก แต่ในตอนนั้นเองนางก็ไม่รู้ว่าจะต้องโต้เถียงอย่างใด?
ส่วนเจียงอวี่เฉิงที่อยู่ด้านข้างนั้น เมื่อได้ยินคำพูดนั้นของนาง ใบหน้าของเขาก็มืดครึ้มลงทันที ริมฝีปากซีดขาว สั่นระริก แต่กลับไม่ได้พูดอันใดออกมาสักอย่างเดียว
เหมือนกับว่าหัวใจของเขาในตอนนั้นถูกแทงอย่างรุนแรง และเจ็บปวดอย่างมาก
เขาหันไปมองผู้หญิงคนนั้นที่ยืนอยู่ไม่ไกล
แววตาของนางประดับด้วยรอยยิ้ม ท่าทางผ่อนคลาย เห็นได้ชัดว่าคำพูดนี้ออกมาจากใจจริง
…นางรู้สึกเช่นนั้นจริงๆ ไม่ได้ใช้ชีวิตอยู่ร่วมกับเขานั้นช่างมีความสุขอย่างยิ่ง
แต่ทันใดนั้นเองความอ่อนโยนในดวงตาของนางก็หายไป
เดิมทีเขาคิดว่าแววตาแห่งความเกลียดชังจะเข้ามาแทนที่
แต่เปล่าเลย ไม่มี
นางมองเขาเหมือนกับคนแปลกหน้าคนหนึ่ง
นอกเสียจากความแค้นที่โดนหักหลัง ก็ไม่มีความบ้าคลั่งและผูกพันหลงเหลืออยู่อีกเลย
เจียงอวี่เฉิงหลับตาลง จากนั้นก็หัวเราะเยาะตัวเอง
ก็ใช่ นางไม่เคยรู้สึกรักเขาเลย แล้วเขาจะคิดให้ได้อันใดขึ้นมา?
มันก็เป็นเพียงความหวังลมๆ แล้งๆ เท่านั้น
…
ทันใดนั้นซั่งกวนหว่านก็จำได้ว่าหยางซิ่นเอ๋อร์เคยพูดเอาไว้ว่า ฉู่หลิวเยว่เป็นคนนำกระบี่หลงหยวนออกมาจากอาณาเขตเซียนเทพของราชวงศ์เทียนลิ่ง
ในตอนนั้นนางก็ไม่เชื่อ พร้อมส่งผู้อาวุโสในราชสำนักเข้าไปตรวจสอบในอาณาเขตเซียนเทพของราชวงศ์เทียนลิ่งอีกด้วย และพวกเขานั้นล้วนพูดว่ากระบี่หลงหยวนยังถูกเก็บรักษาด้านในเป็นอย่างดี
นางคิดไม่ตกว่าฉู่หลิวเยว่นำกระบี่ออกมาจากอาณาเขตเซียนเทพของราชวงศ์เทียนลิ่งได้อย่างใด อีกทั้งยังปกปิดเรื่องนี้ต่อไปยังไร้ร่องรอย
แต่ว่าในตอนนี้นางไม่มีโอกาสได้คิดถึงเรื่องนั้นอีกแล้ว
เมื่อปลายกระบี่ที่เย็นเฉียบแตะเข้าที่ลำคอของนาง นางก็อดกรีดร้องออกมาไม่ได้ว่า
“ฉู่หลิวเยว่! ตัวข้านั้นเป็นองค์หญิงสามแห่งราชวงศ์เทียนลิ่ง เลือดในกายมีเลือดซั่งกวนอยู่! เจ้ากล้าฆ่าข้าหรือ?!”
ฉู่หลิวเยว่มองหน้านาง พร้อมเลิกคิ้วขึ้นแล้วกล่าวเสียงเรียบ
“กระบี่หลงหยวนเล่มนี้ ได้เปื้อนเลือดของคนราชวงศ์เทียนลิ่งมามากมายนับไม่ถ้วนแล้ว ฆ่าเจ้าเพิ่มขึ้นอีกคนก็ไม่เห็นจะเป็นไร เจ้า…คิดว่าตนเองสำคัญมากนักหรืออย่างใด?”
หัวใจของซั่งกวนหว่านสั่นสะท้าน!
นางไม่เคยเข้าไปในอาณาเขตเซียนเทพของราชวงศ์เทียนลิ่งมาก่อน ดังนั้นนางจึงไม่รู้สถานการณ์ความเป็นมาที่อยู่ด้านใน
แต่เมื่อฉู่หลิวเยว่พูดว่ากระบี่หลงหยวนเล่มนี้คร่าชีวิตคนในราชวงศ์ไปเป็นจำนวนมาก เรื่องนี้จะเป็นไปได้อย่างใด?
ต้องบอกก่อนว่านี่เป็นสมบัติที่องค์ปฐมกษัตริย์ได้ทิ้งเอาไว้!
“ไร้สาระ!”
เดิมทีซั่งกวนหว่านต้องการจะตะโกนจนเสียงดังลั่น แต่ทว่าเพราะมีกระบี่หลงหยวนฟาดอยู่ที่คอ ดังนั้นจึงทำให้นางไม่กล้าทำตัวกำเริบเสิบสานมากกว่านี้ เสียงของนางก็อ่อนลงหลายส่วนเลยทีเดียว
ท้ายที่สุดแล้วนางก็กลืนน้ำลายลงคอเอื๊อกหนึ่ง
นางถูกบังคับให้นั่งคุกเข่าลงที่พื้น พร้อมเงยหน้ามองฉู่หลิวเยว่ แววตาทั้งสองข้างแดงก่ำ และเต็มไปด้วยความเคียดแค้น
“ฉู่หลิวเยว่ ต่อให้เจ้าคือซั่งกวนเยว่จริงๆ แล้วอย่างใดกันเล่า? กายเนื้อของเจ้าถูกทำลายจนสิ้นแล้ว อีกทั้งร่างกายของเจ้าในตอนนี้…ก็ไม่ใช่ของตัวเจ้าเองสินะ? แม้วิญญาณของเจ้าจะยังคงอยู่ แต่ในตอนนี้เจ้าก็เปลี่ยนร่างกายไปอย่างสมบูรณ์แล้ว! ท้ายที่สุดแล้วเลือดที่ไหลวนในร่างกายของเจ้าก็แค่เพียงเด็กผู้หญิงคนหนึ่งที่มาจากแคว้นเล็กๆ นอกพรมแดนม่านฟ้าเท่านั้น! กับข้าที่มีสายเลือดซั่งกวน มันก็ต่างชั้นอย่างสิ้นเชิงแล้ว!”
เมื่อพูดถึงตรงนี้ ก็เหมือนว่าซั่งกวนหว่านจะนึกอันใดขึ้นมาได้ ก่อนจะหัวเราะเสียงเย็นขึ้นมาทันที!
“ในตอนแรกซั่งกวนเยว่นั้นมีชีพจรเทียนจิง เป็นจอมยุทธ์ขั้นแปดระดับสูง! แต่ในตอนนี้ นอกจากจิตวิญญาณที่หลงเหลืออยู่ ทั่วทั้งร่างกายของเจ้านั้น มีอันใดเหมาะสมกับคำว่า “องค์หญิงใหญ่” บ้าง!?”
“เจ้าอยากจะทวงทุกสิ่งทุกอย่างของเจ้ากลับคืน แต่เจ้าต้องดูก่อนว่า ในตอนนี้เจ้ามีคุณสมบัติหรือไม่!”
เมื่อนางพูดจบ นางก็เงยหน้าไปมองซั่งกวนโหยวที่ยืนอยู่บนบันได้ขั้นที่เก้า
“เสด็จพ่อ! ข้าทำผิดไปแล้ว แต่ท้ายที่สุดแล้วข้าก็เป็นคนที่สืบสายเลือดซั่งกวน! แต่ผู้หญิงที่ยืนอยู่ตรงหน้าของท่านตอนนี้ นางไม่มีความเกี่ยวข้องกับราชวงศ์เทียนลิ่งแม้แต่น้อย! เสด็จพ่อ หรือท่านไม่กลัวว่าสายเลือดของนางในตอนนี้จะทำให้ตระกูลซั่งกวนมัวหมองหรือเพคะ?”
ซั่งกวนหว่านบ้าคลั่งขึ้นมา จนไม่ได้สนใจกระบี่หลงหยวนที่ฟาดอยู่ที่คอของตัวเองเลยแม้แต่น้อย
ไม่ว่าอย่างใดก็ตามเรื่องราวก็ได้ยุ่งเหยิงมาจนถึงจุดนี้แล้ว นางจะต้องไม่มีทางรอดอย่างแน่นอน
ถ้าเช่นนั้น…ก็ไม่มีอันใดให้ต้องกังวลอีกต่อไปแล้ว!
ตราบใดที่สามารถทำให้ฉู่หลิวเยว่สูญเสียทุกอย่างไปได้นั้น นางจะยินดีจะทำทันทีโดยไม่ลังเลสักนิด!
เสียงกรีดร้องแหลมดังไปทั่วจัตุรัส
ทุกคนล้วนมีสีหน้าตกใจอย่างมาก
สิ่งที่ซั่งกวนหว่านพูดนั้น ใช่ว่าจะไม่มีเหตุผล
ผู้หญิงที่ยืนอยู่ตรงนั้นคือซั่งกวนเยว่และก็คือฉู่หลิวเยว่ด้วย!
ความจริงแล้วมันก็ไม่มีอันใด แต่ประเด็นสำคัญเลยก็คือ ปัญหาเรื่องสายเลือด…เรื่องนี้เป็นปัญหาที่แก้ไขได้ยาก คนจำนวนไม่น้อยค่อยๆ หันไปมองซั่งกวนโหยวที่ยืนอยู่ด้านบน เพราะต้องการที่จะสังเกตปฏิกิริยาขององค์จักรพรรดิที่มีต่อเรื่องนี้
ในตอนนี้อารมณ์ของซั่งกวนโหยวก็สงบลงมากแล้ว
เมื่อได้ยินคำพูดเช่นนั้นของซั่งกวนหว่าน เขาก็เลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย แววตาลึกล้ำ
“บนโลกนี้มีเพียงเยว่เอ๋อคนเดียวเท่านั้น”
หัวใจของซั่งกวนหว่านดำดิ่ง แววตาประกายความบ้าคลั่ง ก่อนจะแข็งค้างไปชั่วครู่หนึ่ง
หลังจากนั้นนางก็อดที่จะหัวเราะเสียงเย็นขึ้นมาไม่ได้
“เสด็จพ่อ หากท่านต้องการจะยอมรับนางใหม่อีกครั้ง ท่านจำเป็นจะต้องต่อสู้กับบรรพบุรุษแล้ว! ท่านยินยอม แต่บรรพบุรุษอาจจะไม่ยินยอม! นางในตอนนี้ไม่คู่ควรกับตระกูลซั่งกวนแม้แต่น้อย!”
ทันทีที่สิ้นเสียงนาง เสียงทุ้มต่ำที่เหมือนดังผ่านห้วงเวลาและอากาศก็ดังขึ้น!
“ใครบอกว่านางไม่เหมาะสม!”
————————————————————–