ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ - ตอนที่ 896 หักหลังหรือไม่ ให้เจ้าเป็นคนพูดเอง
ตอนที่ 896 หักหลังหรือไม่ ให้เจ้าเป็นคนพูดเอง
องค์ปฐมกษัตริย์ประกาศออกมาด้วยตนเอง และสัญญาว่าจะมอบตำแหน่งจักรพรรดิให้นาง!
เรื่องราวเช่นนี้ ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน และเกรงว่าต่อไปนี้ก็ไม่มีอีกแล้ว!
สามารถทำให้องค์ปฐมกษัตริย์ปรากฏกายออกมาได้อีกครั้ง แล้วยังทำให้เขาป้องกันทุกวิถีทาง…
เพียงแค่เรื่องเท่านี้ก็พอแล้ว พอที่จะทำให้ฉู่หลิวเยว่ได้รักษาบัลลังก์ราชวงศ์เทียนลิ่งต่อไปได้อย่างมั่นคง!
ส่วนซั่งกวนหว่านก็เหมือนถูกฟ้าผ่า แสงแห่งความหวังสุดท้ายหายไปในพริบตา!
เป็นเช่นนี้ไปได้อย่างใด…
เป็นเช่นนี้ไปได้อย่างใด!?
ซั่งกวนเยว่ผู้นั้นควรจะตายไปตั้งแต่สองปีก่อนแล้ว!
เหตุใดนางถึงยังกลับมาได้อีก?!
แล้วเหตุใดซั่งกวนเยว่ถึงทำลายทุกสิ่งทุกอย่างที่นางสร้างมาอย่างยากลำบากได้ แล้วยังจะมีผู้ที่สนับสนุนมากมายขนาดนี้อีก?
แม้กระทั่งองค์ปฐมกษัตริย์ก็ยังสนับสนุนนางด้วย!?
องค์ปฐมกษัตริย์พูดออกมาเช่นนี้แล้ว คนอื่นจะกล้าพูดอันใดอีก?
ซั่งกวนหว่านเพิ่งรู้ว่าการต่อรองทั้งหมดของนางนั้นมันไร้ประโยชน์
นางค่อยๆ เงยหน้าขึ้นมา แล้วมองไปยังฉู่หลิวเยว่ที่ยืนอยู่ตรงหน้า นางเหม่อมองอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะหัวเราะออกมาอย่างอดไม่ได้ ใบหน้าเต็มไปด้วยความสิ้นหวังและประชดประชัน
“หึ…มิน่าล่ะเจ้าถึงได้ใจกล้าขนาดนี้…ที่แท้ก็มีไพ่ไม้ตายใบสุดท้ายอยู่นี่เอง…ซั่งกวนเยว่ เจ้ามันโหดเหี้ยมน่าดู! ใครจะไปเป็นคู่ต่อสู้ของเจ้าได้! ใครกัน!?”
นางน่าจะรู้ตั้งนานแล้ว…
นางคิดว่าตนเองเป็นฝ่ายชนะ แต่สุดท้ายแล้วนางก็พ่ายแพ้โดยสิ้นเชิง!
ทำให้คนทั้งโลกต่างมองมาด้วยความขบขัน!
ที่เรื่องมาถึงอย่างเช่นวันนี้ โอกาสพลิกสถานการณ์เพียงเล็กน้อยนางยังไม่มีเลย!
ส่วนเจียงอวี่เฉิงที่อยู่ห่างออกไปไม่ไกล เมื่อได้เห็นองค์ปฐมกษัตริย์ปรากฏกายขึ้น เขาก็ขมวดคิ้วจนแน่น
สถานการณ์ในวันนี้เลวร้ายกว่าที่เขาคิดเอาไว้เสียอีก!
…
ต่อให้เป็นฉู่หลิวเยว่เอง นางก็รู้สึกตกใจเช่นกัน นางเบิกตากว้างอย่างอดไม่ได้ แล้วหันไปมององค์ปฐมกษัตริย์
“องค์ไท่จู่ นี่ท่าน…”
นางรู้ว่าองค์ปฐมกษัตริย์พูดเพื่อนาง แต่การที่ให้สัญญาเช่นนี้โดยตรง…มันเกินความคาดหมายของนางไปมาก
“นี่เป็นสิ่งที่คู่ควรกับเจ้าแล้ว”
องค์ปฐมกษัตริย์ส่ายหน้า แล้วพูดขึ้นอย่างหนักแน่น
“ไม่ว่าจะด้านพรสวรรค์ ฝีมือ ลักษณะนิสัย…ล้วนไร้ที่ติ! เพียงแค่เป็นเจ้า ข้าว่าทั้งเมืองเทียนลิ่งจะต้องโชคดีอย่างแน่นอน!”
คำพูดนี้องค์ปฐมกษัตริย์พูดขึ้นด้วยความจริงใจ
ถ้าไม่ใช่ฉู่หลิวเยว่ ตอนนี้เขาอาจจะติดอยู่ในอาณาเขตเซียนเทพของราชวงศ์เทียนลิ่ง ไม่รู้วันไม่รู้คืน
เมื่อเวลาผ่านไป เศษเสี้ยววิญญาณสุดท้ายของเขาอาจจะหายไปด้วยก็ได้
“กระบี่หลงหยวนยอมรับเจ้าเป็นเจ้านายคนใหม่แล้ว คทาอาญาสิทธิ์เทียนลิ่งก็ยอมรับเจ้าแล้ว ใต้หล้านี้ไม่มีใครเหมาะสมที่จะยืนตรงนี้ไปมากกว่าเจ้าอีกแล้ว!”
มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่คทาอาญาสิทธิ์เทียนลิ่งจะยอมรับ แต่เจ้านายคนใหม่ของกระบี่หลงหยวนนั้นมีเพียงนางคนเดียวเท่านั้น!
“ตอนนี้เจ้าได้รับการสืบทอดจากข้าแล้ว จะต้องยอมรับคำสั่งจากสวรรค์ มีอันใดที่ต้องปฏิเสธอีกเล่า?”
ฉู่หลิวเยว่กระแอมไอหนึ่งครั้ง แล้วเหลือบสายตามองเสด็จพ่อของตนเอง
คาดไม่ถึงเลยว่าซั่งกวนโหยวจะเห็นดีเห็นงามด้วยเช่นกัน
“องค์ไท่จู่กล่าวได้ถูกต้อง! เยว่เอ๋อฉลาดรู้ความมาตั้งแต่เล็ก จัดการธุระปะปังได้อย่างดี! เดิมทีสองปีก่อนคืนวันมงคมสมรสของนาง และข้าตั้งใจว่าจะมอบตำแหน่งให้นาง แต่คิดไม่ถึงว่า…”
ใบหน้าของเขาค่อยๆ มืดครึ้มลง จากหลังจากนั้นไม่นานก็ดีขึ้น
“ตอนนี้เยว่เอ๋อกลับมาอย่างปลอดภัยแล้ว ทุกอย่างกลับมาเป็นดังเดิม! เยว่เอ๋อ สุขภาพของพ่ออ่อนแอ ยังไม่หายดี เรื่องบางอย่างข้าคงไม่มีทางจัดการได้! เช่นนั้นวันนี้ก็ยกให้เป็นวันราชาภิเษกของเจ้าอย่างเป็นทางการเลยก็แล้วกัน!”
ฉู่หลิวเยว่ “???”
เหตุใดทั้งสองคนคุยกันแค่ไม่กี่คำ เหตุใดถึงผลักให้นางขึ้นบัลลังก์เช่นนี้?
“แบบนี้…เหมือนว่ามันจะไม่ค่อยเหมาะสมละมั้ง…”
หางตาของฉู่หลิวเยว่กระตุก
“มีอันใดไม่เหมาะสมกัน! วันนี้มีเรื่องราวดีๆ มากมาย มีเรื่องดีเพิ่มขึ้นอีกเรื่องก็จะยิ่งดีขึ้น”
องค์ปฐมกษัตริย์โบกมือขึ้น
เมื่อทุกคนได้ยินดังนั้น สีหน้าประหลาดก็ปรากฏแก่สายตา
เรื่องราวดีๆ มากมาย…
องค์ปฐมกษัตริย์ ท่านลองดูความยุ่งเหยิงที่เกิดทุกหย่อมหญ้าก่อนสิ
องค์หญิงสามซั่งกวนหว่านที่เพิ่งผ่านงานมหามงคลสมรสกับราชบุตรเขยเจียงอวี่เฉิง แต่ในตอนนี้ร่างกายของพวกเขาทั้งคู่กลับโชกไปด้วยเลือด!
ข้อพิพาทในราชวงศ์ก็มาถึงจุดนี้แล้ว มีแต่ท่านที่พูดออกมาได้ว่า “เรื่องราวดีๆ มากมาย”
ดวงตาของฉู่หลิวเยว่กระตุกยิกๆ เมื่อเผชิญหน้ากับการรุกคืบของทั้งสองคนนั้น ทำให้นางไม่สามารถตอบโต้ได้ชั่วคราว
ซั่งกวนโหยวกำหมัดป้องเหนือริมฝีปาก กระแอมไอหนึ่งครั้ง
“เยว่เอ๋ออ่า เจ้าดูสุขภาพของพ่อสิ…เช่นนี้ควรจะไปรักษาตัวอยู่เงียบๆ นะ! เจ้ายังอยากจะให้พ่อเหนื่อยจากการทำงานอีกหรือ?”
ฉู่หลิวเยว่ “???”
ก่อนหน้านี้ท่านนอนอยู่บนเตียงมาสองปีแล้วนะ นั่นเป็นการวางแผนด้วยหรือไม่?
“คือว่า…เช่นนั้นควรจัดการเรื่องยุ่งเหยิงเหล่านี้ก่อนดีหรือไม่?”
ฉู่หลิวเยว่เหลือบสายตามองทั้งสองคน แล้วถามขึ้น
เรื่องของเจียงอวี่เฉิงและซั่งกวนหว่านนั้น ยังไม่ทันได้จัดการให้เรียบร้อยเลยด้วยซ้ำ!
“จริงด้วย เกือบลืมเรื่องนี้ไปเลย”
องค์ปฐมกษัตริย์ตปรบมือราวกับเพิ่งนึกขึ้นได้ แล้วมองลงไปด้านล่าง
“นอกจากพวกเขาสองคนและใต้เท้าซย่าโหวแล้ว ในตอนนั้นยังมีใครบ้างที่ทำร้ายเจ้า? หักหลังเจ้าอีก? วันนี้ก็ลากออกมาให้หมด จัดการทีเดียว!”
องค์ปฐมกษัตริย์เรียกได้ว่าเป็นคนที่ทำอันใดรวดเร็วเฉียบขาด พูดจริงทำจริง
คิ้วของฉู่หลิวเยว่ขมวดขึ้นมาเล็กน้อย
เรื่องราวในปีนั้นนางสืบค้นออกมาอย่างชัดเจนแล้ว
แต่ก็ยังมีบางคำถามที่นางยังคงสงสัยอยู่
เช่นเหตุใดเจียงอวี่เฉิงถึงต้องทำเช่นนี้?
เห็นได้ชัดว่าเขาไม่ได้ชอบซั่งกวนหว่าน หรือจะบอกว่าต่อให้เขาชอบใครก็ไม่มีผลต่อการตัดสินใจของเขาเลย
เพราะสิ่งที่เขาสนใจนั้นมีแค่ตัวเขาคนเดียวเท่านั้น
แต่แล้วเหตุใดเขาถึงต้องทำเช่นนี้ด้วยเล่า?
แล้วก็…ในปีนั้นมีคนตั้งมากมายที่ยืนหยัดเพื่อนาง วิ่งเต้นหาข้อมูลเพื่อนาง แม้กระทั่ง…
นี่เขาหักหลังนางจริงๆ น่ะหรือ?
สายตาของนางจ้องมองไปทิศทางหนึ่งอย่างไม่ตั้งใจ
มู่ชิงเห่อยืนอยู่ด้านนอกกลุ่มคน เขาสวมชุดเกราะทั้งตัว ดูโดดเด่นสะดุดตาอย่างมาก
ราวกับว่าเขาสัมผัสได้ถึงการจ้องมองของนาง มู่ชิงเห่อจึงเงยหน้าขึ้นมามอง
“มู่ชิงเห่อ”
ทันใดนั้นฉู่หลิวเยว่ก็พูดขึ้นมา
ผู้คนที่ได้ยินดังนั้นก็เงียบเสียงลงทันที พร้อมมองไปทางทั้งสองคนนี้อย่างสงสัยและรู้สึกไม่ปลอดภัย
มีใครไม่รู้บ้างว่า มู่ชิงเห่อ รองแม่ทัพทหารม้าทมิฬ ในปีนั้นองค์หญิงใหญ่เป็นคนชุบเลี้ยงพวกเขาขึ้นมาด้วยตนเอง
แต่เมื่อองค์หญิงใหญ่เกิดเรื่อง แต่ทหารม้าทมิฬกลับไม่มีปฏิกิริยาเลยแม้แต่น้อย เรื่องนี้จะต้องมีปัญหาอย่างแน่นอน!
ฉู่หลิวเยว่มองไปที่เขาด้วยสายตาจริงจัง พร้อมพูดอย่างช้าๆ ว่า
“เจ้าพูดมาเองเถิด…ในปีนั้น เจ้าได้หักหลังข้าหรือไม่!?”