ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ - ตอนที่ 937 ไม่ได้มีไว้ให้เจ้า
ตอนที่ 937 ไม่ได้มีไว้ให้เจ้า
ถานไถเฉินแอบขุ่นเคืองในใจ
ซั่งกวนเยว่ผู้นี้ดูผิวเผินแล้วไม่เป็นพิษภัยต่อมนุษย์และสรรพสัตว์ แต่ใครจะรู้ว่านางมีน้ำเสียเต็มท้อง[1]!
และการที่นางพูดเช่นนี้ ก็ไม่ต่างจากการดันเขาให้จนมุมไม่เหลือทางให้ถอยกลับเลย!
และมันก็ชัดเจนว่าหากนางได้พบกับจักรพรรดิเป่ยหมิง นางจักต้องนำเรื่องในวันนี้ตรัสทูลกับอีกฝ่ายเป็นแน่
แม้ว่าการได้รถม้าที่หรูหราจะเป็นเรื่องน่ายินดี แต่ถ้าทุกคนรู้ที่มาที่ไปของเรื่องนี้ คงมิใช่เรื่องที่น่ายินดีเสียเท่าไร
ถานไถเฉินกัดฟันแน่น
เมื่อเห็นว่าเขาเงียบไปนาน ฉู่หลิวเยว่ก็ทำทีกะพริบตาปริบๆ พลางกระหยิ่มยิ้มเยาะ
“อันใดกัน แค่เรื่องเล็กๆ น้อยๆ เช่นนี้ จักรพรรดิไหวเหรินช่วยข้ามิได้เลยหรือ?”
ถานไถเฉินไม่มีทางเลือกนอกจากพูดว่า
“จะเป็นเช่นนั้นได้อย่างใด? แค่เรื่องเล็กน้อยเช่นนี้ ข้าช่วยได้อยู่แล้ว แต่วันนี้ข้ารู้สึกไม่สบายใจเล็กน้อย ข้าจึงมิอาจรับปากได้ว่าจะเข้าวังหรือไม่”
จากนั้นอิ่นเฮ่าที่อยู่ข้างๆ เขารีบเสริมทันที
“จักรพรรดิไหวเหรินทรงเดินทางมาไกล คงเหนื่อยล้าอ่อนเพลียมาเป็นแน่? เช่นนั้นให้ข้าน้อยไปส่งท่านพักผ่อน ณ ที่พักก่อนดีหรือไม่?”
เมื่อได้กำลังเสริม สีหน้าของไถถานเฉินก็ดูดีขึ้นมาหน่อย เขาพยักหน้าและก้าวขึ้นไปบนรถม้า
ทันทีที่ม่านปิดลง ก็สามารถบดบังสายตาของฉู่หลิวเยว่และคนอื่นๆ ได้อย่างแยบยล
จากนั้นถานไถเฉินก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก เขาเอนตัวยืนพิงผนังรถ และขมวดคิ้วด้วยความเหนื่อยหน่าย
ดูเหมือนว่าซั่งกวนเยว่ผู้นี้… จะไม่ใช่คนที่รับมือได้ง่ายๆ อย่างที่คิดเสียแล้ว…
หลังจากการเผชิญหน้ากันถึงสองครั้ง ก็เกิดความขัดแย้งที่ยากจะแก้ไขขึ้นแล้ว
แค่วันนี้นางก็ปั้นเรื่องรถม้าได้เป็นเรื่องเป็นราวจนน่าตกใจ ฉะนั้นหลังจากนี้นางคงจะมีแผนอันใดตามมาอีกแน่ๆ
เขาควรจะเตรียมรับมือไว้ดีกว่า!
หลังจากถานไถเฉินขึ้นรถม้าไปแล้ว ถานไถรั่วหลีและคนอื่นๆ เองก็เดินไปขึ้นขบวนรถม้าที่อยู่ด้านหลัง
“ออกเดินทาง!”
อิ่นเฮ่าออกคำสั่งเสียงกร้าว จากนั้นขบวนรถม้าทั้งหมดก็มุ่งหน้าไปยังประตูเมือง!
แต่ไม่ว่าจะมองอย่างใด มันก็ไม่ต่างจากการขายผ้าเอาหน้ารอดเลยสักนิด
…
เหวินฝานเหลือบมองฉู่หลิวเยว่ด้วยความแปลกใจ
จักรพรรดิองค์ใหม่ของราชวงศ์เทียนลิ่งผู้นี้ แม้จะดูเหมือนเด็กอายุสิบหกสิบเจ็ดปีทั่วไป แต่กลับ…ค่อนข้างรอบคอบและเจ้าแผนการยิ่งนัก!
นางสามารถพูดคุยและหัวเราะต่อหน้าผู้คนมากมายราวไม่รู้สึกรู้สา และบีบให้จิ้งจอกเฒ่าอย่างถานไถเฉินพูดไม่ออกเช่นนั้นได้ ซึ่งคนปกติทำเช่นนั้นไม่ได้แน่นอน!
ทัศนคติในใจที่เขามีต่อฉู่หลิวเยว่เปลี่ยนไปทันที และกลายเป็นว่าเขาเคารพนางมากขึ้น และอยากจะขอโทษนางอย่างจริงจัง
“เรื่องพวกนี้เป็นความผิดของข้าที่ไร้ความสามารถ…”
“ไม่ใช่เพราะเจ้าหรอก”
ฉู่หลิวเยว่ชำเลืองมองรถม้าที่กำลังแล่นออกไป และยิ้มจางๆ
“พวกเขาแค่ต้องการยกตนข่มท่านใส่ข้าเฉยๆ”
หากถานไถเฉินไม่เห็นดีเห็นงามด้วย แม้ว่าคนอย่างอิ่นเฮ่าจะจองหองเพียงใด เขาก็ไม่กล้าช่วงชิงสิ่งของในนามของนางไปอย่างเปิดเผยเช่นนั้นหรอก
“แต่น่าเสียดาย เพราะข้ามิอาจยอมรับได้”
รอบนี้ก็ปล่อยให้พวกเขาได้ใจไปก่อนสักหน่อย ถ้าถานไถเฉินจริงใจและซื่อสัตย์ นางจะยอมปล่อยไป
แต่ถ้าอีกฝ่ายยังคิดจะเล่นแง่ล่ะก็…
พอถึงตอนนั้น จะมากล่าวหาว่านางฉีกหน้าเขาไม่ได้แล้วนะ!
“เอาล่ะ พวกเราเองก็ไปกันเถอะ”
ฉู่หลิวเยว่เอ่ยพลางก้าวขึ้นไปบนรถม้า
ผู้อาวุโสเฉินเค่อและคนอื่นๆ เองก็เดินไปขึ้นรถม้าที่อยู่ด้านหลัง
จากนั้นนางก็เปิดม่านและมองไปที่เหวินฝานอีกครั้ง
“ใช่แล้ว ในเมื่อตลอดเวลาที่อยู่หลินโจว เจ้าจักเป็นผู้ดูแลและเป็นธุระให้พวกเรา เช่นนั้นข้ามีเรื่องจะไหว้วานเจ้าหน่อย”
เหวินฝานยืดตัวทันควันและถามด้วยความเคารพ
“โปรดบอกข้าได้ทุกเรื่อง เหวินฝานผู้นี้จะทำให้ดีที่สุด!”
ริมฝีปากสีแดงของฉู่หลิวเยว่ขยับยกยิ้มเล็กน้อย
“มันไม่ใช่งานยากกระไร ก็แค่ ถ้าเกิดเรื่องแบบเมื่อครู่ขึ้นอีก ก็อย่าได้ต้องกังวลไป เจ้าสู้กลับให้เต็มที่! แล้วข้าจะเป็นคนรับผิดชอบผลที่ตามมาทั้งหมดเอง!”
นางมาที่เมืองหลินโจว ก็เพื่อเข้าถ้ำเสือไปช่วยพ่อของนาง ไม่ใช่มาเพื่อถูกใครรังแก!
เหวินฝานตกใจกับท่าทางเย็นชาระหว่างคิ้วและดวงตาของนาง พลันรู้สึกมั่นใจแล้วกล่าวอย่างหึกเหิม
“ขอรับ!”
ริมฝีปากแดงสวยยกโค้งขึ้นเป็นรอยยิ้ม นางเงยหน้าขึ้นเล็กน้อยและมองไปยังประตูเมืองที่สูงตระหง่านอยู่ไกลๆ
“ไปกันเถอะ!”
…
หลังจากผ่านประตูเมืองเข้ามาแล้ว ขบวนรถม้าก็ยังเดินทางต่อไป
ถานไถเฉินนั่งหลับตาและทำสมาธิอยู่ในรถม้า
เสียงเซ็งแซ่ต่างๆ ค่อยๆ ดังมาจากรอบๆ ขบวน แสดงให้เห็นถึงความมีชีวิตชีวาด้านนอก
เช่นนี้คงจะเข้าสู่ย่านการค้าขายใจกลางเมืองแล้ว
แต่เสียงนี้กลับทำให้ถานไถเฉิน รู้สึกหงุดหงิดและหดหู่มากขึ้น
เดิมทีเขาต้องการพักผ่อนหย่อนใจในรถม้าคันหรู ทว่าในหัวกลับยังคิดถึงแต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ซ้ำไปซ้ำมา
จู่ๆ เขาก็ถูกซั่งกวนเยว่เอาคืนโดยมิทันได้ตั้งตัว…
แค่คิดก็หงุดหงิดแล้ว!
เดิมทีเขาแค่ต้องการสั่งสอนบทเรียนให้พวกนาง ข่มให้พวกนางรู้เสียบ้างว่าใครที่นางยั่วยุได้หรือไม่ได้
แต่กลับไม่คิดว่าซั่งกวนเยว่จะใช้ประโยชน์จากมันแบบนี้!
ตัวเขายังไม่ทันจะได้ขึ้นรถม้า แต่นางกลับคิดแผนฉีกหน้าเขาต่อหน้าประชาชี ด้วยการขอติดรถไปฟ้องจักรพรรดิเป่ยหมิงเสียอย่างนั้น!
ถ้ารู้แบบนี้ เขาคงไม่มีวันฉวยรถม้ามาหรอก!
เสียแรงเปล่าจริงๆ!
ขณะเดียวกัน ในที่สุดรถม้าก็หยุดเคลื่อนไหว
พร้อมกับเสียงเรียกของอิ่นเฮ่าจากด้านนอก
“ถึงที่พักแล้วพ่ะย่ะค่ะ ฝ่าบาท ท่านสามารถลงจากรถได้แล้ว”
ถานไถเฉินส่ายหัว ประหนึ่งโยนเรื่องวุ่นวายเหล่านั้นออกจากสมอง ก่อนจะเปิดม่านแล้วลงจากรถม้า!
หลังจากยืนนิ่งสักพัก เขาก็เงยหน้าขึ้นมองไปข้างหน้า ทว่ามองได้เห็นภาพตรงหน้าชัดๆ เขาก็พลันทำหน้าตกใจทันที
“ที่นี่คือ…”
“เหอะๆ ฝ่าบาท นี่คือที่พักที่องค์รัชทายาทรับสั่งให้จัดเตรียมไว้เป็นพิเศษ สำหรับให้พวกท่านพักผ่อนโดยเฉพาะ!”
อิ่นเฮ่าทำหน้าประจบสอพลอ
“ครั้งนี้ทางเราได้จัดเตรียมพระราชวังไว้ทั้งหมดสี่แห่ง สำหรับทั้งสี่ราชวงศ์ แต่วังหลังนี้กว้างขวางและหรูหราที่สุดในบรรดาวังทั้งสี่! และในอดีตเคยมีบรรพบุรุษหลายรุ่นอาศัยอยู่ที่นี่! อีกทั้งก่อนหน้านี้ไม่กี่ปี องค์รัชทายาทเองก็ได้รับสั่งให้มีการปรับปรุงสถานที่แห่งนี้อย่างระมัดระวังเป็นการส่วนตัวด้วย กล่าวได้ว่าเป็นพระราชฐานที่ดีที่สุดเลยทีเดียว!”
แค่ถานไถเฉินเห็นประตูที่หรูหราแปลกตาบ้านใหญ่นั่น เขาก็รู้แล้วว่าสถานที่แห่งนี้ต้องไม่ธรรมดา
และเมื่อได้ยินเช่นนั้น เขาก็แสดงท่าทีตื่นเต้นออกมาเสียจนปิดไม่มิด
“นี่คือ… สถานที่ที่องค์รัชทายาทเลือกให้ข้าเป็นพิเศษ”
“ถูกต้องพ่ะย่ะค่ะ!”
อิ่นเฮ่าแย้มยิ้มเอาอกเอาใจ
หากไม่ได้เตี๊ยมกันไว้ล่ะก็ เกรงว่าราชวงศ์ที่มาถึงก่อนคงได้ครองวังแห่งนี้ไปแล้ว!
หากถามว่าเดิมทีวังแห่งนี้มิได้สงวนไว้สำหรับราชวงศ์ไท่อวี่หรอกหรือ?
ก็คงต้องพูดว่าความจริงแล้วทั้งสองราชวงศ์ที่มาถึงก่อนนั้นแข็งแกร่งกว่าไท่อวี่เล็กน้อย แต่น่าเสียดายที่เขาแย่งคนจากสองราชวงศ์นั้นมาไม่สำเร็จ และสุดท้ายก็ต้องมาแข่งกับเหวินฝาน
แต่ก็คิดไม่ถึงว่าองค์รัชทายาทจะสงวนวังแห่งนี้ไว้ให้พวกเขา!
ช่างโชคดีกระไรเยี่ยงนี้!
ถึงเขาจะไม่รู้ว่าองค์ชายทำเช่นนี้ไปเพื่ออันใด แต่ในใจอิ่นเฮ่านั้นมีแต่ความปิติยินดี
ตราบใดที่เขาสามารถดูแลคนเหล่านี้ได้อย่างดี ความก้าวหน้าในหน้าที่การงานของเขาก็อยู่ใกล้แค่เอื้อม!
“เชิญเสด็จพ่ะย่ะค่ะ…”
อิ่นเฮ่ากล่าวเสียงดังฟังชัด
สีหน้าของถานไถเฉินแลดูสงบนิ่ง ทว่ามุมปากกลับยกขึ้นเล็กน้อย ดวงตาที่เต็มไปด้วยความคาดหวัง เผยให้เห็นว่าเขาเองก็ตื่นเต้นและมีความสุขกับเรื่องนี้เช่นกัน
โดยทั่วไปแล้ว ในฐานะจักรพรรดิ เขาจะไม่ค่อยสนใจเรื่องพระราชฐานที่จักรพรรดิองค์อื่นจัดเตรียมไว้มากนัก
แต่ที่นี่มันต่างออกไป
นี่คือพระราชฐานที่จักรพรรดิแห่งราชวงศ์เป่ยหมิงรุ่นก่อนเคยอาศัยอยู่!
สำหรับเขาแล้ว นี่คือความรุ่งโรจน์ที่มองไม่เห็นอย่างไม่ต้องสงสัย
หากได้เดินเข้าไปอยู่ในนั้น ต่อหน้าผู้คนจากราชวงศ์ที่ยิ่งใหญ่อื่นๆ คงได้มีการเสียหน้าเกิดขึ้นแน่!
เขาจัดเสื้อผ้าให้เรียบตึงและเดินไปข้างหน้าพร้อมเชิดคางสูงขึ้น
ทว่าทันทีที่ไปถึงประตู เขากลับจำต้องหยุดชะงัก
เคร้ง!
หอกยามสองด้ามตวัดทับกัน ปิดกั้นไม่ให้เขาเข้าไป!
นายทหารรักษาการณ์กล่าวอย่างเย็นชา
“ขออภัย พระราชฐานแห่งนี้มิได้ถูกสงวนไว้สำหรับท่าน”
[1] มีน้ำเสียเต็มท้อง อุปมัยว่าเป็นคนไม่ดีเจ้าแผนการ
————————————————————–